คำพูดที่ดูเกียจคร้าน ดังก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยงและดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
ทุกคนหันความสนใจไปที่ถังเฉาที่สวมหน้ากากไว้
ไม่รู้ว่าทำไม รูปลักษณ์ที่สงบของถังเฉา ทำให้เย่จงซือรู้สึกไม่มั่นใจอย่างมาก และแม้แต่เหงื่อที่เย็นก็ไหลออกมาที่หน้าผากของเขา
หลังจากที่เขารู้ตัวตนของถังเฉา เขาก็รู้ว่าบุคคลนี้จะเป็นปัจจัยของความไม่มั่นคงในงานแต่งงาน ดังนั้นเขาจึงทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อเชิญผู้นำสิบอันดับแรกของสมาคมการต่อสู้ รวมถึงลูกศิษย์ที่เก่งกาจของพวกเขา
จุดประสงค์เพื่อป้องกันปัญหาก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
เดิมทีคิดว่ามันจะสามารถควบคุมได้ แต่คิดไม่ถึงว่า ความแข็งแกร่งที่ถังเฉาแสดงออกมา ทำให้เขาประหลาดใจมาก—-แค่ลูกน้องหญิงของเขาก็แข็งแกร่งมาก แล้วเขาล่ะ?
ทันทีที่ความคิดนี้เข้ามาในหัว เขาก็โล่งใจอีกครั้งเมื่อเห็นผู้นำสิบอันดับแรกอยู่ที่นี่
มีผู้นำสิบคนควบคุมดูแลอยู่ที่นี่ เขากลัวอะไรอีก?
สายตาของหัวหน้ารองและเฟิ่งหวงตกอยู่ที่ตัวถังเฉา
คนหนึ่งมีใบหน้ามืดมน แต่อีกคนมีใบหน้าที่ประหลาดใจ
“รองหัวหน้า ฉันทำได้…”
เฟิ่งหวงอยากจะบอกว่าเธอสามารถต่อสู้กับหัวหน้ารองได้ เธอมีความแข็งแกร่งนี้ แต่เห็นถังเฉาโบกมือเพื่อหยุดเธอ
เห็นเขายิ้มจางๆ “ผมรู้ว่าคุณมีความสามารถที่จะสู้ แต่วันนี้ที่ผมมา ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับพวกเขา ยังมีธุระสำคัญที่ต้องทำ อย่าเสียเวลา”
คำพูดนี้ทำให้หัวใจของทุกคนจมลง โดยเฉพาะตระกูลเย่แห่งตระกูลหลวง ซึ่งสีหน้าของพวกเขาน่าเกลียดมาก
ธุระ ธุระอะไร?
ย่อมเป็นธุระสำคัญที่จะพาเจ้าสาวไป
ตระกูลเย่เสียหน้า!
“โอเค”
รองหัวหน้าพูดอย่างนั้นแล้ว เฟิ่งหวงก็เก็บอารมณ์ความอยากในการต่อสู้ของเธอและถอยกลับไปด้านข้างอย่างเชื่อฟัง
ถังเฉาค่อยๆหันศีรษะของเขาและมองไปที่ทิศทางของหัวหน้ารองและหัวหน้าทั้งเก้าที่อยู่ข้างหลังเขา พูดช้าๆว่า “คำพูดของผมพวกคุณก็ได้ยินมันแล้ว พูดถึงเรื่องนี้ ผมก็มีความสัมพันธ์กับสมาคมการต่อสู้บ้าง ผมไม่ได้อยากต่อสู้กับพวกคุณ ผมหวังว่าพวกคุณจะไปจากที่นี่ด้วยตัวเอง”
“แน่นอน ถ้าพวกคุณไม่ไป และยืนกรานที่จะต่อสู้ ผมก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ—-แต่ทางที่ดีสู้พร้อมกันทั้งสิบคนเลย ผมรีบ”
“…”
เมื่อได้ยินคำพูดที่เรียบสงบของถังเฉา หัวหน้าทั้งสิบ นอกจากกู่ชิงแล้ว ทุกคนมีสีหน้าซีดเผือด และการแสดงออกของพวกเขาสีหน้าน่าเกลียดมาก
คำพูดนั้นช่างหยิ่งผยองยิ่งนัก!
ให้พวกเขาลงมือพร้อมกันทั้งสิบคน?
เห็นพวกเขาเป็นอะไร?
ทหารเบ็ดเตล็ดเหรอ?
สถานะของพวกเขาคือหัวหน้า! มันเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้ทีละคน?
มีเพียงกู่ชิงเท่านั้นที่สั่นไปทั้งตัว และความคิดของเขาก็กลับไปสู่คืนนั้นในตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวง
คืนนั้น เขาก็ให้พวกเขาสู้พร้อมกัน
นี่คือความมั่นใจในตนเอง ความมั่นใจในตนเองอย่างแท้จริง
ในความมึนงง กู่ชิงมีความรู้สึกว่า ถึงแม้ทั้งสิบคนจะร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
“หึ ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คุณคิดว่าตนเองเป็นใคร มีคุณสมบัติอะไรที่จะให้พวกเราทั้งสิบคนลงมือพร้อมกัน?”
หัวหน้าใหญ่พ่นเสียงออกมาอย่างหนักและตะโกนเสียงดัง
ถังเฉาถอนหายใจเบาๆ”ผมขอถามพวกคุณหน่อย ใครเป็นหัวหน้าสมาคมการต่อสู้ของพวกคุณ?”
“แน่นอนว่ามันเป็นบ้าบู๊ ท่านอู่ตงหยาง!”
เมื่อพูดถึงชื่อนี้ เห็นในสายตาของทุกเต็มไปด้วยความเคารพและศรัทธา
“มันไม่ดีเหรอ?”
ถังเฉากล่าว “ผมกับอู่ตงหยางเกี่ยวข้องกันบ้าง พวกคุณสิบคนสู้พร้อมกัน ไม่เสียหน้าเลย”
“บังอาจ!”
สายตาของหัวหน้าใหญ่เบิกกว้างด้วยความโกรธ และรัศมีการสังหารอันทรงพลังก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา จ้องมองไปที่ถังเฉาอย่างดุเดือด “ชื่อของบ้าบู๊ เป็นชื่อที่คุณสามารถเรียกได้ตามใจปากงั้นเหรอ?”
“ในเมื่อคุณหยิ่งผยองยิ่งนัก งั้นผมก็จะลงมือเองและทดสอบความสามารถของคุณดู!”
บูม!
พร้อมกับประโยคนี้ หัวหน้าใหญ่ก้าวไปข้างหน้าและปล่อยฝ่ามือออกไปด้วยความโกรธ
เมื่อเห็นฉากนี้ หัวหน้าอีกเก้าคนก็ยกมุมปากเยาะเย้ย
ความแข็งแกร่งของหัวหน้าใหญ่อยู่ในอันดับต้นๆของหัวหน้าทั้งหมด แม้แต่ทั้งสมาคมก็สามารถเข้าสู่ 20 อันดับต้นๆ
คนที่แข็งแกร่งกว่าหัวหน้าใหญ่ มีเพียงผู้พิทักษ์ ปรมาจารย์ และผู้นำเท่านั้น
แน่นอนว่า เมื่อหัวหน้าใหญ่เคลื่อนไหว หมัดธรรมดาก็มีพลังที่ไร้ขีดจำกัด
ห้องจัดเลี้ยงทั้งหมดดูเหมือนจะถูกบดขยี้และโยกเล็กน้อย หลายคนมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก และมีปัญหาในการหายใจ
ผู้คนจำนวนมากหนีออกไปก่อนเวลา
การต่อสู้ของผู้แข็งแกร่ง มักจะทำร้ายผู้ไม่เกี่ยวข้องอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับหมัดนี้ การแสดงออกของถังเฉาก็สงบ ราวกับว่าหมัดที่ทรงพลังนี้ ขี้หมูขี้หมามากในสายตาของเขา
“รนหาที่ตาย!”
เมื่อเห็นว่าถังเฉายังคงนิ่งสงบ สีหน้าของหัวหน้าใหญ่จึงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด และเขาก็เพิ่มกำลังเข้าไปและทุบลงไปอย่างดุเดือด
ซ่า!
อย่างไรก็ตาม เขาทุบไม่โดน
ถังเฉาเอียงหัว ก็หลบการจู่โจมของหัวหน้าใหญ่
หัวหน้าใหญ่ก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถโจมตีถังเฉาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว มิฉะนั้น เขาก็ไม่สมควรที่จะเป็นม้ามืดที่ใหญ่ที่สุดในการประชุมแดนเหนือแล้ว
หลังจากหมัดนี้ล้มเหลว เขาก็เริ่มการโจมตีแบบพายุฟ้าฝนที่รวดเร็วต่อไป
ทุกคนเห็นแต่ร่างของถังเฉาที่เคลื่อนไหวไปมาตลอดเวลาราวกับคนเมา ดูเหมือนไม่ตั้งใจ แต่ทุกครั้งเขาก็สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงของหัวหน้าใหญ่
กู่ชิงและหัวหน้าคนอื่นๆรวมถึงเฟิ่งหวงพวกเขาด้วย มองตรงไปยังถังเฉาและหัวหน้าใหญ่ที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด
ยิ่งดู ในใจก็ยิ่งหวาดกลัว การโจมตีของหัวหน้าใหญ่โหดเหี้ยม เพียงแค่ถูกชกหนึ่งครั้ง ก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่ปัญหาก็อยู่ที่นี่
ไม่ว่าหัวหน้าใหญ่จะโจมตีอย่างไร เขาก็ไม่สามารถโจมตีถังเฉาได้เลย
ดูเหมือนว่าถังเฉาจะสามารถเข้าใจการกระทำต่อไปของหัวหน้าใหญ่ และเขาสามารถหลีกเลี่ยงมันได้อย่างถูกต้องและแม่นยำทุกครั้ง
ผลที่ตามมาคือ หัวหน้าใหญ่ได้ใช้แรงภายในของเขาทุกครั้ง ซึ่งแรงภายในนั้นใช้พลังงานทางกายภาพเป็นจำนวนมาก เมื่อเวลาผ่านไป ความเร็วของหมัดของหัวหน้าใหญ่ก็ช้าลงเรื่อยๆ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีถังเฉา
ซ่า!
