เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 411 บรรยากาศบนที่สูงนี้ช่างแตกต่าง

กู้จิ้งหมิงเพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ เพราะเหตุผลทางการเมือง จึงจำเป็นต้องแต่งงานกับเธอ  
 
 
แต่เธอขากางตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นมองไปยังผู้คนรอบๆ ทำเนียบหลิวหลี “ขาฉันใหญ่มากเลยเหรอคะ”  
 
 
ริมฝีปากของสาวใช้ยกขึ้น “คุณอวี๋คะ คุณสวยมากเลยค่ะ ผอมมากด้วย ขาก็สวย พวกเขาต่างหากที่พูดเหลวไหล คุณไม่อ่านคอมเม้นท์พวกนี้จะดีกว่านะคะ”  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นบอก “ช่างเถอะ ไม่เป็นไร ตัวฉันเองก็ทำอาชีพเกี่ยวกับด้านนี้ ทำงานมาหลายปีขนาดนี้ จะมีคอมเม้นท์แย่ๆ แบบไหนที่ยังไม่เคยเห็นอีกล่ะ”  
 
 
เพียงแต่หลายปีมานี้ ที่อ่านคือคอมเม้นท์ของคนอื่น ไม่คิดว่าวันนี้ตัวเองจะได้มาอยู่ในจุดนี้ จุดที่โดนผู้คนต่อว่า  
 
 
ความรู้สึกแบบนี้แปลกประหลาดเหลือเกิน  
 
 
โทรศัพท์ของอวี๋หมินหมิ่นดังขึ้นมาอีกครั้ง ความจริงนี่ไม่รู้ว่าเป็นสายที่เท่าไหร่ของวันแล้ว ดังไม่มีที่สิ้นสุด แต่เธอเองก็ไม่ได้รับสาย  
 
 
สายตัดไปหลังจากดังขึ้นสักพัก เธอได้แต่ถอนหายใจเฝ้ารอให้มันหยุดสั่นเร็วๆ  
 
 
ตอนเย็น อวี๋หมินหมิ่นถูกดูแลคุ้มกัน ในระหว่างทางกลับบ้านตัวเองอย่างเงียบๆ   
 
 
แม่เห็นข่าวจากในโทรทัศน์แล้ว คิดว่าคงตกใจมากแน่ๆ  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นบอกแม่เพียงว่า ตัวเองได้เตรียมงานแต่งเรียบร้อยแล้ว แม่ยังบอกว่า หวังว่าเธอจะพาแฟนกลับมาที่บ้านก่อน แม่เชื่อมั่นคนที่เธอเลือก คนที่เธอคิดจะแต่งงานด้วย จะแต่งก็แต่งไป แต่หากมีเวลาว่างก็อยากให้พากลับมาเยี่ยมสักนิด  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นคิด จะให้พากู้จิ้งหมิงกลับไปให้ดูเนี่ยนะ  
 
 
ถ้ากู้จิ้งหมิงไปด้วยคงเป็นเรื่องแปลกน่าดู  
 
 
แต่ละวันเขายุ่งจนเท้าแทบไม่เหยียบดิน อยู่ที่ทำเนียบหลิวหลียังเจอเขาเพียงไม่กี่ครั้ง ยังจะกลับไปบ้านเก่าๆ นั้นกับเธอน่ะเหรอ  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นกลับมาถึงบ้าน เธอเห็นแม่รีบเดินออกมา คว้ามืออวี๋หมินหมิ่นเอาไว้แน่น สีหน้าตกใจ น้ำเสียงยังคงสั่นเทาแฝงไปด้วยความสงสัย  
 
 
“หมินหมิ่น เกิดอะไรขึ้น บ่ายวันนี้มีนักข่าวมาที่บ้านเยอะมาก บอกว่าเธอเป็นภริยาประธานาธิบดี นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอ…เธอไปเป็นภริยาประธานาธิบดีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน วันนี้ญาติๆ ก็โทรมาเต็มไปหมด แม่เองก็บอกเขาไปว่าไม่รู้”  
 
 
“แม่คะ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ ถึงตอนนั้นถ้ามีญาติมาถามอีก แม่ก็บอกไปว่าไม่รู้เรื่องก็พอแล้วค่ะ”  
 
 
“เรื่องจริงเหรอ เธอจะแต่งงานกับประธานาธิบดีเหรอ”  
 
 
“ใช่แล้วค่ะ”  
 
 
“สวรรค์ ทำไมเป็นแบบนี้ เธอ…เธอบอกว่าเธอจะแต่งงาน อีกฝ่ายคือท่านประธานาธิบดีเหรอ”  
 
 
“ใช่แล้วค่ะ”  
 
 
“งั้นพ่อเธอก็พูดไว้ไม่ผิดน่ะสิ เธออยู่กับประธานาธิบดีจริงๆ สินะ”  
 
 
เมื่อนึกถึงพ่อขึ้นมา อวี๋หมินหมิ่นก็ต้องปวดหัว  
 
 
“แม่คะ เรื่องนี้มันซับซ้อน พูดออกไปมากไม่ได้ ไม่งั้นก็จะเหมือนพ่อ ถูกจับขังไปแล้ว”  
 
 
“อ้อ อ้อ แม่รู้แล้ว แม่จะปิดปาก ไม่พูดแล้ว”  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นมองออกไปด้านนอก มองเห็นว่า นอกหน้าต่าง ใต้ตึกล้วนเต็มไปด้วยนักข่าว แต่ถูกเหล่าบอดี้การ์ดของประธานาธิบดีคุ้มกันที่นี่เอาไว้ ดังนั้นนักข่าวจึงเข้ามาใกล้ไม่ได้  
 
 
และเพื่อนบ้านขี้สงสัย ก็ล้อมรอบเอาไว้ เกาะขอบหน้าต่างดู แม้คิดไว้แล้วว่า เมื่อประกาศแล้วจะเกิดความสั่นสะเทือน แต่ก็ไม่คิดว่าจะสั่นสะเทือนได้ถึงขนาดนี้  
 
 
ดูเหมือนข่าวการแต่งงานของประธานาธิบดีจะเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก  
 
 
หน้าประตู คล้ายมีเพื่อนบ้านพยายามเข้ามา แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดขวางเอาไว้ พวกเธออยู่ด้านในยังได้ยินบทสนทนาของพวกเขา  
 
 
“ที่นี่ไม่อนุญาตให้เข้าแล้วเหรอ เราเป็นเพื่อนบ้านกันมาสิบกว่าปีแล้ว เห็นเธอเติบโตมาตั้งแต่เด็ก นี่ ดูเหมือนจะกลายเป็นภริยาประธานาธิบดีแล้วจริงๆ สินะ จริงๆ เลย”  
 
 
ในตอนนั้นเอง ก็มีคนเข้ามาใหม่ มองเห็นที่นี่แล้วอดที่จะถามออกมาไม่ได้ “พวกคุณมาทำอะไรที่หน้าประตูบ้านผม”  
 
 
เป็นน้องชายที่พึ่งกลับมานั่นเอง  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นรีบเปิดประตู มองน้องชายที่ทำหน้ามึนงง จึงรีบบอก “นี่คือน้องชายของฉันเองค่ะ ให้เข้ามาได้”  
 
 
เมื่อน้องชายเดินเข้ามา ก็มองไปที่อวี๋หมินหมิ่นด้วยสีหน้าตกใจ “พี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมใครๆ ก็บอกว่า พี่กลายเป็นภริยาของประธานาธิบดีไปแล้ว วันนี้ครูยังเรียกผมไปพบแล้วถามเรื่องนี้อีกด้วย”  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นกุมขมับ   
 
 
น้องชายยังคงตกใจ บอกกับเธอ “พี่ หรือว่ามันเป็นเรื่องจริงเหรอครับ คนเก่งๆ พวกนั้นในวันนั้น เป็นคนของประธานาธิบดีใช่หรือเปล่า”  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นยอมรับเงียบๆ ทำให้น้องชายดีใจมาก  
 
 
“ว้าว พี่ เท่เป็นบ้า บอดี้การ์ดข้างนอกนั่นเก่งมากๆ เลยใช่ไหม”  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นบอก “เอาล่ะ อย่าออกไปวุ่นวายเลย วันนี้ฉันมาเก็บของสักหน่อย เลยถือโอกาสมาคุยกับพวกคุณด้วย ช่วงนี้นักข่าวอาจจะเยอะหน่อย ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา บอดี้การ์ดพวกนี้จะดูแลอยู่ที่นี่ในช่วงนี้ พวกคุณคุ้นเคยก็พอแล้ว”  
 
 
แม่ยังบอกอีกว่า “เรื่องนี้ถ้าพ่อเธอรู้ คงดีใจมาก เธอน่าจะ…”  
 
 
“เอาล่ะ แม่คะ เรื่องนี้อย่าบอกพ่อนะ”  
 
 
แม่มองเธอด้วยความตกใจ “ทำไมล่ะ เธอแต่งงาน ทำไมจะบอกไม่…”  
 
 
“บอกพ่อแล้วยังไงล่ะ ให้เขาอยู่ในนั้นดีๆ จะดีกว่า”  
 
 
“เธอนี่…ยัยเด็กคนนี้ ตอนนี้เธอจะแต่งงานกับประธานาธิบดีแล้ว ให้เขาปล่อยพ่อเธอออกมาก่อนไม่ได้เหรอ”  
 
 
“ไม่ได้หรอกค่ะ เขาอยู่ข้างในจะปลอดภัยกว่า” อวี๋หมินหมิ่นบอก แล้วเปิดประตูห้องเข้าไป  
 
 
“หมินหมิ่น หมินหมิ่นเธอ…”  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นคิดว่า ตอนนี้กำลังวุ่นวาย ถ้ายังปล่อยพ่อผีพนันของเธอออกมา ก็คงยิ่งวุ่นวายน่าดู  
 
 
——  
 
 
ภาพยนตร์ของหลินเช่อปิดกองแล้ว ด้านนอกมีนักข่าวมากมายรออยู่ อยากจะถ่ายภาพการปิดกล้องของเธอ  
 
 
ผู้กำกับอนุญาตให้เข้ามาได้ไม่กี่คน เพื่อให้พอมีข่าวบ้าง เป็นการโปรโมทภาพยนตร์  
 
 
ด้านนอกมีแฟนคลับมากมายรออยู่ ได้เห็นภาพสุดท้ายที่หลินเช่อถ่ายจบ ทุกคนต่างก็อวยพรให้หลินเช่อ หลินเช่อยังคงสวมชุดเข้าฉาก ดูหยาดเยิ้มมีเสน่ห์ ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเธอสวยมาก   
 
 
“หลินเช่อ เก่งมากเลย ถ่ายออกมาได้ดีมากๆ”  
 
 
“หลินเช่อ เยี่ยมมาก ยินดีด้วยที่คุณถ่ายเสร็จแล้ว”  
 
 
หลินเช่อลุกขึ้นกล่าวขอบคุณทีละคน พอเห็นนักข่าวแฟนคลับก็รีบเข้ามากล่าวขอบคุณทุกคน  
 
 
ภาพยนตร์เรื่องนี้จบไปได้อย่างราบรื่น ต่อไปก็เป็นช่วงโปรโมทภาพยนตร์ หลินเช่อรู้ว่า งานยุ่งๆ ยังคงดำเนินต่อไปอีกนาน  
 
 
นักข่าวถามกับหลินเช่อ “ครั้งนี้ได้มีโอกาสร่วมงานกับกู้จิ้งอวี่รู้สึกยังไงบ้างคะ”  
 
 
“คิดว่า ต้องขอบคุณกู้จิ้งอวี่มากๆ ที่คอยแนะนำฉันเวลาเข้าฉากด้วยกันค่ะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ถ่ายภาพยนตร์เรื่องสำคัญขนาดนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกกดดันอยู่มากเลยทีเดียวค่ะ ได้มีโอกาสเรียนรู้จากรุ่นพี่มากมายขนาดนี้ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ เลยค่ะ”  
 
 
ผู้กำกับเองก็ชื่นชมหลินเช่อ บอกว่าตอนเธอมาเริ่มถ่าย มีบางจุดที่ยังไม่เป็นที่พอใจอยู่บ้าง แต่เมื่อผ่านการฝึกฝนไปสักพัก การแสดงของเธอก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว  
 
 
นักข่าวยกเธอขึ้นมาเปรียบเทียบกับฉินหวานหว่าน  
 
 
ระยะนี้หลินเช่อกำลังตั้งใจถ่ายภาพยนตร์ การเปิดเผยตัวจึงน้อยลงมาก และในเวลานี้ ฉินหวานหว่านก็ปรากฏตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหน้าจอ เรื่องแรกคือความรักกับมหาเศรษฐีรุ่นที่สองอย่างไม่ชัดเจน สุดท้ายก็เลิกรา ในที่สุดเธอก็งัดหลักฐานออกมาว่าอีกฝ่ายคบซ้อน วอนคนเห็นใจ อยู่ๆ ก็มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นมากมาย ต่อมายังมีข่าวอื้อฉาวกับผู้กำกับอีก เมื่อมีข่าวอื้อฉาวแล้ว ก็ได้รับงานพรีเซนเตอร์ให้กับเทียนเจี้ย ตอนนี้ยังสมัครเข้าไปเรียนที่โรงเรียนการแสดงอีก ในระยะเวลาสั้นๆ แต่กลับดึงความสนใจไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว  
 
 
เมื่อเทียบกันแล้ว หลินเช่อมีข่าวน้อยกว่ามาก นอกจากมีข่าวลือเรื่องการบาดหมางกับฉินเสี่ยวหยวนแล้ว ก็ไม่มีอะไรอีกเลย  
 
 
ตอนนั้นเอง นักข่าวก็รีบถามขึ้นมา “ได้ข่าวมาว่า คุณอวี๋หมินหมิ่นผู้จัดการของคุณ กำลังจะเป็นภริยาประธานาธิบดี เรื่องนี้คุณทราบหรือเปล่าคะ”  

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset