เธอกลายเป็นดาวเด่นของบริษัทไปแล้ว
คำว่า ‘ที่รัก’ ทำเอาชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ แต่เมื่อหันมาเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความละโมบของหลินเช่อแล้ว เขาก็กลับเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเงินสินะ ผู้หญิงคนนี้ เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวไร้เกียรติแบบนี้เสียทีนะ
“ฉันพูดจริงนะคะ ฉันจะไม่ปริปากบอกใครทั้งนั้นต่อให้คุณจะไปลอบวางเพลิงหรือฆาตกรรมใครก็ตาม ถึงยังไงเราก็ลงเรือลำเดียวกันนี่นา จริงมั้ยคะ” หลินเช่อเนื้อเต้นทีเดียว
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองเธอ “ตอนนี้ฉันรู้สึกอยากจะบีบคอใครบางคนให้ตายมาก แต่เพราะกฎหมายและศีลธรรม ฉันก็เลยทำไม่ได้”
“หือ คุณจะใช้ความรุนแรงแบบนี้ไม่ได้นะคะ แล้วใครกันที่ทำให้คุณอยากทำแบบนั้นล่ะเนี่ย”
เขากวาดตามองไปทั่วร่างเธอ
ไม่ว่าหลินเช่อจะซื่อบื้อแค่ไหนก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
เป็นเธอนั่นเอง…
เธอรู้ดีว่าการมีตัวตนอยู่ของเธอทำให้เขาและโม่ฮุ่ยหลิงไม่อาจที่จะได้อยู่ร่วมกัน แต่ก็ไม่เห็นจะต้องคิดร้ายถึงขนาดจะฆ่าแกงเธออย่างนี้เลยนี่นา
“กู้จิ้งเจ๋อ ทำไมคุณถึงอยากจะรีบฆ่าฉันทั้งๆ ที่มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยแบบนี้คะ ลองคิดดูนะ ถ้าคุณฆ่าฉันตอนนี้ ทุกอย่างก็จะไม่สามารถหวนคืนมาได้อีก คุณจะกลายเป็นฆาตกร แต่ถ้าเรายอมอยู่ร่วมกันอย่างสันติตอนนี้ อีกหน่อยฉันก็จะไปตามทางของฉัน ส่วนคุณก็จะได้ไปตามทางของคุณในอีกไม่กี่ปีเท่านั้น แล้วคุณกับคุณหนูโม่ก็จะได้ครองรักกันอย่างมีความสุข แบบนั้นไม่เข้าท่ากว่าเหรอคะ ไม่เห็นต้องทำให้เรื่องมันยากเลยนี่นา จริงมั้ยคะ”
กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วหันไปมองด้านหน้า เป็นการบอกคนขับให้เร่งความเร็วยิ่งขึ้นอีก
ถ้าขืนยังทนคุยกับหลินเช่อในรถแคบๆ นี่ต่อไปอีกละ ความงี่เง่าของเธออาจจะทำให้เขาสติแตกได้
เมื่อถึงบ้าน กู้จิ้งเจ๋อก็รีบลงจากรถ เขาหันไปมองหลินเช่อที่พยายามตะเกียกตะกายเพื่อออกจากตัวรถ ในขณะที่คนขับกุลีกุจอช่วยขนวีลแชร์ของเธอลงมา ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนที่จะบังคับตัวเองให้สงบใจลง และเดินกลับมาช่วยเธอ
ในคืนนั้น หลินเช่อนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องและอ่านรายงานข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานเลี้ยงฉลองหมั้นของหลินลี่
จากข่าวที่เห็น มันเป็นงานเลี้ยงที่น่าทึ่งและชวนให้ริษยามากทีเดียว
หลินเช่ออ่านคอมเมนต์ด้านล่างที่พากันชื่นชมว่าหลินลี่นั้นสวยแค่ไหน และสามีของเธอหล่อเหลาเพียงใด
หญิงสาวทอดถอนใจแล้วกดปิดคอมเมนต์ ทิ้งตัวลงนอนและเข้าไปเช็กเวยป๋อของตัวเอง
ในเวยป๋อมักเต็มไปด้วยเรื่องพูดคุยถกเถียงกันเต็มไปหมดเป็นปกติอยู่แล้ว หลินเช่อกดปิดหัวข้อ จนกระทั่งไปเห็นโพสต์ล่าสุดที่ยาวและแอ็กทีฟอยู่จนดูผิดสังเกตเป็นพิเศษเข้า
เธอกดเปิดมันขึ้นมาอ่าน…
โพสต์นั้นเป็นข้อความที่ระบุว่า [ถึงแม้ฉันจะไม่คิดว่าเธอคู่ควรกับกู้จิ้งอวี่ แต่ในเมื่อเขาชอบเธอ เพราะฉะนั้นพวกเราในฐานะขนนกของหยู พวกเราขออวยพรให้ก็แล้วกัน]
ไม่ว่าใครก็รู้ดีว่าบรรดาแฟนคลับของกู้จิ้งอวี่จะเรียกตัวเองว่าขนนกของอวี่
หลินเช่อนึกสงสัย หมายความว่ายังไงที่บอกว่าเขาชอบเธอน่ะ…
อีกคอมเมนต์หนึ่งที่ตามมาเขียนว่า [นี่พวกเขาคบกันจริงๆ เหรอ ยินดีด้วยนะ]
[ได้โปรดดีกับจิ้งอวี่ของเราด้วยนะ เขาเป็นคนดีแล้วก็ทำงานหนัก อย่าทำให้เขาเสียใจล่ะ]
ขณะที่หลินเช่อไล่อ่านไปเรื่อยๆ นั้น เธอก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง จนกระทั่งอวี๋หมินหมิ่นโทรเข้ามานั่นแหละ
ทันทีที่หลินเช่อรับสาย เธอก็ได้ยินเสียงอวี๋หมินหมิ่นยิงคำถามเข้าใส่ทันที [หลินเช่อ เกิดอะไรขึ้นน่ะ เธอคบกับกู้จิ้งอวี่เหรอ]
“ใครคบกับใครนะคะ” หลินเจิ๋อจับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
[กู้จิ้งอวี่โพสต์ลงในเวยป๋อ เธอไม่เห็นหรือไง]
แน่ละว่าเธอไม่เห็น
[ทุกคนกำลังคลั่งกันใหญ่แล้ว ดูที่เขาพิมพ์สิ มันเหมือนกับเขากำลังประกาศความสัมพันธ์กับเธอแล้วก็บอกทุกคนให้เลิกยุ่งกับเธอซะที ฉันว่า…]
หลินเช่อรีบบอก “ขอฉันดูก่อนนะคะ…”
เธอรีบวางสาย แล้วเปิดดูเวยป๋อของกู้จิ้งอวี่ทันที
นั่นไงล่ะ เธอเห็นข้อความยาวเหยียดที่เพิ่งโพสต์ไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
เขาเขียนว่า [ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ผมเป็นคนที่ทำงานหนักและทุ่มเทอย่างสุดตัวเสมอ ผมกลัวที่จะทำให้แฟนๆ ของผม บริษัทของผม เพื่อนและครอบครัวทุกคนที่คอยสนับสนุนผมต้องผิดหวัง ผมไม่เคยเลยที่จะใช้ชีวิตเพื่อตัวผมเอง แต่ตอนนี้ผมปรารถนาที่จะได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง และด้วยเหตุนี้ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะช่วยเป็นกำลังใจให้เรา…]
หลินเช่อเลื่อนลงมาอ่านคอมเมนต์ด้านล่างของโพสต์ต่อในทันที
บางคนที่เข้ามาอ่านก็พิมพ์ว่า [กู้จิ้งอวี่ผู้น่าสงสาร เรามาช่วยเป็นกำลังใจให้เขากันเถอะนะ]
[การได้เห็นจิ้งอวี่ต้องทรมานใจแบบนี้ทำให้ฉันหัวใจสลายมาก ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง ฉันก็จะเชื่อใจและสนับสนุนคุณเสมอค่ะ]
[ดาราก็เป็นคนเหมือนเรานะ พวกเขาก็ต้องการความเป็นส่วนตัวเหมือนกัน เราจะติดตามผลงานของคุณต่อไปตราบใดที่คุณยังทำได้ดี ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะอยู่กับใคร เราก็จะสนับสนุนคุณเสมอค่ะ]
หลินเช่อรู้สึกเหมือนจะคลั่งให้ได้
ทั้งเว็บไซต์ข่าวซุบซิบและเวยป๋อต่างก็ตีพิมพ์ข่าวที่ว่านี้และบอกว่า [ข้อความของกู้จิ้งอวี่กำลังบอกใบ้ถึงการประกาศความสัมพันธ์ระหว่างเขาและนักแสดงสาวหลินเช่อ]
งานหมั้นของหลินลี่ที่เมื่อครู่ยังได้รับการพูดถึงเต็มไปหมดถูกข่าวใหญ่นี้ผลักจนลงไปอยู่เกือบตอนท้ายของหน้าเว็บแล้ว
หน้าผากของหลินเช่อย่นเป็นรอยอย่างท้อแท้ เธอรู้สึกสิ้นหวังจริงๆ
หลินเช่อเลิกอ่านคอมเมนต์ในเวยป๋อเมื่อได้เห็นข้อความแสดงความเกลียดชัง แม้ว่าแฟนๆ ส่วนใหญ่จะพูดถึงเธออย่างสุภาพเพราะกู้จิ้งอวี่ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ตั้งตารอให้เขาทิ้งเธอซะ
นี่เธอไม่ได้คบกับเขาด้วยซ้ำ เธอจะถูกเขาทิ้งได้ยังไงกันยะ
วันต่อมา หลินเช่อรีบพุ่งเข้าไปที่บริษัท
อวี๋หมินหมิ่นมองดูเธอแล้วพูดว่า “ตอนนี้เธอไม่ต้องทำอะไรแล้วละ ทางบริษัทเราจัดการทุกอย่างแล้ว ตอนนี้เธอควรจะอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไรเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เรื่องยุ่งหนักกว่าเก่า”
หลินเช่อตอบเบาๆ “ฉันเองก็ไม่มีอะไรจะพูดหรอกค่ะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะพูดอะไรได้ มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ นี่กู้จิ้งอวี่เขาพยายามจะกำจัดฉันหรือยังไงคะเนี่ย”
อวี๋หมินหมิ่นนึกกังวลว่าอีกฝ่ายจะยอมรับว่าเป็นฝ่ายสร้างเรื่องนี้ขึ้นเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งนั่นจะทำให้เรื่องยิ่งแย่ลงไปอีก
ดาราหน้าใหม่ที่เริ่มจะมีชื่อเสียงทั้งหลายมักเจอกับปัญหานี้ด้วยกันทั้งนั้น พวกเขาอยากจะโด่งดังแบบชั่วข้ามคืน และทันทีที่มีโอกาสจะได้เป็นข่าว พวกเขาก็จะยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียง ไม่จะด้วยวิธีการที่ฉ้อฉลหรือแยบยลยังไงก็ตาม
แต่ดูเหมือนว่าหลินเช่อจะไม่ได้มีความตั้งใจเช่นนั้น เธอดูไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจริงๆ อวี๋หมินหมิ่นเชื่อว่าหญิงสาวไม่ได้มีส่วนรู้เห็นใดในเรื่องนี้
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่มีอะไรให้ต้องกังวล อวี๋หมินหมิ่นยิ้มให้หลินเช่ออย่างสบายใจ “มันเป็นเรื่องดีออกนี่ เห็นมั้ย ทุกคนต่างก็สนับสนุนเธอกับกู้จิ้งอวี่กันทั้งนั้น”
“ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือระหว่างเรามันไม่มีอะไรทั้งนั้นค่ะ แล้วนี่พวกเขาจะมาสนับสนุนเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกัน”
อวี๋หมินหมิ่นคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าช่างใสซื่อเสียนี่กระไร เจ้าหล่อนไม่มีเจตนาแอบซ่อนใดๆ ทั้งสิ้น
อวี๋หมินหมิ่นนึกชื่นชมหลินเช่อมากขึ้นไปอีก เธอลูบไหล่หญิงสาวแล้วปลอบว่า “กู้จิ้งอวี่อาจจะช่วยเธออยู่ก็ได้นะ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับกู้จิ้งอวี่ล้วนรับรองได้ว่าจะต้องกลายเป็นข่าวดังระเบิดทั้งนั้น ลองดูสิ่งที่เกิดขึ้นในงานหมั้นของหลินลี่สิ มันกลายเป็นข่าวพาดหัวก็จริง แต่สุดท้ายก็ตกกระป๋องไปทันที เงินทองที่ทุ่มเทจัดงานลงไปจมหายไปหมดเลย ฉันว่าตอนนี้หลินลี่น่าจะแทบอยากกระอักเลือดแล้ว”
หลินเช่อถอนใจ เธอไม่มีประสบการณ์ในการรับมือกับข่าวอื้อฉาวแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นเธอควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัทจะดีกว่า
นักแสดงโนเนมสองสามคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันมองดูอวี๋หมินหมิ่นที่เดินพาหลินเช่อออกไปส่งยังหน้าประตูด้วยสายตาแสดงความชิงชัง
“ใครจะไปคิดล่ะว่าหล่อนจะดังได้อย่างนี้”
“ช่าย ดูเหมือนตอนนี้หล่อนจะกลายเป็นคนสำคัญของบริษัทไปซะแล้ว”
“นี่กู้จิ้งอวี่เขามองเห็นอะไรในตัวหล่อนกันนะ”
“บางทีมันก็ต้องดิ้นรนกันเพื่อให้อยู่รอดแหละเนอะ” ทุกคนต่างพากันซุบซิบนินทาด้วยเจตนาอันร้ายกาจ