เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 157 เรื่องน่าอาย

หลินเช่อครวญคราง เธอรู้สึกได้ถึงคลื่นความยวนเย้าอันผ่าวร้อนที่ทำให้ร่างทั้งร่างของเธอสั่นระริก ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นเข้าสู่ศีรษะและซัดสาดผ่านลงไปตลอดทั่วร่าง ทั้งหัวใจและร่างกายไหวโยน เนื้อตัวเกร็งเขม็ง
 
 
ขณะที่กู้จิ้งเจ๋อสวมกอดเธอ หลินเช่อสัมผัสได้ถึงความระอุที่ผุดอยู่ทั่วร่างใหญ่ มือเธอยกทาบกับแผงอกกว้างที่ร้อนผ่าวไม่แพ้ร่างกายส่วนอื่น และมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเธอคือตุ๊กตาตัวน้อยที่แสนจะเปราะบาง เธอไม่กล้าแตะต้องส่วนอื่นของเขา และไม่กล้าที่จะใช้กำลังผลักไสเขาออกไปด้วย
 
 
กู้จิ้งเจ๋อกดจูบหนักหน่วงขึ้นทุกที ราวกับว่าเขาอยากจะดูดกลืนจิตวิญญาณและทุกอย่างของเธอออกไปจากเนื้อตัวเธอกระนั้น
 
 
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอ เขายังต้องการอีก เหมือนเสือดาวกระหายเลือด เขาขบกัดริมฝีปากเธอโดยแรง
 
 
หลินเช่อครางแผ่วเบาด้วยความเจ็บ
 
 
เลือดสดๆ ไหลปรี่ออกมา รสขมปร่านั้นดูจะยิ่งทำให้เขาคลั่งหนักขึ้นไปอีก
 
 
เขาพลิกตัว และกดร่างเธอลงกับผ้าห่ม
 
 
เขาคว้ามือเธอไว้และกดตรึงลงที่สองฝั่งข้างลำตัว
 
 
นิ้วเรียวยาวของเขาประสานกระชับแน่นเข้ากับนิ้วเธอ ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจัดนั้นจะละจากปากเธอและขยับต่ำลง
 
 
หลินเช่อรู้สึกถึงเนื้อตัวที่เกร็งเขม็งขึ้นทันควัน เธอบีบมือเขาแน่นเข้าอีก ทั้งตื่นตระหนกและหวาดหวั่น แต่ทุกครั้งที่เขาประทับจุมพิตลงมา เธอก็หลุดลอยไปไกลครั้งแล้วครั้งเล่า
 
 
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกของเธอ แต่มันก็ยังคงเจ็บไม่น้อย
 
 
ในครั้งแรกนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด เมื่อเธอมานึกย้อนดูในตอนนี้ หลินเช่อก็ยังรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ดูเหมือนฝัน
 
 
แต่ครั้งนี้ การเคลื่อนไหวทุกอย่างดูจะชัดเจนอย่างน่าประหลาด
 
 
ผ่านมานานมากแล้ว นับจากครั้งแรกของเขาและเธอ ทำให้ครั้งนี้หลินเช่อรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังได้สัมผัสประสบการณ์นี้อีกครั้ง ร่างกายของหญิงสาวจึงเจ็บร้าวไปด้วยความเร่าร้อนที่เขามอบให้
 
 
กู้จิ้งเจ๋อปล่อยมือจากหลินเช่อและนอนลง หอบหายใจแรงอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะหันศีรษะไปมองดูร่องรอยรักที่เขาได้ฝากเอาไว้ทั่วตัวเธอ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเป็นเพราะพิษไข้หรือเพราะใบหน้าของเขาแดงก่ำเช่นนี้เอง แต่ตอนนี้เขารู้สึกราวกับตัวเองคือท่อนเหล็กที่ถูกเผาไฟจนร้อนจัด
 
 
เขาหันไปบอกเธอว่า “อืม…ไปอาบน้ำกันเถอะ”
 
 
หลิอเช่อที่นอนนิ่งไม่ไหวติง พลิกตัวหันหนีไปอีกฝั่งหนึ่งอย่างขัดเขิน “ฉันไม่อยากนี่คะ…”
 
 
เมื่อไม่มีทางอื่น กู้จิ้งเจ๋อจึงยันตัวลุกขึ้นและลูบเธออย่างเบามือ แต่หลินเช่อก็ยังคงไม่ยอมขยับตัวอยู่นั่นเอง เขาจึงบอกว่า “ฉันจะช่วยเอง” แล้วก็รวบร่างของเธอไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงอย่างรวดเร็ว
 
 
หลินเช่อร้อง หญิงสาวยังคงรู้สึกได้ถึงความผ่าวร้อนจากร่างกายของเขา แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะเริ่มทุเลาลงบ้างแล้ว
 
