สิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเร็วเกินไปอย่างมาก เร็วจนทุกคนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
เสี้ยววินาทีก่อนหน้านี้เหล่าเถ้าแก่บริษัทยังร้องตะโกนอย่างยโสโอหังว่าต้องการยุติความร่วมมือ วินาทีต่อมาแม้แต่บริษัทของตนเองก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว ประธานของสิบบริษัทใหญ่ ไม่เพียงแค่หวางติงเหยนคนเดียวเท่านั้น ประธานเก้าบริษัทที่เหลือก็มีดวงตาเย็นชาและไร้อารมณ์ซึ่งได้มารวมอยู่ด้วยกันในแนวหน้าอย่างชัดเจน
เถ้าแก่เหล่านั้นต่างตกตะลึงไปโดยสมบูรณ์ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แล้วคลานไปกอดขากางเกงของหวางติงเหยนแน่นและเอ่ยปากขอร้อง : “ประธานหวาง ปล่อยพวกเราไปเถอะครับ พวกเรารู้ตัวแล้วว่าผิด! อย่าเล่นงานบริษัทของพวกเราเลย!”
สิบบริษัทใหญ่ ที่แต่ละบริษัทมีกิจการชั้นนำอยู่ในห้าสิบอันดับแรกของเมืองหมิงจูจะร่วมมือกันจัดการบริษัทเกรดต่ำเหล่านี้ล่ะก็ แค่เพียงขยับมือยังง่ายกว่าหั่นแตงหั่นผักเสียอีก
“ไสหัวออกไป!”
อย่างไรก็ตาม หวางติงเหยนเตะเถ้าแก่คนนั้นออกไปอย่างแรง เมื่อเตะใส่จนล้มไปแล้ว ประธานอีกเก้าบริษัทมีสีหน้าเย็นชาและไม่แยแสด้วยเช่นกัน
หวงติงเหยนหันกลับมาและยิ้มให้กับหลินชิงเสว่ : “คุณหลิน คุณพอใจกับผลลัพธ์แบบนี้หรือเปล่าครับ?”
หลินชิงเสว่ไม่พูดอะไร ดวงตาสวยงามตกใจอย่างมาก ทันใดนั้น เธอหันหน้ากลับไปแล้วมองถังเฉาที่ไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ
เขาไม่มีคำพูดใด เพียงแค่มองหลินชิงเสว่พร้อมรอยยิ้มแล้วพยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้น
หลินชิงเสว่รู้ว่าถังเฉาเป็นผู้ควบคุมเรื่องทั้งหมดนี้อยู่เบื้องหลัง
หลังจากส่งบอสของสิบบริษัทออกไปแล้ว ถังเฉาจึงเอ่ยปากพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า “ผมบอกแล้วว่าทุกเรื่องจะมีผมอยู่”
“ขอบคุณค่ะ”
หลินชิงเสว่แสดงรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมา เมื่อคนงามแย้มยิ้ม ดอกไม้ก็หมองลงไปทันใด
ยังมีอีกคำที่ถังเฉาไม่ได้พูด ถ้าหากหลินชิงเสว่ตัดสินใจที่จะกำหนดขีดจำกัดล่างสุดของลี่จิงกรุ๊ป ถ้าอย่างนั้นแล้วถังเฉาก็ตัดสินใจกำหนดเพดานสูงสุดของลี่จิงกรุ๊ป
ตราบใดที่ถังเฉาเต็มใจ ทรัพยากรทั้งหมดจะถูกเทลงไปให้ลี่จิงกรุ๊ป และสร้างลี่จิงกรุ๊ปไปทั่วประเทศในชั่วข้ามคืน และแม้กระทั่งมีอาณาจักรธุรกิจไปทั่วโลก แต่ว่าเมื่อนึกถึงนิสัยของหลินชิงเสว่แล้ว คงยากที่เธอจะยอมรับได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่ได้ดำเนินการ
ยิ่งเร่งก็ยิ่งช้าเปล่าๆ งั้นมาพัฒนาไปอย่างช้าๆกันเถอะ!
วิกฤตของบริษัทได้รับการแก้ไขแล้ว แต่หลินชิงเสว่ยังคงไม่มองในแง่ดี ถังเฉารู้ว่าเธอยังคงคิดเรื่องข่าวที่ทำให้เธอเสียชื่อเสียง
ในขณะนี้ โทรศัพท์ของถังเฉาได้ดังขึ้น
เสียงทุ้มต่ำของเจิงเทียนเสียงดังออกมา : “คุณถัง ผมพบบริษัทสื่อบันเทิงเฉาหวาที่คุณให้ผมตรวจสอบแล้วครับ เจ้านายเป็นผู้หญิงชื่อเว่ยเช่นเช่นเป็นชู้รักลับๆของต่งวี่ซู่ และเข้าร่วมกับธุรกิจสื่อรูปแบบใหม่ โดยพึ่งพาทรัพยากรของต่งวี่ซู่ บริษัทจึงได้ค่อยๆเติบโตขึ้น”
“เป็นตระกูลต่งจริงๆ……”
ในดวงตาของถังเฉามีประกายแห่งการฆ่าอันน่าสยดสยอง
“คุณถัง คุณต้องการให้ผมจัดการแทนคุณ……”
เป็นไปไม่ได้ที่เจิงเทียนเสียงจะไม่รู้ว่าพาดหัวข่าววันนี้คือหลินชิงเสว่ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
“ไม่ต้อง ตอนนี้ข่าวถูกส่งออกไปแล้ว ชาวเน็ตหลายพันคนกดดูทุกวินาทีจะเอาออกก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เรื่องนี้ ผมจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”
หลังจากถังเฉาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดว่า : “คุณอยู่ทางด้านนี้เฝ้าตรวจสอบที่อยู่เครือข่ายต่อไปแล้วฟังคำสั่งผม”
“ได้ครับ” เจิงเทียนเสียงตอบรับแล้ววางสาย
“ใครโทรมาเหรอคะ?” หลินชิงเสว่มองไปที่ถังเฉาอย่างสงสัยและเอ่ยถาม
“ลูกน้องคนหนึ่งของผมน่ะ”
ถังเฉายิ้มและจับมือของหลินชิงเสว่ไว้อย่างเป็นธรรมชาติ : “ไปเถอะ ไปกับผมที่ๆหนึ่ง”
“รอเดี๋ยวสิคะ ที่บริษัทนี่ยัง……”
ทันใดนั้นถังเฉาจับมือเธอเอาไว้ ใบหน้าของหลินชิงเสว่เต็มไปด้วยความกังวล แต่ความแข็งแกร่งในมือกลับขัดขืนเล็กน้อยสองสามครั้ง แล้วจึงยอมให้มือใหญ่ของถังเฉาจับไว้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ถังเฉาและหลินชิงเสว่ปรากฏตัวที่บริษัทชื่อว่า ‘บริษัทสื่อบันเทิงเฉาหวา’
พูดตรงๆก็คือ เป็นห้องทำงานที่มีคนเพียงแค่สิบกว่าคน
“เรียกเจ้านายของพวกคุณออกมา” ถังเฉาพูดกับหญิงสาวที่แผนกต้อนรับโดยตรง
“พวกคุณต้องการพบประธานเว่ยแล้วได้นัดหมายไว้หรือเปล่า?”
แผนกต้อนรับไม่สนใจถังเฉาเลย และพูดอย่างเย่อหยิ่ง
ถังเฉารู้สึกตลกขึ้นมาแล้ว : “บริษัทเล็กขนาดนี้ คนก็อยู่ในห้องทำงานด้านหลัง ยังต้องนัดล่วงหน้าอีกเหรอ?!”
ตอนที่เข้าประตูมา ด้วยความสามารถในการรับรู้ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เขารู้ว่ามีคนกำลังนั่งอยู่ในห้องนั้น และเป็นได้สูงมากว่าคือเว่ยเช่นเช่น
สีหน้าของแผนกต้อนรับเปลี่ยนไปอย่างมาก : “คุณเป็นใครกัน? มาหาประธานเว่ยของพวกเราทำไม?”
“คำนี้ ถามประธานเว่ยของพวกคุณน่าจะเหมาะกว่าไหม?”
ดวงตาของถังเฉาหนาวเย็นลง พร้อมกับชี้ไปที่หลินชิงเสว่และพูดว่า : “คุณดูให้ดีสิ เธอคือใคร?”
แผนกต้อนรับมองไปที่หลิงชิงเสว่ แล้วประหลาดใจทันทีทันใด : “คุณ คุณคงไม่ใช่—-”
มุมปากของถังเฉายกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ : “ตอนนี้พวกคุณรู้แล้วใช่ไหมว่าพวกเรามาทำอะไรที่นี่?”
ในที่สุดภายดวงตาของแผนกต้อนรับก็มีความตื่นตระหนกเกิดขึ้น : “ตอนนี้ประธานเว่ยยุ่งมาก เข้าไปตอนนี้ไม่ได้ค่ะ!”
“คุณขวางได้เหรอ?”
ถังเฉาถามอย่างเย็นชา จากนั้นก็พาหลินชิงเสว่ก้าวเท้ายาวๆเดินเข้าไป
แผนกต้อนรับวิ่งเข้ามาขวางไว้ แต่ในเสี้ยววินาทีที่ตาของเธอกับตาของถังเฉาจ้องมองกันและกัน เธอตกใจกลัวไปทั้งตัวแล้วยืนนิ่งอยู่ที่เดิมราวกับว่าทั้งตัวทำจากไม้
“ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ”
ตอนนี้เอง เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากภายในห้องทำงาน
แผนกต้อนรับคนนั้นไม่ขวางทางแล้ว ตรงกันข้ามกลับถอนใจอย่างโล่งอก
เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน ถังเฉามองเห็นสาวสวยกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอีทันที
สามารถเป็นคนรักของต่งวี่ซู่
จะหน้าตาเลวร้ายได้ยังไง?
“คุณคือเว่ยเช่นเช่นใช่ไหม?” ถังเฉาชำเลืองมองเธอแล้วถามเรียบๆ
“สองท่านนี้ น่าจะเป็นพระเอกนางเอกของวิดีโอสินะ?” เว่ยเช่นเช่นกวาดสายตาเหลือบมองหลินชิงเสว่ แล้วถามพร้อมกับยิ้มระรื่น : “ไม่ทราบว่ามาหาฉันที่นี่ ต้องการจะทำอะไรเหรอคะ?”
ถังเฉาหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาแล้วชี้ไปที่บทความข่าวและพูดว่า : “รายงานข่าวของคุณเต็มไปด้วยคำพูดโจมตีให้ภรรยาของผมเสียหายและมันส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของภรรยาผมและภาพลักษณ์ของบริษัท ผมต้องการให้คุณลบรายงานข่าวนี้โดยเร็ว และทำการขอโทษภรรยาผมต่อหน้าสาธารณะ”
“ลบ? ขอโทษ?”
เว่ยเช่นเช่นยิ้ม : “คุณไม่ได้ล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหม?”
ทันทีที่พูดคำนี้ คิ้วของถังเฉาและหลินชิงเสว่เลิกขึ้นในฉับพลัน และรู้ว่าวัตุประสงค์ของการเดินทางมาครั้งนี้คงจะไม่ราบรื่นมากนัก
เว่ยเช่นเช่นยิ้มแล้วพูดว่า : “ข้อแรก รายงานข่าวนี้จริงหรือไม่จริง ฉันคิดว่าพวกคุณรู้ดีกว่าฉัน งานของนักเขียนก็คือการเอาความจริงมาสู่สาธารณะ มันง่ายดายมาก”
“ข้อสอง ข่าวนี้ถูกส่งออกไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะถอนคืนมา ถ้าพวกคุณอยากจะสร้างปัญหา ก็ทำเต็มที่เลย แต่อย่ามาโทษฉันที่จะเขียนรายงานข่าวนี้ตามมาอีกสามสี่ฉบับ ทำให้ชื่อเสียงของพวกคุณเหม็นเน่าคละคลุ้งโดยสมบูรณ์ แล้วเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้ตลอดกาล!”
พูดมาถึงตอนท้าย มันได้กลายเป็นการข่มขู่อย่างรุนแรงไปแล้ว
ถังเฉาหรี่ตาลงเล็กน้อยและหลินชิงเสว่ก็แสดงท่าทางขุ่นเคืองขึ้นมานิดๆ
เธอรู้ว่า การสู้รบกับความคิดเห็นของประชาชนจะเป็นการสูญเสียที่หนักหน่วงที่สุด
ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะลบข่าวออกไป แต่กระแสข้อมูลได้ไหลออกมาแล้ว ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นสงครามที่ไม่อาจเอาชนะได้ สิ่งเดียวที่สามารถทำได้คือหยุดการสูญเสียให้ทันเวลา
แต่ว่าทัศนคติของอีกฝ่ายในตอนนี้ได้แสดงท่าทีให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าจะจัดการกับพวกเขาจนถึงที่สุด
“เพราะว่ามีคนอย่างพวกคุณอยู่ วงการนักข่าวถึงได้น่าขยะแขยงอย่างเช่นทุกวันนี้” หลินชิงเสว่ตะโกนด้วยเสียงเย็นชา
“ไม่มีความเกลียดชัง แล้วความกลัวจะมาจากไหนล่ะ?”
เว่ยเช่นเช่นเขียนปากกาแล้วพูดพร้อมกับหัวเราะลั่นว่า : “ฉันขอแนะนำให้พวกคุณใจเย็นลงหน่อย
ส่งของขวัญมาให้ฉันบ้าง ถ้าหากว่าฉันมีความสุข ไม่แน่ฉันอาจจะเขียนข่าวส่งเสริมพวกคุณสักสองสามฉบับ”
หลิงชิงเสว่ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย : “ถ้าหากว่าคุณคิดว่าสิ่งนี้ทำให้ฉันกลัว คุณทำพลาดแล้วล่ะ ถ้าคุณต้องการเล่นงานด้วยการประชาสัมพันธ์ ฉันก็จะเล่นวิธีนี้กับคุณด้วย”
เห็นได้เลยว่า มีความเย็นเยียบที่ควบแน่นอยู่ในสายตาของหลินชิงเสว่ เดาได้ไม่ยากว่าเธอต่อต้านจริงๆและต้องการจะทุบฝ่ายตรงข้ามให้ตายโดยสมบูรณ์
แต่ถังเฉากลับโบกมือ : “ไม่เห็นจะต้องทุบบริษัทเล็กๆแบบนี้ให้ตายเลย” จากนั้นเขามองไปที่เว่ยเช่นเช่นและยิ้มแบบไร้ความรู้สึก : “คุณคิดว่ามีการหนุนหลังของต่งวี่ซู่แล้วจะไม่มีวันพลาดอย่างเด็ดขาดเลยงั้นเหรอ?”
“……”
เว่ยเช่นเช่นหรี่ตาลงแล้วยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ : “ต่งวี่ซู่อะไร ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร”
ถังเฉาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย และยังคงพูดช้าๆว่า : “พวกคุณกำลังทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมสื่อรูปแบบใหม่ การดึงดูดความสนใจของผู้คนต้องมาเป็นอันดับแรก เอาอย่างนี้ ผมจะส่งข่าวสุดพิเศษให้กับคุณ”
ทันใดนั้นเว่ยเช่นเช่นรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นตึกตัก เป็นลางสังหรณ์ที่เลวร้ายอย่างมาก
เธอเห็นถังเฉาหัวเราะนิดๆแล้วพูดว่า : “คุณรู้จักซ่งเทียนซานแห่งตระกูลซ่งสินะ ตอนนี้เขายังนอนเป็นอัมพาตครึ่งซีกอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นผมเองที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้”
“แม้แต่ซ่งเทียนซานยังไม่กลัว แล้วจะกลัวต่งวี่ซู่ได้ยังไงล่ะ?”
เขายิ้มเยาะแล้วพูดว่า : “แล้วโดยบังเอิญเช่นกัน ต่งวี่ซู่ที่ตอนนี้น่าจะเข้ารับการักษาตัวในโรงพยาบาลสาเหตุของการบาดเจ็บเพราะว่าการถ่ายทำในกองถ่ายใช่ไหม?”
“คนที่ตีเขาจนบาดเจ็บสาหัส ก็คือผมเอง”
“……”
เว่ยเช่นเช่นตกตะลึงในทันทีทันใดและมองไปทางถังเฉาด้วยสายตาสยดสยองอยู่ชั่วขณะ
“ผมจะถามคุณเป็นครั้งสุดท้าย จะไม่ลบและไม่ขอโทษจริงๆใช่ไหม?” ถังเฉาเอ่ยถาม
ท่าทางของเว่ยเช่นเช่นเปลี่ยนไปชั่วครู่ แต่ยังคงยืนยันว่า : “ฉันไม่ลบและไม่ขอโทษ”
“ดีมาก”
ถังเฉายิ้มให้อย่างสดใส : “ถ้าอย่างนั้นอย่ามาโทษผมที่จะทำให้คุณสูญเสียทั้งชื่อเสียงเงินทองและไม่มีบ้านให้กลับล่ะ”