ถังเฉาและหลินรั่วหวียืนอยู่ใต้ตึกโรงพยาบาล
เวลาเที่ยง แสงแดดกำลังอุ่น
แต่เมื่อสาดส่องไปที่พวกเขาแล้วกลับไม่เพิ่มความอบอุ่นขึ้นมาเลยสักนิด
ถังเฉาเงียบอยู่นาน ไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าการแต่งงานของหลินรั่วหวีและลั่วเย่นหัวจะมีจุดจบเช่นนี้
หรือก็คือ ความจริงที่เขาได้รับรู้มาก่อนหน้านี้เป็นความจริง แต่ก็ไม่เป็นความจริง
เพราะตั้งแต่ที่ทั้งคู่แต่งงานกันก็ดูจะเหินห่างไร้เยื่อใยต่อกันแล้ว ไม่ว่าหลินรั่วหวีจะแต่งงานกับเว่ยหมิงจวินหรือไม่ และไม่ว่าลั่วเย่นหัวจะให้กำเนิดได้หรือไม่ ท้ายที่สุดสองคนนี้ก็จะเดินไปสู่จุดจบที่น่าเศร้าที่สุดของการแต่งงาน—-หย่าร้าง
ความจริงอันโหดร้าย เกินความคาดหมาย ทว่าสมเหตุสมผล
มีแต่แบบนี้จึงจะอธิบายความประหลาดที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่งงานของหลินรั่วหวีและลั่วเย่นหัว
ตั้งแต่แรก ทั้งคู่ก็เป็นศัตรูคู่แค้น
หลินรั่วหวีมองถังเฉาด้วยสายตาเรียบสงบพลางเอ่ย “ตอนนี้แกเข้าใจหรือยังว่าทำไมฉันถึงไม่ชอบหน้าแกขนาดนั้น?”
ถังเฉาเงียบ
นี่คือความแค้นระหว่างตระกูลของตระกูลกู่และราชวงศ์แปด เขาไม่ต้องการดึงใครเข้ามาเกี่ยวข้องอีก
หากโยนฐานะลูกเขยทิ้งไป หลินรั่วหวีไม่เกลียดถังเฉา ไม่เกลียดเลยสักนิด
มิหนำซ้ำ เขาไม่เคยพยายามปกปิดความชื่นชมในสายตาที่มีต่อถังเฉาเลยสักนิด จินตนาการได้ไม่ยาก หากไม่ใช่เพราะถังเฉาบังเอิญได้มาเป็นลูกเขยของเขาหลินรั่วหวีพอดี พวกเขาคงเป็นคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียม และเป็นเพื่อนรู้ใจที่ข้ามวัย
“แต่ ระหว่างพ่อตาและแม่ยายทำไมต้องใช้วิธีแบบนี้แก้ปัญหาด้วยครับ?”
เงียบไปนานก่อนที่ถังเฉาจะยิ้มเฝื่อนๆและพูดขึ้น “บนโลกนี้มีวิธีแก้แค้นตั้งมากมาย ทำไมถึงต้องเลือกวิธีที่บาดเจ็บกันทั้งสองฝ่ายด้วย”
“บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย?”
หลินรั่วหวีคลี่ยิ้ม “ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”
“ผมไม่เชื่อว่าที่ท่านแต่งงานเพราะความแค้นในใจ!”
สายตาของถังเฉาคมกริบขึ้น เขาจ้องหลินรั่วหวีพลางเอ่ย “และแม่ยายก็ไม่ใช่คนโง่ ท่านจำเธอได้ เธอเองก็คงไม่ลืมท่าน ทำไมเธอถึงยอมหลงกลท่านโง่ๆแบบนั้นล่ะ?”
คำถามนี้เหมือนถามจนหลินรั่วหวีพูดไม่ออก เขาตกอยู่ในความเงียบไปนานมาก
ฉับพลัน เขายกมุมปากขึ้นและยิ้มกว้าง “นั่นสิ ทำไมกันนะ?”
“แกพูดถูก ฉันไม่ได้แต่งเพราะความแค้นในใจ การคิดไปเองฝ่ายเดียวถึงแต่งงานกับเย่นหัว”
หลินรั่วหวีพูดออกมาอย่างนึกอุทาน “เมื่อก่อนฉันโกรธแค้นพ่อของฉัน ว่าทำไมถึงตายเพราะผู้หญิงคนเดียว ฉันแต่งงานกับเย่นหัวด้วยความแค้นเต็มอก จนในภายหลังฉันถึงรู้ตัวว่าชีวิตแต่งงานของฉันและเธอเกิดอุบัติเหตุ”
“อุบัติเหตุ? อุบัติเหตุอะไรครับ?”
ถังเฉาถามอย่างประหลาดใจ
“ฉันหลงรักผู้หญิงคนนี้”
หลินรั่วหวีมองแสงอาทิตย์อันแยงตาและท้องฟ้ากับหมู่เมฆ ยิ้มออกมาบางๆ
ตุ้บ!
เมื่อประโยคนี้ถูกเอื้อนเอ่ย หัวใจถังเฉาเต้นแรงขึ้นหนึ่งที เหม่อลอยไปเป็นเวลานาน หมัดที่กำไว้อย่างแน่นหนาก็พลันคลายออก
“ฉันรักเธอ”
หลินรั่วหวีมองดวงอาทิตย์และคลี่ยิ้มกว้าง “ฉันไม่รู้ว่าเธอตกหลุมรักฉันบ้างมั้ย บางทีอาจมีบ้าง มีอยู่หลายครั้งที่ฉันอยากลงมือฆ่าเธอตอนเธอหลับ แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ทำ—-ฉันทำใจไม่ได้”
“ความรู้สึกของมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลง แกและชิงเสว่ก็ค่อยๆเปลี่ยนจากศัตรูมาอย่างทุกวันนี้ไม่ใช่หรอ?”
หลินรั่วหวียิ้มและมองถังเฉา พูดด้วยท่าทีสงบอย่างมาก
ถังเฉาไม่ปริปากพูดอะไร เพียงแต่ตาแดงเล็กน้อย
เขายอมรับว่าเขาได้ยินมาถึงนี่แล้วรู้สึกซึ้งอย่างอธิบายไม่ถูก
ไม่เพียงแต่เพราะตัวเองและหลินชิงเสว่ แต่เพราะพ่อตาและแม่ยายมากกว่า
“ฉันแค่ต้องการแก้แค้น และฉันวางแผนไว้หมดแล้วด้วย อย่างเดียวที่ลืมประเมินไปก็คือ—-สภาวะจิตใจของฉัน”
หลินรั่วหวียิ้มเยาะตัวเอง และพูดด้วยท่าทีปลงๆ “แกน่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉันในตอนนั้น ผู้หญิงสูงส่งที่เด็ดขาดมาดมั่นวันหนึ่งมีความรักขึ้นมาจะเป็นแบบไหน? แกได้เห็น ฉันในตอนนั้นก็ได้เห็น”
“ฉันตกหลุมรักอย่างไม่มีอะไรฉุดขึ้นมาได้ ฉันถึงขั้นคิดขึ้นมาว่าช่างความแค้นตระกูลสิวะ เธอเป็นลูกสาวของศัตรูแล้วยังไง ฉันรักเธอและสามารถให้อภัยทุกอย่างของเธอ”
“แต่คุณก็ยังทำร้ายเธอ”
ถังเฉากล่าว
“ใช่แล้ว ฉันก็ยังทำร้ายเธอ เธอออกจากเมืองซื่อจิ่ว ยอมถอยจากเวทีแห่งประวัติศาสตร์ จากนั้นก็ศิโรราบต่อพระธรรม เก็บตัวใช้ชีวิตในที่เงียบ—-แกคิดว่าฉันชนะแล้วหรอ?”
รอยยิ้มของหลินรั่วหวีกลายเป็นขมขื่นและถามถังเฉา
ถังเฉาเงียบไปนาน ก่อนจะส่ายหัว
“คุณแพ้”
“ใช่ ฉันคิดไปเองว่าฉันชนะ แต่ในความเป็นจริงก็ยังพ่ายแพ้”
หลินรั่วหวีอดหัวเราะไม่ได้ ตอนที่เขาหัวเราะกลับมีน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงมาช้าๆ
“ตั้งแต่นาทีแรกที่เธอแต่งงานกับฉันเธอก็ชนะแล้ว—-เธอดูออกแต่แรกว่าฉันคือคนรุ่นหลังของตระกูลกู่ พ่อของฉันรวมถึงทั้งตระกูลต้องดับสิ้นเพราะแม่ของเธอ แต่เธอก็ยังแต่งงานกับฉันโดยไม่นึกเสียใจ”
“เพื่อชดใช้หรอครับ?” ถังเฉาถาม
“เพื่อชดใช้”
หลินรั่วหวีพูดอย่างมั่นใจ “ปลูกต้นไม้แบบไหนก็จะได้ผลแบบนั้น เธอใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อช่วยฉันแก้แค้นเธอ—-จวบจนตอนนี้ฉันถึงเข้าใจว่ามันเป็นชะตากรรม”
“ชะตากรรม?”
ถังเฉาหน้าตาอึ้งไป
หลินรั่วหวีเหลือบมองเขาและกล่าว “นับแต่ที่พ่อของฉันแต่งงานกับแม่ของเธอ ชะตากรรมนี้ก็ได้ก่อตัวขึ้นแล้ว มิฉะนั้นแกคิดว่าแม่ของเธอสามารถฆ่าพ่อของฉันได้หรอ?”
“……”
ถังเฉาเงียบ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความสลด
นั่นสินะ ถ้าไม่ใช่เพราะฝ่ายหนึ่งปล่อยให้กระทำ อีกฝ่ายจะสามารถชนะได้หรอ?
พ่อของหลินรั่วหวีรักแม่ของลั่วเย่นหัว เพราะฉะนั้นเขาปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นในคืนแต่งงานใหม่ ปล่อยให้เธอฆ่าตัวเองจนนำไปสู่การล่มสลายของตระกูลกู่
ลั่วเย่นหัวแต่งงานกับหลินรั่วหวี เธอเองก็ปล่อยให้กระทำ เธอรู้ตั้งแต่แรกว่าหลินรั่วหวีต้องการแก้แค้นตัวเอง ทว่าเธอไม่ได้หยุดยั้งใดๆ แต่เลือกที่จะปล่อยให้เขาสมปรารถนา
“ฉันหวังว่าในยุคสมัยของชิงเสว่ ความเคียดแค้นทั้งหมดนี้จะจบลง”
หลินรั่วหวีมองถังเฉาและกล่าวอย่างจริงจัง “ไม่มีโทษสืบเนื่องไปถึงรุ่นต่อไปอีก!”
หลังจากพูดประโยคนี้จบ หลินรั่วหวีดูท่าทางเหนื่อยล้า เขาเดินผ่านถังเฉาไป
ถังเฉาเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง สีหน้าฉายความเจ็บปวดและตะโกนลั่น
“พ่อตา คุณไม่ใช่คนของหว่างเหลียง แต่คุณจำเป็นต้องอยู่ฝ่ายเดียวกับหว่างเหลียงใช่มั้ยครับ?”
หลินรั่วหวีชะงักร่าง ตัวสั่นนิดหน่อย
แต่เขาไม่ได้หันกลับมา กลับเดินไปข้างหน้าต่ออย่างไม่ลังเล
ถังเฉาตาแดง กำหมัดแน่น เล็บทิ่มเข้าไปในเนื้อแล้วยังไม่รู้ตัว
น้ำตาหลั่งไหลออกมา หน้าตาของถังเฉาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเจ็บใจ
เจ็บปวดกับอนาคตอันมืดมน
เจ็บใจกับความจริงอันแสนโหดร้าย
เขาถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินรั่วหวีและหว่างเหลียง แต่หลินรั่วหวีกลับเล่าเรื่องราวระหว่างเขาและลั่วเย่นหัว—-ดูเหมือนเป็นคำตอบที่ไม่ตรงคำถามนัก ทว่ากลับอธิบายต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ได้ทั้งหมด
แมลงร้อยขา แม้ตายก็ไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหว
หลินรั่วหวีมีพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องอีกหนึ่งคน
หลังจากตระกูลกู่ดับสิ้น เขาและพี่ชายของเขากลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงสองคนที่เหลืออยู่ของตระกูลกู่
บนบ่าของพวกเขาแบกรับการมีอยู่ของตระกูลกู่เอาไว้!
ดังนั้น หว่างเหลียงเกิดขึ้นตามชะตาลิขิต หว่านแหรวบรวมผู้แข็งแกร่งในใต้หล้า ดำเนินการทดลองทางวิทยาศาสตร์ สะสมพลัง เพื่อรอวันที่ได้แก้แค้นราชวงศ์แปด
หว่างเหลียงก็คือตระกูลกู่!
ตระกูลกู่ก็คือหว่างเหลียง!
สุดท้ายแล้วต้องมีวันหนึ่งที่พวกเขาจะย้อนกลับมาอีกครั้ง และเมื่อถึงตอนนั้น พ่อตาของเขาย่อมต้องเป็นหนึ่งในผู้นำทัพที่ต่อสู้เพื่อตระกูลกู่จนเลือดหยดสุดท้ายหลั่งไหลจนสิ้น!
ถังเฉาย่อมต้องหยุดยั้งเรื่องนี้ เช่นนั้น พวกเขาก็จะยืนอยู่ในฝ่ายตรงข้าม
คนหนึ่งคือพ่อของหลินชิงเสว่
คนหนึ่งคือคนรักของหลินชิงเสว่
เสือสองตัวสู้กัน ย่อมมีหนึ่งตัวบาดเจ็บ
สุดท้ายแล้วถังเฉาจะเป็นคนฆ่าหลินรั่วหวีหรือหลินรั่วหวีเป็นคนฆ่าถังเฉา?
ถังเฉาไม่รู้เลย
แต่ที่เขารู้คือ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน หลินชิงเสว่ก็ต้องเป็นคนที่เจ็บปวดที่สุด
ตุ้บ!
ถังเฉาตัวอ่อนปวกเปียก ล้มนั่งลงบนพื้น
เขามองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ เป็นครั้งแรกที่มีความรู้สึกหมดแรงต่อโชคชะตา