เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 266 เธอถูกบอดี้การ์ดของท่านประธานาธิบดีพาตัวไป

“อีตาบ้า ฉะ ฉะ ฉันทำไม่เป็นซักหน่อย”
 
 
“ฮ่าๆ เดี๋ยวฉันจะสอนให้เอง”
 
 
“ไม่นะ ไม่ ไม่เอา” หลินเช่ออายหนัก อยู่ข้างบนงั้นเหรอ เธอไม่รู้เลยซักนิดว่าจะเป็นฝ่ายคุมเกมได้อย่างไร
 
 
กู้จิ้งเจ๋ออดหัวเราะไม่ได้ หลินเช่อน่ะเคยทำมาแล้วตั้งไม่รู้กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็จะเขินอายราวกับเด็กสาว
 
 
เพราะอย่างนี้แหละ เขาถึงสนุกที่ได้แหย่เธอมากขึ้นไปอีก
 
 
“ไม่เหรอ เดี๋ยวพอถึงเวลา เธอก็จะบอกใช่เองนั่นแหละ” กู้จิ้งเจ๋อพูดหน้าตาเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา เขากะพริบตา และแพขนตายาวสีเข้มนั้นก็ดูเหมือนเป็นกรอบล้อมดวงตาที่เป็นประกายวิบวับอยู่ข้างใน หลินเช่ออดคิดไม่ได้ว่าเขาช่างหล่อซะจริง…
 
 
หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหล่นสู่ห้วงรัก แต่ก็รีบกลับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
 
 
“คนผีทะเล กินนี่ซะ”
 
 
เธอคว้าอาหารขึ้นมาแล้วยัดใส่ปากเขาอย่างโกรธๆ
 
 
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อกลืนมันลงคอ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าหลินเช่อใช้มือเปล่าหยิบอาหารให้
 
 
แต่ชายหนุ่มกลับเพียงแค่ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจว่าเหตุใดเขาจึงไม่รู้สึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย เขาแค่กลืนมันลงไปอย่างง่ายดาย แถมยังแก้แค้นด้วยการหยิบอาหาร แล้วยัดใส่ปากเธอคืนบ้าง
 
 
หลินเช่องับนิ้วเขาทันที
 
 
“เฮ้ นี่เธอเป็นหมารึไง มากัดฉันทำไมเนี่ย” ฟันของหลินเช่อยังคงงับอยู่กับนิ้วเขา แถมเธอยังโหดเ**้ยมถึงขนาดที่กัดจนเขารู้สึกเจ็บ เมื่อดึงมือคืนมาได้ ชายหนุ่มก็มองดูรอยฟันบนนิ้วตัวเอง ก่อนจะยิ้มและเลียรอยแผลเบาๆ หากเป็นเมื่อก่อน เขาจะต้องนึกขยะแขยงน้ำลายแบบนี้จนแทบจะอาเจียนออกมา แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกเร่าร้อนไปทั่วตัวเมื่อมองดูใบหน้าของหลินเช่อที่เรื่อแดงราวกับพระจันทร์ก่อนคืนฤดูหนาว มันแดงซ่านไปหมดและเขาก็ชอบใจนัก จนอยากจะมีอะไรกับเธออยู่ตลอดเวลา
 
 
นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เขามีความคิดซุกซนเกี่ยวกับผู้หญิง และเขาก็คิดถึงเรื่องนี้อยู่แทบทุกที่ทุกเวลา
 
 
เมื่อเห็นหลินเช่อพยายามหลบตา ชายหนุ่มก็หัวเราะและเอื้อมมือออกมาเช็ดเศษอาหารที่ติดปากให้เธอ
 
 
“ดูสิ เลอะเทอะไปหมดแล้ว”
 
 
หลินเช่อว่า “ถ้าฉันเลอะเทอะไปหมดแล้วทำไมคุณถึงยังอยากอยู่ด้วยอีกล่ะคะ ก็ไหนว่าคุณไม่ชอบความสกปรกไม่ใช่เหรอ”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อว่า “ตอนแรกก็ไม่ค่อยชอบนักหรอก”
 
 
“เฮอะ รู้อยู่แล้วละน่า”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อมองหนาเธอ “แต่ตอนนี้ฉันชินแล้วน่ะ”
 
 
หลินเช่อหันมาถามอย่างไม่สบอารมณ์ “หมายความว่ายังไงคะที่ว่าชินแล้วน่ะ”
 
 
“ก็ถึงแม้ว่าเธอจะสกปรกซกมกยังไง เธอก็แต่งงานกับฉันแล้วน่ะสิ เธอเป็นภรรยาของฉัน ฉันจะมีทางเลือกอะไรอีกล่ะนอกจากต้องยอมรับ จริงมั้ย”
 
 
“คุณ…นี่ตอบดีๆ ก็ได้นี่นา”
 
 
“เธอไม่คิดว่าสามีที่พูดจาตรงไปตรงมา ไม่ตีสองหน้าอย่างฉันนี่เป็นของหายากในยุคนี้หรอกรึ”
 
 
หลินเช่อว่า “ใช่ค่ะ เพราะอย่างนี้ไงล่ะฉันถึงทนคุณได้ ถ้าเป็นคนอื่นละก็ น่าจะโกรธคุณจนหน้าเขียวไปแล้วละ”
 
 
โม่ฮุ่ยหลิงมองอยู่ไกลๆ ก็ได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อกำลังคุยอยู่กับหลินเช่อ สองคนดูใกล้ชิดกันอย่างมาก เขาใส่ชุดสีดำส่วนหลินเช่อใส่สีขาว ถึงแม้ว่าสีจะตัดกัน แต่พวกเขากลับดูเหมือนคนสองคนที่ใส่เสื้อผ้าเข้าชุดกันเสียอย่างงั้น
 
 
กู้จิ้งเจ๋อชอบสวมเสื้อผ้าสีดำอยู่เสมอ มันดูลึกลับและทำให้เขาไม่เป็นที่สะดุดตา แต่มันก็ยังทำให้เขาดูสุภาพนุ่มนวลจนไม่อาจละสายตาไปได้อีกเช่นกัน แต่ตอนนี้คนที่ยืนอยู่เคียงข้างเขากลับเป็นหลินเช่อ
 
 
โม่ฮุ่ยหลิงขมขื่นใจสุดทน เธอติดตามกู้จิ้งเจ๋อมานานหลายปีแต่กลับกลายเป็นนังหลินเช่อสารเลวที่มาหยิบชิ้นปลามันไปเสียนี่
 
 
เธอมองดูกู้จิ้งเจ๋อก้มลงป้อนอาหารแม่นั่น เขายังทำกระทั่งเอื้อมมือไปเอานิ้วเช็ดปากให้หล่อนด้วย เขาดูแลแม่นั่นดีจริงๆ
 
 
กู้จิ้งเจ๋อผู้แสนยิ่งใหญ่กำลังดูแลหลินเช่ออยู่
 
 
กู้จิ้งเจ๋อที่ไม่เคยดูแลเธอเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา อันที่จริงแล้ว เธอทำไม่ได้แม้แต่จะเข้าใกล้เขาด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้น ปกติแล้วกู้จิ้งเจ๋อจะมีนิสัยสันโดษไว้ตัว เขาไม่ชอบความใกล้ชิดที่มากเกินไป และไม่ชอบการแสดงความสนิทสนม
 
 
แต่ตอนนี้ ทั้งสองคนกลับนั่งคลอเคลียกัน มันทำให้โม่ฮุ่ยหลิงแทบขาดใจตายเพราะความริษยาเลยทีเดียว
 
 
ทำไมเขาถึงดีกับนังหลินเช่อนักนะ
 
 
หลี่หมิงอวี่มองดูสีหน้าโกรธเกรี้ยวของโม่ฮุ่ยหลิงแล้วก็หัวเราะ “พอทีน่ะ เลิกมองเถอะ ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่รู้หรอก มาเถอะ ไปหาอะไรดื่มกันดีกว่า เราจะได้มีความสุขกันเองบ้าง”
 
 
“อย่ามาแตะตัวฉัน!”
 
 
“อย่ามาแตะตัวเธอเหรอ กู้จิ้งเจ๋อก็ไม่เคยแตะต้องเธอ แต่ตอนนี้เขาไปแตะต้องคนอื่นแทนแล้ว ถ้าฉันไม่แตะต้องเธออีกคน มันก็จะไม่มีใครอยากจะแตะต้องเธอเหลืออีกแล้วนะ เลิกมองซะที มาเถอะน่า ดูสิว่าเขามีความสุขออกจะตาย ในตอนที่เธอกำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่อย่างนี้ มันคุ้มกันเหรอ”
 
 
เธอรู้ดีว่ามันไม่คุ้ม แต่จะให้เธอยอมรับง่ายๆ ว่ากู้จิ้งเจ๋อไม่ได้เป็นของเธออีกแล้วก็ทำไม่ได้อีกนั่นแหละ เขากำลังใกล้ชิดกับหลินเช่อมากขึ้นและมากขึ้นทุกที
 
 
ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป มันก็อาจจะกลายเป็นว่ากู้จิ้งเจ๋อตกหลุมรักหลินเช่อเข้าจริงๆ ก็ได้
 
 
หลี่หมิงอวี่ดึงโม่ฮุ่ยหลิงไปทางด้านหนึ่งเพื่อหาเครื่องดื่ม ส่วนอีกด้านหนึ่ง อวี๋หมินหมิ่นมาถึงประตูทางเข้างานแล้ว และกำลังเหลียวซ้ายแลขวา แต่ก็หาหลินเช่อไม่พบ
 
 
รีสอร์ตแห่งนี้ถูกปิดล้อมไว้หมด ไม่มีใครสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้
 
 
ผู้จัดการสาวเหลียวมองไปรอบๆ พร้อมของขวัญที่ถืออยู่ในมือ เธอล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาและโทรหาหลินเช่อ
 
 
แต่ก็โทรไม่ติด
 
 
ในขณะที่กำลังพยายามจะโทรอีกเป็นครั้งที่สองนั้นเอง ใครบางคนก็หันมาเห็นเธอเข้า…
 
 
ลินดายืนมองอวี๋หมินหมิ่นอยู่ด้านข้าง หล่อนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้หน้าคุ้นๆ
 
 
ผู้หญิงคนนี้…
 
 
ท่านประธานาธิบดี…
 
 
แล้วดวงตาของลินดาก็เป็นประกายวูบเมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่า นี่คือผู้หญิงเมื่อคราวนั้นไม่ใช่เหรอ เธอกับท่านประธานาธิบดีเคย…
 
 
อวี๋หมินหมิ่นหันมาและได้เห็นว่ามีผู้หญิงที่แต่งกายด้วยชุดยูนิฟอร์มสีดำสุดเนี้ยบกำลังมายืนขวางทางเธอเอาไว้
 
 
หญิงสาวชะงัก
 
 
“คุณอวี๋คะ เชิญทางนี้ค่ะ”
 
 
“ฉัน…” อวี๋หมินหมิ่นรีบพูด “ฉันไม่ได้จะมาก่อเรื่องนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาทีนี่ด้วยซ้ำ”
 
 
“ไม่จำเป็นต้องบอกเราหรอกค่ะว่าคุณตั้งใจจะมาที่นี่รึเปล่า เชิญทางนี้เถอะค่ะ”
 
 
อวี๋หมินหมิ่นยังอยากจะอธิบาย แต่การ์ดของประธานาธิบดีสองสามคนกลับกรูกันมายืนขวางหน้าเธอเอาไว้…
 
 
ภายในงาน ฉินเฮ่ามาตามกู้จิ้งเจ๋อให้ไปจัดการธุระบางอย่าง หลินเช่อมองดูด้านหลังของชายหนุ่มที่เดินห่างไปและอดคิดไม่ได้ว่ากู้จิ้งเจ๋อนั้นมีงานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ทันทีที่มีคนเห็นเขามาแวะพักพูดคุย ก็จะมีคนเข้ามาเรื่อยไม่ขาด
 
 
แล้วกู้จิ้งเหยียนก็เดินมาหาและถามว่า “พี่สะใภ้ นี่พี่ชายฉันทิ้งคุณไว้คนเดียวอีกแล้วเหรอคะ”
 
 
หลินเช่อหัวเราะ “ใช่ค่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันชินแล้วน่ะค่ะ”
 
 
เมื่อหันไปมองกู้จิ้งเหยียน หลินเช่อก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าสมาชิกครอบครัวนี้ออกไปเดินอยู่บนถนนพร้อมๆ กันละก็ พวกเขาคงจะส่องประกายเสียจนทำให้คนแทบตาบอดได้ พี่น้องบ้านนี้หน้าตาดีมากกันซะจริง
 
 
กู้จิ้งเหยียนสวยกว่าดาราส่วนใหญ่เสียอีก มันเป็นความงามที่แตกต่างจากกู้จิ้งเจ๋อและพี่น้องผู้ชายคนอื่น เธอสวยหมดจดงดงาม ขนาดมองเพียงผ่านๆ ก็ยังรู้สึกสวยจับตา
 
 
กู้จิ้งเหยียนพูดต่อไปว่า “บางทีพี่รองก็งานยุ่งไปหน่อยน่ะค่ะ ความมั่นคงของครอบครัวเราถูกแบกเอาไว้บนบ่าของพี่เขา เขาจึงต้องรับภาระเพียงลำพัง แถมเขาเองยังเป็นคนที่จริงจังมาก เขาต้องการให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ก็เลยลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง นั่นก็เลยทำให้เขายิ่งงานยุ่งหนักขึ้นไปอีก ผู้คนในประเทศซีนี้นึกอิจฉาตำแหน่งของเขาก็จริง แต่ทุกคนก็นึกขยาดมันด้วยเหมือนกัน พวกเขาไม่รู้หรอกค่ะว่าการจะมานั่งอยู่ในตำแหน่งสำคัญขนาดนี้ได้ มันมีราคาที่ต้องจ่ายมากขนาดไหน”
 
 
หลินเช่อหันมองตามชายหนุ่มไปแล้วก็อดรู้สึกเจ็บหนึบในใจไม่ได้ เธอถอนหายใจและพูดว่า “ใช่ค่ะ เขายุ่งมากจริงๆ เพราะอย่างนี้ไงล่ะคะฉันถึงทำได้แค่เป็นฝ่ายเข้าใจเขา”
 
 
กู้จิ้งเหยียนว่า “อันที่จริง พี่ชายรองน่ะดีขึ้นมากเลยนะคะตั้งแต่อยู่กับคุณ ฉันไม่เคยเห็นเขาไปไหนมาไหนกับผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลย”

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset