เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 336 ตกลงระหว่างเธอกับกู้จิ้ิ้งอวี่ไม่ได้มีอะไรกันใช่มั้ย

“อีกอย่าง ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว แค่แผลน่ากลัวไปหน่อยเท่านั้นเอง” คนเจ็บยิ้ม “ทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก แล้วก็อวัยวะภายใน ไม่มีส่วนไหนได้รับบาดเจ็บ ตอนที่เกิดเหตุระเบิดขึ้น ฉันไม่ได้อยู่ใกล้ระเบิดนัก เมื่อกี้ฉันล้อเล่นเท่านั้นเองน่ะ จริงๆ นะ” เขาบอกเบาๆ ขณะมองดูดวงตาใสกระจ่างของเธอ  
 
 
หลินเช่อไม่ได้โง่ขนาดนั้น ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขากำลังพยายามจะปลอบประโลมเธอ  
 
 
หญิงตอบพูดออกไปว่า “เอาละค่ะ อยู่นิ่งๆ ได้แล้ว นอนพักฟื้นเถอะนะคะ อย่าขยับตัวอีกเลยไม่งั้นเดี๋ยวเลือดจะออกอีก แล้วคุณก็ไม่ควรจะถูกเนื้อต้องตัวฉันด้วย นอนนิ่งๆ ซะทีค่ะ”  
 
 
เธอเอื้อมมือออกไปดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างเขา  
 
 
เสื้อผ้าของชายหนุ่มถูกถอดออกไปแล้วเพื่อทำแผล ร่างล่ำสันผิวสีน้ำผึ้งนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยถลอกขีดข่วนทั่วไปหมด ไหล่ข้างหนึ่งของเขาถูกรัดไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาว ทำให้ภาพของบุรุษตรงหน้าดูดุดันอันตรายไม่น้อย เมื่อหลินเช่อมองดู เธอก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ากู้จิ้งเจ๋อช่างดูราวกับในเทพนิยาย เขาดูดีเสมอและเคยมีซักครั้งที่จะแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น  
 
 
แต่ถึงกระนั้น หัวใจเธอก็ยังอดปวดร้าวไม่ได้  
 
 
แล้วชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นตบที่ว่างข้างตัวบนเตียง “มานี่เถอะ นอนลง”  
 
 
หลินเช่อรีบส่ายหน้า “ไม่เอาค่ะ มีอุปกรณ์ระโยงระยางเต็มเตียงคุณไปหมดแบบนั้น คุณนอนซะเถอะค่ะ เลิกขยับตัวเสียที”  
 
 
“ฉันบอกให้มาก็มาสิ” เขาเลิกคิ้วสูง  
 
 
หลินเช่อยังคงยืนกราน “ฉันไม่ควรทำแบบนั้นจริงๆ ค่ะ ถ้าเกิดฉันไปโดนแผลคุณเข้าล่ะคะ”  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตามองใบหน้าเล็กๆ นั้นแน่วนิ่ง  
 
 
เขามองหน้าเธอนิ่งนาน ก่อนจะสั่งขึ้นอีกครั้งว่า “มานี่ ไม่อย่างงั้นฉันจะไปอุ้มเธอมาเอง อยากได้แบบไหนล่ะ”  
 
 
“…”  
 
 
หลินเช่อยังยืนงงอยู่เมื่อเขาเอื้อมมือออกมาคว้าแขนเธอไว้  
 
 
อารามตกใจ หญิงสาวรีบละล่ำละลักบอกว่า “ก็ได้ ก็ได้ค่ะ ฉันจะขึ้นไปนั่งบนเตียง อย่าขยับเลยนะคะ”  
 
 
หลินเช่อปัดมือที่เอื้อมออกมาของอีกฝ่าย ก่อนจะยอมแพ้ เธอเหลือบมองเขาอย่างหมดหนทาง และไต่ขึ้นไปบนเตียงแต่โดยดี  
 
 
เมื่อได้เห็นดังนั้น ชายหนุ่มก็ค่อยความเขม็งเคร่งเครียดของร่างกายและเอนหลังพิงเบาะอย่างสบายใจ  
 
 
แต่ลึกๆ ข้างในนั้น หลินเช่อกำลังก่นด่าคนออกคำสั่งอย่างไม่ยั้ง ช่างเป็นผู้ชายที่เหลือทนจริงๆ ทำไมเขาถึงตะบี้ตะบันจะให้เธอขึ้นมาบนเตียงให้ได้นะ  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อก้มลงมองหลินเช่อที่เข้ามานอนอยู่ใกล้ๆ เขายิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแขนเพื่อให้ร่างของเธอเอนซบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด  
 
 
หลินเช่อขยับศีรษะเล็กๆ ไปมาอย่างอึดอัด เธอเงยหน้าและถามขึ้นว่า “ไม่เอาค่ะ ถ้าฉันไปโดนคุณเข้าล่ะ…”  
 
 
“พอที หุบปากแล้วก็หยุดพูดได้แล้ว ฉันอยากพัก เธอก็ด้วย หลับตาแล้วก็นอนซะ”  
 
 
“…” โลกนี้จะมีใครช่างออกคำสั่งเท่านี้อีกมั้ยนะ “แต่ว่าฉัน…”  
 
 
“ฉันบอกให้นอนไงล่ะ!” กู้จิ้งเจ๋อจ้องเธอเขม็ง  
 
 
ก็จะเธอหลับลงได้ยังไง ตอนนี้ข้างนอกนั่นกำลังรายงานข่าวกันอุตลุดไปหมด ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครกันนะที่เป็นผู้ก่อเหตุ แล้วอีกหน่อยเขาจะต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกหรือเปล่า หลินเช่อคิดวนเวียนไปสารพัดอยู่ในความมืด แม้จะอ่อนเพลียแทบขาดใจ แต่เธอก็ข่มตาให้หลับลงไม่ได้จริงๆ  
 
 
ที่เธอนอนไม่หลับแบบนี้ เป็นเพราะเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอย่างชนิดไม่ทันตั้งตัว และเธอก็ยังอยู่ในภาวะหวาดวิตกมากเกินไป  
 
 
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “แต่ฉันนอนไม่หลับนี่คะ”  
 
 
ชายหนุ่มก้มหน้าลงมา ตาเขาสบประสานกับสายตาเธอ ทำให้หลินเช่ออดคิดไม่ได้ว่าเขาน่าจะอยากเขกหัวเธอเต็มทีแล้ว แต่ใบหน้านั้นกลับเคลื่อนเข้ามาใกล้และเสนอขึ้นด้วยน้ำเสียงแสนจะธรรมดาว่า “ถ้างั้นทำไมฉันไม่ให้เธอออกกำลังซักหน่อยล่ะ ถ้าเธอเหนื่อยมากๆ เธอน่าจะหลับลงได้”  
 
 
“…” เกิดเรื่องร้ายถึงขนาดนี้แล้ว แต่เขายังจะมีอารมณ์ทะลึ่งตึงตังคิดเรื่องแบบนี้ได้อีกหรือไง ให้ตายสิ  
 
 
“เงียบไปเลย เร็วเข้าค่ะ รีบนอน เลิกพูดเล่นได้แล้ว”  
 
 
“ฉันพูดเล่นตรงไหน ตราบใดที่เธอต้องการ ร่างกายฉันก็สามารถให้บริการเธอได้ตลอดเวลานั่นแหละ” เขายกนิ้วเคาะจมูกเธอ เมื่อปลายนิ้วใหญ่โดนผิวนุ่มๆ ของหญิงสาว สัมผัสของเขาก็ปลุกเร้าเธอให้รู้สึกมากขึ้นไปอีก  
 
 
“นี่คุณ…คุณรู้หรือเปล่าคะว่าตัวเองยังบาดเจ็บอยู่น่ะ” เธอเตือนเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาเล่นเอาเถิดกับเธอเพราะว่าตัวเองเกิดต้องการขึ้นมาแบบนี้  
 
 
“ฉันเจ็บแขนต่างหาก ไม่ใช่ที่อื่น สบายใจได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะปกป้องส่วนที่เธอต้องใช้งานเอาไว้เสมอ ฉันไม่ปล่อยให้เธอเป็นหม้ายผัวร้างหรอกน่า” เขาพูดพลางกระตุกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม สายตาจับจ้องอยูที่ใบหน้าเธอราวกับจะคอยสังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปยามถูกยั่วเย้า แม้จะเจ็บหนักขนาดนี้ เขาก็ยังรื่นรมย์มีชีวิตชีวาเป็นอันดี  
 
 
“หุบปากไปเลยนะ! ฉะ ฉะ ฉัน นั่นไม่ใช่ส่วนที่ฉันใช้งานซักหน่อย”  
 
 
“ต้องใช่สิ ถ้าเธอไม่เชื่อ ก็ลองปลุกมันขึ้นมาดูสิ แตะซักนิด เรียกซักหน่อย เดี๋ยวมันก็ผงกหัวขึ้นมาหาเธอเองนั่นแหละ” ขณะที่พูด กู้จิ้งเจ๋อหนักข้อถึงขนาดเอื้อมมือออกมา แล้วคว้ามือเธอดึงลงไปหาอวัยวะส่วนนั้นอีกต่างหาก  
 
 
หลินเช่อตกใจสุดขีด รีบปัดมือเขาออกโดยเร็ว “ไม่เอา ไม่เอานะคะ กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณบ้าแล้วหรือไง คุณกำลังเจ็บหนักอยู่นะคะ คุณไม่ได้อนุญาตให้ขยับตัว!”  
 
 
คนถูกดุยอมเสียที่ไหน “หรือเธอคิดว่าร่างกายฉันจะรับไม่ไหวเพราะกำลังบาดเจ็บอยู่ ฉันน่าจะพิสูจน์ให้เธอเห็นนะว่าฉันพร้อมทุกเมื่อ แผลเล็กๆ แค่นี้ไม่ครณาหรอก”  
 
 
ขณะที่พูด เขาก็ยกร่างขึ้น แล้วใช้แขนข้างที่ยังดีอยู่ปัดผมยาวของเธอออกไปก่อนจะพินิจดูใบหน้าของหลินเช่อ สายตานั้นดื่มลึกราวกับจะสำรวจดูทุกตารางนิ้วของสีหน้าเธอ  
 
 
หลินเช่อประหลาดใจเสียจนต้องรีบท้วงออกมา “กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณจะบ้าเหรอคะ อย่าเข้ามานะ ฉันไม่ได้อยากจะพิสูจน์อะไรทั้งนั้น จะต้องพิสูจน์ทำไมกัน คุณเก่ง คุณยอดเยี่ยมที่สุด เลิศเลอเสมอไม่มีใครเกินเลยด้วยเอ้า!”  
 
 
เขาเลิศเลอไม่มีใครเกินงั้นเหรอ…  
 
 
ตอนแรกเขาแค่อยากจะแกล้งเธอนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น แต่เมื่อได้ยินแบบนี้ ร่างกายเขาก็เกิดจะรุมร้อนผะผ่าวขึ้นมาทันควัน  
 
 
โอ้ ผู้หญิงคนนี้นี่นะ  
 
 
หลินเช่อไม่รู้จริงๆ ว่าเธอควรหรือไม่ควรพูดอะไร  
 
 
แต่ในเวลานี้ กู้จิ้งเจ๋อเหลือบดูร่างกายของตัวเองอย่างลืมตัว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงถูกปลุกเร้าได้ด้วยคำชมของเธอ  
 
 
แต่ว่านับตั้งแต่ได้พบเธอ เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขามันไม่ใช่ของตัวเขาเองอีกต่อไป  
 
 
เพราะแบบนี้เขาถึงได้บอกว่า มันเป็นของสำหรับให้เธอใช้โดยเฉพาะยังไงล่ะ มันเป็นสิ่งที่อยู่ใต้คำสั่งของเธอ ไม่ใช่เขา  
 
 
เหมือนอย่างเวลานี้  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อแค่อยากจะยั่วเธอเล่นในตอนแรก แต่กลับกลายเป็นเขาเองที่ต้องเจอดี  
 
 
“เด็กดี ไม่เอาน่า ขอฉันจูบเธอหน่อยเท่านั้นแหละ ฉันไม่แตะต้องเธอหรอก” เขาบอกอย่างรักใคร่เมื่อใช้ปลายนิ้วเชยคางเธอขึ้น มองดูใบหน้าเล็กๆ นั้น “มา ขอฉันดูหน่อย”  
 
 
ขณะที่ถูกเขาจับใบหน้าไว้อย่างนั้น หลินเช่อก็รู้สึกได้ถึงสายตาอันร้อนแรงเกินต้านที่จ้องมองมา  
 
 
มันคำสั่งที่ยากจะต้านทานสำหรับเธอ  
 
 
แต่หญิงสาวก็ยังกลัวอยู่ดีว่า การกระทำของเขาอาจจะเลยเถิดไปและทำให้ส่งผลกับบาดแผลได้  
 
 
“ไม่เอาค่ะ คุณไม่ควรจูบฉัน แผลคุณยังไม่ทันสมานกันดีเลยนะคะ”  
 
 
“อย่าดื้อสิ แค่จูบเดียวฉันไม่เป็นไรหรอกน่า มาเถอะ อย่าขยับ เป็นเด็กดีแล้วยื่นลิ้นมาซะดีๆ” เขาบอกก่อนจะก้มหน้าลง รับเอาริมฝีปากของเธอเข้าไว้ด้วยปากเขาทันที  
 
 
ในเมื่อเขาไม่อาจแตะต้องเธอได้ ปากของชายหนุ่มจึงอ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานเพื่อปรนเปรอความกระหายให้กับตัวเอง  
 
 
แต่ยิ่งเขาอยากจะตอบสนองความปรารถนาของตัวเองมากเท่าไหร่ เขาก็กลับยิ่งกระหายมากขึ้นเท่านั้น เขาจูบเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งแทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้อีก กู้จิ้งเจ๋อจึงถอนริมฝีปากออกมา  
 
 
เขาหอบหายใจ มองดูสีหน้าพร่าพรายของหลินเช่อ ค่อยๆ เอนร่างของเธอลงนอนและเลื่อนไปดึงซิปที่กางเกงของเธอลง  

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset