เมื่อถังเฉาพูดออกมา ก็เท่ากับเป็นการประหารตระกูลหวาง หวางเยี่ยเบิกตาโพลง เขาถอยกรูดไปข้างหลังแล้วหันไปมองหวางหมิ่นเหวิน “พ่อ ตระกูลของเราไม่มีความหวังแม้แต่น้อยเลยเหรอ”
หวางหมิ่นเหวินไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขากลับมานั่งที่เดิม แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบเงียบๆ
“พ่อ!”
แววตาของหวังเยี่ยเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขารีบตะโกนออกมา
“แกหุบปาก!”
จู่ๆ หวางหมิ่นเหวินก็ตวาดออกมา หวางเยี่ยเบิกตาโพลงมองพ่อตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เพราะเขาเห็นว่าผมสีดำของพ่อกลายเป็นสีขาวอย่างที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา ผมสีขาวครอบคลุมบริเวณจอนผมของหวางหมิ่นเหวินและลามไปทั้งหัว
ความย่อยยับของตระกูลหวาง ทำให้เขาหัวขาวชั่วข้ามคืน
ถังเฉา ซุนยู่เฟิงรวมถึงคนอื่นๆ มองหวางหมิ่นเหวินด้วยสีหน้าตกใจ นี่มันต้องโกรธแค้นแค่ไหนถึงจะทำให้ผมสีดำกลายเป็นสีขาวได้
“แกคิดว่าฉันไม่อยากชนะเหรอ แกคิดว่าฉันไม่อยากฆ่ามันเหรอ แต่ว่าความเป็นจริง ตระกูลหวางของฉันมันแพ้ตั้งแต่เริ่มแล้ว!”
หวางหมิ่นเหวินตะโกนออกมา น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความสั่นเครือ
เขาเข้าใจแล้ว เข้าใจทุกอย่างแล้ว
ดูผิวเผิน เหมือนตระกูลหวางจะมาจัดการถังเฉา แต่ในความเป็นจริง ถังเฉาต่างหากล่ะที่จัดการตระกูลหวาง ถังเฉาพูดถูก ศัตรูบางคนที่วางแผนไม่รอบคอบจะล้มเหลวได้
“ตระกูลหวางไม่มีโอกาสรอดแล้ว…”
หลังจากที่หวางหมิ่นเหวินพูดออกมา ก้นบุหรี่ในมือของเขาก็หักลง เหมือนกับชีวิตและโชคชะตาของตระกูลหวางที่ขาดเป็นสองท่อน
“เป็นไปได้ยังไง!”
หวางเยี่ยลงไปนั่งกองกับพื้น สีหน้าของเขาซีดเผือด
ถังเฉามองภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยสีหน้าเรียบเฉย รอให้สองพ่อลูกตระกูลหวางใจเย็นลง เขาจึงพูดออกมา
“ไม่ต้องจัดการกับสมบัติและธุรกิจของตระกูลหวาง มอบให้ตระกูลซุนเป็นผู้ดูแล ส่วนนายสองพ่อลูก ในอนาคตจะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของพวกนาย”
“ครับคุณถังเฉา!”
ซุนยู่เฟิงปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก การที่ได้ครอบครองทรัพย์สินของตระกูลหวาง ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลซุนยิ่งใหญ่
ขณะเดียวกันถังเฉาไม่ได้ต้องการฆ่าสองพ่อลูกตระกูลหวาง อย่างแรกเพราะฐานะของพวกเขาต่ำต้อย เสียเวลาของถังเฉา อย่างที่สองก็คือหลินชิงเสว่ไม่อยากให้เขาฆ่าคน
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ทำให้ถังเฉาค่อยๆ ละทิ้งเจตนาที่อยากฆ่าคน ไม่ว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายคืออะไร เขาจะไว้ชีวิตอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม นี่คือความฉลาดของถังเฉา ตระกูลหวางล่วงเกินคนมีอำนาจมามากมาย ถึงถังเฉาจะไม่ออกโรง ก็ต้องมีคนออกโรงอย่างแน่นอน
“ไปกันเถอะ”
ถังเฉาหันหลังเดินออกไป ซุนยู่เฟิง จ้าวเย็นหราน อาจารย์เปา รวมถึงเจิงเทียนเสียงและซ่งหมิงเวยก็เดินตามหลังออกไปเช่นกัน
เมื่อมองถังเฉาจนลับตา หวางหมิ่นเหวินพูดพึมพำออกมาว่า “ดูเหมือนว่าฉันจะพลาดไป หรือไม่ควรจะเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกแล้ว”
…..
ฟางหย่ากับถังชิงเหอรออยู่ข้างล่างโรงแรมอย่างร้อนใจ พวกเธอลังเลว่าจะแจ้งตำรวจดีไหม
อย่างแรกคือเป็นห่วงความปลอดภัยของถังเฉา อย่างที่สองคือผู้มีอำนาจมากมายขนาดนี้มาทำอะไรกันที่นี่
ถ้ามาช่วยถังเฉาก็ดี แต่ถ้าพวกเขาอยู่ข้างตระกูลหวาง…
ฟางหย่ากับถังชิงเหอไม่กล้าจินตนาการต่อเลย ถ้าเป็นอย่างที่พวกเธอคิด เทวดาก็ไม่สามารถช่วยถังเฉาได้
ในขณะที่พวกเธอกำลังสับสน เสียงฝีเท้าอันหนักแน่นดังออกมาจากโรงแรม
เมื่อหันไปมองก็เห็นถังเฉาเดินลงบันไดมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมีคนจำนวนมากเดินตามอยู่ข้างหลัง ผู้นำตระกูลซุน ลูกสาวคนโตของตระกูลจ้าว อาจารย์เปา รวมถึงเจิงเทียนเสียงเดินตามหลังถังเฉาเหมือนเป็นลูกน้อง
“คุณถังเฉา ดีใจที่คุณไม่เป็นอะไร!”
ฟางหย่ากับถังชิงเหอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม
เมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสองคน ถังเฉาจึงเผยยิ้มที่ไม่ค่อยจะได้เห็นออกมา ตอนที่ช่วงชีวิตของตกอยู่ในอันตราย ผู้หญิงทั้งสองคนไม่ได้ห่วงชีวิตของตัวเองก่อน แถมยังคอยปกป้องเขาไม่ไปไหน แน่นอนว่าถังเฉาจะต้องตอบแทนพวกเธอ
“คุณถังเฉา พวกเขาคือ…”
หลังจากนั้น ฟางหย่ากับถังชิงเหอสังเกตเห็น ซุนยู่เฟิง จ้าวเย็นหรานกับคนอื่น ยืนอยู่ข้างหลังถังเฉา
ถังเฉาไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาพยักหน้าเบาๆ จากนั้นฟางหย่ากับถังชิงเหอเบิกตาโพลง
บุคคลอันยิ่งใหญ่ที่ถึงแม้จะอยากเจอแต่ก็ไม่สามารถเจอได้ คิดไม่ถึงว่าจะนอบน้อมกับถังเฉาขนาดนี้
ขณะนั้นเจิงเทียนเสียงก็เดินเข้ามา “คุณถังเฉา ถ้าจะโอนธุรกิจทั้งหมดของตระกูลหวางให้อยู่ในชื่อของตระกูลซุนทั้งหมด แต่ตระกูลซุนไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง การเลือกประธานคนใหม่ของบริษัทการบันเทิงฮุยหวง ยังคงเป็นปัญหาครับ”
“เหรอ…”
ถังเฉาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตระกูลซุนไม่ได้มีผลกระทบอะไรในวงการบันเทิงแถวเจียงเจ้อ การที่จะให้ตระกูลซุนบริหาร เห็นได้ชัดว่าเป็นทางเลือกที่ไม่ดี
แต่เมื่อเขามองคนที่ใส่ซื่อบริสุทธิ์อย่างถังชิงเหอ จู่ๆ ถังเฉาก็ตัดสินใจได้
“คุณถังชิงเหอ สนใจเป็นประธานของบริษัทการบันเทิงฮุยหวงไหม”
“หา?”
ถังชิงเหออึ้งไป เธอส่ายหน้าอย่างแรง “ขอบคุณที่คุณถังเฉาที่เห็นค่า แต่ฉันรู้ว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานนี้”
“อีกอย่าง ฉันอยากร้องเพลงและแสดงเท่านั้น”
การที่ถังชิงเหอปฏิเสธ ไม่เพียงแต่จะทำให้ไม่พอใจ อีกทั้งเขายังรู้สึกแปลกใจ “ผมเข้าใจที่คุณพูด แต่คุณคือคนที่เหมาะสมที่สุด ผมว่าถ้าคนบ้าดนตรีรู้ เขาต้องปลื้มใจอย่างแน่นอน”
จู่ๆ ถังชิงเหอก็จับมือของถังเฉาเอาไว้ “คุณสนิทกับอาจารย์ของฉันเหรอ”
ถังเฉายิ้มแล้วพยักหน้า ถังชิงเหอครุ่นคิดอยู่เงียบๆ
รอยยิ้มของถังเฉาค่อยๆ หายไป “ถึงคุณจะเป็นลูกศิษย์ของคนบ้าดนตรี แต่คนในวงการบันเทิงส่วนมากก็ไม่รู้ นี่จะทำให้เส้นทางบันเทิงของคุณไม่ราบรื่น ข้างหลังเป็นเพียงเครื่องมือทำเงินของบริษัทนายหน้า ตอนนี้เขากล้าบอกให้คุณรับละครที่มีบทจูบ ต่อไปเขาก็คงให้คุณขายร่างกาย คุณยอมให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปเหรอ”
“ฉัน…”
ถังชิงเหอกัดริมฝีปาก เธอเงียบและไม่พูดอะไร
“คุณไม่มีประสบการณ์ก็ไม่เป็นไร ผมจะให้คนมาช่วยคุณ หลังจากที่คุณรับหน้าที่ดูแลบริษัทการบันเทิงฮุยหวง ก็ไม่จำเป็นต้องประกาศออกไป ทำสิ่งที่คุณชอบต่อไปก็พอแล้ว”
จ้าวเย็นหรานชะโงกหน้าเข้ามาด้วยความสนใจ “ฉันสนใจตำแหน่งนี้ ให้ฉันเข้ามาซื้อหุ้นแล้วช่วยเธอไหม”
“คุณจ้าวเย็นหราน…”
ใบหน้าของถังชิงเหอเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง แต่เมื่อมองถังเฉา เธอก็รู้สึกผิด “แต่ว่าฉันรู้สึกไม่ดีกับความหวังดีของคุณ ฉันขอคารวะเหล้าให้คุณถังเฉา…”
ถังเฉารู้สึกเหนื่อยใจ ยัยเด็กนี่จิตใจดีเกินไปแล้ว แถมยังคิดมากกับเรื่องนี้อีก
เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำร้ายถังเฉา แต่ถังเฉาคิดว่า เธอคือคนที่เปิดโปงตระกูลหวาง
“แต่ว่า ตอนที่ผมแกล้งสลบ คุณก็ปกป้องผมจนไม่คิดถึงชีวิตตัวเองไม่ใช่เหรอ”
ถังเฉามีสีหน้าจริงจัง เขามองถังชิงเหอแล้วพูดว่า “บุญคุณแม้น้อยนิด แต่ก็ต้องตอบแทนอย่างยิ่งใหญ่ นี่คือสิ่งที่ผมยึดถือปฏิบัติ คุณสมควรได้รับสิ่งนี้”
คนที่อยู่ข้างหลังอย่างซุนยู่เฟิง จ้าวเย็นหรานและเจิงเทียนเสียงต่างพากันมองถังชิงเหอด้วยแววตาอ่อนโยน ในแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยการให้กำลังใจ
การตอบแทนคนอื่นที่ถังเฉาทำ พวกเขาได้สัมผัสมาแล้ว
“คุณถังเฉา…”
ดวงตาของถังชิงเหอแดงก่ำ เธอเอามือปิดปาก เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี
ฟางหย่าจับแขนของถังชิงเหอเอาไว้ เธอยิ้มแล้วพูดว่า “เธอตอบตกลงไปเถอะ เพราะตำแหน่งประธานเกี่ยวข้องกับหวางหมิ่นเหมิน ประธานหลินเลยไม่พอใจที่จะร่วมงานกับบริษัทการบันเทิงฮุยหวง ถ้าเป็นเธอ บริษัทลี่จิงกรุ๊ปกับบริษัทการบันเทิงฮุยหวงต้องร่วมมือกันอย่างยาวนานแน่นอน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ถังชิงเหอก็ไม่ปฏิเสธอีก “ในเมื่อคุณถังเฉาเห็นถึงความสามารถของฉัน งั้นฉันจะลองดูค่ะ”
“ในเมื่อฉันบริหารบริษัทการบันเทิงฮุยหวง ฉันจำเป็นต้องทำเรื่องบางอย่าง!”
สีหน้าของเธอเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
ทุกคนมองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เรื่องอะไรเหรอ”
“เปลี่ยนชื่อ”
ถังชิงเหอพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทการบันเทิงเฉาเหอ ”