“ค่ะ!”
เฟิ่งหวงตอบรับ จากนั้นเดินออกมาแบบหน้าตาไร้ความรู้สึก ดวงตาแดงเลือดจ้องหงโฝเหมือนเป็นเหยื่อตัวหนึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ
ท่าทีดูถูกคนอื่นก่อนหน้านั้นของหงโฝ เดิมทำให้เฟิ่งหวงหงุดหงิดในใจ เหยียดหยามเธอไม่เป็นไร แต่ว่าไม่สามารถเหยียดหยามรองหัวหน้าได้
ยิ่งไปกว่านั้นหล่อนยังกินทั้งสองทาง หลังเสร็จภารกิจ พริบตาเดียวก็ทุ่มเทชีวิตเพื่อตระกูลเสิ่นแล้ว
เหตุผลสารพัดสะสมมา ทำให้เฟิ่งหวงอยากลงมือกับหล่อนตั้งนานแล้ว แต่ว่ายังไม่มีโอกาสมาโดยตลอด ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถลงมือได้แล้ว
แต่คำพูดของถังเฉากลับยั่วโมโหหงโฝถึงที่สุด โดยเฉพาะ’เด็กผู้หญิงที่ไม่มีใครสั่งสอน’คำพูดพวกนี้ ยิ่งทำให้หล่อนระเบิดเดือดดาล เกือบกระโดดขึ้นมาตีหัวเข่าของเฟิ่งหวง—-
“หุบปาก! นายน่ะสิถึงเป็นเด็กน้อยที่ไม่มีใครสั่งสอน เด็กดื้อที่ทั้งบ้านนายไม่ยอมสั่งสอน!”
หงโฝตะโกนอย่างโมโหใส่ถังเฉา ใบหน้าที่งดงามขมวดเป็นปม แก้มแดงอย่างกับก้นลิง
“ฉันไม่ใช่เด็กน้อย ฉันอายุยี่สิบสามปีแล้ว!”
หล่อนเหมือนประกาศสิทธิ์อธิปไตยออกมา ตะโกนใส่ทุกคนแบบหน้าตาเขินและโกรธ
คำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างตกตะลึงนิดหน่อย มองหงโฝอย่างคาดไม่ถึง
แม้แต่ถังเฉาเองยังหรี่ตาขึ้นเล็กน้อย พินิจพิเคราะห์หล่อน
“เธอบอกว่าเธอยี่สิบสามปีแล้ว? งั้นทำไมร่างกายของเธอถึงยังเหมือนกับเด็กผู้หญิงอายุแปดเก้าขวบ?” เขาถามไป
“คือว่า……”
พูดมาถึงตรงนี้ หงโฝดูไม่เป็นธรรมชาติ พูดอย่างเขินอายอยู่บ้าง “ตั้งแต่เด็กฉันเป็นโรคอย่างหนึ่ง ตอนที่ฉันอายุเก้าขวบนั้น ร่างกายก็ไม่โตแล้ว ต่อมาไม่ว่าฉันจะอายุเท่าไร ฉันก็เป็นลักษณะแบบนี้”
คำพูดนี้ออกมา สายตาผู้คนในเหตุการณ์ผิดแปลกอีกครั้ง ร่างกายและหน้าตาหยุดอยู่ที่อายุเก้าขวบตอนนั้นตลอดกาล นี่คือโรคประหลาดอะไร?
“นอกจากอันนี้ก็ไม่มีโรคอื่นอีก ฉันคิดว่าไม่มีอะไรไม่ดีหนิ”
เหมือนกลัวว่าคนอื่นจะดูถูกตนเอง หงโฝจึงรีบพูดขึ้นอีก “ฉันสามารถรักษาหน้าเด็กไปได้ตลอดชีวิต เดิมทีไม่ต้องแต่งหน้าอะไร พวกเธอทำได้เหรอ?”
ถังเฉาจะฟังคำพูดน้อยเนื้อต่ำใจในน้ำเสียงของหล่อนไม่ออกได้อย่างไร มองหล่อนอย่างลึกล้ำทีหนึ่ง มิน่าหล่อนถึงไม่ชอบฟังคนอื่นว่าหล่อนเป็นเด็ก นี่ไม่ใช่กำลังเสียดสีหล่อนอยู่เหรอ?
“ตอนนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน โรคภัยบนโลก ไม่ว่าติดสักนิดคงไม่ใช่เรื่องดี ขอให้เธอดูแลตัวเองให้ดี”
สายตาของถังเฉาเหมือนดาบแหลมคม แทงทะลุในใจของหล่อนโดยตรง ในขณะเดียวกันยังทำให้จิตใจหงโฝสั่นรุนแรง ยิ่งโกรธแค้นอีกหลายระดับ
“นายไม่ใช่แค่คนธรรมดาหรอกเหรอ มีสิทธิ์อะไรมาเห็นใจฉัน? ตอนนี้ฉันจะฆ่านาย นายดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ”
อารมณ์หล่อนฮึกเหิม แรงอาฆาตในสายตาปะทุขึ้น
แต่ว่าเพิ่งพูดจบ สายตาที่หนาวเย็นก็จ้องหล่อนไว้แล้ว ดูโหดเหี้ยมยิ่งกว่านักฆ่าใดๆ ที่หล่อนเคยเจอมาก่อนหน้านี้ และไร้ความรู้สึกด้วย
“บนโลกนี้คนที่อยากฆ่ารองหัวหน้ามีจำนวนมหาศาล อย่างเธอจะนับว่าสักเท่าไร?”
เสียงเฟิ่งหวงเย็นยะเยือก ในมือถือมีดเล่มหนึ่ง เดินไปยังยังหงโฝ
หงโฝสั่นไปทั่วทั้งตัวทันที บนหน้าผากมีเหงื่อเม็ดเท่าถั่วไหลลงมา ถอยหลังก้าวหนึ่งแบบควบคุมตนเองไม่ได้
เพราะดวงตาเฟิ่งหวงแดงเลือดไร้ที่เปรียบ ราวกับถูกเลือดสดไหลผ่าน ชั่วพริบตาเดียวหล่อนก็มองเห็นภูเขาศพทะเลเลือดไร้ขอบเขตจากในสายตาของเฟิ่งหวง
ไม่นานนัก หล่อนสูดหายใจลึกๆ ทำให้ในใจตนเองที่หวั่นไหวสงบลงมา พูดอย่างเยาะเย้ย “เธอนักฆ่ามือหนึ่งที่ชื่อเสียงไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริงคนนี้ แม้แต่ลูกรักของฉันแอบโจมตียังสังเกตไม่ได้ ฝีมือจะมีกำลังต่อสู้สักเท่าไร?”
คำพูดประโยคนี้ เสิ่นป้านซานและเสิ่นชิงหยุนไม่ได้ยิน เพราะตอนที่เฟิ่งหวงและหงโฝประชันหน้ากัน พวกเขาหนีออกไปจากห้องใต้ดินตั้งนานแล้ว อยู่ส่วนกลางของคฤหาสน์ซานสุ่ย
เสิ่นชิงหยุนหายใจเอาอากาศสดชื่นเข้าไปเต็มๆ พูดทอดถอนใจ “ความรู้สึกของการมีชีวิตมันดีจริงๆ”
ต่อมา มองทางเสิ่นป้านซานอีกครั้ง “คุณปู่ครับ ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี? ออกไปหรือว่ารอที่นี่ต่อไปครับ?”
เสิ่นป้านซานนิ่งเงียบครู่หนึ่ง ในสายตามีแสงเฉียบแหลมแวบผ่าน “อยู่ต่อ! ฉันอยากเห็นถังเฉาตายไปกับตาตัวเอง ขอเพียงถังเฉาตาย ที่พึ่งใหญ่ล้มลง ลูกน้องแตกกระจาย ตระกูลต่งและลี่จิงกรุ๊ปล้วนเป็นของตระกูลเสิ่น!”
“งั้นก็รอครับ!”
เสิ่นชิงหยุนไม่กลัวเช่นกัน ความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เขาเคยเห็นหงโฝลงมือมากับตาตนเอง ในช่วงที่ไม่มีเสียงสักนิด กลับทำให้คนตายลง แม้แต่อวัยวะภายในร่างศพยังถูกกัดกินจนหมด ตายอย่างน่าเวทนาสุดจะทน
เพียงแค่เขาไม่เข้าใจ บนโลกยังมีคนประหลาดเช่นนี้ได้
ลุงหยางผู้ดูแลบ้านเหมือนเข้าใจความสงสัยในใจของเสิ่นชิงหยุน ส่งเสียงหัวเราะเยาะ “โลกกว้างใหญ่ เรื่องแปลกประหลาดแบบไหนล้วนมีหมด ผู้มีความสามารถแตกต่างกันมากมาย หงโฝคนนี้ เป็นยายหนอนพิษที่มาจากเจียงเหมียว!”
“ยายหนอนพิษ?”
ได้ยินดังนั้น เสิ่นป้านซานกับเสิ่นชิงหยุนตกใจยกใหญ่
แน่นอนว่าพวกเขาเคยได้ยินวิชาประหลาดระดับนี้ หยุนเชียงไล่ศพ(ไล่ศพ ก็เรียกได้ว่า การย้ายศพของคนที่ตายอยู่ห่างจากบ้านไปที่บ้านเกิด ให้ศพนั้นฝันในบ้านเกิดเอง เพื่อส่งวิญญาณสู่สรวงสวรรค์ ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมของเขตเซียงซีในเมื่อก่อน) ฝีมือเลี้ยงหนอนพิษแห่งเขตเหมียวเจียง เรียกได้ว่าเป็นวิชาประหลาดใหญ่สองอย่าง สามารถฆ่าคนแบบมองไม่เห็น และช่วยคนแบบมองไม่เห็นได้ด้วย เพียงแค่พวกเขาล้วนเห็นเป็นแค่เรื่องเล่า ไม่ได้สนใจ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องจริง
“พวกเรารอคุณหนูหงโฝชนะกลับมาเถอะ”
ในสายตาลุงหยางมีรอยยิ้มที่หนาวเหน็บเปล่งประกาย พูดนิ่งๆ
……
ห้องใต้ดิน
หงโฝฟื้นฟูกำลังวังชาก่อนหน้านี้กลับมา มองเฟิ่งหวงแล้วหัวเราะคิกคัก ราวกับมองเห็นความพ่ายแพ้ของเฟิ่งหวงล่วงหน้าตั้งแต่แรก
ส่วนเฟิ่งหวงก็หัวเราะเยาะเช่นกัน “เธอว่าชื่อเสียงฉันไม่สมกับความเป็นจริง ชื่อเสียงฉันไม่สมกับความจริงจริงๆ เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า คนที่แข็งแกร่งกว่าฉันยังมีอีกมากมาย ชื่อของอันดับหนึ่งก็คือเรื่องตลก”
“เพียงแต่……”
ทันใดนั้นเฟิ่งหวงเปลี่ยนหัวข้อ รอยยิ้มบนหน้าเพิ่มอารมณ์เหี้ยมโหดขึ้นมาอีก “ตอนฉันคำรามอยู่ในวงการนักฆ่า เธออยู่ที่ไหนกัน? ทำอะไรอยู่?”
คำพูดนี้ออกมา สีหน้าของหงโฝเปลี่ยนฉับพลัน เดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด
หล่อนนึกถึงปัญหาหนึ่งขึ้นกะทันหัน เฟิ่งหวงคือนายหญิงแก๊งมืด เป็นนักฆ่าผู้มีประสบการณ์ที่โด่งดังมานาน
ตอนที่เธอคำรามไปทั่วโลก หงโฝกำลังทำอะไรอยู่?
หล่อนเพิ่งบรรลุนิติภาวะ เพิ่งกลายมาเป็นยายหนอนพิษคนหนึ่ง……
ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของหล่อนจะดีมาก และชื่อเสียงสั่นสะเทือน แต่เทียบกันกับเฟิ่งหวงแล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นเกมพ่อแม่ลูก……
“เธอดูถูกฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ และยังเหยียดหยามคนที่ฉันติดตาม วันนี้จะทำให้เธอเห็นหน่อยว่าที่หนึ่งในโลกคนก่อน สยองขวัญแค่ไหน……”
เสียงของเฟิ่งหวงหนาวเหน็บเสียดกระดูก วินาทีต่อมาก็หายตัวไปจากที่เดิม
หงโฝมองไปโดยรอบทันที พยายามตามหาภาพเงาของเฟิ่งหวง แต่เหมือนเธอจะหายไปแบบไร้สาเหตุ ไม่เห็นแม้แต่เงา
สีหน้าหงโฝนับวันยิ่งซีดเซียว ในใจนับวันยิ่งสับสน รีบหยิบขลุ่ยหยกสีเขียวอันหนึ่งออกมา วางที่ขอบปาก จากนั้นเป่าบรรเลงขึ้นมาเบาๆ
ไม่นานเสียงขลุ่ยที่ไพเราะก็ลอยมา ขณะเดียวกันยังมีหนอนพิษทั้งหมดที่ห้องใต้ดินมาด้วย
ถังเฉาหรี่ตามองฉากนี้ ต้องยอมรับว่าหงโฝคนนี้พิเศษจริง
แค่ความสามารถที่ทำให้หนอนพิษวางพิษร้ายอันนี้ ก็สามารถทำให้คนตกใจมากพอแล้ว สวรรค์รู้ดีว่าผิวหนังร่างกายของหล่อนมีพิษหรือไม่—-
เพียงแต่อยู่ต่อหน้าเฟิ่งหวง ยังคงไร้ประโยชน์
“เธออยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
ถึงเรียกหนอนพิษออกมาแล้ว หงโฝก็ยังคงหวาดกลัว เพราะหล่อนไม่รู้ว่าเฟิ่งหวงอยู่ที่ไหน หนอนพิษพวกนี้ย่อมไม่มีพื้นที่ใช้กำลังได้เป็นธรรมดา
“ทำปากดี”
ที่เกิดเหตุมีเสียงหัวเราะเยาะของเฟิ่งหวงลอยมาแบบไร้มูล ทันทีที่เสียงจบลง เธอก็ปรากฏตัวด้านหลังหงโฝราวกับปีศาจ คมมีดในมือจ่อลงบนคอของหงโฝเรียบร้อยแล้ว
“เธอแพ้แล้ว”
เสียงเธอเรียบเฉยอย่างยิ่ง ราวกับประกาศตัดสินโทษประหารของหงโฝแล้ว