ถังเฉาตามถังเย่มาทั้งทางจนถึงสวนด้านหลัง
เพิ่งมาถึงถังเฉาก็สัมผัสได้ถึงความวังเวงอย่างรุนแรง ไอเย็นที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนถาโถมสู่ทั่วร่างของเขา
จากวันที่แสงแดดสดใส แต่เมื่อมาถึงสวนด้านหลังกลับทำให้ถังเฉารู้สึกว่าสวนด้านหลังแห่งนี้อยู่คนละโลกกับข้างนอกนั่น
และในสวนด้านหลังแห่งนี้ ไม่มีสิ่งของที่ใช้งานได้ตั้งอยู่เลยสักชิ้น เห็นเพียงบ้านไม้หลังใหญ่จากที่ไม่ไกล
ถังเฉาเพ่งสายตามองไปก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากบ้านไม้หลังนี้ ราวกับความรู้สึกวังเวงจากรอบๆนี้แผ่ซ่านออกจากบ้านไม้หลังนี้
“คุณลุงถังครับ ที่นี่ก็คือสวนด้านหลังหรอครับ ทำไมไม่มีใครสักคนเลยล่ะครับ? หรือว่าสถานที่ใหญ่เพียงนี้มีเพียงผู้นำตระกูลถังของเราอาศัยอยู่คนเดียว?” ถังเฉาหรี่ตา ถามอย่างหยั่งเชิง
ถังเย่หันกลับไปมองเขา เพื่อไม่ให้ถังเฉาสงสัย เขารีบเอ่ยยิ้มๆด้วยท่าทางเปี่ยมเมตตา “ช่วยไม่ได้ ยังไงซะที่นี่ก็เป็นที่ที่ผู้นำตระกูลของเราอาศัยอยู่ จะให้ผู้คนมากมายมารบกวนไม่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นที่นี่คงเละ”
กับคำอธิบายนี้ ถังเฉาได้แต่เงียบ
คนฉลาดดูออกกันหมดว่านี่เป็นเพียงคำอธิบายที่มีให้กับคนภายนอกเท่านั้น ลางสังหรณ์ของเขาไม่ผิดแน่ ที่แห่งนี้ต้องมีความลับที่บอกใครไม่ได้แน่
แต่ในเมื่อถังเย่พูดเช่นนี้แล้ว ถังเฉาก็มิได้เปิดโปงเขาแต่อย่างใด
ไม่นานนัก ทั้งคู่ก็มาถึงหน้าประตูบ้านไม้ด้วยกัน
“เข้าไปเถอะ ที่นี่คือที่ที่ผู้นำตระกูลของเราอาศัยอยู่ ฉันบอกเขาไว้แล้ว แกเข้าไปก็จะเห็นเขาเลย”
สิ้นเสียง ถังเย่ก็ชะงักฝีเท้า ดูเหมือนไม่คิดจะเข้าไปกับถังเฉา และการกระทำนี้ทำให้ถังเฉาหรี่ตาและมองเขาอยู่นาน
“มีอะไรหรอครับคุณลุงถัง อาไม่เข้าไปกับผมหรอครับ ถึงยังไงผมก็ไม่เคยพบหน้าท่านมาก่อน เดินดุ่มๆเข้าไปคนเดียวแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่นะครับ”
ถังเย่ฟังแล้วจึงรีบอธิบาย “จะไม่เหมาะได้ไงเล่า ฉันบอกผู้นำตระกูลไว้แล้ว แกไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก รีบเข้าไปเถอะ”
ดูออกเลยว่าถังเย่นั้นกลัวมากว่าถังเฉาจะไม่เข้าไป ถึงได้ย้ำว่าไม่เป็นไรอยู่หลายครั้ง
แม้ถังเฉารู้ว่าข้างในนั้นมีอะไรไม่ชอบมาพากล แต่คนมีความสามารถสูงย่อมใจกล้า จึงไม่กลัวอะไร
“งั้นผมเข้าไปแล้วนะครับ”
พูดเสร็จ ถังเฉาก็เปิดประตูบ้านไม้และเดินเข้าไป
เดินเข้าไปได้ประมาณสองก้าว ประตูก็ปิดเองประหนึ่งว่าเป็นประตูอัตโนมัติ
เสียงดังตู้ม ทว่าถังเฉาไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด เขากลับรู้สึกว่าบ้านหลังนี้น่าสนใจดี
ถังเย่ที่อยู่หน้าประตูรีบวิ่งไปหลบด้านข้าง
“เหอะๆ ถังเฉา แกคิดว่าฉันจะพาแกไปพบผู้นำตระกูลของเราจริงๆหรอ ที่แห่งนี้ต่างหากคือที่ที่แกควรมา”
ถังเย่ยิ้มเย็นพลางพึมพำกับตัวเอง “ถ้าแกอยากออกมาละก็ แกก็สู้ให้ชนะปีศาจข้างในนั้นก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นแกก็จงตายอยู่ในนั้นซะ”
เห็นได้ชัดเลยว่าในบ้านไม้หลังนี้มีปีศาจดุดันตัวหนึ่งอาศัยอยู่ จนตัวถังเย่เองยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่มาก ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ถึงขั้นจะหลอกให้ถังเฉาเข้าไปให้ได้
ส่วนถังเฉาที่อยู่ข้างในเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ถังเฉาเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอันฉับไว
อัตราการก้าวเท้าเช่นนี้มีเพียงคนที่ฝีมือคล่องแคล่วและมีพลังแกร่งกล้าเท่านั้นจึงจะทำได้
ถังเฉาระวังตัวมากขึ้นทันที รอให้เจ้าตัวที่ไม่รู้ว่าคืออะไรเข้ามา
แค่พริบตาเดียว อยู่ๆด้านข้างถังเฉาก็มีเงาดำมหึมาพุ่งเข้ามา
เขาหมุนตัวและหลบการโจมตีของเงาดำนั้นได้ แต่หลังจากนั้นเงาดำก็พุ่งมาอยู่ตรงหน้าถังเฉาด้วยความเร็วเท่ากัน
เห็นได้ชัดว่าพลังของไอ้ตัวนี้ไม่ได้อ่อนแอเลยจริงๆ
แค่ดูจากพื้นที่แหลกเป็นเศษเล็กเศษน้อยหลังจากเขาจุติลงพื้น ถังเฉาก็รู้แล้วว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา
ถังเฉาหันไปหยุดหมัดของสัตว์ประหลาดตัวนี้ด้วยฝ่ามือ
อานุภาพนั้นแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ถังเฉาไม่เคยเจอคนที่มีกำลังมากขนาดนี้เลย ต่อให้เป็นในกองทัพ กำลังของหลี่เห้าก็ไม่ถึงระดับที่เกินขีดจำกัดขนาดนี้
“ไม่ว่านายจะเป็นใคร รีบออกมาเถอะ เป้าหมายของนายคือฉันใช่มั้ย” ถังเฉาเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เขาบอกว่าไม่คิดจะหนี เพราะเขารู้ว่าหากไม่จัดการเจ้าตัวนี้ วันหน้าไม่ว่าตัวเองจะทำอะไรที่ตระกูลถังก็คงไม่สะดวกนัก หากเขาเอาชนะเจ้าตัวนี้ได้ อย่างน้อยตัวเองก็จะเริ่มมีฐานะขึ้นมาบ้าง
พูดถึงถังเฉา ที่จริงเขาไม่สนใจฐานะของตัวเองที่ตระกูลถังเลยสักนิด เขาเพียงแต่อยากจะตามหาแม่ตัวเองให้เจอเร็วขึ้น
ส่วนสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ให้ความร่วมมือมาก หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของถังเฉาแล้วก็ชะงักฝีเท้าตัวเองลงจริงๆ และมาปรากฏตัวตรงหน้าถังเฉา
“นายนี่ถือได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ”
ถังเฉามองประเมินสัตว์ประหลาดตรงหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ
‘สัตว์ประหลาด’ ที่ว่านี้ แท้จริงแล้วไม่ใช่สัตว์แต่อย่างใด หากแต่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
ชายคนนี้ดูดุร้ายเกินใครเปรียบ กล้ามบนตัวแทบจะเป็นสองเท่าของถังเฉา กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกจากสายตาไร้ความเป็นคนอย่างสิ้นเชิง ทว่าเต็มไปด้วยความเย็นชา
“บอกตรงๆเลยว่าฉันเองก็เป็นคนของตระกูลถังเหมือนกัน เพียงแต่โดนพวกเขาลอบกัดถึงได้มาอยู่ในนี้ ฉันดูแล้วนายเองก็มีความสามารถเยี่ยมยอด ทำไมถึงถูกขังอยู่ในนี้ไม่ยอมออกไปข้างนอกล่ะ”
ถังเฉามองเขาอย่างแปลกใจพร้อมเอ่ย
ไม่ได้คิดจะยั่วยุเขา ทว่าคนพูดไม่คิดแต่คนฟังคิด
แต่หลังจากที่ชายคนนี้ฟังแล้วไม่ส่งเสียงใดๆ กลับพุ่งตรงเข้ามาหาถังเฉาประหนึ่งหมาที่หลุดจากโซ่
ทั้งสองกระโจนไปมาในความมืด สู้กันอย่างสูสี
สถานการณ์เช่นนี้ยื้อไปได้ประมาณหนึ่งนาทีชายคนนี้ก็หยุด ถังเฉาเห็นว่าชายคนนี้ไม่มีความต้องการจะสู้ต่อแล้วก็มายืนอยู่ตรงข้ามเขา
“ทำไมไม่สู้แล้วล่ะ?”
ถังเฉาถามอย่างประหลาดใจ
ชายคนนั้นเพียงแต่โบกมืออย่างไม่แยแส ถอนหายใจพลางกล่าว “ไม่มีอะไรให้สู้แล้ว ฉันพอจะประเมินพลังของนายได้แล้ว ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาย”
ชายคนนี้ดูมีสติดีมาก รู้ว่าตัวเองสู้กับถังเฉาก็ไม่เป็นผลดี จึงเลือกยอมแพ้
คราวนี้ถังเฉายิ่งประหลาดใจมากกว่าเดิม ประตูอยู่ด้านหลังของถังเฉาแท้ๆ ทำไมชายคนนี้ถึงไม่ยอมเดินไปข้างหน้าล่ะ ขอแค่เขายอม เขาเตะประตูบานนี้ให้เป็นเศษเล็กเศษน้อยยังได้ แต่เขาก็ไม่ทำ”
“ทำไมนายถึงไม่ไปจากที่นี่ล่ะ หรือว่าถูกวางยาพิษ?”
ไม่นานนัก ถังเฉาก็เดาเหตุผลที่ชายคนนี้ไม่ไปจากที่นี่ออก ที่แท้ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไป แต่เขาไปกินยาที่คนตระกูลถังลักลอบผลิต จึงถูกพิษประหลาด พิษชนิดนี้หากเจอแสงแดดจะอันตรายถึงชีวิต