ในคืนนั้น หลินชิงเสว่มีอาการนอนไม่หลับ
คำพูดของถังเสี่ยวลี้ ยังคงสั่นคลอนจิตวิญญาณของเธอ ทุกครั้งที่นึกถึง หัวใจของเธอก็ไม่สามารถที่จะสงบได้
จ้องมองถังเสี่ยวลี้ที่หลับสนิท ทันใดนั้นหลินชิงเสว่ก็ลุกขึ้น มองถังเฉาและพูดว่า “ที่รัก หรือว่าฉันผิดจริงๆ?”
ถังเฉาก็รู้สึกสงสารจากใจ ส่ายศีรษะและพูดว่า “คุณไม่ผิด เสี่ยวลี้ก็ไม่ผิด ผิดที่ผมเอง”
ถ้าไม่เพราะเขาหายไปเป็นเวลาห้าปี พวกเธอแม่ลูก ก็คงไม่ถูกรังแกและได้รับความอัปยศอดสูขนาดนี้
แต่เขาไม่เสียใจ เพราะว่า ถ้าหากตอนนั้นเขาเลือกที่จะไม่เข้าร่วมกองทัพ เขาคงไม่มีอำนาจพอที่จะปกป้องหลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวลี้ หลินชิงเสว่ก็คงไม่เลือกเขาอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ เขาประสบความสำเร็จ พวกเธอก็เป็นลูกเมียของนักรบเทพ ใครกล้าเหยียดหยาม?
“หรือว่า ต่อไปคุณจะส่งเสี่ยวลี้ไปเรียนศิลปะการต่อสู้เหรอ?”
พอนึกถึงภาพที่ถังเสี่ยวลี้จะไปเรียนศิลปะการต่อสู้ หลินชิงเสว่ก็รู้สึกหมดหวัง
แต่ถังเฉากลับยิ้ม “นี่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้าย”
หลินชิงเสว่เลิกคิ้ว อยากจะพูดอะไร แต่เห็นถังเฉาพูดต่อไปว่า “ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงอะไร กลัวเธอจะได้รับบาดเจ็บ เลือดไหล ไม่มีความเป็นผู้หญิงใช่ไหม?”
หลินชิงเสว่ไม่พูด ซึ่งถือว่ายอมรับ
ถังเฉาส่ายศีรษะ “เสี่ยวลี้แตกต่างจากเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน ความคิดของเธอเป็นผู้ใหญ่มาก ตอนนี้ความคิดของเธอควรอยู่ที่อายุประมาณ 13 -14 ปี”
สีหน้าของหลินชิงเสว่ ก็กลายเป็นเคร่งขรึมมาก
จริงๆแล้ว บางครั้งคำพูดของถังเสี่ยวลี้ และการกระทำนั้นไม่เหมือนกับอายุวัยนี้จริงๆ
“นี่แสดงว่าเรื่องนี้เธอคิดดีแล้ว”
ถังเฉาพูดอย่างเคร่งขรึม “เรื่องวิชายุทธคต้องฝึกตั้งแต่เด็ก เมื่อกี้ผมเพิ่งดูจากเสี่ยวลี้ คุณลองเดาสิว่าพบอะไร?”
“คุณพบอะไรเหรอ?”
หัวใจของหลินชิงเสว่เต้นตุบๆ
“พรสวรรค์ของเธอดีมาก ถ้าเธอได้รับการฝึกฝนตั้งแต่ยังเด็ก ความสำเร็จในอนาคตของเธอ อาจจะเหนือกว่าผม”
ถังเฉาสีหน้าจริงจังมาก
หลินชิงเสว่สะดุ้งตกใจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความน่าเหลือเชื่อ
เก่งกาจกว่าถังเฉา?
เธอเคยเห็นตอนถังเฉาลงมือ ไม่มีใครสามารถสู้เขาได้ในสองกระบวนท่า ในอนาคตถังเสี่ยวลี้อาจแข็งแกร่งยิ่งใหญ่กว่าถังเฉา?
หลินชิงเสว่คิดๆก็รู้สึกพะวง ไม่น่าเชื่อจริงๆ
“ดังนั้น ไม่งั้นก็ให้เธอไปลองดูก่อน ถ้าหากไม่ได้ แล้วค่อยเปลี่ยนใหม่ เพราะยังเล็กอยู่ สามารถทดลองเรียนรู้หลายๆด้าน”
คำพูดของถังเฉาทำให้หลินชิงเสว่ใจอ่อน
หากเป็นเรื่องจริงตามที่ถังเฉาพูด ในครอบครัวมีนักรบเทพมสองคนตระกูลหลวงในเยี่ยนตู แล้วยังไง?
โบกมือทำลาย!
ถังเฉาพูดอีก “สำหรับชีวิตในอนาคต ไม่ต้องกังวลทั้งนั้น มีผมอยู่ ขอแค่ให้เธอมีชีวิตอยู่อย่างไร้กังวล และทำในสิ่งที่เธออยากทำ ก็พอแล้ว”
พูดแบบนี้ แบบแผนสำหรับอนาคตก็ปรากฏขึ้นในใจของถังเฉา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีอยู่ในตอนนี้ มีเรื่องหนึ่งที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือความแข็งแกร่ง
ถ้าถังเสี่ยวลี้สามารถสืบทอดความสามารถของเขาได้ วันหนึ่งในอนาคต ความแข็งแกร่งของเขาจะไปถึงจุดสูงสุด จากนั้นเขาก็สามารถมอบทุกอย่างให้กับถังเสี่ยวลี้
ไม่มีใครกล้าคิดร้ายกับคนที่แข็งแกร่งที่สุด
อยู่ต่อหน้าความแข็งแกร่ง แผนชั่วทั้งหมดก็ไร้ประโยชน์
“งั้นก็ได้!”
ในที่สุดก็พูดจนหลินชิงเสว่ใจอ่อน ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
แต่บางทีอาจเป็นเพราะว่ากลัวเสียหน้า เธอก็หึแบบงอนๆเล็กน้อย “ต่อไปคุณเป็นคนดูแลลูกเอง ฉันไม่เป็นบูโดอะไรหรอกนะ”
“ฮ่าฮ่า ตกลง!”
ถังเฉาตอบด้วยความดีใจ เขาเชื่อมั่นว่า เมื่อถังเสี่ยวลี้เติบโตขึ้น จะไม่เพียงสืบทอดรูปลักษณ์และความเฉียบแหลมทางธุรกิจของหลินชิงเสว่ แต่ยังสืบทอดความแข็งแกร่งและสถานะทางการเงินของเขาด้วย เป็นลูกสาวเศรษฐีอับดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง
…
วันรุ่งขึ้น ถังเฉาพาถังเสี่ยวลี้ไปอยู่กับเฟิ่งหวง ตัวเองก็ไปกับหลินชิงเสว่เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือ
เนื้อหาประมาณว่าลี่จิงกรุ๊ปเกี่ยวพันกับโครงการของสำนักงานการก่อสร้างของแม่น้ำหมิงจูจะผ่านพื้นที่ เจียงเฉิง
หลินชิงเสว่ปฏิเสธทุกวิถีทาง รู้สึกว่าตัวเองไปคนเดียวก็พอแล้ว ด้วยความสามารถของเธอ เธอชนะได้ เต็มร้อย
แต่ถังเฉารู้ดีว่าเจียงเฉิงเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้สงบ ไม่ว่าพูดยังไงก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอไปคนเดียว
หลินชิงเสว่ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเขาได้ เธอจึงต้องตกลงให้ไปด้วยกัน
สถานที่ประชุมอยู่ในอาคารสำนักงานระดับไฮเอนด์ ถังเฉากับหลินชิงเสว่กำลังจะเข้าไป ทันใดนั้น ก็เห็นเงาคนหนึ่งเดินมาจากที่ไกลๆ
ถึงกับเป็นเฉิงเพ่ย
เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างถังเฉากับหลินชิงเสว่แล้ว แต่เธอก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “โอ้ นี่ประธานถังไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงอยู่ที่เจียงเฉิง?”
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้วทันที “เขาเป็นสามีของฉันทำไมเขาถึงอยู่เจียงเฉิงไม่ได้?”
เฉิงเพ่ยยิ้มอย่างเย็นชา พูดว่า “ใช่เขาเป็นสามีของคุณ แต่ฉันหวังว่าคุณคงจะรู้ถึงสถานการณ์ให้ชัดเจน พวกเรามาเพื่อหารือเรื่องธุรกิจกัน ไม่ใช่ให้พวกคุณมาเดทกัน”
“ฉันพาเขาไปด้วยแล้วทำไม? อย่าลืมว่าฉันต่างหากที่เป็นประธานกรุ๊ป!”
คำพูดของเฉิงเพ่ยทำให้หลินชิงเสว่โมโหพอพูดจบ เธอก็หันกลับมาและมองถังเฉาอย่างขอโทษ “ขอโทษนะ ที่รัก ฉันลืมบอกคุณ ประธานเฉิงก็มากับฉันด้วย”
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประธานเฉิงขยายตลาดอยู่ที่เจียงเฉิง รู้จักตระกูลในท้องถิ่นมากมาย การประชุมครั้งนี้เธอเป็นคนนัดผู้นำตระกูลทั้งหมดมารวมกันด้วย”
“ไม่เป็นไร”
ถังเฉายิ้มอย่างเฉยเมย แต่ต่อจากนั้นสายตาที่มองเฉิงเพ่ยเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา
เขากับเฉิงเพ่ยถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่ไม่น่าพอใจหลายอย่าง แต่จากมุมมองของเขา คนต่ำต้อยอย่างเฉิงเพ่ยไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา เป็นเธอ ที่หาเรื่องเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
ทำไมเขาถึงจะฟังไม่ออกว่า เฉิงเพ่ยอาศัยอำนาจของเจ้าของถิ่น ชักสีหน้าหยิ่งผยองกับเขา?
“พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
หลินชิงเสว่พูดจบก็ดึงถังเฉาเข้าไป แต่เฉิงเพ่ยก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และบังคับแยกถังเฉากับหลินชิงเสว่ออกจากกัน
“ประธานหลิน คุณเข้าไปได้ แต่เขาเข้าไปไม่ได้!”
เฉิงเพ่ยชี้ไปที่ถังเฉาและพูดอย่างเย็นชา
ทันทีที่พูดจบ แววตาถังเฉาก็ระเบิดความอาฆาตออกมาทันที หลินชิงเสว่ก็ระเบิดออกมาทันทีเช่นกัน “เฉิงเพ่ยคุณอย่าทำให้เกินไป เขาเป็นสามีของฉัน ทำไมเขาถึงเข้าไปไม่ได้ ?”
เฉิงเพ่ยยิ้มอย่างเย็นชา และพูดอย่างมีเหตุผลว่า “ตระกูลที่ฉันเชิญล้วนเป็นตระกูลต้นๆของเมืองเจียงเฉิง พวกเขาสนใจโครงการของสำนักงานการก่อสร้างของบริษัทเรามาก แต่มีเงื่อนไข นั่นคือ พบแค่ฉันกับประธานหลิน คนอื่นๆ ไม่พบทั้งนั้น !”
“ใครเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้ เข้าใจยากจริงๆ”
หลินชิงเสว่ยิ่งโกธรมากขึ้น จ้องไปที่เฉิงเพ่ยอย่างโมโห
เฉิงเพ่ยกับพูดอย่างช้าๆ “ฉันไม่รู้เรื่องนี้ ฉันรู้แค่ว่า ถ้าหากประธานหลินยังไม่รีบเข้าไปอีก ผู้นำของแต่ละตระกูลใหญ่ ก็จะจากไปแล้วแน่นอน”
จ้องมองความคิดที่ต่ำช้าทะเยอทะยานของเฉิงเพ่ย หลินชิงเสว่ก็รู้สึกเสียใจในทันที เดิมทีเธอให้เฉิงเพ่ยไปที่เมืองเจียงเฉิง พูดให้สวยหน่อยก็คือให้เธอไปเปิดตลาด อันที่จริงๆก็เป็นการแฝงตัว ตอนนี้ดูแล้ว สภาพแวดล้อมของเมืองเจียงเฉิง กลับกลายเป็นทำให้เธอสำเร็จ
ในขณะนี้ ถังเฉาก็ถามอย่างเย็นชา “ไม่รู้ว่าประธานเฉิงคุณได้เชิญตระกูลใหญ่ไหนมาบ้าง?”
พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉิงเพ่ยพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “มีตระกูลเฉิน ตระกูลจาง ตระกูลหลี่…”
เฉิงเพ่ย ระบุรายชื่อตระกูลมากมายที่ถังเฉาไม่เคยได้ยินมาก่อน จากนั้นจึงเหลือบมองดูเขาอย่างดูถูก “ยังไง พวกเขาล้วนเป็นตระกูลอันดับต้นๆในเมืองเจียงเฉิง ในนั้นมีตระกูลเฉิน ตระกูลหลี่ และตระกูลจาง เป็นตระกูลข้าราชบริพารของตระกูลหูในเมืองเจียงเฉิงนะ ช่างเถอะ ถึงบอกไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก “