กรุณาอย่ามายุ่งกับภรรยาของผม
กู้จิ้งเจ๋อหันมาและเห็นอีกฝ่ายเดินกลับออกมาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ ชายหนุ่มไม่อาจละสายตาจากเธอได้
หลินเช่อพูดขึ้นว่า “ฉันคงต้องสวมชุดนี้ไปก่อนละค่ะ ให้ตายสิ ความผิดของคุณทั้งหมดเลยนะคะเนี่ย นี่คุณตั้งใจหรือเปล่า ถึงมาทำชุดฉันพังหมดแบบนั้นน่ะ!”
กู้จิ้งเจ๋อเอาแต่มองเสื้อคลุมอาบน้ำและสายรัดเอวที่ผูกไว้เพียงหลวมๆ อย่างไม่วางตา
ถ้าเขาไม่รู้มาก่อนว่าหลินเช่อเป็นผู้หญิงที่ซื่อบื้อเข้าขั้นจนไม่อาจเสแสร้งทำเป็นยั่วยวนเขาได้ เขาคงคิดว่าเธอตั้งใจที่จะแต่งตัวแบบนี้ออกมา
ถ้าเธอสวมแค่เสื้อคลุมอาบน้ำอย่างนี้ ก็แปลว่าใต้ชุดนั้นไม่มีอะไรอื่นอีกเลยนอกจากชุดชั้นในน่ะสิ…
ร่างกายเขาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นทันตา พอมองดูเสื้อคลุมของเธอ เขาไม่อยากที่จะละสายตาและเฝ้าแต่คิดถึงผิวกายของเธอ อาภรณ์หลวมๆ ที่เธอสวมอยู่ คงจะสอดมือเข้าไปใต้นั้นได้โดยง่ายสินะ
กู้จิ้งเจ๋อรีบสลัดความคิดนี้ทิ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
หลินเช่อพูดขึ้น “ชุดคงมาถึงแล้วละมั้งคะ คุณรีบไปเอามาเถอะค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อพยักหน้าแล้วมองเธออีกครั้งก่อนจะเดินไปเปิดประตู
ห้องนั้นเป็นห้องชุดที่มีห้องนอนอยู่ข้างในและห้องนั่งเล่นอยู่ข้างนอก
กู้จิ้งเจ๋อปิดประตูห้องนอนแล้วถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนจะเดินไปยังประตูใหญ่ของห้อง
แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะตรงหน้าคือชายหนุ่มผมดำสนิทและใบหน้าซีดขาว
ฉินชิงนั่นเอง
ฉินชิงมองกู้จิ้งเจ๋อก่อนจะสอดส่ายสายตาเข้าไปข้างในห้อง เมื่อมองไม่เห็นหลินเช่อ เขาก็เบนสายตากลับมาหาคนตรงหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างหลินเช่อกับผู้ชายคนนี้ยังน่าเคลือบแคลง เขาจึงลังเลเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้นว่า “เอ่อ…หลินเช่ออยู่รึเปล่า”
แม้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำให้ฉินชิงรู้สึกริษยาอยู่บ้าง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงมองดูแหวนที่อีกฝ่ายสวมติดนิ้ว เมื่อได้เห็นใกล้ๆ อย่างนี้ ดวงตาเขาก็สว่างวาบขึ้น
นั่นเป็นแหวนประจำตระกูลกู้อย่างแน่นอน
แต่ด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบได้ เขาไม่อยากที่จะยอมอ่อนข้อให้ผู้ชายคนนี้
ดวงตาของฉินชิงจึงมีแววแข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเอ่ยต่อไปว่า “ผมเป็นเพื่อนหลินเช่อ”
กู้จิ้งเจ๋อตัวสูงกว่าฉินชิงราวครึ่งช่วงหัว ดวงตาดำสนิทของเขาลึกล้ำยากจะหยั่งถึงเหมือนท้องฟ้ายามราตรี ทั้งคลุมเครือและยากจะเข้าใจ
สายตาของเขากวาดมองดูทั่วตัวฉินชิง กู้จิ้งเจ๋อไม่เข้าใจเลยว่าอะไรที่ทำให้หลินเช่อรู้สึกดึงดูดในตัวผู้ชายคนนี้ รสนิยมผู้ชายของหล่อนเป็นยังไงกันแน่นะ หรือว่าหล่อนชื่นชอบประเภทไอ้หนุ่มหน้าสวยแบบนี้จริงๆ
น้ำเสียงของกู้จิ้งเจ๋อแฝงด้วยสุ้มเสียงเย็นชาและยโส แม้ว่าจะมีท่าทีเป็นสุภาพบุรุษ แต่ก็มีรังสีบางอย่างที่ทำให้ผู้อื่นนึกระย่อไม่อยากที่จะต่อกรด้วย “หลินเช่ออยู่ในห้อง แต่ว่าเธอกำลังยุ่งอยู่น่ะ”
“ยุ่งอยู่งั้นเหรอ” ฉินชิงถามด้วยน้ำเสียงแคลงใจ “บอกเธอทีสิครับว่าผมมาหา เธอจะต้องอยากพบแน่”
นิ้วเรียวยาวของกู้จิ้งเจ๋อยกขึ้นแตะจมูก แววตาที่แข็งกร้าวในตอนแรกเริ่มที่จะอ่อนแสงลง “เธอไม่เชิงว่ายุ่งอยู่หรอก แต่ว่าตอนนี้เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้า เพราะฉะนั้นฉันคงเปิดประตูให้นายเข้าไปตอนนี้ไม่ได้น่ะ”
ฉินชิงมีท่าทีช็อกสนิท
เมื่อได้เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย กู้จิ้งเจ๋อจึงพูดต่อไปอีก “เป็นความผิดของฉันเองนั่นแหละ ฉันไม่ทันระวัง…ก็เลยทำชุดเธอขาด แต่ฉันสั่งให้คนของฉันช่วยนำเสื้อผ้าชุดใหม่ขึ้นมาให้แล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอคงไม่สะดวกที่จะออกมาพบนายเท่าไหร่”
แม้ว่าถ้อยคำเหล่านั้นจะไม่ได้โจ่งแจ้งอะไร แต่ฉินชิงก็เข้าใจได้ในทันที
ฉินชิงเริ่มรู้สึกประดักประเดิดขึ้นมาทันควัน เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาและหลินเช่อจะมี…ความสัมพันธ์กันแบบนั้น
ฉินชิงจึงตอบไปว่า “คุณอาจจะไม่ทราบ แต่หลินเช่อกับผมสนิทกันมาก เรารู้จักกันมาหลายปี” เขาอดไม่ได้ที่จะทำตัวเป็นปรปักษ์กับผู้ชายคนนี้
“อ้อ หลินเช่อบอกผมแล้วละ” กู้จิ้งเจ๋อตอบเบาๆ “เธอเคยเล่าให้ฟังอยู่”
“ผมรู้ว่าคุณอาจจะมีอำนาจล้นมือและสามารถทำทุกอย่างที่ตัวเองต้องการได้ แต่หลินเช่อเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ผมไม่อยากให้เธอต้องเจ็บ เพราะฉะนั้นถ้าคุณแค่จะคบกับเธอเพียงเล่นๆ ละก็ ขอบอกเลยว่าผมจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่”
เหมือนที่หันไฉ่อิงพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ต่อให้กู้จิ้งเจ๋อมีความสัมพันธ์กันหลินเช่อ แต่เขาก็คงจะสลัดเธอทิ้งอย่างง่ายดายทันทีที่เขานึกเบื่อเธอ
เรื่องนี้ทำให้ฉินชิงโกรธที่สุด
สำหรับเขาแล้ว มันไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ใช่คู่ต่อของกู้จิ้งเจ๋อ หรือว่ากู้จิ้งเจ๋อจะแค่ทำเล่นๆ กับหลินเช่อหรอก แต่เขานึกสงสัยว่ากู้จิ้งเจ๋อกำลังหลอกหลินเช่อให้มาหลงรักอยู่หรือเปล่าต่างหาก
กู้จิ้งเจ๋อไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งตัวเขาเองจะต้องมาถูกผู้ชายอย่างฉินชิงข่มขู่เอาแบบนี้
เขามองหน้าฉินชิงแล้วพูดว่า “ถ้าคุณเตือนผมในฐานะเพื่อนละก็ ผมขอรับประกันได้เลยว่าความสัมพันธ์ของผมกับหลินเช่อเป็นไปอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เราต่างก็รู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจในกันและกัน ไม่มีความลับใดระหว่างเราสองคน แล้วก็มีความผูกมัดระหว่างกันที่ไม่อาจทำลายได้”
สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง แม้ว่าจะไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดก็ตาม
สีหน้าของกู้จิ้งเจ๋อเปลี่ยนไปเป็นคุกคามทันทีที่เขาพูดต่อไปว่า “แต่ยังไงก็ตาม ถ้าคุณเตือนผมในฐานะผู้ชายด้วยกันละก็ ผมก็จะขอเตือนคุณด้วยเช่นกันว่าหลินเช่อเป็นผู้หญิงของผม”
สีหน้าดุดันของเขาเหมือนมีดคมปลาบที่ทำให้ฉินชิงรู้สึกได้ถึงอันตรายที่พุ่งตรงเข้ามา
เขานึกชิงชังกู้จิ้งเจ๋อยิ่งกว่าเดิม ในขณะเดียวกันพนักงานโรงแรมก็มาถึงพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ “ท่านครับ ชุดที่สั่งได้แล้วครับ”
สีหน้าของกู้จิ้งเจ๋อคลายความแข็งกร้าวลงเล็กน้อยเมื่อหันไปบอกกับพนักงานว่า “เอาเข้าไปได้เลย”
ฉินชิงแอบเห็นโลโก้บนตัวเสื้อได้อย่างไม่ยากเย็น
มันเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ทีเดียว เสื้อผ้าแต่ละชิ้นนี้จะต้องสนนราคาอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าหมื่นหยวน
กู้จิ้งเจ๋อมองฉินชิงด้วยสายตาหมางเมิน “ถ้าไม่มีอะไรแล้วละก็ ผมต้องขอตัว”
โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตอบโต้ ชายหนุ่มปิดประตูลงทันที
“คุณ…”
ฉินชิงมองดูบานประตูที่ปิดสนิทอย่างโกรธจัด เขาอุตส่าห์ดั้นด้นขึ้นมาถึงตรงนี้แต่กลับถูกเมินใส่อย่างไม่แยแส จะให้เขารู้สึกดีได้อย่างไร
ตอนนี้เขายิ่งชังน้ำหน้ากู้จิ้งเจ๋ออย่างไม่มีเหตุผลมากขึ้นอีกเป็นเท่าทวี
กู้จิ้งเจ๋อถือเสื้อผ้าเข้าไปในห้อง
หลินเช่อยังคงรออยู่ด้านใน เมื่อเห็นกู้จิ้งเจ๋อกลับเข้ามา เธอก็ถามขึ้นว่า “คุณคุยกับใครอยู่ที่ประตูเหรอคะ”
ห้องของโรงแรมนั้นเก็บเสียงและเธอเองก็ไม่กล้าโผล่หน้าออกไปดู หญิงสาวจึงได้ยินแต่เพียงเสียงพึมพำของคนกำลังคุยกัน แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก
กู้จิ้งเจ๋อพยักหน้า “อืม มีหมาบ้ามาน่ะ แต่ฉันสั่งให้ไล่ออกไปแล้ว”
เขาไม่ใช่คนที่จะทำตัวหยาบคายกับคนแปลกหน้า แล้วเขาก็ไม่ได้รู้สึกฉินชิงแม้แต่น้อย แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาทันทีที่นึกถึงคำพูดห้วนๆ และตรงไปตรงมาของอีกฝ่าย
หลินเช่อหัวเราะและพูดด้วยความขบขันว่า “หมาในโรงแรมเนี่ยนะคะ จะเป็นไปได้ยังไงกัน”
“หมาบ้าน่ะ หมาบ้าที่ชอบวิ่งพล่านไปทั่ว แล้วก็สอดจมูกเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกเรื่อง”
เขายื่นชุดส่งให้เธอ “ใส่ซะ ขนาดตัวของเธอพอดี”
หลินเช่อก้มลงมอง มันสวยและดูหรูหรามากทีเดียว
“ว้าว แพงหรือเปล่าคะเนี่ย” เธอถาม
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ไม่รู้เหมือนกัน”
หลินเช่อยิ้มให้เขา “มันสวยมากเลยค่ะ ดูหรูมากด้วย ขอบคุณนะคะกู้จิ้งเจ๋อ ใครจะไปรู้ว่าการได้เป็นภรรยาคุณจะทำให้ฉันได้ทำตัวหรูๆ แบบคุณไปด้วย ไม่เลวเลยนะเนี่ย”
เขาคิดว่ามันน่ารักดีที่หลินเช่อพยายามจะทำตัวเป็นสาวสวยกับเขาบ้าง
เป็นครั้งแรกที่คำชมเรียบง่ายแบบนี้ทำให้เขารู้สึกประหม่าและยินดี