คนเรามักเดินไปยังที่สูง น้ำมักไหลลงสู่ที่ต่ำ
ไม่มีตระกูลใดที่รุ่งโรจน์อยู่ได้ตลอดกาล หลังจากที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด ย่อมตกต่ำลงถึงขีดสุด
ดังนั้นทุกคนล้วนปีนทะยานขึ้นไปไม่หยุด ไม่ปล่อยโอกาสที่จะทำให้ตระกูลยิ่งใหญ่ใดๆ ผ่านไปได้สักอย่าง
เพราะพวกเขาเข้าใจดี ความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้แลกมาจากการสละชีพของผู้คนมากมาย พอพ่ายแพ้ ย่อมไม่เหลืออะไรสักนิด
หูอีซานสืบทอดทุกอย่างของตระกูลเหวิน ตำแหน่งทางสังคมยิ่งสูง ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นผู้ได้รับความนิยมที่ทุกคนต่างแย่งกันสร้างความสัมพันธ์ด้วย
เหวินหนานเฉิงที่สูญเสียทุกอย่างไป เพียงไม่นานก็ดูแก่หง่อมลงไปสิบกว่าปี และไม่มีกำลังวังชาเต็มเปี่ยมแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้เฒ่าโดดเดี่ยวดุจไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่งเท่านั้น
ส่วนเหวินเหวยเฉินยังคงไม่ได้สติกลับมาจากหายนะที่ตระกูลเหวินพังพินาศลง วันนี้เป็นพิธีแต่งงานของเขา เดิมคิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่เจริญรุ่งเรืองของตระกูลเหวิน นึกไม่ถึงจะกลับกลายเป็นจุดจบของประวัติศาสตร์ตระกูลเหวิน
โจวฉวนกั๋ว โจวเหม่ยหยูนและคนอื่นๆ ต่างมองเหวินหนานเฉิงอย่างสะอึกสะอื้น ในใจไม่ได้เสียใจ แต่ทว่ามีความรู้สึกผ่อนคลาย
อย่างน้อยตระกูลเหวินล้มแล้ว จะไม่มีใครตามเอาความรับผิดชอบที่ถังเฉาก่อกวนพิธีแต่งงาน และแย่งตัวเจ้าสาวไป
หูอีซานรับนามบัตรของตัวแทนตระกูลเซี่ยและตระกูลลู่มา มีเพียงนามบัตรของตัวแทนตระกูลหูแค่หนึ่งเดียวที่ไม่ได้รับไว้ แม้กระทั่งยังเพิกเฉย นี่ทำให้สีหน้าตัวแทนของตระกูลหูดูแย่มาก
แต่สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ เขาได้แต่ฝืนกลั้นความไม่พอใจอันนี้ลงไปก่อน ในสายตามีแสงดุร้ายแวบผ่าน ก่อนจะออกไปจากที่เกิดเหตุ
ในสายตาหลัวปู้ไม่มีความสงสารสักนิด มองถังเฉาด้วยความเคารพ “คุณถังครับ ผลลัพธ์แบบนี้ คุณพอใจหรือเปล่าครับ?”
ถังเฉาพยักหน้าแบบเย็นชา “ตระกูลเหวินยิ่งใหญ่ไม่สู้สมัยก่อน หยุดแค่นี้แล้วกัน พวกเขาจะมีชีวิตรอดถึงพรุ่งนี้หรือไม่ ดูชะตากรรมของพวกเขาเอาเองเถอะ”
“ครับ เจ้านายใหญ่”
ต่อจากนี้ไม่มีธุระอะไรของพวกเขาอีก หลัวปู้พาหูอีซาน เจิงเทียนเสียง และสมาชิกที่เกี่ยวข้องของสมาคมการค้าหงยิงออกไปอย่างรวดเร็ว
หลินฉ่ายเวยตื่นตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ตอนแรกเธอยังไม่เข้าใจคำพูดประโยคนี้ของถังเฉาว่าคืออะไร แต่พอเห็นปฏิกิริยาต่อมาของสารพัดตระกูลใหญ่แห่งเจียงเฉิง จึงเข้าใจได้ทันที
หลังจากการแสดงความยินดีเสร็จสิ้นลง ตัวแทนอิทธิพลเจียงตูของผู้นำตระกูลเซี่ย และตระกูลลู่ ต่างมองทางเหวินหนานเฉิงด้วยสายตาเย็นชา “ผู้นำเหวิน ความแค้นสมัยก่อนพวกนั้น ควรนำมาคิดบัญชีให้กระจ่างได้แล้วหรือเปล่า?”
“พวกแกอยากทำอะไร?”
ในที่สุดเหวินเหวยเฉินก็ตอบสนองเข้ามา สีหน้าเปลี่ยนไปตื่นตระหนกไร้ที่เปรียบ
“ทำอะไร? หึๆ……”
เซี่ยหรูหลงคุณชายตระกูลเซี่ยหัวเราะเยาะพลางพูดว่า “หลายปีก่อนน้องสาวที่เป็นญาติห่างๆ ของฉันคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุรถชน ถึงตอนนี้คนร้ายยังไม่โดนลงโทษ เป็นแกแอบบงการอยู่สินะ?”
“ยังมีตระกูลลู่ของฉัน”
บนหน้าลู่โป๋หานของตระกูลลู่มีรอยยิ้มเย็นชา น้ำเสียงที่เย็นเฉียบ “ที่เจียงเฉิงมีใครไม่รู้บ้างว่าฉันลู่โป๋หานมีนิสัยเจ้าชู้ แต่แกกลับแย่งทุกอย่างที่ดีของฉัน ไม่เพียงแค่กักขังผู้หญิงของฉัน แต่ยังทรมานให้เจ็บทั้งตัว สุดท้ายเอาหล่อนไปขายถึงต่างประเทศ!”
“…….”
พอล้มย่อมมีผู้คนมากมายถือโอกาสเหยียบซ้ำ มีตระกูลเซี่ยและตระกูลลู่คอยนำทีม อิทธิพลน้อยใหญ่ของเจียงเฉิงต่างพูดถึงบุญคุณความแค้นข้อพิพาทกับตระกูลเหวินออกมา
ไม่มีบุญคุณ มีเพียงความแค้น
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนของตระกูลเหวินกลายเป็นเป้าถูกประชาชนทั่วไปโจมตี
ไม่เพียงเหวินหนานเฉิงและเหวินเหวยเฉินที่สีหน้าซีดเซียว ญาติพี่น้องตระกูลเหวินคนอื่นๆ ยิ่งขาสั่นไปหมด
“ช้าก่อน!”
ในเวลานี้ มีเสียงตะโกนที่เย็นชาเสียงหนึ่งลอยมา
ถังเฉาเดินก้าวใหญ่ๆ ลงจากบันได มองตระกูลเซี่ย ตระกูลลู่ และกลุ่มอิทธิพลของเจียงเฉิงกลุ่มหนึ่ง จากนั้นพูดเสียงดังฟังชัด “พวกนายอยากลงมือกับตระกูลเหวินฉันจะไม่ยุ่ง แต่ถ้าอยากเข้าใจเรื่องราว จำเป็นต้องตามหาคนต้นเรื่อง พวกนายต้องปล่อยคนที่ไม่มีความผิดไป”
เซี่ยหรูหลงและลู่โป๋หานมองหน้ากันและกัน ตอนแรกคิดอยากจะปฏิเสธ แต่พอมองสายตาที่เย็นชาของถังเฉา ยังตอบตกลง “ได้ นายอยากให้พวกเราปล่อยใคร?”
ถังเฉาชี้ไปยังเหวินเฉี่ยวหรูในตระกูลเหวิน “เธอ!”
“ได้ เธอไปได้แล้ว”
ลู่โป๋หานโบกมือ พูดกับเหวินเฉี่ยวหรู
ดวงตาเหวินเฉี่ยวหรูอึ้งทึ่ง ยืนอยู่ที่เดิมแบบเหม่อลอย เรื่องราวพลิกผันไวเหลือเกิน เร็วจนหล่อนไม่มีเวลาได้ตอบสนอง
“คุณเป็นอิสระแล้ว รีบหนีเถอะ”
ถังเฉามองเหวินเฉี่ยวหรูด้วยสายตาอ่อนโยน และมองทางหลินฉ่ายเวยพลันพูดว่า “เธอควรขอบคุณหล่อน หล่อนแอบขอร้องไหว้วานฉัน ให้ฉันพาเธอหนีไปจากที่นี่ ยอมแลกอย่างไม่เสียดายเพื่อเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าถูกฉันปฏิเสธไปแล้ว”
หลินฉ่ายเวยรู้สึกประทับใจ กุมมือของเหวินเฉี่ยวหรูแน่น พูดอย่างซาบซึ้งใจ “ขอบคุณนะคะ!”
“เหวินเฉี่ยวหรู ที่แท้เป็นเธอนังแพศยาคนนี้!”
ได้ยินคำพูดของถังเฉา สายตาเหวินหนานเฉิงเปลี่ยนไปโหดร้ายทันที จ้องเหวินเฉี่ยวหรูตาไม่กะพริบ “มิน่าฉันถึงเห็นว่ามีคนมาเข้ามาที่ห้องของเธอ ตอนนั้นเธอคงวางแผนปล่อยตัวเจ้าสาวหนีไปสินะ?”
เหวินเฉี่ยวหรูตกใจยกใหญ่ โดนกระทำอย่างโหดร้ายและความรุนแรงในครอบครัวหลายปีมานี้ ทำให้หล่อนเกิดความหวาดกลัวต่อเหวินหนานเฉิงแล้ว
สายตาถังเฉาเย็นชา “สมาชิกตระกูลเหวินที่เหลือ อยากฆ่าอยากฟัน ตามใจพวกนาย!”
“จัดการตีให้หนัก ไม่ต้องยั้งมือ เกิดเรื่องอะไรขึ้นฉันรับเอง!”
สายตาเซี่ยหรูหลงเย็นเฉียบ โบกฝ่ามือใหญ่ มีบอดี้การ์ดมากมายพุ่งเข้ามาทันที ต่อยตีไปยังทุกคนของตระกูลเหวินยกหนึ่ง
แม้กระทั่งลู่โป๋เหวินยังลงมือด้วยตนเอง ดึงผมของเหวินเหวยเฉินไว้ ยกกระแทกลงบนพื้น ฝีมือดุเดือดโหดร้ายขั้นสุด
คนพวกนี้ล้วนเป็นคุณชายลูกตระกูลร่ำรวยชั้นยอดสุดของเจียงเฉิง ย่อมไม่ได้รับการควบคุมของกฎหมายเป็นธรรมดา ขอเพียงไม่มีใครเสียชีวิต จะทำอย่างไรก็ย่อมได้
ไม่นานเท่าไรนัก ทุกคนของตระกูลเหวินโดนต่อยจนจมูกช้ำหน้าบวมไปหมด
เหวินหนานเฉิงและเหวินเหวยเฉินยิ่งย่ำแย่กว่า บนหน้าเต็มไปด้วยเลือดสด แม้แต่ฟันหน้ายังร่วงไปหลายซี่
เหวินเฉี่ยวหรูทนไม่ไหว ดึงเสื้อของถังเฉา จากนั้นพูดจาอ้อนวอน “คุณถัง ฉันรู้ว่าเวลานี้พูดข้อเรียกร้องแบบนี้มันคงมากเกินไป แต่ฉันยังอดขอร้องคุณไม่ได้ เขามีจุดจบแบบในวันนี้ เป็นโทษที่เขาสมควรได้รับ แต่ว่าไว้ชีวิตเขาจะได้หรือเปล่าคะ?”
หัวใจพ่อแม่ที่น่าสงสารบนโลกนี้ เห็นบนหน้าของเหวินเฉี่ยวหรูเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ถังเฉาจึงลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าตอบ “ก็ได้ ตระกูลอื่นอยากจัดการเขาแบบไหน ผมคงยุ่งไม่ได้ แต่ผมจะรักษาชีวิตเขาไว้ก็ได้”
“ขอบคุณค่ะคุณถัง ขอบคุณค่ะคุณถัง!”
ใบหน้าของเหวินเฉี่ยวหรูเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณต่อถังเฉา
“แต่ผมไม่สามารถรับรองได้ว่าเขาจะกลายเป็นแบบไหน อาจจะถูกตีจนพิการ หรืออาจจะกลายเป็นผัก” ถังเฉาพูดจาเคร่งขรึม
เหวินเฉี่ยวหรูส่ายหน้า พูดจาน้ำตาไหล “ขอเพียงรักษาชีวิตของเขาไว้ได้ ฉันก็พอใจมากแล้วค่ะ”
หลินฉ่ายเวยที่อยู่ด้านข้าง ในสายตาเต็มไปด้วยความเศร้าใจ ถึงแม้เหวินเหวยเฉินจะเลวอย่างไร กลับมีแม่ที่รักเขาคนหนึ่ง
เทียบกับโจวเหม่ยหยูน ความแตกต่างนิดหน่อยก็แสดงออกมาแล้ว
หลังจากตีไปยี่สิบนาทีเต็มๆ ตระกูลลู่ ตระกูลเซี่ย และตระกูลอื่นถึงหยุดลง
เหวินเหวยเฉินสลบลงไปแล้ว แขนขาถูกตีจนหักหมด นอนอยู่บนพื้น ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด
เหวินเฉี่ยวหรูรีบกระโจนไปที่ตัวเหวินเหวยเฉิน กอดเขาไว้แอบน้ำตาไหล
ลู่โป๋หานและเซี่ยหรูหลงสายตาเย็นเฉียบ “พวกเราไปกัน!”
พูดจบ ก็พาคนออกไปทันที
เหล่าแขกผู้มีเกียรติตามออกไป ที่เกิดเหตุผู้คนบางตาลงแล้ว มีเพียงตระกูลเหวิน ตระกูลโจว ถังเฉา หลินชิงเสว่ หลินฉ่ายเวยและคนอื่นๆ
“พวกเรากลับไปกันเถอะ”
หลินชิงเสว่มองทางถังเฉาพลางพูดขึ้น
“อืม”
ถังเฉาพยักหน้าเบาๆ หันหน้ามองหลินฉ่ายเวย “เธอก็กลับบ้านเถอะ”
“พวกแก……หยุดนะ!”
ในเวลานี้ มีเสียงที่อ่อนแรงของเหวินหนานเฉิงลอยมาจากด้านหลัง
“คนอื่นไปกันได้ เพียงแค่พวกแกเท่านั้นที่ไปไม่ได้!”
ถังเฉาหันหน้ากลับไปมอง เห็นเพียงเหวินหนานเฉิงลุกขึ้นยืนอย่างผมเผ้ายุ่งเหยิง ภายใต้เลือดสดที่ขับให้เด่นนั้น ทั้งใบหน้าเขาอัปลักษณ์ไร้ที่เปรียบ
“พ่อคะ หนูกลัว”
ถังเสี่ยวลี้หลบอยู่ด้านหลังของถังเฉา
ถังเฉากอดถังเสี่ยวลี้ไว้ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ตระกูลเหวินของแกพังทลายแล้ว แกจะเอาอะไรมาห้ามพวกฉัน?”
“เอาชีวิตของหล่อนไง!”
เหวินหนานเฉิงชี้ไปที่หลินฉ่ายเวยทันใด หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ที่มือของหล่อนใส่กำไลระเบิดแบบพิเศษไว้ ขอเพียงก้าวออกไปจากตระกูลเหวินก้าวหนึ่ง หรือว่าพยายามถอดออก กำไลจะระเบิด ระเบิดหล่อนให้แตกเป็นจุณ!”