เสียงร้องไห้ของถังเสี่ยวลี้ ก็เหมือนเข็มแหลมเป็นเล่มๆ ทิ่มแทงในใจหลินชิงเสว่ แล้วตัวของเธอก็สั่นไปด้วย
ส่วนถังเฉา ก็นิ่งยิ่งกว่าหุ่นไม้ไม่ขยับ เพราะถังเสี่ยวลี้นั้นกอดขาของเขาไว้แน่น
เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจน ไหล่ที่กระตุกของหนูน้อยในแต่ละครั้ง กระตุกอย่างรุนแรงจนกระทบจิตใจของเขามาก
สูดหายใจเข้าลึก ถังเฉาหันกลับมา อุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นอย่างระวัง พูดอย่างจริงจังว่า “เสี่ยวลี้เป็นเด็กดีนะคะ พ่อไม่ไปไหน”
“หนูได้ยินแล้วว่า แม่จะไล่พ่อไป”
ถังเสี่ยวลี้ร้องไห้หนัก “แม่นิสัยไม่ดี แม่นิสัยไม่ดี——“
พอได้ยินคำนี้แล้ว รู้ม่านตาของทั้งสองหรี่ลงอย่างกะทันหัน
ถังเฉารีบกอดถังเสี่ยวลี้แน่น พูดต่อเนื่องว่า “ไม่โทษแม่นะ แม่ไม่ใช่คนเลวนะ พ่อต่างหากที่เป็นคนเลว ให้แม่กับหนูต้องมาลำบากกันสองคนแม่ลูก……”
ความโกรธบนหน้าของหลินชิงเสว่ ก็หายไปทันที สิ่งที่มาแทนก็คือความกังวลและความคิดซับซ้อน
ไม่ว่าจะเป็นถังเฉาหรือหลินชิงเสว่ก็ทนเห็นลูกสาวร้องไห้ไม่ได้ทั้งนั้น
หลินชิงเสว่ก็รีบเดินมา แล้วก็ปลอบอย่างใจเย็น
“แม่ไม่ไล่พ่อแล้วนะ แม่แค่โมโหเฉยๆน่ะ”
“โกรธที่เขาไปแบบไม่ลา โกรธที่เขาทิ้งให้เราอยู่กันสองคน”
นึกถึงวันที่ตั้งท้องถังเสี่ยวลี้อย่าทุกข์ทรมาน รวมถึงน้ำตาที่ไหลออกมาในแต่ละวัน ขอบตาของหลินชิงเสว่เริ่มแดงอีกแล้ว มีน้ำตาแล้วก็ไหลกลับไป
หากพนักงานคนอื่น ๆ ของอาคารกั๋วจี้เห็นฉากนี้จะต้องตกใจประธานหญิงผู้เด็ดเดี่ยวดั่งภูเขาน้ำแข็ง ได้เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ
ถังเฉาเงียบไป สักพัก แล้วก็พูดมาคำนึงว่า “ขอโทษ”
นอกจากนี้ เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
หลินชิงเสว่ไม่ได้ตอบกลับ เพียงแต่แค่รับถังเสี่ยวลี้มาจากอ้อมอกของเขา กล่อมอย่างใจเย็น
เด็กร้องไห้ง่าย แล้วก็ปลอบง่าย ไม่นาน ถังเสี่ยวลี้ก็ซบแล้วหลับไปในอ้อมอกของหลินชิงเสว่
หลินชิงเสว่ถึงจะอุ้มถังเสี่ยวลี้ไปที่เตียง แล้วก็ห่มผ้าให้เขา
เธอไม่ได้ออกมาทันที แต่ตั้งใจดูใบหน้าที่หลบสนิทของถังเสี่ยวลี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่บ้าง
“เอ่อ—-“
ตอนนี้ ด้านหลังมีเสียงเบาๆส่งมา
ถังเฉาลุกยืนอยู่หน้าประตู ท่าทางดูตื่นเต้น แล้วก็ลองถามดูว่า “ผมสามารถอยู่ที่นี่ได้ไหม”
ก็มีแค่คนสนิทเท่านั้น ที่จะทำให้ถังเฉาระมัดระวังแบบนั้น เหมือนน้ำแข็งบางๆ
หลินชิงเสว่หลินลุกขึ้นยืน ปิดประตูห้อง สีหน้ากลายเป็นเยือกเย็นอีกครั้ง พูดกับถังเฉาว่า “โอเค คุณอยู่ได้ แล้วก็เข้ามาอยู่บ้านฉันได้”
ไม่ทันได้รอให้ถังเฉาดีใจ หลินชิงเสว่ก็กลับคำ แล้วก็พูดด้วยความเกลียดว่า “แต่ว่า ฉันก็ยังเชื่อคุณไม่ได้อยู่ดี คุณเวลาสามเดือนในการพิสูจน์ ในเวลาสามเดือนนี้ ถ้าคุณทำให้ฉันเห็นว่าคุณเข้าหาเราเผื่อเป้าหมายอื่น หรือไม่เหมาะสม ฉันจะไม่ใช่แค่ไล่คุณไป แต่จะดำเนินคดีตามกฏหมายทั้งหมด
ถึงแม้น้ำเสียงของหลินชิงเสว่จะไม่ได้ใจดี แต่ถังเฉาก็ยังดีใจมากอยู่ดี อย่างน้อยหลินชิงเสว่ก็ยอมให้เขาอยู่ข้างๆ
“ผมจะดูแลพวกคุณให้ดีแน่นอน ชดเชยห้าปีที่หายไป”
หลินชิงเสว่ยังคงไร้อารมณ์เหมือนเดิม เอาสัญญาออกมา ส่งให้ถังเฉา “นี่คือข้อตกลง คุณลองดูสิ”
ถังเฉากลับผลักออกเบาๆ “ไม่ต้องแล้วล่ะ”
หลินชิงเสว่สีหน้าเปลี่ยนแล้วถามว่า “คุณไม่กลัวว่าฉันจะปิดบัง แล้วก็ตั้งใจปอกลอกคุณหรอ”
“ไม่กลัว”
ถังเฉาส่ายหัวพูดด้วยหน้าตาที่ใจเย็นว่า “ ผมบอกแล้ว ว่าสิ่งที่ผมติดหนี้พวกคุณมาทั้งห้าปี ถึงพวกคุณอย่างจะได้ดวงดาวบนท้องฟ้า ผมก็จะเด็ดลงมาให้พวกคุณ”
“ใครคิดจะทำร้ายพวกคุณ งั้นก็ข้ามศพผมไปก่อน”
“พูดโอเว่อร์ใครจะพูดไม่ได้ล่ะ” หลินชิงเสว่บ่นพึมพำขึ้น ใบหน้ากลับมีความไม่เป็นธรรมชาติอยู่ หันหน้าไป ไม่สบตากับถังเฉา
“นี่ไม่ใช่ลมปาก คือสัญญา”
แววตาของถังเฉา มองที่หลินชิงเสว่ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เคยห่างไป “คุณไม่มีแม้แต่งานแต่งที่เป็นทางการ ฉันไม่ยอม สิ่งที่คนอื่นมี คุณก็ต้องมี แล้วก็ต้องใหญ่กว่า ดีกว่า ผมจะมอบงานแต่งที่สายไปห้าปีให้กับคุณ
ขวับ—-
พอได้ยินคำนั้นแล้ว ในที่สุดสีหน้าของหลินชิงเสว่ก็เปลี่ยนไป อึ้งไปอย่างกะทันหัน
ผู้หญิงคนไหนไม่เคยมีจินตนาการเกี่ยวกับงานแต่งของตัวเองบ้างล่ะ
สวมสุดแต่งงานสีขาว ในมือถือดอกไม้ ปรากฏตัวท่างกลางทุ่มดอกไม้ แต่งงานกับคนที่อยากแต่งงานด้วย
หลินชิงเสว่ก็เคยรอคอย แต่น่าเสียดาย นี่เป็นความเสียดายในชีวิตนี้ของเธอ
เธอสงบลง “ไม่ต้องแล้ว จัดงานแต่งต้องใช้เงินตั้งเยอะ ฉันไม่อยากฟุ่มเฟือย”
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องคิดแล้ว”ถังเฉาพูดแล้วหัวเราะ
หลินชิงเสว่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับปัญหานี้ มองดูถังเฉาแล้วถามว่า “คุณมีงานทำรึยัง”
“ไม่มี” ถังเฉาพูดความจริง
หลินชิงเสว่ท่าทางเย็นชา “ในเมื่อจะเป็นพ่อของเสี่ยวลี้จะไม่มีงานทำไม่ได้”
พูดแล้ว เธอก็ตรวจดูสถานการณ์ของแต่ละแผนก ขมวดคิ้ว แต่ก็พูดกับถังเฉาว่า “บริษัทของฉันทำเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์ของผู้หญิง ตอนนี้แต่ละแผนกยังไม่มีใครลาออก มีแต่ฝ่ายรปภ.—- ”
“งั้นก็ฝ่ายรปภ.”
ถังเฉาตอบด้วยความสบายใจ “แต่เข้าทำงานทันทีไม่ได้ เพราะต้องยุ่งกับอะไรบางอย่างน่ะ”
“”มันขึ้นอยู่ การที่คุณเริ่มจากพื้นฐาน ถ้าคุณมีความสามารถคุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างแน่นอน”
หลินชิงเสว่ลุกขึ้นยืน พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันมีงานต้องรีบทำอีก ไปก่อนนะ”
พูดจบ เธอก็เหยียบส้นสูงเดินออกไป
ถังเฉานั่งอยู่ที่โซฟาคนเดียว คิดแล้วคิดอีก โทรศัพท์ออกสายนึง
“หัวหน้าคะ มีคำสั่งอะไรรึเปล่าคะ”ไม่นาน ก็มีเสียงเฟิ่งหวงส่งมา
“ฉันจะให้เธอทำอะไรอย่างนึง……”
บนหน้าของถังเฉาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ช่วยจัดการแต่งงานที่ไม่เคยมีมาก่อนให้ฉันหน่อย”
หลังจากวางสาย ถังเฉาก็ค่อยๆเปิดประตูออก ดูถังเสี่ยวลี้ที่กำลังนอนหลับอยู่ แน่ใจว่าถังเสี่ยวลี้ไม่ได้ตื่นแล้ว คราวนี้ถึงจะวางใจปิดประตูได้ แล้วก็ออกจากห้องผู้จัดการไป
เขาจับบันไดลงตึกไป หาภรรยากับลูกเจอแล้ว ถังเฉารู้สึกมีความสุขมาก
ข้างหน้ามีสาวๆที่แต่งกายชุดประจำสวยๆเดินนำหน้ามา แล้วก็เดินสวนไหล่ของถังเฉาไป
ถึงแม่ถังเฉาจะไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาก็ได้ยินเสียงที่พวกเธอคุยกัน
“เร็วๆๆ งานประมูลใกล้เริ่มแล้ว กว่าจะได้ตั๋วมามันไม่ง่ายเลยนะ
“เชอะ ฉันดูแล้วแกคงไม่เข้าใจการประมูลหรอก แค่จะมาอ่อยเหยื่อใช่ไหมล่ะ
“คิคิ ถูกคุณจับได้แล้ว ได้ยินมาว่าการเข้าร่วมประมูลครั้งนี้ มีหนุ่มหล่อรวยเยอะมาก”
ถังเฉาหยุดเดิน มองไปตามเสียง ค่อยๆหรี่ตา
“งานประมูลล่ะก็……”
เขาจำได้ว่าโจวเหม่ยหยูนและหลินฉ่ายเวยมาที่นี่ ก็หมายความว่าบ้านหลินเข้าร่วมการประมูลด้วย
ถังเฉาเงียบไปสักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจ เดินไปทางห้องประชุม
ในเมื่อมาแล้ว ก็ช่วยผลักดันพวกเธออีกสักหน่อยละกัน
จากนั้น เพิ่งจะเข้าห้องประมูล ถังเฉาก็เห็นหลินฉ่ายเวยและโจวเหม่ยหยูน
แค่ถึงยังไง พวกเธอก็เหมือนลิงในสวนสัตว์ โดนคนมากมายล้อมดู
“ผมว่าคุณนายโจวครับ ตระกูลหลินของคุณกำลังจะล่มสลายและคุณยังมีเวลาที่จะเสนอราคาอีกหรือ?”
ชายในชุดสูท รองเท้าหนังและผูกเนคไทกำลังยิ้มร่า: “เป็นไปได้ไหมครับ ที่การประมูลครั้งนี้จะช่วยตระกูลหลินของพวกคุณได้?