 
เหลือแต่เพียงคราบเหงื่อเหนียวเหนอะบนผิวที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว
 
 
กู้จิ้งเจ๋อจึงพูดว่า “ถ้าไม่อาบน้ำก็ต้องนอนเหนียวตัวอยู่อย่างนี้แหละ มาเถอะ”
 
 
หลินเช่อยังคงไม่ขยับ แต่ก็รู้สึกได้ว่าร่างของตัวเองถูกหย่อนลงในอ่างอาบน้ำ อุณหภูมิของน้ำที่ชะพรมลงบนร่างให้ความรู้สึกแสนสบาย และก็ทำให้สติของเธอกลับคืนมาจนผวาลืมตาตื่นขึ้น หน้าของเธอแดงก่ำเมื่อมองเห็นกู้จิ้งเจ๋อ
 
 
“ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวฉันอาบเอง”
 
 
แต่ชายหนุ่มขมวดคิ้วและบอกว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันทำเอง อย่าขยับสิ”
 
 
เขาพูดพลางประคองเธอให้หย่อนตัวลงในน้ำ และเริ่มขัดถูเนื้อตัวเธออย่างเบามือและพิถีพิถัน
 
 
หลินเช่อไม่กล้ามองหน้าคนช่วยอาบน้ำแม้แต่น้อย เธอหันหนีและยกมือขึ้นปิดหน้า หลังจากความทุลักทุเลพอสมควร เขาก็อาบน้ำเธอจนเสร็จเรียบร้อย กู้จิ้งเจ๋อหันไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำทางด้านหลังมาคลี่ห่มร่างให้ ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นและพากลับไปยังเตียงนอน
 
 
หลินเช่อรู้สึกได้ว่ากู้จิ้งเจ๋อเดินกลับเข้าไปที่ห้องน้ำ เขาคงจะกลับไปอาบน้ำบ้างละมัง เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็ดึงเสื้อคลุมอาบน้ำให้กระชับตัวมากขึ้น ใบหน้าของเธอตอนนี้ร้อนผ่าวมากเสียจนเธอคิดว่าจะตายเสียให้ได้
 
 
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ได้ แต่กู้จิ้งเจ๋อก็ยังคงไม่กลับออกมา หลินเช่อนอนคุดคู้อยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำ หญิงสาวรู้สึกว่าเธอไม่ยักได้ยินเสียงใดๆ ดังออกมาจากห้องน้ำเลยนอกจากเสียงน้ำที่ไหลอยู่ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่า มีบางอย่างไม่ปกติเสียแล้ว เธอรีบพลิกตัวลุกขึ้นทันที เมื่อจัดแจงเสื้อคลุมจนแน่นหนาดีแล้ว หญิงสาวก็รีบตรงไปยังห้องน้ำ
 
 
“กู้จิ้งเจ๋อ ยังอาบน้ำไม่เสร็จอีกเหรอคะ” เธอเคาะประตูห้องน้ำ แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบ อารามตกใจ หญิงสาวรีบดึงประตูเปิดทันที
 
 
แล้วเธอก็ได้เห็นร่างใหญ่ล้มฟุบอยู่กับพื้นห้องน้ำ
 
 
หลินเช่อตกใจสุดขีด เธอรีบวิ่งเข้าไปดึงร่างนั้นขึ้นมา
 
 
“กู้จิ้งเจ๋อ กู้จิ้งเจ๋อ ตื่นเถอะค่ะ…”
 
 
นี่เขาอาการหนักขนาดนี้ แล้วเมื่อกี้ยังจะมีแรงอุ้มเธอเข้าไปอาบน้ำได้ยังไงกันนะ
 
 
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาทำให้เมื่อครู่ก่อน หลินเช่อก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ หญิงสาวสลัดความคิดถึงเหตุการณ์น่าอายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทิ้งไป ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ คงไม่สะดวกนักที่เธอจะร้องขอความช่วยเหลือจากใคร สิ่งที่เธอทำได้ก็คือพยายามพยุงร่างเขากลับไปที่เตียงนอน หลังจากพยายามอย่างหนักหน่วง ในที่สุดหลินเช่อก็ย้ายร่างสูงใหญ่นั้นกลับมาไว้บนเตียงได้สำเร็จ เธอจัดแจงสวมชุดนอนให้เขาเป็นที่เรียบร้อย ห่มผ้าให้ กว่าทุกอย่างจะเสร็จ หลินเช่อก็เหงื่อท่วมร่าง เมื่อยกมือขึ้นแตะหน้าผาก เธอก็ต้องตกใจที่อาการไข้ของชายหนุ่มเริ่มกลับมาสูงอีกครั้ง นั่นทำให้หลินเช่อเริ่มทำอะไรไม่ถูกอีกแล้ว
 
 
หลินเช่อนำห่อน้ำแข็งมาวางประคบหน้าผากให้เขา ก่อนจะใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามแขน รักแร้และหน้าอกเพื่อลดไข้ หญิงสาวมุ่งมั่นเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กู้จิ้งเจ๋อโดยไม่หยุดพัก จนกระทั่งเฉินอวี่เฉิงมาถึง
 
 
เมื่อนายแพทย์เคาะประตูห้องและเปิดเข้ามา หลินเช่อก็รีบวิ่งไปหา “คุณหมอเฉิน มาเร็วเถอะค่ะ มาช่วยดูหน่อยแล้วบอกฉันทีว่าจะต้องทำยังไง”
 
 
เฉินอวี่เฉิงเดินมาที่เตียงและสำรวจดูสภาพของคนป่วย เขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่ากู้จิ้งเจ๋อจะไข้ขึ้นสูงถึงขนาดนี้
 
 
“ไม่มีทาง ทำไมอยู่ๆ ไข้เขาถึงขึ้นสูงขึ้นมาได้ล่ะ เขาไม่ได้กินยาเหรอ”
 
 
“กินค่ะ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร”
 
 
เฉินอวี่เฉิงเก็บตัวอย่างเลือดจากคนป่วย ก่อนจะแทงเข็มเพื่อให้น้ำเกลือ
 
 
เมื่อเขามองเห็นห่อน้ำแข็งและผ้าเช็ดตัวที่หลินเช่อวางทิ้งไว้ข้างเตียง นายแพทย์ก็ยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณนายกู้จะดูแลเขาเป็นอย่างดีทีเดียวนะครับ”
 
 
หลินเช่อชะงักก่อนจะแหวใส่ว่า “ดูแลดีอะไรกันละคะ ถ้าคุณยังไม่มาอีก ฉันคงจะต้องช็อกตายแน่ๆ เลย”
 
 
“ผมก็แค่อยากเปิดโอกาสให้คุณผู้หญิงได้แสดงฝีมือบ้างเท่านั้น”
 
 
“ถ้ายังปล่อยให้ฉันดูแลเขาต่ออีกนิดเดียว กู้จิ้งเจ๋อคงต้องตายแน่ค่ะ”
 
 
เฉินอวี่เฉิงจัดแจงเก็บอุปกรณ์ข้าวของและเดินออกจากห้อง “ผมจะรออยู่ข้างนอกนี่นะครับ ถ้ามีปัญหาอะไรก็เรียกได้ตลอดเวลา”
 
 
หลินเช่อพยักหน้าและหันกลับมาที่คนบนเตียงนอน ยังไม่ค่อยรู้สึกคลายความเป็นห่วงลงเท่าใดนัก
 
 
เมื่อผู้เป็นหมอออกจากห้องไป หลินเช่อก็นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงเพื่อคอยดูแลเขาอย่างไม่ยอมให้คลาดสายตา
 
 
นานๆ ทีก็จะเข้าไปตรวจดูอาการไข้บ้างว่าดีขึ้นหรือไม่
 
 
ท้องฟ้าภายนอกค่อยๆ ส่องแสงสว่างรำไร
 
 
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อตื่นขึ้น ก็ได้พบหลินเช่อที่นั่งซบหน้าอยู่ข้างเตียง อันดูเป็นท่านอนที่ไม่น่าจะสบายเอาเลย
 
 
เมื่อชายหนุ่มขยับตัว คนเฝ้าไข้ก็สะดุ้งตื่นทันควัน
 
 
“เป็นยังไงบ้างคะ คุณเป็นยังไงบ้าง” เมื่อเห็นเขาฟื้นขึ้นมา หลินเช่อก็รีบโผเข้าหาด้วยความห่วงใย “กู้จิ้งเจ๋อ คุณเป็นยังไงบ้าง รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ”
 
 
ชายหนุ่มนิ่วหน้าและหันมองเธอ “นี่เธอนอนก้มอยู่ตรงนี้ทั้งคืนเลยเหรอ”
 
 
“ใช่ค่ะ…” หลินเช่อยกมือขึ้นเช็ดปากเพราะนึกว่าตัวเองมีคราบน้ำลายไหลย้อยจากการนอนคว่ำหน้ามาตลอดคืน แต่ก็ไม่พบว่ามีอะไรเลอะเทอะอย่างที่คิด
 
 
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วหนักขึ้นอีกเมื่อเห็นกิริยาดังกล่าวของหลินเช่อ ก่อนจะส่ายหน้าและไม่พูดอะไร
 
 
หลังจากที่กู้จิ้งเจ๋อตื่นขึ้น เฉินอวี่เฉิงก็รีบเข้ามาตรวจร่างกาย

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset