บริษัท
หลินเช่อและอวี๋หมินหมิ่นเดินพูดคุยสนุกสนานเข้าไปด้านใน
“อย่าลืมดูบทนะ ถึงเวลาแคสนักแสดงแล้วฉันจะบอกเธออีกที” อวี๋หมินหมิ่นบอก
“แน่นอนอยู่แล้ว เดิมฉันก็เป็นแฟนหนังสือเรื่องนี้เหมือนกัน เมื่อก่อนชอบอ่านมาก อ่านจบไปหลายรอบแล้ว จำเนื้อหาได้หมดแล้ว”
อวี๋หมินหมิ่นบอก “ครั้งนี้บริษัทสนับสนุนฉินหวานหว่านเต็มที่เลยล่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าฉินหวานหว่านเอายาอะไรให้ผู้บริหารกิน เธอต้องระวังหน่อย”
หลินเช่อบอก “ฉันแค่ไม่ได้กลับมาแค่เดือนเดียว เธอยึดพื้นที่ในบริษัทไปหมดแล้วเหรอ”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ ตอนที่เธออยู่ จำนวนแฟนคลับก็พอๆ กัน ทำรายได้พอๆ กัน ตอนที่เธอไม่อยู่ ฉินหวานหว่านก็กลายเป็นใหญ่ขึ้นมาทันที ก็อย่างที่รู้ เธอทำกำไรไปเยอะแล้ว”
หลินเช่อทำเพียงยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
ตอนนั้นเอง บริษัทโทรมาเรียกเข้าประชุมอวี๋หมินหมิ่นไปเข้าประชุม ให้หลินเช่อเดินขึ้นห้องทำงานไปก่อน
หลินเช่อเดินเข้าไปด้านในคนเดียว ได้ยินเสียงเพลงดังออกมาจากห้องซ้อมเด็กใหม่
หลินเช่อเดินผ่านไป เห็นว่าเด็กใหม่กำลังซ้อมเต้นอยู่
หลินเช่อยืนดูอยู่ตรงนั้น แต่ไม่นานเด็กใหม่ก็มองเห็นหลินเช่อ
“หลินเช่อเหรอ”
“โอ้ พี่เช่อ พี่เช่อจริงๆ ด้วย”
เพราะดาราตัวเล็กๆ อย่างพวกเธอ น้อยมากที่จะได้เจอกับหลินเช่อในบริษัท แม้ว่าพวกเธอจะอยู่ในบริษัทเดียวกัน แต่ก็เป็นห้องทำงานที่ถูกแยกออกมา อยู่กับกลุ่มของตัวเอง ไม่สามารถไปเดินข้างนอกได้ตามใจ
ดังนั้นเมื่อเห็นหลินเช่อมาอยู่ที่ห้องฝึกซ้อมของตนเอง เหล่าเด็กใหม่ต่างก็ตื่นเต้นไปตามๆ กัน เดินเข้ามาหา
“พี่เช่อ มาอยู่ที่ห้องซ้อมของพวกเราได้ยังไงคะ”
หลินเช่อยิ้ม “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พวกเธอซ้อมของพวกเธอไปเถอะ ฉันแค่เดินผ่านมา เลยแวะมาดู”
เธออารมณ์ไม่ดีตั้งแต่เช้า ตอนนี้ได้เจอหน้าใหม่ๆ ที่สดใสร่าเริง อารมณ์เลยดีขึ้นมาบ้างแล้ว
บางทีอาจจะนึกถึงตอนที่ตัวเองยังไม่ดัง เหมือนกับพวกเธอในตอนนี้ ไร้เดียงสา
“พี่เช่อคะ นานแล้วที่ไม่เห็นพี่เข้าบริษัท พี่ไปฝึกเหรอคะ” เด็กใหม่ถามหลินเช่อ
หลินเช่อหัวเราะ “เปล่าหรอก ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ”
“เพราะรูปร่างพี่เช่อเปลี่ยนไปเยอะมากๆ เลยค่ะ”
หลินเช่อหัวเราะ “แค่ออกกำลังกายนิดหน่อย”
“พี่เช่อช่วยแชร์วิธีการออกกำลังกายของพี่หน่อยได้ไหมคะ หุ่นสวยมากเลย กล้ามเนื้อแบบนี้ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด มีนิดหน่อยเอง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ขา สวยมากเลยค่ะ”
เพราะหลินเช่อเต้นบัลเล่ต์ ทำให้รูปร่างต่างไปจากเดิม เธอรู้สึกว่าบัลเล่ต์ดีมากๆ เมื่อได้เริ่มเรียนแล้ว ต่อไปก็คงหาเวลาฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ เพื่อรูปร่างที่เปลี่ยนไป คิดว่าน่าจะช่วยอะไรได้มากทีเดียว
หลินเช่อยิ้ม “ไม่มีหรอก ฉันคิดว่าน่าจะเพราะการฝึกเต้น ไม่มีอะไรพิเศษเลย”
เสียงเจี๊ยวจ๊าวฝั่งนี้ ดึงความสนใจจากฉินหวานหว่านที่เดินเข้ามาพร้อมกับพี่หลินผู้จัดการของเธอ
โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่า หลินเช่ออยู่ตรงนั้น
ฉินหวานหว่านถามอย่างแปลกใจ “หลินเช่อทำไมไปอยู่ที่ห้องซ้อมเด็กใหม่ล่ะ”
พี่หลินส่งเสียงหึในลำคอ “คงเพราะอยู่ข้างนอกโดนหัวเราะเยาะเยอะไปหน่อย เลยต้องวิ่งไปห้องเด็กฝึกเพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองยังมีตัวตนอยู่ ช่วงนี้เราแย่งทรัพยากรเธอมาไม่น้อย เธอพึ่งกลับมา ยังไม่มีอะไรเลย คงรู้สึกแย่ไม่น้อย น่าสงสารจริงๆ เสียดาย ใครใช้ให้เธอตกใจจนหนีไปเป็นเดือนๆ ในเวลาสำคัญแบบนี้ เธอได้มอบโอกาสมากมายมาให้เรา”
ฉินหวานหว่านได้ยินดังนั้น จึงยิ้มเย็นออกมา
หลินเช่อยังคงพูดคุยอยู่ตรงนั้น
“นี่ หลินเช่อ หาได้ยากนะ ทำไมอยู่ๆ มาโผล่ที่บริษัทได้ล่ะ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอมาบริษัทแทบนับครั้งได้” พี่หลินเอ่ยขึ้น
หลินเช่อหันกลับมา มองเห็นว่าฉินหวานหว่านเองก็เดินเข้ามาด้วยกัน ยิ้ม ไม่อยากคุยอะไรกับพวกเธอมาก เธออารมณ์ไม่ดี คร้านจะโต้เถียงกับใคร
กำลังจะเดินหนีไป ฉินหวานหว่านกลับยื่นมือไปคว้าหลินเช่อเอาไว้ “หลินเช่อ หนึ่งเดือนมานี้เธอไปทำอะไรมา ฉันเป็นห่วงเธอมาก”
เธอลูบแขนหลินเช่อ รู้สึกว่ามันแข็งมาก กล้ามเนื้อมากขึ้น แถมรูปร่างยังเด่นชัดสวยงาม
เธออดคิดในใจไม่ได้ ที่แท้หลินเช่อก็ไปแอบฝึกฝนมาจริงๆ ด้วย
ชั่วครู่ เธอก็รู้สึกระแวงขึ้นมา ไม่รู้ว่าต่อไปหลินเช่อคิดจะทำอะไรอีก
หลินเช่อรีบผลักมือฉินหวานหว่านออก “ฉันแค่ไปจัดการธุระของตัวเอง”
พี่หลินมองเด็กใหม่เหล่านี้ กอดอก ใบหน้าเย่อหยิ่ง
เด็กใหม่มองดาราใหญ่ตรงหน้าตัวเอง จากนั้นหันกลับไปมองผู้จัดการตัวเอง
“นี่หลินเช่อ เพราะบันทึกอูกู่ เธอถึงขั้นต้องแอบไปฝึกเลยเหรอ”
ใกล้ถึงวันแคสตัวละครของบันทึกอูกู่แล้ว ละครเรื่องนี้มีความสำคัญมากแค่ไหน พวกเขารู้ดี ถ้ามีโอกาสถูกรับเลือก อนาคตพวกเธออาจจะดังเป็นพลุแตกเลยก็ว่าได้
ดังนั้นการที่หลินเช่อเลือกที่จะหายไปเป็นเวลาหนึ่งเดือน มันก็อดไม่ได้ที่จะทำให้คนสงสัย เธอไปเตรียมตัวอะไรมาหรือเปล่า
หลินเช่อบอก “บันทึกอูกู่เหรอ การแคสตัวละคร ทุกคนต่างก็ต้องใช้ความสามารถตัวเองทั้งนั้น ฉันจะแอบไปทำอะไรได้ พวกเธอคิดมากไปเองซะมากกว่า”
พี่หลินไม่เชื่อคำพูดของเธอ เธอยืนอยู่ตรงนั้น พูดดูถูก “บทนี้เป็นของหวานหว่านของเรา ฉันจะบอกอะไรให้นะ บทนี้เรามั่นใจได้เลยเก้าในสิบส่วน เธอไม่ต้องไปเสียเวลาอะไรมากมายหรอก เธอก็ลองมองดู ว่าตอนนี้บริษัทเป็นของใคร เธอได้เสียทรัพยากรที่ดีที่สุดไปแล้ว ตอนนี้ ที่นี่ไม่มีสิทธิ์ของเธอแล้ว”
หลินเช่อยิ้มหยันมองพวกเธอ แล้วแต่พวกเธอจะพูด หมุนตัวเตรียมเดินหนีไป
พี่หลินไปคว้าแขนเธอเอาไว้ จับเธอเอาไว้แน่น ข่มขู่เธอ “ฉันไม่ใช่ผู้จัดการไร้ความสามารถอย่างอวี๋หมินหมิ่น ฉันจะทำให้เธอไม่สามารถอยู่ในวงการได้อีกต่อไป เธอก็จำคำพูดของฉันในวันนี้เอาไว้”
ตอนนั้นเอง
ด้านหลังก็มีคนพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
มาหยุดอยู่ข้างกายหลินเช่ออย่างรวดเร็วราวกับสายลม
หลินเช่อและฉินหวานหว่านยังไม่ทันได้สติ ก็เห็นเขาผลักมือของพี่หลินออกไป
แรงผู้ชายอย่างเขา ทำให้พี่หลินถูกผลักปลิวไปอีกฝั่ง ถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะตั้งหลักได้
พี่หลินมองชายตรงหน้าด้วยความแปลกใจ
หลินเช่อเองก็ตกตะลึง
“ซือถู คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
ซือถูฉยงมองพี่หลินด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
ฉินหวานหว่านยืนมองอยู่ตรงนั้น
ซือถูเหรอ
ใครกัน
ซือถูฉยงดึงหลินเช่อมาไว้ด้านข้าง หันกลับไปหาพี่หลิน “เมื่อกี้ใครบอก จะทำให้หลินเช่อไม่สามารถอยู่ในวงการได้อีกต่อไป”
ยังไม่ทันรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นใคร พี่หลินก็ต้องชะงัก ไม่รู้ต้องพูดอะไร
ซือถูฉยงหันมาบอกกับหลินเช่อ “ไม่เป็นไร หลินเช่อ ใครที่ทำให้คุณอยู่ในวงการต่อไปไม่ได้ ผมก็สามารถทำให้เขาไม่สามารถอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปได้เหมือนกัน”
ดวงตามาดร้ายของซือถูฉยงจ้องไปยังพี่หลิน จนเธอตัวสั่งระริก