หลังจากหลีกเลี่ยงการโจมตีครั้งสุดท้ายจากหัวหน้าใหญ่ ถังเฉาก็ขยับออกไปเล็กน้อยแล้วพูดอย่างใจเย็น “เป็นไง ตอนนี้เชื่อว่าผมกับหน้าของพวกคุณรู้จักกันหรือยัง?”
หัวหน้าใหญ่กัดฟันอย่างดุดัน และพูดด้วยสีหน้าที่มืดมน “ก็แค่หลบการโจมตีของผมได้สองสามนัด ก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่จุดเดียวกันกับหัวหน้าของเรางั้นเหรอ?”
หลังจากพูดจบ หัวหน้าใหญ่ยังคงโจมตีต่อไป ถังเฉาถอนหายใจเล็กน้อย และทำได้เพียงหลบต่อไปเท่านั้น
เขาไม่ได้อยากลงมือ จุดประสงค์ของถังเฉาคือทำให้พวกเขารู้ช่องว่างระหว่างเขากับพวกเขา
แต่ดูเหมือนหัวหน้าใหญ่จะไม่รู้ตัว และใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อโจมตีถังเฉา
หรือนักบู๊จะมีทัศนคติที่ดื้อรั้น รู้ทั้งรู้ว่ามีเสือร้ายอยู่บนเขา แต่ยังดื้อจะเดินขึ้นไปบนเขา
ผมตีไม่โดนคุณ ผมก็จะตีคุณ
ทุกครั้งที่หัวหน้าใหญ่เข้าใจและทะลุทะลวง เขาอาศัยความดื้อรั้นนี้
บางทีเพราะความเชื่อมั่นที่แน่วแน่แบบนี้มีผล หัวหน้าใหญ่ตะโกน หมัดของเขาก็เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน หมัดกระทบหน้ากากบนใบหน้าของถังเฉาอย่างรุนแรง
ซ่า…
ได้ยินเสียงเล็กน้อย ถังเฉาก็ก้าวถอยหลังเบาๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังขมวดคิ้ว
หน้ากากบนใบหน้าของเขาถูกทุบตีจนเป็นรอย
จากนั้น ร่องรอยเหล่านี้ยังคงแพร่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง และสุดท้ายก็ครอบครองพื้นผิวทั้งหมดของหน้ากาก
หน้ากากหักครึ่งและหลุดลงไปกับพื้น
“……”
ทันใดนั้น ผู้ชมก็เงียบกริบ
ทุกคนจ้องไปที่ใบหน้าที่แท้จริงของถังเฉาอย่างตกตะลึง ผงะไปชั่วขณะ
“ถังเฉา?คุณเองเหรอ?!”
เย่เซ่าเตี๋ยอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“ถังเฉา?คุณยังไม่ตายหรือ?”
เย่จงซือและถังหลินมองไปที่ถังเฉาด้วยท่าทางที่น่าทึ่ง ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นผี
ฝูงชนที่งานเลี้ยงงานแต่งงานอยู่ในความโกลาหล และทุกคนต่างมองไปยังถังเฉาด้วยความประหลาดใจ
สีหน้าของหัวหน้าใหญ่ก็เผยความประหลาดใจและจ้องไปที่ถังเฉา
“คือคุณ……”
ข่าวที่ว่าถังเฉาตายแล้ว แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองเยี่ยนจิงราวกับมีปีก และแม้แต่สมาคมการต่อสู้ก็ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ถังเฉากลับยังไม่ได้ตาย และปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานแต่งงานโดยสวมหน้ากากไว้ ซึ่งทำให้ทุกคนไม่ทันตั้งตัว
“เป็นไปไม่ได้ ทำไมถึงยังไม่ตายล่ะ?”
คนที่ตกใจที่สุดคือเย่จงซือและถังหลิน
พวกเขาได้เห็นถังเฉาถูกแช่แข็งจนตายในห้องแช่เย็นด้วยตาของพวกเขาเอง ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์ พวกเขายังไม่ตายเหรอ?
ดวงตาของเย่เซ่าเตี๋ยเบิกกว้าง และเธอมองที่เย่หรูอี้โดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าดวงตาของเย่หรูอี้ไม่ผันผวน เธอจึงอุทานว่า “คุณรู้มานานแล้วใช่ไหม?”
เย่หรูอี้พยักหน้าเบาๆ โดยไม่ได้พูด
สถานที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย
ถังเฉายืนนิ่งอยู่ตรงจุดนั้น มองดูหน้ากากที่ผ่าครึ่งบนพื้น และเขาก็ไม่สามารถดึงสติกลับมาได้เป็นเวลานาน
เขาก้มลงหยิบชิ้นส่วนของหน้ากากขึ้นมา และจ้องไปที่มันเป็นเวลานานก่อนที่จะยอมรับความจริงที่ว่าหน้ากากถูกทุบโดยหน้าหน้าใหญ่
เขาถอนหายใจเบาๆ “ทุบที่ไหนก็ได้ แต่ทำไมคุณต้องทุบหน้ากากของผมด้วย”
น้ำเสียงที่เรียบสงบ ทำให้หัวหน้าใหญ่ตัวสั่น
ทุกคนฟังออกว่าถังเฉาไม่ค่อยพอใจ
แน่นอนว่าเฟิ่งหวงก็ดูออก หน้ากากแตกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อน
เดิมที ถังเฉาต้องการเข้าร่วมงานแต่งงานของเย่หรูอี้ในฐานะเจ้ามังกรแห่งการประชุมแดนเหนือ แต่คิดไม่ถึงว่า ถูกหัวหน้าใหญ่ทุบหน้ากากจนแตก
นอกจากนี้ เป็นเพราะถังเฉาประเมินศัตรูต่ำเกินไปหน่อย จึงปล่อยให้หัวหน้าใหญ่มีโอกาสนี้
อย่างไรก็ตาม เรื่องมันได้เกิดขึ้นแล้วและหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากเปิดเผยตัวตนของเขา ถังเฉาไม่ได้ปกปิดมันอีกต่อไปแล้วพยักหน้า “ในเมื่อทุกคนรู้แล้ว งั้นผมก็จะพูดตรงๆ รู้ว่าผมไม่ตาย พวกคุณผิดหวังมากใช่ไหม?”
ซ่าๆๆ!
เมื่อคำพูดจบลง ทุกคนก็หันหัวเข้าหากัน เพ่งความสนใจไปที่เย่จงซือและถังหลิน
ทันใดนั้น สีหน้าของสองคนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และพวกเขาก็ถอยกลับไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว
เมื่อถูกสายตาของถังเฉาจ้องมอง พวกเขารู้สึกเหมือนถูกจ้องมองโดยสัตว์ร้ายที่ไม่มีใครเทียบได้ หัวใจเต้นแรงอย่างประหม่า
ตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาเห็นถังเฉา พวกเขาก็มีความรู้สึกว่า มีภัยพิบัติใกล้เข้ามาแล้ว
เห็นถังเฉาค่อยๆเดินไปที่เวที จ้องมองไปที่ทั้งสองคน และไม่สนใจคนอื่นๆเลย
ภายใต้การกดขี่แบบนี้ ขาของเย่จงซือและถังหลินอ่อนลงและเดินถอยหลัง
พวกเขาวางแผนให้ถังเฉาเข้าคุก เกือบทำให้เขาหนาวตายในห้องแช่แข็ง บัญชีนี้ ตามลักษณะนิสัยของถังเฉา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่คิดบัญชีนี้
เมื่อเห็นถังเฉาหันกลับมา และเดินไปหาเย่จงซือพวกเขา ใบหน้าของหัวหน้าใหญ่มืดลงและเขาก็กำลังจะตะโกน
ถังเฉาหันกลับมาทันทีและเหลือบมองเขาจางๆ “ผมบอกแล้ว ผมไม่ต้องการที่จะลงมือกับพวกณคุ เป้าหมายคืนนี้ของผม มีเพียงสองคน ใครที่กล้ามายุ่ง มีโทษเหมือนพวกเขา!”
คำพูดแผ่วเบาดังก้องไปทั่วงานเลี้ยงงานแต่งงาน และทันใดนั้น หัวหน้าใหญ่ที่เดิมทีต้องการจะลงมือก็ดูเหมือนจะถูกมนต์สะกด และเขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว
ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไร ก็จะยิ่งรู้สึกถึงเจตนาฆ่าของถังเฉามากขึ้นเท่านั้น!