เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 610 เยาะเย้ยผู้พิทักษ์

ฉินกวนฉีร้องออกมาด้วยความตกใจ ดึงดูดสายตาของผู้คนตรงนั้นทันที

พวกเขาหันมา เห็นบริเวณประตูเหนือของสนามกีฬา มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งพากันวิ่งตรงเข้ามา

คนที่เป็นผู้นำ ก็คือผู้พิทักษ์แดนตะวันตก มู่ตงเฟิง

ข้างกายของเขามีลูกน้องที่มาจากแดนตะวันตกเหมือนกันจำนวนมากมาย แต่ละคนล้วนดูน่าเกรงขาม ทรงพลัง

มู่ตงเฟิงในตอนนี้สวมเครื่องแบบทหาร ตรงไหล่ติดดาวสามดวง ดูเข้ากันกับรูปร่างที่สูงใหญ่ของเขามาก

ดูอยู่ไกลๆ ให้ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่พร้อมจะพิชิตทุกสิ่งทุกอย่าง

“มู่ตงเฟิง……”

พอเห็นมู่ตงเฟิง ถังเฉาสองตาก็หรี่ลงเล็กน้อย

ทั่วทั้งการประชุมแดนเหนือ คนที่สามารถทำให้เขาสนใจได้มีไม่เยอะ

มู่ตงเฟิงเป็นหนึ่งในนั้น

แต่ว่า มู่ตงเฟิงกลับจำถังเฉาไม่ได้

ผู้นำสี่แดน เมื่อเทียบชื่อกันแล้ว มีแค่ของแดนเหนือเท่านั้นที่พิเศษที่สุด

ตัวตนทั้งหมดของผู้พิทักษ์แห่งแดงเหนือล้วนแต่เป็นความลับ รวมถึงรูปภาพด้วย

ดังนั้นมู่ตงเฟิงจึงไม่รู้ตัวตนของถังเฉาเลย

แม้ว่าเมื่อก่อนผู้นำสี่แดนเหนือใต้ออกตกจะแก่งแย่งช่วงชิงชื่อของเจ้ามังกร ถังเฉาก็ยังสวมหน้ากากอยู่อย่างนั้น

การมาถึงของมู่ตงเฟิง ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขึ้นมา

สองนิ้วของมู่ตงเฟิง คีบเข็มเงินเอาไว้

มู่ตงเฟิงมองเข็มเงินนั้นสองสามที จากนั้นก็เกิดเสียงแกร๊งดังขึ้น โยนเข็มเงินทิ้งไป สายตาหันไปจ้องมองเถี่ยเมี่ยน

“ฉันก็คิดอยู่ว่าเป็นใคร ที่แท้ก็แกไอ้คนทรยศนี่เองเหรอ?”

มู่ตงเฟิงมองเถี่ยเมี่ยน จู่ๆก็หัวเราะออกมาเบาๆสองที“บอกได้เลยว่า แกนี่ช่างกล้าหาญเหลือเกิน ในเมื่อกล้าที่จะทรยศออกจากแดนตะวันตกแล้ว ยังกล้ามาโผล่อยู่ตรงหน้าของมู่ตงเฟิงคนนี้อีก ไม่กลัวฉันฆ่าแกเลยหรือไง?”

บูม!

มู่ตงเฟิงน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่ทุกคำทุกประโยค ล้วนแต่ทรงพลังทั้งสิ้น

แถม เขาก็ส่งพลังงานทั้งหมดไปให้กับเถี่ยเมี่ยนแล้ว

เถี่ยเมี่ยนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลทันที เหมือนกับกำลังแบกภูเขาอันหนักอึ้งอยู่

คนธรรมดาทั่วไปพอเผชิญกับมู่ตงเฟิง ก็จะถูกพลังงานที่แข็งแกร่งทรงพลังกดทับจนยอมจำนนลงกับพื้น

แต่ว่า เถี่ยเมี่ยนยังคงไม่ถอยหลังไปไหน สองตายังคงจ้องเขม็งเขา

เขาพูดขึ้นอย่างเย็นชา“ออกมาจากแดนตะวันตก ไม่ใช่ความตั้งใจของผม แต่เพราะถูกบังคับจนหมดหนทางต่างหากล่ะ ผมไม่ได้ทรยศแดนตะวันตก”

เขาเป็นนักฆ่าที่มาจากแดนตะวันตก ทุกครั้งที่ทำการลอบสังหาร ก็จะสำเร็จทุกครั้ง แต่ตอนที่ลอบสังหารเจ้ามังกร กลับล้มเหลว

ถึงขนาดที่ การกระทำของเถี่ยเมี่ยน ยังไม่ถือว่าเป็นการลอบสังหารเลยด้วยซ้ำ แต่แค่เป็นหมากที่ถูกมู่ตงเฟิงใช้มาลองเชิงทดสอบความสามารถของถังเฉาเท่านั้น

เป็นการล้มเหลวที่รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว

แต่ว่า มู่ตงเฟิงกลับไม่คิดจะปล่อยเถี่ยเมี่ยนไป

ไม่ใช่ว่าเขาเลือดเย็นไร้ความเมตตา แต่เพราะว่าเขาเป็นคนที่ยึดติดมากๆ

คำสั่งใดๆที่เขาออกคำสั่ง ล้วนแต่เป็นคำสั่งทหาร

คำสั่งทหารล้มเหลว ก็ต้องขอโทษด้วยความตาย

ใครก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

การจากไปของเถี่ยเมี่ยน ความผิดพลาดโดยบังเอิญ ทำให้ต้องไปพึ่งพาถังเฉา

“สำหรับฉันแล้ว การออกไปจากแดนตะวันตก ก็คือทหารที่หนีกองทัพ คนขี้ขลาด!ฉันบอกว่าแกเป็นคนทรยศ ก็คือคนทรยศ!”

มู่ตงเฟิงพูดขึ้นด้วยท่าทีที่ไม่ประนีประนอม“ไหนแกจะกล้ามายิงอาวุธลับใส่ฉันอีก ไม่เห็นหัวฉันแล้วหรือไง?”

ตึกๆๆ!

ต่อมา มู่ตงเฟิงก็ก้าวขาเดินตรงไปยังเถี่ยเมี่ยน

พลังงานที่ตัวเริ่มดูแข็งแกร่งทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ

พวกฉินกวนฉี ถังฮันเจี๋ย ก็มองมู่ตงเฟิงด้วยสายตาที่ตกใจกลัว

ประชุมแดนเหนือยังไม่ทันจะเริ่ม ผู้พิทักษ์แดนตะวันตกก็จะลงมือแล้ว?

ความอาฆาตที่รุนแรง กดทับจนเถี่ยเมี่ยนหายใจไม่ออก

แต่ ในตอนนี้เอง ข้างหลังของเถี่ยเมี่ยนก็มีเสียงหัวเราะนิ่งๆดังขึ้นมาเบาๆ

“มีฉันอยู่ด้วย ใครจะทำร้ายนายได้?”

ถังเฉาตบลงที่ไหล่ของเถี่ยเมี่ยนเบาๆ หัวเราะเหอะๆก่อนจะพูดขึ้น

บูม!

พอคำพูดนี้ออกมา เถี่ยเมี่ยนก็ตัวสั่นสะดุ้งด้วยความตื่นเต้น

ความหวาดกลัวและยำเกรงที่มีต่อมู่ตงเฟิง ก็หายวับไปทันที

แม้ว่าผู้พิทักษ์แดนตะวันตก มู่ตงเฟิงจะแข็งแกร่ง แต่ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน ก็สู้เจ้ามังกรไม่ได้อยู่ดี

แล้วคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ก็คือเจ้ามังกรนั่นเอง

ดังนั้นเถี่ยเมี่ยนใบหน้าจึงไร้ซึ่งความหวาดกลัว!

แต่พวกหลินชิงเสว่ ตระกูลฉิน ตระกูลถัง ลั่วเย่นหัวกลับตอบสนองกลับมาไม่เหมือนกัน

หลินชิงเสว่สีหน้าเปลี่ยนไป คว้ามือของถังเฉาเอาไว้ พูดขึ้นอย่างใจร้อน“ถังเฉา คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่?”

ลั่วเยนอวิ๋นก็สีหน้าเคร่งขรึมตึงเครียด

“อีกฝั่งเป็นมู่ตงเฟิงเชียวนะ เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของต้าเซี่ย ใครไปยุแหย่เขาเข้า จะต้องตายสถานเดียว!”

“ระดับของมู่ตงเฟิง สามารถทำให้ตระกูลที่ธรรมดาทั่วไปกลายเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่ได้แค่ชั่วความคิดเดียว แล้วก็สามารถสังหารเข่นฆ่าตระกูลหลวงจนไม่เหลือซากได้ภายในชั่วข้ามคืนด้วยเช่นกัน!ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ก็ไม่กล้าเข้าไปยุแหย่ด้วย!”

รอยยิ้มบนใบหน้าของลั่วเย่นหัวก็จางหายไป แม้ว่าไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าของเธอก็รับประกันแล้วว่าที่ลั่วเยนอวิ๋นพูดเป็นความจริง

ผู้พิทักษ์ทั้งสี่เหนือใต้ออกตก พละกำลังของทุกคนนั้นแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้แต่ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ก็ยังต้องประจบประแจงเข้าหาพวกเขา!

แต่ว่า ถังเฉากลับเล่นหัวลามปามมู่ตงเฟิง!

ภัยใกล้มาถึงตัวแล้ว!

พวกฉินกวนฉี ถังฮันเจี๋ยหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

ถังเฉายุแหย่มู่ตงเฟิงแล้ว นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

มู่ตงเฟิงสามารถฆ่าถังเฉาให้ตายได้เพียงแค่นิ้วเดียว!

แต่ ถังเฉากลับยิ้มให้พวกเขานิ่งๆ“พวกคุณวางใจเถอะ มู่ตงเฟิงไม่ทำอะไรผมหรอก”

“……”

หลินชิงเสว่ถลึงสองตาโตด้วยความเหลือเชื่อ รู้สึกว่าถังเฉาจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

ตระกูลหลวงเมื่ออยู่ต่อหน้าของมู่ตงเฟิงแล้ว แทบจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้เลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมเขาจะไม่กล้าทำอะไรถังเฉา?

มู่ตงเฟิงก็หัวเราะตาม หันสายตามองถังเฉา“แกเป็นใคร ทำไมฉันถึงรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาแก เหมือนกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน?”

ถังหลินที่อยู่ข้างๆถังฮันเจี๋ยออกมาอยู่ข้างหน้า เดินออกมาพูดกับมู่ตงเฟิง“คุณมู่ เขาชื่อถังเฉา เป็นลูกเขยของตระกูลหลินแห่งตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ห้าปีก่อนทำให้เจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลินต้องแปดเปื้อนมลทิน ก็คือหลินชิงเสว่ที่อยู่ตรงหน้าของคุณคนนั้นนั่นเองครับ ตอนนี้เป็นสามีของเธอ!”

“ถ้าไม่มีหลินชิงเสว่ ไอ้หนุ่มนั้นก็ไม่รู้ว่าตายไปกี่ร้อยรอบแล้ว ตระกูลหลิน เป็นที่พึ่งพิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา!”

ถังหลินเล่าประวัติของถังเฉาออกมาจนหมด

ตอนที่พูด ในตาของเขาก็แฝงไปด้วยความเย็นชา

“หุบปาก!”

หลินชิงเสว่กระวนกระวาย ในตาเต็มไปด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด

คำพูดนี้ของถังหลิน มันเหมือนกับสาดน้ำมันเข้าไปในกองเพลิง ถ้ามู่ตงเฟิงจะลงมือกับถังเฉา ก็สามารถทำได้อย่าง่ายดาย

“คุณมู่ สามีของฉันเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่เคารพอะไรต่อคุณเลยนะคะ ฉันขอโทษแทนเขาด้วย!”

หลินชิงเสว่กะที่จะโค้งคำนับขอโทษด้วยสีหน้าซีดขาว

แต่ยังไม่ทันได้โค้งเอว ก็ถูกถังเฉารั้งเอาไว้

ต่อหน้าของทุกคน ถังเฉาก็กางสองขาออก ท่านั่งแบบคนใหญ่คนโต หัวเราะเหอะๆพร้อมกับพูดขึ้น

“ชิงเสว่ ขอโทษทำไม ที่ผมพูด เป็นความจริง มีผมอยู่ด้วย เขาไม่กล้าลงมือกับคนของผมหรอก”

“นี่คุณ……”

หลินชิงเสว่โกรธจนใบหน้าสวยซีดขาวทันที เพราะว่าเธอเห็น ว่าสายตาของมู่ตงเฟิงเปลี่ยนเป็นมืดมนเรียบร้อยแล้ว

“ไอ้หนุ่ม ไม่แปลกที่ฉันรู้สึกคุ้นตาแก คนที่ตายไปก่อนหน้านี้ ก่อนตายก็บ้าระห่ำแบบแกนี่แหละ แต่ตอนนี้ สุสานของพวกมันหญ้ารกขึ้นสูงเป็นเมตรแล้ว!”

มู่ตงเฟิงหรี่ตามองสำรวจถังเฉา น้ำเสียงเย็นชา

ถังเฉาหลุดขำออกมา

ลูกน้องที่เคยพ่ายให้กับเขา กล้ามาพูดคำพูดแบบนี้กับเขาตั้งแต่เมื่อไรกัน?

ถังเฉาส่ายหัว“ทุกเรื่องมักจะมีข้อยกเว้นเสมอ ฉันก็คือข้อยกเว้นนั้น”

“งั้นเหรอ?”

มู่ตงเฟิงยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้น กลับเยือกเย็นมากๆ“ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าคำพูดและการกระทำของแกกำลังลากให้ตระกูลของภรรยาแกมาข้องเกี่ยวด้วย?”

หลินชิงเสว่สีหน้าดูไม่ได้ถึงขีดสุด ลั่วเย่นหัว ก็มองมู่ตงเฟิงด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนกัน

ถังเฉาดูเวลาที่ข้อมือ“ประชุมแดนเหนือจะเริ่มในอีกห้านาที คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีแบบพวกคุณ แน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปที่หน้างาน? แต่ดันมาเสียเวลากับคนตัวน้อยๆที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าแบบผมเนี่ยนะ?”

มู่ตงเฟิงหรี่ตาลง พูดขึ้นอย่างเย็นชาน่าขนลุก“อย่าว่าแต่เหลือห้านาทีเลย ต่อให้เหลือห้าวินาที ถ้าฉันจะเล่นงานแก ก็เกินพอแล้ว!”

คำพูดนี้ มู่ตงเฟิงพูดออกมาได้อย่างบ้าคลั่งสุดๆ

ถึงยังไงเขาก็เป็นผู้พิทักษ์แดนตะวันตก!

นี่เป็นความภาคภูมิใจของเขา!

“ถังเฉา คุณรีบขอโทษคุณมู่เร็วเข้า หยุดหาเรื่องได้แล้ว!เดี๋ยวจะเป็นเรื่องขึ้นมาจริงๆ!”

หลินชิงเสว่ใช้น้ำเสียงที่แทบจะขอร้องอ้อนวอนพูดกับถังเฉา

หลินเจิ้นสง หลินฉ่ายเวยก็มองถังเฉาด้วยสีหน้าซีดขาวเช่นกัน

ถังเฉากลับยิ้มนิ่งๆ“ชิงเสว่ พวกคุณวางใจเถอะ ผมไม่ทำให้พวกคุณตกอยู่ในอันตรายหรอก”

พูดจบ เขาก็ยิ้มให้กับมู่ตงเฟิง“ถ้าอย่างนั้นก็มาลองกันสักหน่อยสิ คุณกล้าลงมือกับผมไหม?”

“กะอิแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลหลิน กล้ามาทำตัวหยิ่งผยองขนาดนี้เชียวเหรอ?”

มู่ตงเฟิงพูดขึ้นด้วยความโมโห

แต่ตอนที่เขากะจะลงมือด้วยตัวเองอยู่นั้น

เถี่ยเมี่ยน หงโฝก็เคลื่อนไหวเรียบร้อยแล้ว มาปกป้องอยู่ข้างกายของถังเฉา

“ถ้าคิดจะมาลงมือกับเจ้านาย ผ่านด่านฉันไปก่อน!”

หงโฝกัดฟันพูดขึ้นปากสั่น บ่งบอกถึงความหวาดกลัวของเธอ

แต่ว่า เธอยังคงมายืนอยู่ด้านหน้าของถังเฉาอย่างกล้าหาญ

เธอใช้แค่สัตว์มีพิษ ก็สามารถจัดการกับยอดฝีมือทั่วๆไปได้อย่างง่ายดาย แต่พอเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งแบบมู่ตงเฟิง กลับกลายเป็นวิธีการที่ธรรมดาทั่วไปทันที

ทางฝั่งของเถี่ยเมี่ยนก็เหมือนกัน

มู่ตงเฟิงหรี่ตาลง มองสำรวจเถี่ยเมี่ยนกับหงโฝสองคน“ดูท่า พวกแกคงไม่กลัวตายกันสินะ!”

“เถี่ยเมี่ยน ตอนแรกฉันจะให้แกเป็นรายต่อไป แต่ไหนๆแกก็ออกมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ จัดการแกก่อนก็แล้วกัน”

มู่ตงเฟิงจ้องเขม็งเถี่ยเมี่ยน พร้อมกับพูดขึ้น

“แกลองขยับดูสิ”

น้ำเสียงที่เยือกเย็นดังขึ้นมา ในมือของเจียงไป๋เสว่มีมีดกริชที่แหลมคมอยู่หนึ่งด้าม มองเขาอย่างเย็นชา

“กองทัพปราณมังกร เจียงไป๋เสว่!”

พอเห็นเจียงไป๋เสว่ มู่ตงเฟิงในตาก็ตกใจไม่น้อย

เมื่อก่อนเจียงไป๋เสว่ก็อยู่ที่แดนเหนือเหมือนกัน แถมยังเป็นแกนหลักสำคัญของกองทัพปราณมังกรอีกด้วย แน่นอนว่ามู่ตงเฟิงก็เคยได้ยินชื่อของเจียงไป๋เสว่มาก่อนบ้างแล้ว

คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาปรากฏตัวที่นี่!

มู่ตงเฟิงหยุดมือลง มองเจียงไป๋เสว่อย่างรอบคอบ สุดท้ายสายตาก็หันมองไปยังถังเฉา ยิ้มขี้เล่น

“ฉันก็ว่าอยู่ว่าทำไมแกถึงกล้ามาเยาะเย้ยฉัน ที่แท้ก็พึ่งพิงเจียงไป๋เสว่แห่งกองทัพปราณมังกรนี่เอง!”

“แต่ว่า แกคงจะไม่คิดจริงๆหรอกใช่ไหมว่าลำพังแค่พึ่งพิงเจียงไป๋เสว่ จะสามารถมาต่อกรกับฉันได้?”

มู่ตงเฟิงพูดอย่างเย้ยหยัน“มากสุดเธอก็เป็นได้แค่ยอดฝีมือระดับสูงคนหนึ่งของกองทัพปราณมังกรเท่านั้น จะมาเทียบกับผู้พิทักษ์แบบฉันได้ยังไง?”

เจียงไป๋เสว่แววตาเยือกเย็น ไม่พูดแม้แต่คำเดียว แค่ใช้มีดกริชชี้ไปที่เขาเท่านั้น

ถังเฉายังคงส่ายหัวอย่างยิ้มๆ“ถ้าแกคิดแบบนี้จริงๆก็ผิดมหันต์แล้ว ต่อให้ไม่มีเธอ แกก็ไม่กล้าลงมืออยู่ดี”

“หือ?”

มู่ตงเฟิงขมวดคิ้ว

ถังเฉานิ่งสงบเกินไปแล้ว นิ่งสงบถึงขนาดที่ว่าทำให้เขารู้สึกไม่แน่ใจขึ้นมา

หรือว่า เขาจะมีไพ่ตายที่สามารถต่อกรกับเขาได้จริงๆอย่างนั้นเหรอ?

“คนบ้าบู๊มาถึงแล้ว!”

ในตอนนี้เอง ภายในสนามกีฬา จู่ๆก็มีเสียงที่ชัดแจ๋วดังขึ้นมา

คนบ้าบู๊เดินเข้ามาอย่างทรงพลังน่าเกรงขาม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset