เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 173 ถ้าไม่ห่วงเธอแล้วจะให้ฉันห่วงใคร

ในความมืดของยามราตรี กู้จิ้งเจ๋อก้มหน้ามองดูหลินเช่อ ไหล่ของเขาสั่นไหวเล็กน้อย ไหล่เล็กบอบบางของเธอทำให้เขารู้สึกถึงความบอบบางที่อยากจะดูแลปกป้อง  
 
 
หัวใจเขาเจ็บจี๊ดและสับสนว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี เขามองหน้าเธอ “หลินเช่อ บอกฉันหน่อยสิ ว่าเธอเป็นอะไรไป”  
 
 
แม้ว่าชายหนุ่มจะขยับเข้ามาจนใกล้แต่หลินเช่อก็ไม่ยอมให้เขาเข้ามาประชิดตัว “ฉันก็แค่ไม่ชอบคุณเอามากๆ ก็เท่านั้น ไม่ได้หรือไงคะ”  
 
 
“เธอไม่ชอบฉันเหรอ” เขามองเธออย่างประหลาดใจ “ทำไมเธอถึงไม่ชอบฉันล่ะ”  
 
 
“ไม่มีเหตุผล ฉันก็แค่ไม่ชอบเวลาที่ฉันมองหน้าคุณ!” ผู้ชายคนนี้จะช่างซักไซ้ไปถึงไหนกันนะ  
 
 
หลินเช่อก็แค่เกลียดที่เขาไม่ยอมหนีหายไปไหนเวลาที่เธออาละวาดเหวี่ยงใส่เขาแบบนี้ ทำไมเขาถึงยังยืนอยู่ตรงนี้อีกนะ ทั้งที่เธอก็พูดไปตั้งมากแล้ว  
 
 
ขณะที่ยืนจับมือเธอไว้ ดวงตาดำสนิทของเขาก็ปรากฏแววของความห่วงใยมากมายสะท้อนอยู่ในนั้น สายตาของเขาเหมือนเปลวไฟที่ราวกับจะเผาเธอให้แหลกลาญลงยามจับจ้องมองมา  
 
 
หลินเช่อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำตัวคนเห็นแก่ได้ เพราะยิ่งเขาเข้ามาใกล้ชิดเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งต้องการจากเขามากขึ้นเท่านั้น จะว่าไปเธอก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากโม่ฮุ่ยหลิงเลยสักนิด ทั้งเธอและโม่ฮุ่ยหลิงต่างก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน อยากเป็นเจ้าของผู้ชายคนนี้แต่เพียงผู้เดียวเหมือนกัน ต้องการเป็นผู้ได้รับความห่วงใยสนใจทั้งหมดจากเขาแต่เพียงผู้เดียว แทนที่จะเป็นเพียงส่วนน้อยนิดที่ได้รับ  
 
 
และตอนนี้เธอกำลังทุรนทุรายอยากฉกฉวยเอาความห่วงใยที่เขามีไว้ให้กับโม่ฮุ่ยหลิงมาเป็นของตัวเอง  
 
 
คงเป็นเพราะเธอไม่เคยได้รับความเอาใจใส่จากใครมาก่อน ดังนั้นแค่กู้จิ้งเจ๋อทำดีกับเธอเพียงนิดหน่อย เธอก็ไม่อาจต้านทานได้เสียแล้ว  
 
 
ทั้งที่ความจริงแล้ว ความเอาใจใส่นั้นอาจเกิดจากความเป็นสุภาพบุรุษของเขาเพียงเท่านั้นก็ได้  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อคว้าเธอไว้แน่น เขาจับแขนเธอแน่นเข้าและแน่นเข้าทุกที โดยไม่ยอมที่จะคลายลงแม้แต่ น้อย “หลินเช่อ นี่เธอเป็นอะไรกันแน่! สีหน้าเธอดูไม่ดีเลย นี่เธอป่วยหนักหรือเปล่า”  
 
 
“เปล่า ฉันแค่ขอให้คุณช่วยเลิกยุ่งกับฉันซะที!” หลินเช่อพูดด้วยน้ำเสียงอันสั่นระริก  
 
 
ชายหนุ่มมองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ความเจ็บปวดที่ปรากฏชัดในดวงตาของเขา ทำให้หัวใจเธอรู้สึกเหมือนถูกบิด เขาฉวยข้อมือเธอไว้แน่น “เธอเป็นภรรยาของฉัน ถ้าฉันไม่ห่วงเธอแล้วจะให้ฉันไปห่วงใครกันล่ะ”  
 
 
หลินเช่อตกตะลึง เธอมองดูดวงตาแน่วแน่ของอีกฝ่าย ความรู้สึกอ่อนหวานเริ่มเอ่อล้นเต็มตื้นขึ้นในอก  
 
 
ใช่ เธอเป็นภรรยาของเขา  
 
 
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่ใช่คนรักของเขาอยู่ดีนั่นเอง  
 
 
“ฉันเป็นภรรยาที่ยังไงซะคุณก็จะหย่าด้วย” เธอพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อสบตาเธอโดยไม่หวั่นเกรง สายตาลึกซึ้งไร้ก้นบึ้งของเขาดูราวกับอสูรที่กำลังหลับใหล มันจดจ้อง แน่วแน่ ไม่ไหวติง “แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เธอก็ยังเป็นภรรยาของฉันอยู่ดี”  
 
 
หลินเช่อพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ เธออ้าปากค้างมองเขา และในทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกได้ว่าหลุดลอยเข้าไปหาเขาเสียแล้ว เหมือนมดตัวน้อยที่ถูกดึงดูดเข้าไปโดยไม่สามารถต้านทานหรือขัดขืน  
 
 
ผู้ชายแบบนี้…  
 
 
จะมีใครปฏิเสธเขาได้  
 
 
จะมีใครต้านทานเขาได้  
 
 
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมโม่ฮุ่ยหลิงถึงได้หลงรักเขามากมายจนถึงขนาดยอมสละชีวิตอย่างง่ายดายเพราะความรักที่เธอมีต่อเขา  
 
 
คงจะมีแต่ผู้หญิงที่ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักเท่านั้นแหละที่จะไม่เชื่อเรื่องแบบนี้  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อเป็นผู้ชายที่สามารถกุมหัวใจผู้อื่นได้อย่างง่ายดายโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม  
 
 
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ อีกความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวหลินเช่อทันที ใช่สิ ครั้งหนึ่งเขาเองก็คงจะเคยดีกับโม่ฮุ่ยหลิงเหมือนกับที่ดีกับเธอในตอนนี้เหมือนกันนั่นแหละ  
 
 
หลินเช่อเรียกสติตัวเองกลับคืนมาได้อีกครั้ง เธอก้มหน้าแล้วบอกว่า “แต่ฉันก็ยังไม่อยากให้คุณมาคอยห่วงใยอยู่ดีนั่นแหละค่ะ”  
 
 
“ทำไมล่ะ”  
 
 
“คุณไม่ควรจะมาห่วงใยฉันมากขนาดนี้เลยค่ะ” เธอมองหน้าเขา  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยิ่งสับสนหนัก “ทำไมฉันถึงไม่ควรล่ะ ที่เธอไม่อยากเจอหน้าฉันเพราะว่าฉันเป็นห่วงเธอมากเกินไปน่ะเหรอ แล้วฉันผิดตรงไหนที่เป็นห่วงเธอ มีใครบ้างที่ไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วงตัวเองน่ะ”  
 
 
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนแปลกๆ แบบนี้เอง ก็ถ้าคุณคิดว่าฉันไม่ดีละ ก็เชิญกลับไปหาโม่ฮุ่ยหลิงได้เลย เธอคงไม่ทำตัวเป็นคนเจ้าปัญหาแบบฉันหรอก”  
 
 
ขณะที่พูด หลินเช่อก็บุ้ยปากและหันหน้าหนี แม้เจ้าตัวจะไม่ได้ตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น แต่คำพูดที่ออกมาก็บ่งบอกถึงร่องรอยแห่งความหึงหวงได้อย่างชัดเจน ชัดเจนเสียจนไม่มีอะไรจะชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้วเสียด้วยสิ  
 
 
จะมีก็แต่คนพูดนั่นแหละที่ยังไม่รู้ตัว  
 
 
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเช่อ ชายหนุ่มก็คิดทบทวนดูอย่างถี่ถ้วน ตอนที่เขาคบหากับโม่ฮุ่ยหลิงนั้น มันก็ไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรมากมายอย่างที่หลินเช่อว่าจริงๆ นั่นแหละ  
 
 
“ก็จริงนะ ที่ว่าฮุ่ยหลิงไม่เคยทำให้ฉันต้องเป็นห่วงเหมือนเธอเลย”  
 
 
“คุณ…” หลินเช่อโกรธเสียจนหน้าเบี้ยว เธอผลักเขาออกไปและพูดว่า “งั้นก็กลับไปเฝ้าเขาโน่นสิ ไม่ต้องมาวุ่นวายตามหาฉัน!”  
 
 
เห็นได้ชัดว่าหลินเช่อกำลังทำตัวเหมือนเกกมะเหรกเกเรเหมือนเด็กจนชายหนุ่มเกือบจะหัวเราะออกมา ที่ได้เห็นว่าเธอพูดอย่างแต่กลับรู้สึกอีกอย่าง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรทำตัวยังไง เธอบอกว่าอยากให้เขาไปให้พ้น แต่สีหน้ากลับบอกอยู่ชัดๆ ว่าไม่เต็มใจ  
 
 
แบบนี้ยังจะเรียกตัวเองว่าเป็นนักแสดงอาชีพได้ยังไงกัน  
 
 
“นี่ แต่ถึงยังไงฉันก็มาแล้วนะ” กู้จิ้งเจ๋อห้ามเธอไว้แล้วพูดว่า “ฉันอุตส่าห์มาตั้งไกล เธอไม่รู้สึกแย่บ้างหรือไงที่มาไล่ฉันให้ไปให้พ้นน่ะ”  
 
 
“ก็คุณพูดเองไม่ใช่เหรอคะ ว่าฉันมันไม่มีอะไรดีน่ะ ถ้าอย่างงั้นยังจะอยู่ทำไมอีกล่ะคะ กู้จิ้งเจ๋อ” ดวงตาเธอวาววับเมื่อหันมามองเขา “คุณรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่เหรอว่าฉันมีข้อเสียเต็มไปหมดน่ะ”  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อใคร่ครวญถึงข้อนี้อีกครั้งและตอบว่า “ก็จริงอยู่นะที่ว่าเธอมีข้อเสียเต็มไปหมดน่ะ”  
 
 
“ว่าไงนะ!” หลินเช่อตะโกนลั่น  
 
 
แต่กู้จิ้งเจ๋อกลับเริ่มจาระไนรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเธอให้ชัดแจ้งลงไปอีกว่า “ยกตัวอย่างเช่น เธอทั้งซุ่มซ่ามแล้วก็ไร้ระเบียบ เธอนอนดิ้น ท่านอนของเธอก็น่าเกลียดอีกต่างหาก เธอน้ำลายยืด ชอบใช้มือหยิบอาหารกิน เคี้ยวอาหารก็เสียงดัง พูดจากระโชกโฮกฮาก สบถก็บ่อย ชอบเม้ามอย เธอเป็นคนไม่สุภาพนุ่มนวล แล้วก็ไม่ใช่คนเงียบสงบอีกต่างหาก…”  
 
 
หน้าของหลินเช่อบึ้งหนักขึ้นและหนักขึ้น เธอถลึงตาใส่เขา แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อาจแก้ตัวได้เช่นกัน  
 
 
เมื่อลองคิดดูแล้ว ข้อเสียทั้งหมดที่ว่ามานี่…ดูจะเป็นของเธอทั้งหมดจริงๆ เสียด้วย  
 
 
“ก็ถ้าฉันมีข้อเสียมากขนาดนี้ …แล้วทำไมคุณถึงยังไม่ไปอีกล่ะ ไปเลยไป ไป๊ ไม่ต้องมาอยู่กวนประสาทฉันเลยนะ” หลินเช่อโกรธเสียจนยื่นแขนออกไปผลักเขาเป็นพัลวัน  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มกว้างและหันกลับมาคว้าแขนเอาไว้ “เอาละๆ ก็เธอเป็นคนบอกให้ฉันพูดเองนี่ ฉันก็พูดแล้ว ยังจะมาตีฉันทำไมอีก”  
 
 
“คุณ…” หลินเช่อหน้าแดง ผู้ชายคนนี้ไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงบ้างเลยรึไงนะ เธอไม่รู้จริงๆ ว่าโม่ฮุ่ยหลิงทนคนโง่ทึ่มอย่างเขาได้ยังไงตั้งหลายปี  
 
 
“ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นคนเจ้าปัญหาจริงๆ ละก็ งั้นคุณก็ควรจะรีบไปได้แล้วมั้ยละ ยังจะมัวรออะไรอยู่อีก”  
 
 
“ฉันพูดถึงข้อเสียของเธอก็จริง แต่…ฉันก็ชินเสียแล้วนี่นา”  
 
 
เมื่อหลินเช่อได้ยินเช่นนั้น เธอก็ชะงักเล็กน้อย และเหลือบตาดูสีหน้าเขา  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มน้อยๆ เมื่อได้เห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของหลินเช่อที่เขาไม่ค่อยจะมีโอกาสได้เห็นบ่อยนัก จะว่าไปเขาก็ชอบที่จะได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของเธอ  
 
 
เมื่อคิดดูแล้ว กู้จิ้งเจ๋อก็รู้สึกว่ามันน่าประหลาดสิ้นดี ในเมื่อหลินเช่อมีข้อเสียมากมายเต็มไปหมดออกอย่างนี้ แต่ทำไมเขากลับเริ่มที่จะรู้สึกดีที่เธอเป็นคนแบบนี้กันนะ  
 
 
นี่คือหลินเช่อตัวจริง ถ้าวันหนึ่งเธอกลายเป็นกุลสตรีผู้ดีที่สุภาพอ่อนโยนขึ้นมา ไม่ได้เป็นแม่สาวจอมแผดเสียงเหมือนที่เป็นอยู่นี้ เขาก็คงรู้สึกอึดอัดพิลึก  
 
 
เมื่อเห็นว่าหลินเช่อนิ่งไป เขาก็อาศัยจังหวะนี้โอบเอวเธอไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง  
 
 
หลินเช่อนิ่งไป ก่อนที่จะเริ่มดิ้นรนหนีให้พ้นจากอ้อมกอด  
 
 
แต่เขากอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อย “อย่าดิ้นสิ อย่าดิ้น ฉันท้าให้เธอลองผลักฉันอีกทีดูสิ แล้วมาดูกันว่าฉันจะลงโทษเธอยังไง”  
 
 
“อะไรนะ…กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณกำลังจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ ฉันมันมีแต่ข้อเสีย แล้วทำไมคุณถึงไม่ไปซะแล้วกลับไปหาโม่ฮุ่ยหลิงล่ะ เร็วเข้า ปล่อยฉันสิ!”  
 
 
ชายหนุ่มก้มหน้าลงมามองหน้าเธอ ใบหน้าของหลินเช่อแดงก่ำ “หลินเช่อ…เธอหึงฉันงั้นเหรอ”  

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset