หลังจากที่เฉื่อยชาไปสักพัก สติของสองพี่น้องฝาแฝดก็กลับมา จากนั้นก็ได้ร้องไห้และวิ่งกลับไปหาจางขุย
“คุณชายจางคะ ผู้หญิงคนนี้กล้ามาดุพวกเรา นี่มันไม่เห็นคุณอยู่ในสายตาด้วยเลยสักนิด!”
“เป็นเพื่อนนักเรียนเก่าแล้วยังไง ตอนนี้ก็มีแต่คุณที่มีชีวิตดีที่สุดไม่ใช่เหรอ?”
สองสาวพี่น้องพูดสลับกันไปมา บ่นให้จางขุยฟัง
ขณะที่กำลังด่าว่าอยู่ ต่างก็มองไปที่หลินชิงเสว่ด้วยความโกรธเคือง ทำตัวเบ่งอำนาจ
สีหน้าของจางขุยเองก็ดูไม่ดีเท่าไหร่ แต่คนรักของตนนั้นอยากได้บ้านหลังนี้ซะนี่ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกัดฟันทนมายืนอยู่ตรงหน้าหลินชิงเสว่ด้วยรอยยิ้มที่สุภาพพร้อมกับกล่าวว่า “ชิงเสว่ พอดีว่าเพื่อนของฉันนั้นชอบบ้านหลังนี้ เธอจะให้พวกเราได้ไหม?”
“แน่นอน พวกเราไม่มีทางทำให้เธอต้องเสียเปรียบหรอก หากพวกเธอซื้อบ้านหลังอื่นไป ฉันก็จะอิงตามบ้านหลังนี้และจ่ายเงินเพิ่มให้กับเธอเอง ไม่น้อยแม้แต่หยวนเดียวเลยล่ะ”
บ้านหลังนี้ของคอนโดชุนเจียงเฉิงที่หลินชิงเสว่ดูไว้มีราคาแพงที่สุด ส่วนราคาของบ้านหลังอื่นก็ต่างกันกว่าสองแสนหยวนเลยทีเดียว
เมื่อพี่น้องฝาแฝดได้ยินว่าจางขุยจะยอมจ่ายเงินเพิ่มให้ ใบหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไป
เงินเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยก็หลายแสน เอามาซื้อของให้พวกหล่อนไม่ดีกว่าหรือไงกัน?อยู่ดีๆก็รู้สึกไม่มีความสุขขึ้นมา
“คุณชายจางคะ นี่คุณจะให้เงินเธอไปอย่างเปล่าประโยชน์ทำไมกัน?คุณดูสามีของเธอด้วยว่ายาจกแค่ไหน จะมีปัญญาไปซื้อบ้านหลังพวกนี้ได้ยังไงกัน?ฉันเดาว่าพวกเขาจะต้องคิดหาเงินจากส่วนต่างนี้แน่ๆ”
“ถูกต้อง จะให้พวกเขาทำไมกัน?”
“คุณชายจางคะ ตอนนี้ฉันชอบกระเป๋าใบหนึ่งหนึ่งกับรองเท้าส้นสูงมากเลย อยากได้มานานมากแล้วด้วย”
“ฉันด้วยค่ะ ฉันด้วย ฉันเองก็ชอบรถอยู่คันหนึ่ง ราคาส่วนต่างนั้นก็เพียงพอที่จะซื้อได้เลย”
ขณะที่สองสาวฝาแฝดพูดอยู่ก็เดินขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
สีหน้าของจางขุยนั้นมืดมน เขาตะโกนออกมาเสียงดัง “หุบปากไปซะ!”
เนื่องจากเขาพบว่าสีหน้าของหลินชิงเสว่ก็มืดมนลง
คิดว่าหลินชิงเสว่นั้นโกรธในสิ่งที่สองสาวฝาแฝดพูด จางขุยจึงยิ้มออกมาและพูดว่า “ชิงเสว่ เงินนี้ฉันจะเพิ่มให้เธออย่างแน่นอน หลังจากที่ฉันแย่งบ้านที่เธอสนใจมา ฉัน—”
“ฉันคิดว่านายน่าจะเข้าใจความหมายของฉันผิดไป”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จางขุยจะพูดจบ หลินชิงเสว่ก็ได้ตัดบทพูดขึ้นมาอย่างเฉยเมย
“บ้านหลังนี้พวกเราไม่ให้หรอกนะ ของที่ฉันสนใจ ไม่ว่าใครก็มาแย่งมันไปไม่ได้”
น้ำเสียงของหลินชิงเสว่นั้นเย็นชา แฝงไปด้วยความเย่อหยิ่ง ใบหน้าของจางขุยเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ หลินชิงเสว่ก็ได้กล่าวกับจางขุยอีกว่า “จางขุย เพื่อเห็นแก่ตอนเรียนสมัยก่อน อย่าเป็นคนโง่ที่โดนหลอกใช้เลย”
“ถึงแม้ว่านายจะมีเงิน แต่สิ่งที่อยู่เคียงข้างนายนั้นล้วนแต่เป็นดอกท้อเน่าที่เห็นแก่เงิน หากเป็นฉันล่ะก็ คงจะเตะผู้หญิงสองคนนี้ไปให้ไกลตัวแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มุมปากของถังเฉาก็เผยอขึ้นเล็กน้อย
การโต้กลับของหลินชิงเสว่นั้นไม่สามารถพูดได้ว่าไม่เฉียบคม มันคือดาบที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจคน!
ใครก็มองออกว่าจางขุยนั้นซื้อบ้านให้กับสองสาวฝาแฝดนี่
นอกจากคู่รักที่สร้างความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาแล้ว จะมีชายคนไหนที่ซื้อบ้านให้แก่ฝ่ายหญิงอีก?
น้อยมาก
แค่นี้ก็สามารถพูดถึงความเจ็บปวดของจางขุยได้แล้ว
เป็นอย่างที่คิด แก้มของจางขุยนั้นกระตุกอย่างแรง เขาหันกลับไปมองที่พี่น้องฝาแฝดคู่นั้น
สองสาวฝาแฝดกรีดร้องอย่างกับแมวที่โดนเหยียบหาง จากนั้นจ้องไปที่หลินชิงเสว่ด้วยความโกรธแค้น
“เธอพูดว่าอะไรนะ?กล้าพูดว่าพวกเราเป็นดอกท้อที่เน่าเสียเหรอ?กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กัน?”
“ใช่ เธอคงอิจฉาที่เรานั้นงดงามราวกับดอกไม้ อ่อนวัยกว่า สวยกว่า ผู้หญิงที่มีอายุอย่างเธอจะไปรู้ว่าพวกเรามีคุณค่ามากแค่ไหนได้ยังไงกัน?”
สองสาวฝาแฝดมองไปที่หลินชิงเสว่อย่างรังเกียจ
พร๊วด!
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่สองสาวฝาแฝดสิ้นเสียงลง ก็เกิดเสียงหัวเราะที่ดูขัดขึ้นมา
สองสาวฝาแฝดโกรธกว่าเดิมพร้อมกับหันไปมองถังเฉาด้วยความโกรธ “นายขำอะไร?”
ถังเฉากลั้นขำและพูดว่า “ขอโทษที พอดีทนไม่ไหวน่ะ เชิญพวกหล่อนมโนกันต่อได้เลย”
“อ๊ะอ๊ะอ๊ะ!”
“คุณชายจาง พวกเขาทำเกินไปแล้วนะ”
สองสาวฝาแฝดโกรธทันที ร่างกายสั่นเทาไปหมด
ใบหน้าของจางขุยนั้นมืดมนราวกับก้นหม้อ
คำพูดของหลินชิงเสว่นั้นมันทำให้เขาขายขี้หน้า แต่หลักๆแล้วก็มาจากสองสาวฝาแฝดนั่นแหละที่ไม่ดีเอง
หากเขาเอาผู้หญิงที่มีระดับอย่างหลินชิงเสว่มาล่ะก็ มันคงจะทำให้เขานั้นมีหน้ามีตาเป็นอย่างมาก
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม สองพี่น้องนี้ก็คือผู้หญิงของเขาอยู่ดี เขาไม่สามารถไม่สนใจได้
จางขุยหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าของเขามืดมนลงพร้อมกับพูดกับหลินชิงเสว่ว่า “ชิงเสว่ ฉันคิดว่าฉันให้หน้าเธอมากพอแล้วนะ เงินส่วนต่างนั้นก็มอบให้ฟรีๆถึงสี่ห้าล้านแล้ว เธอมีอะไรที่ไม่พอใจอีก?”
“พวกเราขาดแคลนเงินนั้นของนายเหรอ?”
ถังเฉาเดินเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้ม
“หืม?”
จางขุยขมวดคิ้วพร้อมกับกวาดตามองถังเฉาจากบนลงล่าง
ตนกับหลินชิงเสว่กำลังคุยกันอยู่ สามีของเธอเข้ามาร่วมอะไรด้วย?
“เงียบไปซะ นี่ไม่มีส่วนที่นายจะต้องมาพูด!หากไม่มีชิงเสว่ นายเองก็คงไม่มีปัญญาแม้แต่จะเดินผ่านเข้ามาในประตูสำนักงานนี้ได้หรอก!”
จางขุยมองไปที่ถังเฉาด้วยสายตาที่เย็นชาและกล่าว
หลินชิงเสว่เลิกคิ้วขึ้น ขณะที่เธอกำลังจะโกรธอยู่นั้น ถังเฉากลับทำให้เธอสงบลง
หลังจากนั้น เขามองไปที่จางขุยด้วยท่าทางสงบ และพูดว่า “ก่อนหน้านี้เราได้ชี้แจงอย่างชัดเจนไปแล้วว่าให้ซื้อด้วยเงินเต็มจำนวน คุณฟังภาษาคนไม่ออกเหรอ?”
หากเป็นหลินชิงเสว่ที่มาคุยกับเขา จางขุยคงจะไม่โกรธขนาดนี้
แต่อีกฝ่ายนั้นเป็นสามีเศษเดนที่ไร้ค่าไม่ได้มีฐานะเท่าเทียมแม้แต่น้อย จางขุยเลยไม่เกรงใจแต่อย่างใด
“แล้วถ้าหากว่าฉันชอบบ้านหลังนี้ด้วยล่ะ?”
จางขุยเหล่ตามองถังเฉาและพูดเบา ๆ
เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าเมื่อซื้อบ้านหลังนี้มันจะต้องเป็นชื่อของตน
ดังนั้น ถังเฉาจึงหันกลับไปมองหลินชิงเสว่
พูดตามตรง เขาไม่ได้สนใจบ้านหลังนี้เลยแม้แต่น้อย รอดูการตัดสินใจของหลินชิงเสว่ก็แล้วกัน
อย่างไรก็ตามการกระทำนี้ตกอยู่ในสายตาของจางขุยและนั่นทำให้ใบหน้าของเขาดูเหยียดหยามมากยิ่งขึ้น
เขาเข้าใจแล้วว่าการที่ถังเฉานั้นแต่งงานกับหลินชิงเสว่นั้นจะทำให้เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพูดอะไรเลย แม้กระทั่งการซื้อบ้านก็ต้องยอมรับความเห็นของหลินชิงเสว่
แม้แต่ผู้หญิงที่สำนักงานขายเองก็ยังรู้สึกลำบาก ไม่รู้ว่าต้องขายให้ใครกัน
จางขุยเข้ามาพูดกับหลินชิงเสว่ “ชิงเสว่ เธอไม่สามารถสู้อะไรฉันได้หรอก ฉันรู้จักผู้จัดการสำนักงานขายแห่งนี้ เธอไม่สามารถมาสู้กับอดีตหุ้นส่วนธุรกิจอย่างฉันได้หรอก”
ใบหน้าของหลินชิงเสว่เย็นชาไม่พูดอะไร ได้แต่มองไปที่เขาเบาๆ
จางขุยจึงยิ้มและพูดกับพนักงานขายว่า “เดี๋ยวไปเรียกผู้จัดการหลี่มาที บอกว่าจางขุยมาซื้อบ้านและมีคนจะมาแย่งซื้อบ้านกับฉัน”
พนักงานขายนำประโยคนี้ไปพูด ไม่นานนักก็มีชายอ้วนพุงพลุ้ยเดินเข้ามา
ทันทีที่เขาเห็นจางขุย ใบหน้าของเขาก็เบ่งบานยิ้มแย้มราวกับดอกไม้ทันที
“น้องจางขุย ลมอะไรหอบนายมาที่กันล่ะเนี่ย?”
ผู้จัดการหลี่ชงชาหลงจิ่งมาให้แก่จางขุยเป็นการส่วนตัว
จางขุยเองก็ไม่ถือสาพร้อมกับยิ้มรับมา ถือมันไว้และชิมอย่างช้าๆ “ก็มาดูบ้านเนี่ยแหละ มาเพิ่มผลงานให้ด้วย”
ผู้จัดการหลี่หัวเราะ “ยินดี ยินดีต้อนรับครับ”
เมื่อเห็นจางขุยและผู้จัดการหลี่คุยกันอย่างสนุกสนาน สองสาวฝาแฝดก็เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจแถมยังวางมาดมีอำนาจใส่หลินชิงเสว่อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลินชิงเสว่นั้นก็ยังคงดูเย็นชาเช่นเดิม ถังเฉาเองก็เฝ้ามองการพัฒนาเปลี่ยนไปของเรื่องนี้
หลังจากทักทายกันครู่หนึ่ง ใบหน้าของผู้จัดการหลี่ก็มืดมนลง “น้องจาง ไหนใครต้องการมาแย่งบ้านกัน?นายมาที่นี่ บ้านก็ต้องเป็นของนายอย่างแน่นอน ไม่ต้องคิดแล้ว!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของจางขุยนั้นยิ้มกว้างกว่าเดิมพร้อมกับชี้ไปที่หลินชิงเสว่
ครั้นเมื่อผู้จัดการหลี่หันมามองที่หลินชิงเสว่นั้น รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาก็หายไปในทันตา ความตกใจเข้ามาแทนที่
เขาปาดเหงื่ออันเย็นยะเยือกที่ไหลลงมาจากหัวของเขา จากนั้นก็ได้ชงชาหลงจิ่งอีกแก้วพร้อมกับวิ่งไปหาหลินชิงเสว่และแสดงความเคารพ
ขณะเดียวกัน ใบหน้าของเขาก็แสดงอาการตกใจ “คุณ..คุณหลิน คุณมาแล้วเหรอครับ?!”