“…”
เงียบสงัด
เงียบราวกับตาย
นาทีนี้สายตาของทุกคนในสนามกีฬาล้วนแต่ทอดมองบนแขนข้างที่หักของหงเทียนหยาด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
ท่าทางน่าอนาถเกินไป!
เส้นเลือดระเบิดทุกเส้น เลือดระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิต เนื้อหนังที่แขนทั้งสองข้างล้วนแต่ม้วนออกไปด้านนอกเหมือนกับแผ่นกระดาษที่ถูกไฟลน
นี่ต้องแบกรับความเจ็บปวดรวดร้าวสักเพียงใดกัน?
ในตอนนี้ทุกคนล้วนแต่มีความหวาดกลัวอยู่ภายในใจ มองชายหนุ่มในนามของ ‘เจ้ามังกร’ ที่สวมหน้ากากสีดำด้วยสายตาที่ใกล้เคียงกับหวาดผวา
เขาหนุ่มกว่าหงเทียนหยา แต่ศักยภาพของเขากลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าหงเทียนหยาเสียอีก
พวกของหลินชิงเสว่ เย่หรูอี้และเย่เซ่าเตี๋ย ไม่มีใครจะไม่เบิกตากว้างอ้าปากค้างเลย
“อ๊ากกก…”
ภายในสนามกีฬาที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาของหงเทียนหยา สะเทือนประสาททั้งห้าของคนที่อยู่ในที่นั้นอย่างต่อเนื่อง
นี่เป็นถึงประธานของสมาคมการต่อสู้แห่งเหมืองเจียงเฉิงเชียวนะ!
ศักยภาพแข็งแกร่ง แต่เผชิญหน้ากับถังเฉาแล้ว หมัดแรกถูกหลบได้ หมัดที่สองไม่เพียงแต่ถูกถังเฉารับเอาไว้ทั้งหมด กลับยังเสียแขนข้างนั้นของเขาไป!
“คนที่ควรจะส่งไปอยู่ด้วยกันกับหงเทียนเฉินควรจะเป็นคุณนะ”
เสียงของถังเฉาเย็นยะเยือก จังหวะฝีเท้าราวกับเสียงแห่งความตาย เคาะเป็นเสียงอยู่ในใจของหงเทียนหยา
“ตามกฎของบูโด ก่อนความตายจะมาเยือน ล้วนแต่มีเวลาให้พูดสั่งเสีย”
ถังเฉาเอ่ยกับหงเทียนหยาอย่างเยือกเย็น
“แกกล้าฆ่าฉัน ทั้งสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!”
หงเทียนหยามองถังเฉาด้วยสายตาหวาดกลัว ถึงแม้ว่าในดวงตาจะมีความเดือดดาล แต่ที่มากไปกว่านั้นก็คือความหวาดกลัว
ถังเฉายิ้มน้อย ๆ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “ผมกล้าฆ่าคุณที่เป็นประธานของสมาคมการต่อสู้คนนี้ คุณคิดว่าผมจะยังกลัวพวกลูกน้องของคุณพวกนั้นหรือ?”
ประโยคนั้นพูดได้อย่างจองหองอย่างบ้าคลั่ง ทางฝั่งสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงนั้นล้วนแต่มีความเดือดดาลเต็มใบหน้า
“ปล่อยประธานนะ!”
“แกกล้าฆ่าประธาน พวกเราจะไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
พวกเขาตะโกนด้วยความเดือดดาลกันทุกคน
ทว่าถังเฉาไม่เอามาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่จ้องพวกเขาอย่างเย็นยะเยือก
“อย่าฆ่าฉัน… อย่าฆ่าฉันนะ…”
หงเทียนหยากุมแขนเอาไว้ หมอบอยู่บนพื้น ขอร้องอ้อนวอนไม่หยุด
คำพูดที่เขาพูด บรรดาผู้ชมล้วนแต่ฟังกันได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง คนส่วนใหญ่ล้วนตกตะลึง
ประธานของสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิง นึกไม่ถึงว่าจะขอให้ยกโทษให้?
ถังเฉาใบหน้าเย็นยะเยือก ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาที่มองไปยังหงเทียนหยาก็ยิ่งเต็มไปด้วยการดูถูก
กลัวว่าหลังจากวันนี้ไป หงเทียนหยาจะพ่ายแพ้หมดชื่ออย่างยับเยินเสียแล้ว
ผู้คนจะจดจำตลอดไปว่าเขาประจบประแจงผู้อื่นอย่างไม่ละอาย หมอบขอร้องให้ยกโทษให้อยู่บนพื้นเหมือนกับสุนัข
ขวับ!
ในตอนนี้เองหงเทียนหยากลับกลิ้งไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็ล้วงวัตถุสีดำเงาออกมาจากอก
“กรี๊ด!”
รอจนมองเห็นได้ชัดเจนว่าในมือของเขาถืออะไรอยู่ ผู้ชมที่อยู่รอบด้านก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวออกมา
สิ่งที่หงเทียนหยาถืออยู่ในมือ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นปืนพกโคลท์หนึ่งกระบอก
เขาเล็งไปที่ศีรษะของถังเฉา บนใบหน้ามีรอยยิ้มมืดครึ้มและโหดเหี้ยม
“แก ถึงแม้ว่าแกจะแข็งแกร่งมาก แต่ต่อให้แกแข็งแกร่งกว่านี้ จะสามารถแข็งแกร่งกว่ากระสุนได้หรือ?”
คนบ้าบู๊ตวาดขึ้นมาในชั่วพริบตา “หงเทียนหยา คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่? เป็นถึงประธานของสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิง นึกไม่ถึงว่าจะลักลอบครอบครองอาวุธปืน?”
สีหน้าของคนบ้าบู๊มืดครึ้มถึงขีดสุด การกระทำของหงเทียนหยาทำให้ชื่อเสียงของสมาคมการต่อสู้แปดเปื้อนจริง ๆ!
มู่ตงเฟิงเองก็ไม่ลุกขึ้นยืนไม่ได้ เอ่ยด้วยถ้อยคำเย็นชา “รีบวางปืนลงซะ”
บนใบหน้าของหงเทียนหยามีสีหน้าบ้าคลั่ง “ไอ้นี่มันฆ่าน้องชายแท้ ๆ ของฉัน ฉันจะต้องล้างแค้นให้เทียนเฉินด้วยตัวเองให้ได้!”
กริ๊ก!
พูดจบลูกปืนก็ถูกบรรจุ ปากกระบอกปืนดำเงาเล็งไปที่ศีรษะของถังเฉา
ทันใดนั้นกลิ่นอายแห่งความตายที่เข้มข้นกลุ่มหนึ่งตลบอบอวลไปทั่วทั้งบนเวทีประลอง
ใครก็คิดไม่ถึงว่า ประธานของสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงจะพ่ายแพ้จนหมดรูปมิอาจกู้ได้เช่นนี้
ใครก็คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่พ่ายแพ้แล้ว หงเทียนหยาจะล้วงปืนพกโคลท์สีดำกระบอกหนึ่งออกมาจะยิงถังเฉาให้ตาย
การกระทำที่บีบบังคับเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้เกินเลยได้ง่ายมาก ทั่วทั้งงานประชุมแดนเหนือก็ตลบอบอวลไปด้วยความตื่นกลัวในชั่วพริบตา
ถ้าหากเป็นนักโทษถือปืนนั้นไม่น่ากลัวเลย ที่น่ากลัวก็คือคนที่ถือปืนอยู่เป็นยอดฝีมือบูโดคนหนึ่ง
นั่นเท่ากับว่ามีการคุกคามหนักถึงสองประการ
“ห้ามใครขยับ!”
หงเทียนหยาตะคอกลั่น
ถึงแม้ว่าแขนเขาจะขาดไปข้างหนึ่ง ความเจ็บปวดรุนแรงสุดจะทน แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นนักบู๊ที่ยิ่งใหญ่
ฉวยโอกาสช่วงที่ว่างระหว่างเหตุการณ์นี้ล้วงเอากระบอกฉีดยาออกมาอันหนึ่ง
ในกระบอกฉีดยามีของเหลวสีเขียวมรกตอยู่
หงเทียนหยาฉีดมันให้กับตนเอง ความเจ็บปวดที่สูญเสียแขนก็หายไปในชั่วพริบตา
นี่คือสารปิดผนึก สามารถปิดกั้นประสาทสัมผัสได้ชั่วคราว รู้สึกไม่ได้ถึงความเจ็บปวด
ฉีดของเหลวเสร็จเรียบร้อย เขาจึงชี้ไปที่ศีรษะของถังเฉาต่อ เอ่ยเสียงดังว่า “ทุกคนห้ามขยับ เป้าหมายของฉันมีแค่ไอ้หมอนี่เท่านั้น คนอื่นผมจะไม่ลงมือ แต่ถ้าหากใครคิดจะออกไปหรือแจ้งตำรวจละก็ คนคนนั้นจะต้องตาย!”
ปัง!
พูดจบเหมือนกับจะพิสูจน์คำพูดของตนเองอย่างไรอย่างนั้น เขายิงไปที่ด้านหนึ่งด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ
“อ๊ากกก…”
ทางด้านนั้นเป็นด้านที่หลินชิงเสว่ยืนอยู่พอดี ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาก็ดังขึ้นจากรอบด้าน
ผู้ชมผู้ชายคนหนึ่งที่คิดจะหนีไปถูกยิงเข้าที่แขน เลือดสดพุ่งออกมาเป็นสาย
หลินชิงเสว่รู้สึกตื่นตระหนกในทันที แต่ก็สงบได้อย่างรวดเร็ว
ความวุ่นวายยังคงดำเนินต่อไป แต่กลับไม่มีใครจากไป
ตอนนี้หงเทียนหยาจึงได้ถือปืนจ่อไปที่ถังเฉาต่อ แสยะยิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้แกลงไปคุกเข่าให้ฉันซะ!”
หงเทียนหยาถือปืนเข้าประชิดตัวถังเฉาทีละก้าว ๆ
เดิมคิดว่าถังเฉาจะรู้สึกกลัว
คิดไม่ถึงว่าเขาไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัว ตรงกันข้ามกลับจ้องหงเทียนหยาเหมือนกับคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ “ผมให้โอกาสคุณทิ้งปืนลงหนึ่งครั้ง”
หงเทียนหยาตกใจกลัวเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ไอ้หนุ่ม ดูเหมือนแกจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ ตอนนี้คนที่ควบคุมชีวิตของแกคือฉัน นึกไม่ถึงว่าแกยังจะกล้าคุกคามฉันอีก?”
“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงของฉัน แกจะยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้นตอนนี้แกก็ไปตายได้เลย!”
หงเทียนหยาเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม
แก้แค้นเพื่อเทียนเฉิน นี่ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของหงเทียนหยา
คนตายไปแล้วฟื้นคืนกลับมาไม่ได้ แต่ไหนแต่ไรมาหงเทียนหยาก็ไม่ใช่คนที่จะถูกความรักความผูกพันครอบงำ
สิ่งที่เขาต้องการก็คือเติมยอดฝีมือลำดับสองในตำแหน่งของหงเทียนเฉินที่ว่างอยู่
และตัวตนของถังเฉาก็แก้ไขปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งยังสามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปอีก ทำให้สมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงเข้มแข็งเกรียงไกรยิ่งขึ้น
ได้ยินอย่างนั้นถังเฉาก็ส่ายศีรษะยิ้ม ๆ “ดูเหมือนว่าคุณจะยังไม่รู้สึกถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้นะ”
“ความจริงในตอนนี้ก็คือชีวิตของแกอยู่ในการควบคุมของฉัน ขอเพียงฉันเหนี่ยวไกปืน หัวของแกก็จะระเบิดเป็นพลุเชียวล่ะ!”
“แกฆ่าน้องชายของฉันแล้ว ฉันกลับให้แกเข้าร่วมสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิง ถือว่ามีเมตตาต่อแกพอแล้ว หรือว่าแกจะยอมตายดีกว่าที่จะยินยอมสวามิภักดิ์ต่อฉันกันล่ะ?”
สายตาของหงเทียนหยาเยือกเย็นลง
พวกของหลินจ้าวหยูนและหลินฉ่ายเวยล้วนตกใจกันไม่เบา
ถึงอย่างไรพวกเธอก็ดูหวาดกลัวปืนกันตามธรรมชาติ
ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ หงเทียนหยากลับมองไม่เห็นความน่าสะพรึงกลัวจากบนร่างของถังเฉาโดยสิ้นเชิง
“คุณคงไม่คิดว่า อาศัยเศษเหล็กกระบอกหนึ่งแล้วก็จะสามารถเอาชีวิตของผมไปได้หรอกนะ?”
ถังเฉามองหงเทียนหยาด้วยสายตาหยอกเย้า ในถ้อยคำกลับมีความเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัวกระจายอยู่
พอคำนี้ลั่นออกมา ทุกคนก็ล้วนแต่มีใบหน้าไร้จิตวิญญาณ
ทุกคนล้วนแต่หวาดกลัวปืนพกโคลท์ นึกไม่ถึงว่าเขาจะเรียกมันว่า ‘เศษเหล็ก’?
หงเทียนหยาก็ทึ่มทื่อ สายตาไร้จิตวิญญาณไปในทันที
ถึงอย่างไรตอนนี้ก็เป็นยุคความนิยมบู๊เฟื่องฟู ต่อให้มีนักบู๊อยู่ แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็กลัวปืนพก
เพราะว่าต่อให้ความเร็วของพวกเขามีมากกว่านี้ก็ไม่ได้รวดเร็วไปกว่าความเร็วของลูกกระสุน
พลังแข็งแกร่งกว่านี้ก็ไม่ได้มีความสามารถโจมตีทีเดียวถึงแก่ชีวิตเช่นลูกกระสุน
รับลูกกระสุนด้วยมือเปล่า หลบการโจมตีจากลูกกระสุน มีเพียงผู้แข็งแกร่งจำนวนน้อยที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของบูโดเท่านั้นที่จะทำได้
พวกเขาไม่คิดว่าถังเฉาจะสามารถทำได้
“แกกำลังรนหาที่ตาย…”
หงเทียนหยาดูเหมือนจะถูกดูถูก โกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปทั่วทั้งใบหน้า “แกเชื่อไหมว่าฉันจะยิงจริง ๆ แล้ว?”
“ยิงเถอะ”
ถังเฉาแสยะปากยิ้ม “หัวผมแข็งเหมือนเหล็ก”
หงเทียนหยาใบหน้าไร้ชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนเอ่ยเงื่อนไขเช่นนี้
เผชิญหน้ากับปืนพก ไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัว กลับล้อเล่นอย่างหยอกล้อ บอกว่าตนเองหัวแข็งเหมือนกับเหล็ก
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาถูกถังเฉาทำลายแขนไปหนึ่งข้าง ก็จะต้องคิดว่าเขาออกมาจากโรงพยาบาลบ้าแน่
“ได้ แกพูดเองนะ!”
สายตาของหงเทียนเฉินหนาวยะเยือก เขาตัดสินใจจะยิงปืนข่มขู่เขาก่อน
ไม่ยิงไปที่จุดสำคัญของเขา ยิงส่ง ๆ ให้เขาเสียเลือดสักหน่อยก็พอ
นาทีต่อมา เขาเล็งไปที่ขาซ้ายของถังเฉา เหนี่ยวไกปืน
ปัง!
กระสุนยิงออกไปอย่างรวดเร็ว หมุนวนพุ่งไปทางถังเฉา
สายตาของหงเทียนหยาดุร้ายยิ่งขึ้น
ขวับ!
ทว่าถังเฉาขยับเพียงแค่สองก้าว กระสุนก็ยิงไปในอากาศ
“อะไรเนี่ย?”
ทันใดนั้นหงเทียนหยาก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เขายิงพลาด?
หรือว่าถังเฉาหลบพ้น?
แซ่ด ๆ!
ผู้ชมที่อยู่รอบ ๆ ก็สั่นสะเทือนจนถึงขีดสุด
นึกไม่ถึง… ว่าเขาจะหลบกระสุนพ้น?!
ถังเฉายิ้ม “ผมบอกแล้วว่าในสายตาของผมนี่มันเป็นแค่ของเล่น แค่กองเศษเหล็กกองหนึ่ง สร้างความคุกคามได้น้อยกว่าตอนที่คุณไม่ถือปืนเสียอีกน่ะ”
สีหน้าของหงเทียนหยามืดครึ้มถึงขีดสุด ในใจกลับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ถังเฉาเอ่ยต่อไปว่า “ของอย่างปืนเนี่ย คุณอาจจะไม่รู้จักมันมากไปกว่าผม มีเพียงอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นถึงจะส่งผลกระทบออกมาได้อย่างเต็มที่”
“เดิมทีคุณไม่ได้ใช้ปืน ตอนนี้ควักปืนออกมา ช่วยได้แค่ลดกำลังการต่อสู้ของคุณเท่านั้น”
คำพูดครั้งนี้ทำให้หงเทียนหยาไม่อยากจะเชื่อเป็นอย่างยิ่ง
แต่ขอเพียงเขารู้ฐานะของถังเฉา เขาก็จะไม่ประหลาดใจขนาดนี้แล้ว
อย่าว่าแต่กระสุนเลย ต่อให้เป็นปืนใหญ่ ปืนบาซูก้าของฝ่ายศัตรู เขาล้วนแต่เคยเผชิญหน้ามาแล้ว
แค่ปืนพกกิ๊กก๊อก เป็นของเด็กเล่นจริง ๆ
บนหน้าผากของหงเทียนหยามีเหงื่อเย็นหลั่งออกมาเม็ดโตเท่าเมล็ดถั่ว ยิงเข้าไปที่ถังเฉาอีกหลายนัดอย่างไม่ตายใจ
ปัง ๆ!
ครั้งนี้ถังเฉาไม่ได้หลบ เพียงแต่ยืนนิ่ง ๆ อยู่ที่เดิมไม่ขยับเลยสักนิด
ว่ากันตามเหตุผล ระยะใกล้แค่นี้หงเทียนหยาไม่มีทางยิงไม่โดน
แต่ทว่าถังเฉากลับไม่ได้เป็นอะไรเลย
“นี่… นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…”
“ทำไมแกถึงไม่เป็นอะไรเลย?”
หงเทียนหยาทึ่มอย่างถึงที่สุด มือที่จับปืนอยู่กำลังสั่นสะท้าน
ถังเฉายิ้มยั่ว จากนั้นก็แบมือออก
กริ๊ก ๆ!
กระสุนหัวโลหะหลายลูกถูกถังเฉาโยนลงพื้นตามใจชอบ
นึกไม่ถึงว่าจะเป็นกระสุนหลาย ๆ ลูกที่หงเทียนหยายิงออกไป
หัวกระสุนดำเป็นปื้น ส่วนหัวยุบลงไปลึก ๆ ดูเหมือนกับถูกกระแทกอย่างรุนแรง
บึ้ม!
ทันใดนั้นหงเทียนหยาราวกับถูกปะทะอย่างหนัก ความหวาดกลัวอย่างล้ำลึกเกาะกินในหัวใจของเขา
นึกไม่ถึงว่าถังเฉาจะรับกระสุนของเขาเอาไว้ด้วยมือเปล่า!
“บอกแล้วนี่ว่าของเล่นนี้มันเป็นแค่เศษเหล็กกองหนึ่งน่ะ”
ถังเฉายิ้ม จากนั้นก็เดินก้าวยาว ๆ ไปที่หงเทียนหยา
ครั้งนี้เป็นการลงมือฆ่าจริง ๆ!