สัมผัสได้ถึงจิตอาฆาตแค้นของเหล่าหน่วยกล้าตาย ถังเฉาเองก็มีสีหน้าเย็นชานิดหน่อยเช่นกัน ลักษณะพลังบนตัวไต่ขึ้นไปถึงขีดสุดเช่นเดียวกัน
ตอนที่สงครามใหญ่กำลังจะปะทุขึ้น ห้องหนังสือกลับมีเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น
“แดดดี้คะ เสร็จหรือยังคะ ได้เวลาทานข้าวเย็นแล้วนะคะ”
เสียงดังกังวานของหลินจ้าวหยูนลอยเข้ามา หลินรั่วหวีขมวดคิ้วเล็กน้อย มองทางด้านนอกแวบหนึ่ง
ดังนั้นแรงอาฆาตแค้นก่อนหน้านี้จึงได้มลายหายไปหมด เหล่าหน่วยกล้าตายล้วนหลบซ่อนไปทั้งหมดด้วย
ทุกอย่างสงบเงียบปลอดภัย ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
มองจากในสายตาถังเฉาแล้ว สายตาที่มองไปทางหลินรั่วหวีเพิ่มความประหลาดใจขึ้นมา
สามารถมองออกว่าเขารักทะนุถนอมต่อลูกสาวคนเล็กอย่างมาก
“น่าจะเป็นเพราะความรู้สึกเสียใจต่อลูกสาวคนโต เขาเลยมอบความรักทั้งหมดให้กับลูกสาวคนเล็กล่ะมั้ง” ถังเฉากำลังทอดถอนใจนิดหน่อยอยู่ภายใน
ไม่ว่าพ่อตาของเขาจะทำเกินเหตุไปมากเท่าไร เขาก็ยังเป็นเพียงบิดาของลูกสาวสองคนเท่านั้นเอง
พอคิดมาถึงตรงนี้ ลักษณะพลังบนตัวของถังเฉาหายไปจนหมดสิ้น
เป็นแบบนี้ ศึกใหญ่แห่งยุคฉากหนึ่ง เพราะการก้าวก่ายแบบไม่ตั้งใจของหลินจ้าวหยูน เรื่องราวยังดำเนินการไม่สำเร็จก็ต้องหยุดลงเสียก่อน
หลินรั่วหวีไปเปิดประตูด้วยตนเอง จึงมองเห็นหลินจ้าวหยูนยืนอยู่หน้าประตูแบบปราดเปรียว ดวงตากลมโตกวาดมองไปมาบนตัวถังเฉาและหลินรั่วหวีอย่างแปลกประหลาด “พวกคุณ……ไม่ได้ตีกันหรอกมั้ง?”
“เธอพูดไร้สาระอะไรกัน?”
ถังเฉาจงใจมองหลินจ้าวหยูนเหมือนตำหนิทีหนึ่ง บอกว่า “ฉันกับคุณลุงหลินคุยกันถูกคอมากต่างหาก”
“จริงเหรอ?”
หลินจ้าวหยูนไม่เชื่อ และหันหน้ามองทางหลินรั่วหวี
หลินรั่วหวีพยักหน้าเบาๆ ถึงแม้ไม่ได้พูดอะไร แต่บนหน้ากลับเผยรอยยิ้มจางๆ นิดหน่อย
ไม่ได้เข้มข้นมาก แต่ว่ามองดูสบายมาก เป็นธรรมชาติมาก นี่คงเป็นความเอ็นดูกระมัง
ในใจของถังเฉายิ่งคร่ำครวญอย่างยิ่ง คิดในใจว่านี่คือความรักของบิดากระมัง
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าวินาทีหนึ่ง ยังอยากสังหารยกครัวเพราะการล่วงเกินของตนเอง แต่เพราะการเข้ามาแบบไม่ตั้งใจของจ้าวหยูน กลับกลายเป็นว่าหยุดกลางคันไปดื้อๆ อารมณ์ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเบิกบานใจ จากตรงนี้เห็นได้ว่าเขาไม่อยากทำลายภาพลักษณ์อันยิ่งใหญ่ในใจลูกสาวคนเล็กของตนเองพังลง
หลินจ้าวหยูนถอนหายใจยาวๆ ทีหนึ่ง “งั้นหนูก็วางใจแล้วค่ะ จริงๆ เลยนะ พี่สาวยังไม่วางใจ เรียกให้หนูมาดูสักหน่อย……”
นี่ถังเฉาถึงเข้าใจขึ้นมากะทันหัน หลินรั่วหวีชายตามองเขานิดๆ แวบหนึ่ง ที่แท้เป็นหลินชิงเสว่ให้หลินจ้าวหยูนเข้ามา เป็นเพราะกังวลว่าพ่อตาจะทำให้ถังเฉาลำบากใจ
หลินรั่วหวีเงียบนิ่งไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นชี้ที่ถังเฉาแล้วถามว่า “จ้าวหยูน ลูกคิดว่าเขาเป็นยังไงบ้าง?”
“แดดดี้หมายถึงพี่เขย? เขาดีมากๆ เลยค่ะ!”
หลินจ้าวหยูนตอบแบบควรจะเป็นเช่นนั้น “เขามีความรับผิดชอบในหน้าที่มากค่ะ และดูแลหนูดีมากๆ ด้วย แม้แต่หนูยังอิจฉาพี่ที่หาคนดีขนาดนี้อย่างพี่เขยได้เลยล่ะ”
“งั้นเหรอ?”
หลินรั่วหวีหัวเราะแล้ว ไม่ได้พูดอะไรอีก
“ทั้งสองไม่ได้ทะเลาะกันก็ดีแล้วค่ะ”
ไม่นานหลินจ้าวหยูนก็ออกไป
หลังจากที่เธอออกไป บรรยากาศของห้องหนังสือเปลี่ยนไปดูประหม่าขึ้นมาอีกครั้ง
รอยยิ้มบนหน้าของหลินรั่วหวีค่อยๆ หดไป ดูก้าวร้าววางท่าใหม่อีกครั้ง
สายตาถังเฉาเย็นเฉียบเช่นกัน จ้องหลินรั่วหวีอยู่
แต่ว่าใครๆ ต่างสามารถรู้สึกได้ เพราะการแทรกแซงของหลินจ้าวหยูน ใครก็ไม่มีแรงอาฆาตแค้นที่เข้มข้นขนาดนั้นแบบก่อนหน้านี้แล้ว
“ฉันเพิ่มเหตุผลไม่ชอบนายมาอีกข้อหนึ่งแล้ว”
หลินรั่วหวีเอ่ยปากขึ้นก่อน พูดอย่างเย็นชา “ลูกสาวทั้งสองคนของฉัน คนหนึ่งโดนนายยึดครองไป อีกคนหนึ่ง ก็พึ่งพานายมาก”
“ชมเกินไปแล้วครับ”
ถังเฉาหัวเราะนิ่งๆ ตอบกลับไป
หลินรั่วหวีเงียบงันอยู่พักหนึ่ง พูดขึ้นกะทันหัน “นายหลบเป็นแต่ข้างหลังผู้หญิง?”
สีหน้าของถังเฉายังคงไม่เปลี่ยนสี พูดเสียดสีกลับ “ถ้าบอกว่าหลบข้างหลังผู้หญิง คุณน่าจะเป็นปรมาจารย์ผู้บุกเบิก”
มารดาของหลินชิงเสว่เป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเยี่ยนจิง การแต่งงานของหลินรั่วหวีและหล่อน เสมือนกันกับถังเฉาและหลินชิงเสว่ในเวลานี้เสียจริง
วัฏจักรของคนรุ่นหนึ่ง ทุกอย่างล้วนเหมือนกันขนาดนั้น
แต่ทว่าคำพูดของถังเฉาไม่ได้ทำให้หลินรั่วหวีโกรธ เขาเพียงแค่ใช้สายตาที่ซับซ้อนมองไปยังที่ที่ไกลออกไป
“ไปเถอะ พวกเราคุยกันจบตรงนี้แหละ”
ตั้งนาน เขาได้สติเข้ามา พูดกับถังเฉาด้วยหน้าตานิ่งสงบ
ถังเฉาพยักหน้าเช่นกัน พูดจาไม่เห็นด้วยมาตั้งนานแล้ว พูดกันต่อไปอีกคงไม่มีประโยชน์อะไร
แต่เพราะการสนทนาครั้งนี้ พวกเขาต่างรับรู้เจตนารมณ์ที่แน่วแน่ของอีกฝ่าย
ทั้งสองคนต่างฝ่ายล้วนเข้าใจซึ่งกันและกัน เพียงเพราะจุดยืนต่างกัน จึงโดนบังคับให้เดินไปในทิศทางตรงกันข้าม
ตอนที่ออกไป ผู้ดูแลบ้านเตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว
ตอนที่เข้ามานั่ง ทุกคนล้วนใช้สายตาที่แปลกประหลาดสังเกตถังเฉา
“เขาพูดอะไรกับคุณบ้าง?”
หลินชิงเสว่นั่งอยู่ด้านข้าง สีหน้าดูแย่พอสมควร
เมื่อสักครู่ถึงแม้หลินจ้าวหยูนบอกเธอว่าทั้งสองคนไม่ได้ตีกันขึ้นมา แต่เดิมทีหลินชิงเสว่ยังไม่เชื่อ เธอรู้จักนิสัยบิดาเลือดเย็นคนนั้นของเธอดี และรู้นิสัยของถังเฉาด้วย
ทั้งสองคนคือศัตรูคู่แค้นที่เจอกันเข้าเป็นต้องทะเลาะ เป็นไปได้อย่างไรที่จะอยู่อย่างสงบไม่มีเรื่องอะไร?
“เขาจะต้องข่มขู่เธอแน่นอน”
ลั่วเยนอวิ๋นยิ่งตรงไปตรงมามากกว่า หรี่ดวงตาพูดขึ้น
ถังเฉาเข้าใจดีว่าพวกเธอเป็นห่วงตนเอง แต่เขายังคงส่ายหน้า “คุณลุงดีกับผมมากครับ ไม่ได้ทำให้ผมลำบากใจเลย”
ดังนั้นหลินชิงเสว่ยิ่งขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม กำลังอยากพูดบางอย่างให้ถังเฉาไม่ต้องสนใจ หลินรั่วหวีก็เดินลงมาจากด้านบนพอดี
“คุณลุงหลิน”
ถังเฉายิ้มทักทายไปยังหลินรั่วหวี
หลินรั่วหวียิ้มอย่างอบอุ่นให้ “ถังเฉา ไม่ต้องเกรงใจ คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง”
หลังจากพูดคำนี้ออกมา ไม่เพียงหลินจ้าวหยูนและลั่วเยนอวิ๋นที่หน้าตกใจเต็มที่ แม้แต่ในดวงตาของหลินชิงเสว่ยังเต็มไปด้วยความสงสัย
หลินรั่วหวี คาดไม่ถึงว่าสุภาพต่อถังเฉาขนาดนี้?
“ยังมีเสี่ยวอวิ๋น คืนนี้เธอพักที่นี่เถอะ”
หลินรั่วหวีพูดขึ้นอีก
ได้ยินอย่างนั้น ลั่วเยนอวิ๋นกับหลินชิงเสว่ทั้งสองคนล้วนรู้สึกถึงอะไรมาทันที จากนั้นจมสู่ความเงียบสงบ
พอพูดประโยคนี้จบ หลินรั่วหวีไม่ได้มองอาหารเย็นที่อลังการมากมายสักนิด ก้าวใหญ่ๆ ออกไป
ถังเฉารีบเรียกเขาไว้ทันที “คุณลุงครับ คุณไม่ทานอาหารเย็นด้วยกันกับพวกเราเหรอครับ?”
“ไม่กินล่ะ พรุ่งนี้ถึงเป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ หมิงจวินจะกลับมาด้วย ฉันรอคอยอาหารเย็นของวันพรุ่งนี้”
หลังจากโบกมือให้ หลินรั่วหวีก็ออกไปจากปราสาทหลังนี้แล้ว
ถังเฉาไม่เข้าใจ ที่นี่ไม่ใช่ตระกูลหลินตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเหรอ ทำไมหลินรั่วหวีถึงไม่พักที่นี่?
อีกอย่างหมิงจวินเป็นใคร?
เขาสังเกตได้อย่างว่องไว ตอนที่ได้ยิน’หมิงจวิน’สองคำนี้ บนหน้าหลินชิงเสว่เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ
ลั่วเยนอวิ๋นถอนหายใจหนักหน่วง ถือโอกาสตอนที่หลินชิงเสว่ไม่สังเกต กระซิบไปที่ข้างหูของถังเฉา “ที่นี่คือตระกูลหลินตระกูลหลวงในเยี่ยนตูไม่ผิดหรอก แต่ว่าพี่เขยคนนี้ของฉัน แต่ไหนแต่ไรไม่พักอยู่ที่นี่”
“ทำไมครับ?” ถังเฉาถามต่อ
“เพราะ……นี่คือเรือนหอของเขาและพี่สาวฉันที่แต่งงานกันในตอนนี้น่ะสิ”
สายตาของลั่วเยนอวิ๋นซับซ้อน น้ำเสียงอึมครึม
พูดเรื่องนี้ออกมา ถังเฉาสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย มองรอบด้าน
ที่นี่เป็นเรือนหอของหลินรั่วหวีและมารดาหลินชิงเสว่ตอนที่แต่งงานกัน?
ถังเฉาเข้าใจหลินรั่วหวีอยู่บ้างว่าทำไมถึงไม่พักที่นี่แล้ว เห็นของก็คิดถึงคน ที่นี่เป็นเรือนหอที่แต่งงานกันในตอนนั้น อย่างนั้นที่นี่ล้วนหลงเหลือทุกสิ่งที่เป็นอดีตกับคนรักอยู่ด้วย
“อย่างนั้น’หมิงจวิน’ที่คุณลุงหลินพูดถึงคือ—-”
การแสดงออกของถังเฉาแปลกไป มองหลินชิงเสว่ด้วยความระวัง เธอกำลังทานสเต็กชิ้นหนึ่งอย่างสง่างาม
“ถูกต้อง!”
ลั่วเยนอวิ๋นหรี่ตาขึ้น เสียงเปลี่ยนไปเย็นเฉียบ
“ภรรยาใหม่ของเขา เว่ยหมิงจวิน!”