เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 176 ถ้างั้นพวกเธอก็เป็นแฟนกันจริงๆ ใช่มั้ย

“แฟนเธอเหรอจ๊ะ” ฉินหวานหว่านถามช้าๆ “อย่าห่วงไปเลยน่า ฉันไม่บอกใครหรอก ในวงการเรา อะไรที่รู้ๆ กันอยู่น่ะเราไม่เอาไปบอกนักข่าวหรอก ไม่อย่างงั้นข่าวที่ว่าฉันได้ยินเสียงผู้ชายรับสายโทรศัพท์แทนเธอได้กลายเป็นพาดหัวข่าววันนี้ไปแล้ว”  
 
 
นั่นสินะ  หลินเช่อคิดๆ ดูแล้วก็เห็นเป็นจริงตามนั้น อีกอย่างในเมื่อฉินหวานหว่านได้ยินเสียงแล้วก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังหล่อนอีก  
 
 
“ก็ประมาณนั้นแหละจ้ะ…”  
 
 
“ตายจริง นี่เธอมีแฟนจริงๆ เหรอจ๊ะเนี่ย แหม ปิดซะเงียบเชียบเลยนะ เมื่อไหร่จะพามาแนะนำให้พวกเรารู้จักกันบ้างล่ะ”  
 
 
หลินเช่อทำได้เพียงบอกว่า “เอาไว้มีโอกาสก็แล้วกันนะ” แต่ความจริงในใจ สิ่งที่หญิงสาวคิดก็คือถ้าเธอคิดจะพากู้จิ้งเจ๋อมาแนะนำให้ใครรู้จัก เธอก็คงจะเป็นบ้าไปก่อนแล้วล่ะ  
 
 
ทันใดนั้นเสียงกรี๊ดเชียร์ก็ดังมาจากด้านนอก หลินเช่อเอ่ยขึ้นว่า “ไม่รู้ดาราใหญ่คนไหนมานะ”  
 
 
วันนี้มีนักแสดงระดับซุปเปอร์สตาร์มาร่วมงานมากมายหลายคน เสียงกรี๊ดที่ดังเข้ามาเป็นระยะๆ ทำเอาหญิงสาวอดอิจฉาไม่ได้  
 
 
แต่เมื่อบุคคลสำคัญดังกล่าวเปิดประตูเข้ามา ก็ได้เห็นว่าเป็นกู้จิ้ิ้งอวี่นั่นเอง  
 
 
เมื่อได้เห็นว่าเป็นเขา หญิงสาวทั้งสองก็ไม่แปลกใจอีกต่อไปกับเสียงดังสนั่นที่ได้ยิน  
 
 
ฉินหวานหว่านยิ้มและพูดว่า “พวกเราได้ยินเสียงแฟนๆ คุณเชียร์ดังมาแต่ไกลเชียวค่ะ”  
 
 
“งั้นเหรอ” กู้จิ้ิ้งอวี่ยิ้มแล้วเดินมายืนข้างหลินเช่อ ก่อนจะทักขึ้นว่า “ทำไมเธอถึงได้ดูซีดเซียวอย่างนี้ล่ะ”  
 
 
เมื่อฉินหวานหว่านมองเห็นความสนิทสนมระหว่างคนทั้งคู่ เธอก็ยิ้มและถามขึ้นว่า “เฮ้ หลินเช่อ หรือว่าจะเป็นกู้จิ้ิ้งอวี่จ๊ะ ที่เป็นแฟนของเธอน่ะ เขาเป็นคนที่รับโทรศัพท์แทนเธอเมื่อคืนก่อนใช่หรือเปล่า อันที่จริงเขาก็เสียงคล้ายอยู่หน่อยๆ เหมือนกันนะ…”  
 
 
หลินเช่อนิ่งอั้น  
 
 
ก็สองคนนี้เป็นพี่น้องกันนี่นา ถึงยังไงเสียงพวกเขาก็จะต้องมีอะไรเหมือนกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อยนั่นแหละ  
 
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้จิ้ิ้งอวี่ก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “เฮ้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ…”  
 
 
หลินเช่อจำได้ว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกกับกู้จิ้ิ้งอวี่ว่าเธอแต่งงานแล้ว แล้วก็เป็นกู้จิ้งเจ๋อเองนั่นแหละที่พยายามบังคับเธอให้โทรศัพท์บอกกับกู้จิ้ิ้งอวี่เรื่องนี้ซะ  
 
 
จนถึงตอนนี้ สีหน้าอันคลุมเครือของกู้จิ้ิ้งอวี่ก็กำลังทำให้หลินเช่อใจเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความกังวล เขาคงไม่เผลอตัวเผยความลับของเธอหรอกนะ ใช่มั้ย  
 
 
ผลที่เธอจะได้รับตามมานั้นแตกต่างกันอย่างสุดขั้วเลยทีเดียว สำหรับการแต่งงานลับๆ กับการแอบมีแฟน  
 
 
หลินเช่อลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูก แต่แล้วเธอก็ได้เห็นกู้จิ้ิ้งอวี่ฉีกยิ้มด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ เขาเลิกคิ้วและพูดว่า “เอาล่ะ ไม่ว่าเธอจะได้ยินอะไรมาก็ทำเป็นว่าไม่เคยได้ยินซะก็แล้วกันนะ”  
 
 
จากนั้นเขาก็ปรายตามองเธอด้วยท่าทีขี้เล่น ก่อนจะพูดด้วยประโยคอันชวนให้เข้าใจผิดว่า  
 
 
“มันมีความลับบางอย่างที่หลินเช่อเขาไม่อยากบอกใครน่ะ”  
 
 
“…” หลินเช่อตวัดสายตาไปทางคนพูดทันที  
 
 
ส่วนทางด้านฉินหวานหว่านก็มองตรงมาด้วยทีท่าตกใจ เธอกำลังช็อคอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่าสิ่งที่กู้จิ้ิ้งอวี่พูดถึงคือสิ่งที่เธอกำลังคิดจริงๆ  
 
 
หลินเช่อรีบโพล่งออกไปทันที “นี่พูดเรื่องเหลวไหลอะไรกันน่ะ กู้จิ้ิ้งอวี่!”  
 
 
กู้จิ้ิ้งอวี่ตอบว่า “ฉันพูดอะไรผิดเหรอ ก็แล้วเธอไม่ได้มีข้อมูลลับที่ไม่อยากให้คนนอกรู้หรือยังไงล่ะ”  
 
 
ก็มีน่ะสิ อย่างเช่นความจริงที่ว่าเธอแต่งงานแล้วไงล่ะ เธอเคยบอกกู้จิ้ิ้งอวี่ก่อนหน้านี้แล้วว่าเธอไม่อยากบอกเรื่องนี้ให้ใครๆ รู้  
 
 
แต่เขาไม่คิดบ้างหรือไงนะว่า การพูดออกมาตอนนี้จะทำให้ฉินหวานหว่านเข้าใจผิดไปไกลได้ว่ าเธอกับเขามีความลับอะไรที่ไม่อยากบอกคนอื่นให้รู้น่ะ  
 
 
ฉินหวานหว่านเข้าใจได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองดูคนทั้งสองด้วยความอัศจรรย์ใจเมื่อได้รู้ว่ากู้จิ้ิ้งอวี่และหลินเช่อคบหากันจริงๆ เสียด้วย และถ้าเป็นแบบนี้ คนที่หลินเช่อคบอยู่ก็เป็นคนพิเศษสุดๆ จริงๆ  
 
 
ไม่ต้องสงสัยเลย กู้จิ้ิ้งอวี่จะเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันได้ยังไง ในเมื่อเขาคอยเฝ้าดูหลินเช่ออย่างใกล้ชิดทุกย่างก้าวโดยไม่มีสาเหตุออกขนาดนั้น  
 
 
“ตายจริง นี่เป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย…” หล่อนลูบมือหลินเช่อ “เอาละ เอาละ หลินเช่อ อย่าโกรธไปเลยนะจ๊ะ ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็รู้แล้ว แต่ฉันไม่เอาไปบอกใครหรอกนะ ถ้าเธอสองคนอยากจะปิดเรื่องนี้ไว้ ฉันก็จะช่วยเอง”  
 
 
กู้จิ้ิ้งอวี่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยท่าทีน่าสนุก  
 
 
ฉินหวานหว่านยังพูดต่อไปอีกว่า “หลินเช่อ นี่เธอปิดปากเสียสนิทเชียวนะจ๊ะ เอาเถอะ ถ้าเธอไม่อยากพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดหรอกจ้ะ ฉันจะไม่บีบคั้นให้เธอยอมรับหรอกนะ ฉันรู้ดีว่าอยู่ในวงการนี้ก็ต้องระวังตัวกันแบบนี้แหละ แค่พวกเรารู้กันก็พอแล้วเนอะ ฮิๆ”  
 
 
“มันไม่ใช่แบบนั้น…”  
 
 
หลินเช่อไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อไปอย่างไรดี  
 
 
แต่ฉินหวานหว่านยังไม่หยุดง่ายๆ “แต่เธอโชคดีมากเลยนะที่ได้แฟนดีๆ อย่างพี่อวี่น่ะ”  
 
 
“…” หลินเช่อหมดแรงจะอธิบายใดๆ  
 
 
ส่วนกู้จิ้ิ้งอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้น กลับทำทีเป็นเสยผมจัดทรงอย่างสบายอกสบายใจ หลินเช่อเห็นแล้วนึกอยากจะตบให้ซักฉาด  
 
 
แล้วใครคนหนึ่งก็เดินมาตามฉินหวานหว่านให้ไปลองชุด ฉินหวานหว่านจึงหันมาบอกว่า “ฉันจะปล่อยให้พวกเธอสองคนได้ใช้เวลาอันมีค่าด้วยกันนะจ๊ะ”  
 
 
ก่อนที่จะเหลือบมองหลินเช่อด้วยความอิจฉา  
 
 
มีกู้จิ้ิ้งอวี่คอยดูแลปกป้องทุกย่างก้าวแบบนี้ หลินเช่อคงไม่ต้องลำบากตรากตรำทำงานหนักหลายปีนักหรอก  
 
 
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินลับสายตาไป หลินเช่อก็หันมาเล่นงานคนที่ยืนอยู่ข้างตัวอย่างโกรธจัด “กู้ จิ้ง อวี่!”  
 
 
คนโดนเรียกชื่อตีสีหน้าไร้เดียงสา “ทำไมเหรอ ฉันพูดอะไรผิดหรือไง”  
 
 
“คุณ คุณ คุณ คุณตั้งใจหาเรื่องให้ฉันชัดๆ เลย!”  
 
 
“เฮ้ ตกเป็นข่าวลือกับฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมเธอถึงทำอย่างกับว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายขนาดนั้น ฉันไม่ดีขนาดนั้นเลยรึไงกัน”  
 
 
“มันไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นซักหน่อย!”  
 
 
“เอาละ เอาละ ยังไงซะเขาก็ไม่เอาไปบอกคนอื่นหรอกน่ะ”  
 
 
ฉินหวานหว่านไม่ได้บ้านี่นา ถ้าขืนเธอปล่อยข่าวนี้ออกไปมันก็เท่ากับเป็นการเรียกร้องความสนใจให้หลินเช่อมากขึ้นไปอีก ต่อให้เป็นคนธรรมดาไม่ใช่ดาราก็ไม่มีใครอยากจะปล่อยข่าวแบบนี้หรอก มันเป็นเรื่องของพื้นที่สื่อที่มีอยู่อย่างจำกัดน่ะ ถ้าใครคนหนึ่งได้ครอบครองพื้นที่พาดหัวข่าวไปจนหมด คนอื่นก็ตกขอบความสนใจไปน่ะสิ  
 
 
“อีกอย่าง ต่อให้เธอเอาไปบอกคนอื่น เธอก็ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถืออยู่ดี ทั้งฉันและเธอต่างก็ไม่ได้พูดอะไรซักหน่อยนี่นา ถ้าถึงเวลานักข่าวมาถาม ฉันก็จะแค่บอกว่า ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วพวกเขาจะทำอะไรได้ล่ะ”  
 
 
หลินเช่อตวัดสายตามองอีกฝ่ายและอดรู้สึกไม่ได้ว่า กู้จิ้ิ้งอวี่คือคนที่สวรรค์ส่งมาสร้างปัญหาให้กับเธอโดยแท้  
 
 
ไม่ช้า รายการก็เริ่มต้นขึ้น  
 
 
ข้างนอกสถานที่ถ่ายทำเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไม่มีใครมีเวลาพอที่จะสนใจใครทั้งนั้น  
 
 
หลินเช่อไม่รู้เหมือนกันว่านั่งรออยู่นานแค่ไหน ในขณะที่เฝ้าดูบรรดาดาราน้อยใหญ่พากันเดินกลับไปกลับมาระหว่างด้านหน้าและด้านหลังเวที โชคดีที่คนของกู้จิ้ิ้งอวี่มาคอยช่วยเธอแลเธออยู่พักหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนเบียดจนต้องเข้าไปอยู่ในมุมห้องแล้ว  
 
 
งานคืนนั้น ทุกอย่างได้รับการจัดการให้เป็นระเบียบมากขึ้น จึงทำให้งานออกมาดูเรียบร้อยขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย  
 
 
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเช่อได้มีโอกาสมาร่วมงานกาล่าแบบนี้ เธอหันไปมองด้านนอกแล้วก็ได้เห็นคนดูถือป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนชื่อเธอเอาไว้บนนั้น  
 
 
หลินเช่อเรียกอวี๋หมินหมิ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ และถามว่า “ตายจริง นี่ทางบริษัทเราจ้างคนมาทำแบบนี้เหรอคะ ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ถือป้ายที่มีชื่อฉันแบบนั้นล่ะ”  
 
 
“ยัยโง่ พวกเขาก็เป็นแฟนคลับของเธอไงล่ะ!” อวี๋หมินหมิ่นบอก “ตอนนี้เธอเป็นคนมีแฟนคลับแล้วนะ เข้าใจมั้ย”  
 
 
ถึงอย่างนั้น นี่ก็ยังเป็นครั้งแรกที่หลินเช่อได้เห็นแฟนๆ ของเธอ หญิงสาวดีใจจนอดลิงโลดด้วยความตื่นเต้นไม่ได้  
 
 
“พระเจ้า เป็นไปได้หรือนี่ ฉันมีแฟนคลับจริงๆ น่ะเหรอ”  
 
 
เมื่อได้เห็นแฟนๆ กวาดสายตามองมาทางทิศที่เธอนั่งอยู่ หลินเช่อจึงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้พวกเขามากขึ้นอีกนิด  
 
 
เมื่อเห็นหลินเช่อเดินมาหา กลุ่มเด็กสาวก็เริ่มส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นกันดั่งสนั่นหวั่นไหว  
 
 
“หลินเช่อ! หลินเช่อ! หลินเช่อ!”  
 
 
หลินเช่อออกจะขัดเขินเล็กน้อย แต่เธอก็เดินเข้าไปและพูดอย่างอ่อนหวานว่า “ตายจริง ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับการสนับสนุน ว่าแต่พวกคุณอยากให้ฉันเซ็นอะไรให้หรือถ่ายรูปด้วยกันรึเปล่าคะ”  
 
 
แน่นอนว่าเด็กสาวสองสามคนรีบตอบรับอย่างตื่นเต้น  
 
 
หลินเช่อถ่ายรูปกับพวกเธอ และสาละวนใช้แอปพลิเคชันแต่งรูปอยู่เป็นนาน  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นนั่งมองและได้แต่ส่ายหน้า ยัยหลินเช่อเอ๊ย  
 
 
แต่พวกเธอก็ไม่ได้รู้เลยว่า ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าถูกถ่ายเอาไว้ และนำขึ้นโพสต์ในอินเทอร์เน็ตในเวลาอันรวดเร็ว  
 
 
วันต่อมา ผู้คนก็เริ่มพูดคุยกันถึงการกระทำอันน่ารักของหลินเช่อ พวกเขาอธิบายรายละเอียดถึงสิ่งที่หลินเช่อทำอย่างน่าสนใจ และเล่าด้วยว่าหลังจากที่ถ่ายรูปแล้ว หลินเช่อยังบอกว่าจะช่วยแต่งรูปและใส่ฟิลเตอร์ให้ด้วย เธอเปลี่ยนท่าโพสต์หลายท่าและถ่ายรูปให้หลายรูป จนถ่ายไปกว่าสิบรูปแล้วนั่นแหละ เธอจึงค่อยเลือกรูปให้พวกเขาเอาเก็บไว้…  
 
 
ท่าทีของเธอเหมือนเด็กสาวตัวน้อยไม่มีผิด  
 
 
เมื่อเรื่องราวเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนก็เริ่มรู้สึกเหมือนๆ กันว่าหลินเช่อนั้นเป็นคนนิสัยใจคอน่ารักอย่างมากทีเดียว  
 
 
แน่นอนว่าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปภายหลังจากงานอีเวนต์สิ้นสุดลง  
 
 
ในคืนก่อนวันคริสต์มาส หลินเช่อต้องขึ้นเวทีแสดงถ่ายทอดสดเป็นครั้งแรก ในขณะเธอกำลังทำการแสดงอยู่นั้น เธอก็รู้สึกเหมือนหัวใจแทบจะเต้นทะลุอกออกมาอยู่ตลอดเวลา  

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset