เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 263 หลินเช่อตกเป็นข่าวใหญ่

จบกัน ไม่มีทางที่พวกเธอจะดูหนังต่อได้แล้ว…
 
 
หลินเช่อผวาหาอากาศ เธอผลักกู้จิ้งเจ๋อออกไป แต่ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “ไปกันเถอะ”
 
 
“แต่ว่าหนัง…”
 
 
“ถ้าเรายังอยู่ที่นี่ต่อฉันอาจจะ…จัดการเธอซะตรงนี้…”
 
 
“…” หลินเช่ออึ้งไปเลย “ทำไมคุณถึงได้…”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “นี่เธอถามฉันเหรอ ทำไมไม่ถามตัวเองล่ะ ถ้าเธอหื่นขนาดนี้ทำไมถึงไม่พูดออกมาตรงๆ เลยล่ะ”
 
 
“…” หลินเช่อหน้าแดงทันที
 
 
เขายังกล่าวหาต่อไปอีกว่า “นี่เธอเล่นดูดดื่มฉันซะขนาดนี้ จะให้ฉันทนไหวได้ยังไงเล่า”
 
 
“…”
 
 
ทั้งสองไม่อาจอ้อยอิ่งอยู่ในโรงหนังต่อไปได้อีก เขาฉุดเธอให้ลุกขึ้นและตรงดิ่งกลับบ้าน
 
 
แล้วค่ำคืนนั้นก็โหมกระหน่ำกันจนหมดเรี่ยวแรง
 
 
กู้จิ้งเจ๋อนอนแผ่ลงบนเตียง เขาแตะจมูกหลินเช่อและบอกว่า “นี่คืนนี้เธอเล่นฉันซะเกือบแห้งเลยนะ”
 
 
หลินเช่ออยากร้องไห้เต็มที แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ
 
 
เขาบอกต่อไปว่า “นอนเถอะ อย่ามาโดนตัวฉันอีกก็แล้วกัน ไม่อย่างงั้นคืนนี้คงไม่มีใครได้นอนกันทั้งคู่” เขาจุ๊บหน้าผากเธอและเสริมว่า “ฉันไม่ได้นอนมาสองวันเต็มๆ แล้ว ถ้าฉันยังต้องมาคอยบริการเธออีกละก็ เธอมีหวังได้เป็นหม้ายแน่”
 
 
เมื่อหญิงสาวได้ยินเธอก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ “ทำไม…ทำไมคุณถึงไม่ได้นอนมาตั้งสองวันแล้วล่ะคะ”
 
 
“ฉันงานยุ่งน่ะ” เขาตอบ
 
 
หลินเช่อจึงรีบบอกว่า “งั้นก็รีบนอนเถอะค่ะ อย่าพูดอะไรอีกเลย”
 
 
หลินเช่ออดตื้นตันใจไม่ได้ นี่เขาไม่ได้นอนมาตั้งสองวันแล้ว แล้วทำไมเขาถึงไม่ยอมพูดอะไรก่อนหน้านี้เลยล่ะ
 
 
ถ้ารู้ก่อนเธอคงไม่เสนอให้ไปดูหนังหรอก
 
 
ผู้ชายคนนี้หัวรั้นจริงๆ
 
 
หลินเช่อคิดในใจ ดูเหมือนว่าการเป็นคนร่ำรวยมหาศาลนี่ไม่ใช่ของง่ายจริงๆ เสียด้วย หญิงสาวถอนหายใจแล้วหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อ
 
 
เพียงไม่นาน เขาก็ผล็อยหลับไป สายตาของเธอไล่ไปตามรูปร่างอันสมบูรณ์แบบของชายหนุ่ม แล้วก็อดใจไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปแตะจูบเบาๆ ที่ปลายจมูกของเขา
 
 
บางทีมันอาจจะไม่ใช่แค่ความหลงใหลที่เธอเขาหรอก…
 
 
วันต่อมา
 
 
เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น ข่าวการประกาศผลรางวัลแพนด้า ทีวี เฟสติวัลก็ถูกเผยแพร่ออกไปจนทั่ว
 
 
ตั้งแต่การเดินพรมแดง การประกาศผลรางวัล และงานปาร์ตี้เฉลิมฉลอง ในสื่อทั้งหลายล้วนเต็มไปด้วยข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เต็มไปหมด เพราะนักข่าวมีข้อมูลอีกมากมายที่คนทั่วไปยังไม่เคยได้รู้
 
 
แน่นอนว่าบทความสำคัญที่สุดย่อมเป็นข่าวเกี่ยวกับมู่เฝ่ยหราน
 
 
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่เธอสวม หรือความยอดเยี่ยมของเธอในช่วงการขึ้นรับรางวัล ก็ล้วนแต่ดูน่าทึ่งทั้งสิ้น
 
 
อย่างไรก็ตาม นอกจากข่าวเกี่ยวกับมู่เฝ่ยหรานแล้ว ข่าวสำคัญรองลงมากลับกลายเป็นข่าวของหลินเช่อ
 
 
เพราะเมื่อผู้สื่อข่าวกลับจากงานประกาศผลรางวัล พวกเขาก็ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากบรรดาแฟนๆ ที่รู้จักเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่หลินเช่อสวมใส่ในคืนนั้น อาภรณ์ที่หญิงสาวสวมล้วนเป็นของราคาแพงลิบ และไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ตามที่มีเงินจะซื้อหามาได้
 
 
นักแสดงหลายคนพากันซุบซิบถึงคนที่เป็นผู้สนับสนุนของหลินเช่อ ด้วยเสื้อผ้าราคาสูงเหล่านี้ แสดงว่าผู้สนับสนุนของเธอจะต้องเป็นคนมีอิทธิพลขนาดไหนจึงจะสามารถจัดหาสิ่งของเหล่านี้มาให้เธอได้
 
 
นอกจากนี้ ยังเป็นได้ชัดด้วยว่าหลินเช่อไม่ได้สวมเพราะได้สปอนเซอร์จากแบรนด์ เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่า เสื้อผ้าแบรนด์นี้ไม่เคยสนใจที่จะหาพรีเซนเตอร์
 
 
ด้วยเหตุนี้ นั่นหมายความว่าเสื้อผ้าและเครื่องประดับทั้งหมดจะต้องถูกซื้อมา จึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ผู้สนับสนุนของหลินเช่อนั้นย่อมเป็นคนที่ทั้งร่ำรวยและทรงอิทธิพลอย่างมากทีเดียว
 
 
นี่เป็นประเด็นหนึ่งที่คนพากันพูดถึง ส่วนประเด็นอื่นก็คือการที่นักข่าวจับภาพปฏิกิริยาระหว่างเธอกับกู้จิ้ิ้งอวี่ได้ ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากจนทำให้คนที่ได้เห็นอดจินตนาการไปเองไม่ได้ ในขณะเดียวกัน เธอก็ดูจะเข้ากันได้ดีกับมู่เฝ่ยหราน และนั่นทำให้หลายคนอิจฉาเธอ หลินเช่อมีคุณสมบัติอะไรกันแน่นะที่ทำให้เธอสามารถเข้ากันได้กับดาราระดับซุปเปอร์สตาร์แบบนั้น
 
 
นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวที่เขียนถึงปฏิกิริยาของเธอตอนที่ชนะรางวัลผลโหวตออนไลน์
 
 
ท่าทีตกตะลึง สีหน้าตายสนิทของเธอดูน่าขันอย่างมาก
 
 
รวมถึงการแสดงอันมีชีวิตชีวาของเธอส่งให้หลินเช่อกลายเป็นประเด็นร้อนที่ใครๆ พากันพูดถึง พวกเขาคิดว่าหลินเช่อเป็นดาราที่ทั้งโก๊ะทั้งมึน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เธอน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งขึ้นไปอีก
 
 
ข่าวยิบย่อยเหล่านี้ เมื่อนำมารวมกันแล้วก็กินพื้นที่เท่ากับทั้งหน้าเต็มๆ
 
 
เมื่อเทียบกันแล้ว เครื่องเพชรราคาแพงของฉินหวานหว่านที่ได้รับมาจากสปอนเซอร์รายใหญ่กลับไม่ได้รับการพูดถึง แม้ดูทีท่าแล้วมันน่าจะถูกกล่าวถึงก็ตามที ด้วยความที่มันเป็นเพียงเครื่องเพชรจากสปอนเซอร์ แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ดังก็ตาม แต่กลับดูไม่ดีเท่าเสื้อผ้าและเครื่องประดับของหลินเช่อที่สวยคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ ของจากแบรนด์ใหญ่นั้นถูกใช้เพื่อขายชื่อแบรนด์ แต่ของดีจริงๆ นั้น เป็นของที่มหาเศรษฐีมีอยู่ในครอบครองต่างหาก
 
 
หลินเช่อได้รับคำทักทายแสดงความยินดีมากมายในบริษัท
 
 
แม้ว่าจะเป็นเพียงรางวัลจากโพลออนไลน์ แต่ทุกคนก็คิดว่ามันยิ่งใหญ่มาก
 
 
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักแสดงบางคนในบริษัทที่เย็นชากับเธอ พวกเขาพากันพูดว่ามันเป็นเรื่องน่าอายที่เธอไม่ชนะรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมที่ตัวเองได้รับการเสนอชื่อ พวกเขาบอกว่าถ้าพวกเขาชนะรางวัล พวกเขาคงจะเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งของทุกสำนัก ถ้าเป็นพวกเขาได้รับการเสนอชื่อจะต้องชนะแน่
 
 
อวี๋หมินหมิ่นพูดกับหลินเช่อว่า “คราวหน้าเธอจะต้องพยายามให้มากกว่านี้นะ”
 
 
หลินเช่อพยักหน้า รู้ดีว่าหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนัก เธอบอกกับผู้จัดการสาวว่า “ฉันต้องขอบคุณมากจริงๆ สำหรับทุกอย่างในปีนี้นะคะพี่อวี๋”
 
 
อวี๋หมินหมิ่นหัวเราะและบอกว่า “บอกตามตรงว่า ตอนแรกฉันไม่คิดหรอกนะว่าเธอจะกลายเป็นดาราดังไปได้น่ะ”
 
 
“ทำไมล่ะคะ คุณสมบัติของฉันมันแย่นักเหรอ” หลินเช่อถามอย่างตกใจ
 
 
อวี๋หมินหมิ่นตอบ “ก็เธอทั้งซื่อบื้อทั้งบ้องตื้น แถมยังชอบเอะอะโวยวาย แต่สิ่งดีๆ ก็ต้องเกิดขึ้นกับคนดีๆ นั่นแหละนะ”
 
 
หยางหลิงซินเดินเข้ามาทางด้านหลัง เธอมองดูเครื่องเพชรของหลินเช่อแล้วก็พูดว่า “จริงค่ะพี่อวี๋ แล้วก็พี่เช่อคะ พี่ยังมีกู้จิ้งเจ๋อคอยช่วยอีกต่างหาก เครื่องประดับพวกนี้สวยจังเลยนะคะ แถมเป็นของแพงมากซะด้วย”
 
 
หลินเช่อเอ่ยขึ้นว่า “บางทีเขาอาจจะแค่ยืมมาก็ได้นะ…”
 
 
แต่เมื่อกวาดสายตามองเครื่องเพชรเหล่านั้นแล้ว ดวงตาของหยางหลินซิงก็ยิ่งเป็นประกาย
 
 
หลินเช่อคิดว่าเป็นเพราะเด็กสาวคงไม่เคยเห็นของแบบนี้จึงนึกชื่นชม เธอจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก
 
 
ทันใดนั้น ก็มีสายโทรศัพท์จากที่บ้านเข้ามา หลินเช่อรับสาย
 
 
อวี๋หมินหมิ่นจึงบอกว่า “เอาละ เลิกดูข่าวกันได้แล้ว”
 
 
หยางหลิงซินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอิจฉาว่า “งานนี้พี่เช่อสวยจังเลยนะคะ เป็นดารานี่ดีจัง ดูหรูหราเป็นบ้าเลย”
 
 
“เป็นเพราะว่าเธอไม่เคยเห็นตอนที่หลินเช่อต้องตะเกียกตะกายสมัยยังเป็นแค่ตัวประกอบเล็กๆ น่ะสิ แล้วก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำงานหนักแล้วก็โชคดีเหมือนหลินเช่อด้วย”
 
 
“จริงค่ะ พี่เช่อโชคดีมากๆ” หล่อนว่า
 
 
จังหวะนี้ หลินเช่อหันพูดกับอวี๋หมินหมิ่นว่า “ดูเหมือนว่าวันเกิดของท่านประธานาธิบดีจะมีขึ้นในอีกสองสามวันข้างหน้า”
 
 
ดวงตาของอวี๋หมินหมิ่นเป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่งเมื่อได้ยินคำว่าประธานาธิบดี
 
 
หลินเช่อพูดต่อ “ทางบ้านตระกูลกู้จะจัดงานเลี้ยง แล้วก็ดูเหมือนว่าคราวนี้ท่านประธานาธิบดีจะมาร่วมด้วย”
 
 
“งั้นเหรอ” อวี๋หมินหมิ่นว่า “ถ้างั้นฉันเดาว่าอีกไม่กี่วันนี้เธอก็คงจะยุ่งมากล่ะสิ”
 
 
อวี๋หมินหมิ่นทอดสายตาออกไปด้านนอก วันเกิดของท่านประธานาธิบดีเหรอ
 
 
อันที่จริงที่ข้างนอกมีการพูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว เพราะบรรดาแฟนๆ ของท่านประธานาธิบดีเริ่มฉลองวันเกิดให้เขาทางออนไลน์กันไปแล้วเมื่อสองสามวันก่อน
 
 
และเป็นเพราะกู้จิ้งหมิงมักจะไม่ชอบทำตัวเป็นข่าวและไม่เคยมีงานฉลองวันเกิดมาก่อน ทางสื่อของประเทศซีจึงมีการเผยแพร่ข่าวนี้เป็นการใหญ่ และร่วมฉลองวันเกิดของกู้จิ้งหมิงด้วย
 
 
อวี๋หมินหมิ่นหันไปมองข่าวบนหน้าจอก่อนจะปิดมันซะ เธอหันไปบอกหลินเช่อว่าเธอจะขอตัวกลับบ้านก่อน
 
 
หลินเช่อถาม “พี่อยากจะไปด้วยกันวันงานหรือเปล่าคะ”
 
 
อวี๋หมินหมิ่นตอบ “ไม่ละ ฉันมีเรื่องต้องทำที่บ้านน่ะ”

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset