เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 585 เป็นการขัดกับวัฒนธรรม

ถ้าหากในขณะนี้รอบข้างมีคนอื่นยืนอยู่ คงต้องตาค้างอย่างไม่น่าเชื่อ

เพราะคนที่ฉินโซ่ววงกำลังคุยด้วยอยู่นั้น ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือผู้พิทักษ์แดนตะวันตก

ผู้พิทักษ์แดนเหนือ ใต้ ออก ตก สี่แดนใหญ่ ต่างก็มีความน่าสะพรึงกลัวที่ยิ่งใหญ่

ขณะเดียวกัน ผู้พิทักษ์แดนตะวันตกยังได้เป็นเจ้าภาพในงานประชุมแดนเหนือในครั้งนี้ แพ้ชนะก็ขึ้นอยู่กับเขาเป็นผู้ตัดสิน

ใคร ๆ ก็รู้ดีว่า ตระกูลหลวงตระกูลฉินกับผู้พิทักษ์แดนตะวันตกมีสายสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะแนบแน่นขนาดต่อโทรศัพท์คุยสายตรงกับผู้พิทักษ์แดนตะวันตกได้

เสียงจากฟากตรงข้ามเงียบไปพักหนึ่ง ถึงแม้จะไม่มีเสียงคนพูด แต่ก็มีเสียงหายใจทุ้มลึกพอให้ได้ยิน

เพียงแค่เสียงหายใจ ก็ยังทำให้มีความรู้สึกของบรรยากาศที่ถูกกดดัน

แต่ฉินโซ่ววงคงไม่รู้สึกว่ามีผลกระทบ คงยังเหมือนเฒ่าทารก รอยยิ้มระรื่นเต็มใบหน้า

นานพักใหญ่ ผู้พิทักษ์แดนตะวันตกมู่ตงเฟิงจึงได้พูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า “ไอ้เฒ่าเอ้ย แกมีหลานสองคนไม่ใช่หรือ ที่ว่านี่คนไหนหละ ?”

ฉินโซ่ววงหัวเราะ “ไอ้คนเล็กนั่นเสียไปตั้งแต่ห้าปีที่แล้วแล้ว เที่ยวนี้ที่พูดก็คือคนโตนี่”

ได้ยินดังนั้น มู่ตงเฟิงลดน้ำเสียงทุ้มต่ำลง

“กวนฉีเด็กคนนี้ข้าก็ดูเห็นดีนะ ถึงขนาดมีคนทำร้ายเขาได้เลยรึ”

พูดถึงตอนสุดท้าย น้ำเสียงของมู่ตงเฟิงแฝงด้วยความตื่นใจ

จึงเป็นการเห็นได้ว่า เขารู้ดีที่ฉินกวนฉีรู้วิทยายุทธแรงภายในมานานแล้ว

ฉินโซ่ววงกลับไม่รู้สึกมีอะไรต้องประหลาดใจ “เหนือคนมีคน เหนือฟ้าก็มีฟ้า เส้นทางที่กวนฉีจะต้องเดินยังอีกยาวไกลนะ”

“ในช่วงก่อนที่ผมจะแก่ตาย ข้าคงยังต้องปูทางให้เด็กคนนี้ไปอีกแหละ”

มู่ตงเฟิงหัวเราะและผงกหัว “ได้ เข้าใจละ คนที่ทำร้ายเขาชื่ออะไร ?”

“น่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนเมื่อห้าปีที่แล้วที่ทำร้ายไอ้คนเล็กนั่น”

ฉินโซ่ววงพูดต่อเหมือนจะชี้ทางว่า “แต่ว่าแกเป็นผู้พิทักษ์แดนตะวันตก จะลงมือเองโดยตรงเลยคงไม่ดี จัดการกับบริษัทมันก่อน พูดกันอย่างสรุปว่า ข้ามันพื้นฐานพ่อค้านักธุรกิจ ไม่ชอบเรื่องตีรันฟันแทงอ่ะ”

มู่ตงเฟิงหัวเราะตอบรับปากว่า “เข้าใจละ”

ในเวลาเดียวกันนี้เอง สถานที่แห่งหนึ่งในต้าเซี่ย

เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งค่อย ๆ ลอยตัวขึ้น รอบ ๆ มีเครื่องบินรบสิบกว่าลำบินทำหน้าที่คุ้มกัน

แต่บนตัวลำของเครื่องบินแต่ละลำ ต่างมีตัวอักษรพ่นติดไว้เป็นตัว “ซี(ตะวันตก)”

นั้นแสดงให้รู้ว่า นี้เป็นเครื่องบินของแดนตะวันตก

บนเฮลิคอปเตอร์ลำนั้น มีชายวัยกลางคนอายุประมาณว่าสี่สิบกว่านั่งอยู่

เขานั่งหลับตาอยู่ในการครุ่นคิด

“ท่านผู้พิทักษ์ พวกเรากำลังจะเข้าเขตเจียงเจ้อทันทีนี้แล้วขอรับ”

คนขับพูดพูดต่อเบา ๆ “ประมาณค่ำ ๆ พรุ่งนี้ ก็คงจะไปถึงครับ”

ชายกลางคนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองลงไปข้างล่าง ยิ้มออกมาเรียบ ๆ

“ถึงเจียงเจ้อแล้ว…….”

“ที่นี่ น่าจะเป็นบ้านเก่าเขาสินะ ?”

รอยยิ้มบนใบหน้าชายกลางคนเข้มข้นขึ้น ประกายตาฉายแวบออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

“ดีละ วันนี้ก็จัดเตรียมการกันก่อนสักหน่อยแล้วกัน”

มู่ตงเฟิงโบกมือที่หนาใหญ่ เครื่องบินค่อย ๆ ร่อนลง

ลูกน้องส่งเอกสารรายงานฉบับหนึ่งให้มู่ตงเฟิง

มู่ตงเฟิงเพ่งตาลงมอง พลันแววตาชงักหยุด

“หลินชิงเสว่…..”

ที่เห็นเป็นรายงานเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของหลินชิงเสว่ และสถานะของบริษัทหลี่จิงกรุ๊ปที่อยู่ในเครือ

กวาดตาอ่านผ่านทีละสิบบรรทัดได้หน่อยหนึ่ง มู่ตงเฟิงสั่งลูกน้องไปว่า “แกส่งสัญญานออกไปให้หน่อยว่า ให้บรรดานักธุรกิจที่เป็นสปอนเซอร์ของงานประชุมแดนเหนือครั้งนี้ จัดรวมกลุ่มกันเป็นสมาพันธ์ธุรกิจ กดดันบริษัทหลี่จิงกรุ๊ปหน่อย”

“เหตุผลนั้น ก็ใช้เรื่องการประชุมแดนเหนือนี่แหละ”

“การประชุมแดนเหนือจัดขึ้นตามหมายกำหนดการครั้งนี้ ควรจะต้องให้มวลชนทั้งหมดชื่นชอบในวรยุทธ ไม่อนุญาตให้มีธุรกิจประเภทกระตุ้งกระติ้งอย่างพวกเครื่องสำอางค์เหล่านี้เข้ามาครองตลาด จัดการให้เจ้าบริษัทหลี่จิงกรุ๊ปนี่แหละเป็นไก่เชือดให้ลิงดู”

“ได้ขอรับ”

บรรดาลูกน้องแต่ละคนมองดูรูปภาพของหลินชิงเสว่อย่างสังเวชใจ

กระทบใครไม่ว่า ดันมากระทบเอาผู้พิทักษ์แดนตะวันตก

ทำนายไม่ได้ยากเลยว่า เจ้าบริษัทหลี่จิงกรุ๊ปนี่ หลังจากการประชุมแดนเหนือนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว ก็คงห่างเวลาถึงกาลอวสานไม่นาน

เรื่องราวเหล่านี้ทั้งหมด หลินชิงเสว่ไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย

การประชุมแดนเหนือกับนักธุรกิจประเภทของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกันน้อยมาก ฉะนั้นตั้งแต่เริ่มเช้า เธอก็ไปหาหลินฉ่ายเวยเพื่อประสานงานกันแล้ว

ทุกวันในปัจจุบันนี้ ถึงแม้จะเป็นยุคธุรกิจสื่อสารทางไอที ซึ่งสามารถสร้างปาฏิหารได้มากให้กับร้านค้าออนไลน์ แต่พูดถึงหน้าร้านในเครือ ก็ยังเป็นตัวหลักสำคัญที่ต้องบูรณาการ

ก่อนหน้านี้บริษัทหลี่จิงกรุ๊ปก็ไม่ได้มีการขยายด้านร้านค้าในเครือ ปัจจุบัน หลังจากได้เข้าร่วมธุรกิจกับบริษัทหยีเซียง ก็จึงได้มีกาจัดทำร้านค้าในเครือของตัวเองขึ้นมา

หลินชิงเสว่ได้ให้หลินฉ่ายเวยกระจายผลผลิตของผลิตภัณฑ์ไปตามร้านค้าในเครือต่าง ๆ

หลินฉ่ายเวยมาถึงร้านค้าเครือข่ายบริษัทหยีเซียงอย่างรวดเร็วเพื่อประสานงาน

ที่หน้าประตูมีรถบรรทุกจอดอยู่คันหนึ่ง ภายในรถมีสินค้าผลิตภัณฑ์บรรจุอยู่เต็ม

หลินชิงเสว่กำลังเตรียมจะตรวจเช็คสินค้า ทันใดก็มีเสียงล้อรถเบรคอย่างกระทันหันดังขึ้นข้างหลัง

เอี๊ยด !

ที่เห็นเป็นรถเจ็ดแปดคันจอดเรียงอยู่หน้าประตู คันที่นำเป็น Jeep Wrangler Rubicon

ปึง ปึง ปึง !

เสียงเปิดปิดประตูดังต่อเนื่องกันมา รวม ๆ แล้วมีสิบกว่าคนเดินลงจากรถ ท่าทางขึงขังเดินตรงไปหาพวกหลินฉ่ายเวย

“พวกคุณเป็นใครกัน จะทำอะไรกันเหรอ ?”

หลินฉ่ายเวยตกใจหน้าเสีย เดินถอยกรูด

ยังไม่ต้องพูดถึงคนมากันมาก พวกเขามากมายขนาดนี้ แต่ละคนยังถือไม้กันคนละท่อน หน้าตาท่าทางดุร้ายเป็นยักษ์มาร

พวกเขาไม่ตอบ ได้แต่จ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นยะเยือก แต่ก็ไม่ได้ลงมือทำอะไร

ทันทีนั้น คนผู้ชายหน้าตาเย็นชาเดินลงมาจากรถJeep Wrangler Rubicon เดินมาถึงหน้าหลินฉ่ายเวย กวาดตามองด้วยสายตาเยือก ๆ “เธอเป็นพนักงานของหลี่จิงกรุ๊ปใชไหม ?”

“ใช่คะ มีอะไรหรือ ?”

หลินฉ่ายเวยฝืนข่มความตื่นกลัวในใจ ถามขึ้น

คนผู้ชายจุดบุหรี่ พ่นควันออกใส่หน้าหลินฉ่ายเวย ทำเอาเธอสำลักไอติดต่อกันจนน้ำตาไหล

“คุณคิดจะทำอะไรกันอ่ะ ?”

หลินฉ่ายเวยโกรธ ตวาดถามไปอย่างเกรี้ยวกราด

คนผู้ชายจึงได้ค่อย ๆ ควักเอาเอกสารออกมาชุดหนึ่ง “เอาไปดูกันเอง”

หลินฉ่ายเวยรับมาเปิดดู สีหน้าซีดเผือดลง

“คำสั่งห้ามเครื่องสำอาง ? นี่มันเรื่องอะไรกัน ?”

หลินฉ่ายเวยชี้ไปตรงข้อความในเอกสาร แล้วถาม

“เธออ่านหนังสือไม่ออกหรือไง ?”

คนผู้ชายหัวเราะอย่างยียวน “นี่เป็นเอกสารที่เบื้องบนอนุมัติเป็นคำสั่งลงมา จะทำโครงการ ‘อู่เยว่’” สีแดง เป็นการรณรงค์ด้านวัฒนธรรม

“ใกล้จะถึงงานประชุมแดนเหนือแล้ว ท่านผู้พิทักษ์แดนตะวันตกคุณมู่ จะมาถึงเจียงเฉิงในวันนี้มีความประสงค์จะขอให้มวลชนทั้งปวงชื่นชอบวรยุทธ พวกคุณในธุรกิจเครื่องสำอางค์ และบริษัทในวงการบันเทิง ล้วนเป็นกลุ่มสร้างบรรยากาศที่ไม่เหมาะสมอย่างรุนแรงกับการชื่นชมวรยุทธ ฉะนั้น ในระหว่างเวลาช่วงนี้ พวกคุณจะจัดจำหน่ายขายสินค้าที่เกี่ยวข้องประเภทนี้ไม่ได้”

บรูม !

คนผู้ชายนั่นพูดจบ ในสมองหลินฉ่ายเวยเหมือนเกิดระเบิดขึ้น สีหน้าซีดขาวเป็นกระดาษ

“ที่พูดอย่างนี้ บริษัทของเราก็ถูกจัดเข้าในบัญชีดำสีแดงนั่นหรือ ?”

คนผู้ชายดีดนิ้วเป๊าะ “ฉลาดนี่ ให้ดีที่สุด พวกเธอควรต้องยอมรับ มิฉะนั้นไม่เพียงแต่จะถูกจัดเข้าบัญชีดำสีแดงแค่นั้น บริษัทก็คงจะต้องถูกสั่งปิดด้วย”

“นี่คุณ…..จะรังแกกันมากไปแล้ว!”

หลินฉ่ายเวยยังไงก็ทนกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ อารมณ์เดือดขึ้นทันที “แล้วสิ่งที่พวกเราบุกเบิกมาด้วยความลำบากยากแสนสาหัส ทุ่มทุนลงแรงทำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ขึ้นมาหละ ? เราจะไปขายให้ใครได้ ?”

คนผู้ชายนั้นหัวเราะยียวนพูดว่า “นี่มันเรื่องง่าย ก็ทุบทิ้งไปสิ!”

พูดจบ หันไปมองกลุ่มคนที่ตามมาข้างหลัง ชี้ไปที่รถบรรทุก สั่งออกไปว่า “ไอ้ของพวกนี้ จัดการทุบทิ้งให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว !”

เคล้ง คล้าง โครมคราม !

เสียงพูดแค่จบ คนทั้งหมดก็เงื้อไม้ในมือกรูกันกระโดดขึ้นบนรถ จัดการหวดฟาดลงบนลังที่วางเรียงอยู่ข้างใน

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset