เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 418 หลินเช่อเข้าชิงรางวัลใหญ่

ฮุ่ยฮุ่ยบอก “พี่หวานหว่านคะ ช่างเขาเถอะค่ะ เขาไม่รู้จักวางตัว พี่ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอกค่ะ”   
 
 
“ใช่ค่ะ พี่หวานหว่านใจกว้างมากเลยนะคะ พี่ให้อภัยเธอ เธอยังไม่ขอบคุณ แล้วยังมาทำแบบนี้อีก” เสี่ยวชิงเสริม  
 
 
“จริงๆ เลย เห็นในโทรทัศน์บอกว่าเธอดีมาก กับแฟนคลับก็ดี ไม่คิดเลยว่าตัวจริงจะเป็นแบบนี้” เสี่ยวชิงกล่าว  
 
 
ฮุ่ยฮุ่ยบอก “บนโทรทัศน์ก็ปลอมทั้งนั้นแหละ มาอยู่ข้างๆ ถึงจะรู้ว่าเธอเป็นยังไง”   
 
 
นี่คงเป็นครั้งแรกที่หลินเช่อถูกสงสัย และถูกต่อว่าไม่หยุดแบบนี้  
 
 
หลังจากที่หลินเช่อออกไปแล้ว ก็โทรหากู้จิ้งเจ๋อเป็นอันดับแรก  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ถ้าเหนื่อยมากก็กลับมา ปล่อยให้ฉันเป็นคนจัดการ”  
 
 
หลินเช่อกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น ตอนที่ได้ยินน้ำเสียงของกู้จิ้งเจ๋อ หัวใจเธอก็หน่วงขึ้นมา แน่นอนว่าถูกคนต่อว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเลย หลินเช่อรู้ว่าที่จริงแล้วหัวใจของเธอก็เหมือนกระจก แสนเปราะบาง…  
 
 
แต่ว่า เธออยู่ในวงการบันเทิงมานานแล้ว เคยชินขึ้นมากแล้ว ครั้งนี้นับว่าไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมาก  
 
 
หลินเช่อบอก “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเป็นคนเข้มแข็งที่ตีไม่ตาย แถมตอนนี้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้ว เรื่องแค่นี้ฉันยังรับมันไหว ยิ่งไปกว่านั้น ฉันต้องยืนยันความบริสุทธิ์ของฉันให้ได้”  
 
 
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ก็ได้ แต่ฉันเคยบอกแล้ว อย่ากดดันตัวเอง เข้าใจไหม”  
 
 
“นี่ไม่เรียกว่ากดดันสักหน่อย วางใจเถอะค่ะ ฉันยังรับไหว”  
 
 
เพียงแต่ ไม่นานก็มีข่าวอัปเดตออกมา บอกว่าให้หลินเช่อไปขอโทษฉินหวานหว่าน บอกว่าถ้าไม่ขอโทษ พวกเขาก็จะไม่ให้อภัยหลินเช่อแน่  
 
 
เรื่องนี้ถูกค้นหาจนติดอันดับ ชั่ววินาที หลินเช่อก็ถูกต่อว่ารุนแรงขึ้น  
 
 
แม้ว่าอวี๋หมินหมิ่นจะยุ่งมาก แต่ก็ยังรีบโทรหาหลินเช่อ   
 
 
เธอพึ่งจะลาพักได้ไม่นาน ก็มาเกิดเรื่องแบบนี้กับหลินเช่อ ทำให้เธอต้องเป็นห่วงจริงๆ  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นบอก “เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจัดการเอง เธอไม่ต้องกังวลหรอก”  
 
 
หลินเช่อจึงบอก “จัดการอะไร เธอกำลังยุ่งกับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวไม่ใช่เหรอ ธุระของเธอก็เยอะมากพอแล้ว”  
 
 
“ถึงแม้ฉันจะออกหน้าไม่ได้ แต่ยังไงตอนนี้ฉันก็ยังเป็นผู้จัดการเธออยู่ เธอเกิดเรื่อง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ เอาล่ะ เธอไม่ต้องสนใจแล้ว ยังไงซะ ให้มันเป็นหน้าที่ฉัน”  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นและพี่หลิน อยู่ร่วมบริษัทเดียวกันมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว  
 
 
เธอมาถึงบริษัท ก็มองเห็นพี่หลินทันที หัวเราะพลางเอ่ย “ฉันพึ่งจะไป พี่ก็หาเรื่องฉันเหรอ”  
 
 
พี่หลินมองเห็นอวี๋หมินหมิ่น เธอตกใจมาก “ภริยาท่านประธานาธิบดีจะใช้อำนาจกดขี่คนอื่นเหรอ”  
 
 
“จะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะคะ อยู่ที่บริษัท ฉันก็ยังคงเป็นอวี๋หมินหมิ่นคนเดิม”  
 
 
“อ้อ งั้นฉันก็วางใจแล้ว ว่าแต่หมินหมิ่น หลายปีมานี้เธออยู่ใต้ฉันตลอด คงไม่ง่ายเลยสินะที่กว่าจะปั้นหลินเช่อขึ้นมาได้ แต่สุดท้ายดันมาก่อเรื่องให้เธอ เธอเองก็คงลำบาก จริงๆ หลินเช่อก็ดีนะ บางทีอาจจะทำให้เธอมากดฉันลงได้ แต่ตอนนี้หวานหว่านถูกฉันดึงมาแล้ว น่าเสียดายกับตำแหน่งที่พึ่งขยับขึ้นเล็กน้อยของเธอ ถึงยังไงฉันก็หวังว่าในอนาคตเธอจะเอาชนะฉันได้นะ”  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นหัวเราะ “ใช่ค่ะ ฉันก็กำลังพยายาม แต่เรื่องครั้งนี้อย่าให้มันเกินไปเลยค่ะ”  
 
 
“ไม่หรอก ไม่หรอก เธอวางใจได้เลย บริษัทเดียวกันนี่นา ฉันจะลงมือเบาๆ แล้วกัน เพียงแค่ให้หลินเช่อไปขอโทษหวานหว่าน แล้วก็ถอนตัวออกจากการชิงรางวัลใหญ่ในปีนี้ด้วยตัวเองก็พอแล้ว”  
 
 
จริงๆ เลย…ที่แท้ก็ใกล้จะถึงเวลางานประกาศรางวัลการแสดงแล้ว มิน่าถึงได้รีบร้อนลงมือขนาดนี้   
 
 
เดิมทีหลินเช่อถ่ายภาพยนตร์กับกู้จิ้งอวี่ มีโอกาสมากที่เธอจะได้อันดับหนึ่ง ให้เธอถอนตัวตอนนี้ จะเป็นไปได้อย่างไร…  
 
 
วันต่อมา มีคนร้องเรียนให้บริษัทของฉินหวานหว่านไล่หลินเช่อออก เนื่องจากทั้งสองอยู่บริษัทเดียวกัน ไม่รู้ว่าต่อไปหลินเช่อจะรังแกอะไรฉินหวานหว่านอีก  
 
 
อย่างไรซะหลินเช่อก็เป็นคนที่บริษัทปั้นขึ้นมา ฉินหวานหว่านมาทีหลัง ซึ่งตอนนี้บริษัทไม่ได้เข้ามาจัดการทั้งสอง ความจริงคือกำลังเอนเอียงไปทางหลินเช่อ  
 
 
แต่ในเมื่อให้ฉินหวานหว่านเข้ามาแล้ว ถ้าไม่ดีกับเธอ มันก็คงไม่ถูก  
 
 
บริษัทเพียงแค่ต้องการให้ทั้งสองต่อสู้กันสักหน่อย ใครจะคิดว่ามันจะมาถึงขั้นนี้  
 
 
บริษัทรีบต่อสายหาหลินเช่อ บอกเธอว่า “ไม่งั้นคุณก็ขอโทษหวานหว่านสักหน่อย การขอโทษครั้งนี้มันก็ไม่ได้ยากอะไรไม่ใช่เหรอ…”  
 
 
หลินเช่อบอกตรงๆ “มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”  
 
 
“งั้นพวกเขาจะให้คุณถอนตัวออกจากรางวัลใหญ่ในปีนี้นะ คุณก็ลองพูดอะไรดีๆ บ้าง ไม่งั้นจะโดนคณะกรรมการคัดชื่อออกแล้วจริงๆ จะไม่ยิ่งแย่กว่าเดิมเหรอ”  
 
 
หลินเช่อได้ฟังดังนั้นจึงกัดฟัน “รางวัลใหญ่สำหรับฉันมันสำคัญก็จริง แต่ว่า สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ ความบริสุทธิ์ของฉัน ฉันจะไม่ยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำแน่นอน”  
 
 
บริษัทโกรธมาก แต่ก็ยังใจเย็น อย่างไรซะ หลินเช่อก็เป็นนักแสดงที่ทำเงินให้กับบริษัท พวกเขาทำให้มันน่าเกลียดเกินไปก็ไม่ได้ ไม่งั้นบีบจนเธอหนีไปมันคงไม่ดี  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นมาเจอหลินเช่อแล้ว คุยกับหลินเช่อ “เธอก็อย่าโกรธมากเลย ควรทำอะไรก็ทำเถอะ รางวัลครั้งนี้ถ้าถูกฉินหวานหว่านคว้าไปแล้วก็ไม่เป็นไร ความจริงเราก็ยังมีโอกาสเอาคืนนะ”  
 
 
หลินเช่อเอ่ยถาม “โอกาสอะไรเหรอ”  
 
 
“หนังของเธอถูกส่งชื่อเข้าชิงรางวัลทองคำ ถ้าเธอถูกเสนอชื่อในตำแหน่งรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เธอยังจะสนใจรางวัลใหญ่อยู่ไหม”   
 
 
“อะไรนะ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม มีชื่อเข้าชิงแล้วเหรอ”  
 
 
รางวัลทองคำนั่นเป็นรางวัลใหญ่ของประเทศเลยนะ มีชื่อเสียง และมีอำนาจที่สุดในวงการภาพยนตร์  
 
 
หนึ่งปีมีเพียงหนึ่งครั้ง นักแสดงต่างพากันต่อสู้ฝ่าฟันเป็นสิบยี่สิบปีเพื่อรางวัลนี้ นั่นก็คือราชินีแห่งภาพยนตร์  
 
 
แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกกับการเป็นนักแสดงนำในการถ่ายภาพยนตร์ของหลินเช่อ อีกทั้ง ภาพยนตร์ยังไม่ทันได้เข้าฉายเลย  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นบอก “ถูกส่งไปแล้ว จะมีชื่อเข้าชิงไหมยังไม่รู้ แต่ว่า ฉันเชื่อในความสามารถของเธอ ครั้งนี้เธอทำได้ดีมาก ผู้กำกับเองก็ชมเธอเหมือนกัน บอกว่าการแสดงของเธอพัฒนาไปมากทีเดียว เธอต้องมั่นใจในความสามารถของตัวเอง ต้องมีโอกาสได้เข้ารอบแน่”  
 
 
หลินเช่อพยักหน้าแรงๆ แม้จะรู้สึกว่ารางวัลทองคำจะอยู่ห่างไกลจากเธอเหลือเกิน แต่ว่า ตอนนี้ก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้าง  
 
 
เมื่อเทียบกับรางวัลทองคำแล้ว รางวัลใหญ่สำหรับความบันเทิงในวงการบันเทิงแล้วก็ไม่ได้มีอะไรสำคัญเลย แค่คิดก็รู้แล้ว  
 
 
อวี๋หมินหมิ่นบอก “เอาล่ะ ทีนี้เรื่องอื่นเธอก็วางใจได้แล้ว ไปตั้งใจเรียนเถอะ”  
 
 
เมื่อฝึกทหารเสร็จ คลาสแรกก็เริ่มขึ้นในห้องเรียนห้องหนึ่งของโรงเรียนการแสดง  
 
 
ฉินหวานหว่านมาถึงก่อน ทุกคนต่างก็ได้ยินมาว่า ฉินหวานหว่านมีชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ในปีนี้ นั่นเป็นรายชื่อการคัดเลือกศิลปิน แค่เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงก็มีสิทธิ์เข้าชิง ไม่ว่าจะเป็นการแสดง ร้องเพลง พิธีกร หรือว่าตัวตลก หรืออาจจะเป็นนักกีฬา ล้วนแล้วแต่มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัล ดังนั้นการแข่งขันจึงมีมาก ฉินหวานหว่านและหลินเช่อต่างก็ได้เข้าชิง แต่ว่า ถ้าดูจากก่อนหน้านี้ ทุกคนอาจจะคิดว่าหลินเช่อมีสิทธิ์ที่จะได้รับรางวัลนี้มากทีเดียว รางวัลนี้แสดงให้เห็นถึงความนิยมตลอดปีและการพัฒนาได้ในอนาคต การจัดอันดับฮวาตันน้อยทั้งสี่นั้น ก็ได้เริ่มนับตั้งแต่มีชื่อเข้าชิงรางวัล หลินเช่อและฉินหวานหว่าน รวมถึงนักแสดงอีกไม่กี่คนต่างก็เป็นหน้าใหม่ที่ได้เข้าชิง ซึ่งถูกจัดอันดับไว้กลางๆ อยู่ต่อหลังจากเหล่านักแสดงรุ่นใหญ่อีกที ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าฮวาตั้นน้อยทั้งสี่[1]  
 
 
 
 
 
——
 
 
[1]  ฮวาตั้นทั้งสี่  ใช้สื่อถึงสี่ดาราหญิงจีนที่มีความสามารถด้านการแสดงโดดเด่นและเปล่งประกายเป็นที่น่าจับตามองของยุค  

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset