“หลินเช่อ ทำไมซือถูฉยงต้องเข้าใกล้เธอ เห็นได้ชัดว่าเขามีจุดประสงค์ สมองแบบเธอ คงหนีไม่พ้นถูกเขาหลอก ดังนั้น ฉันจะเตือนเธอให้นะ อยู่ให้ห่างจากเขาหน่อยก็ดี ไม่งั้น ถึงตอนนั้นที่เธอโดนหลอกแล้ว อย่ามาขอความช่วยเหลือจากฉันแล้วกัน” “ฉัน…” หลินเช่อบอก “ฉันไม่รู้สึกว่าซือถูฉยงเลวร้ายอะไรเลยนะ คุณอย่ามองเขาเลวร้ายแบบนั้นสิ” “ถ้าฉันเป็นเหมือนเธอ มองทุกคนเป็นคนดีไปหมด ธุรกิจของฉันคงล้มละลายไปนานแล้ว” กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาลง มองเธอ “ยังไงซะ เธอก็จะไม่ฟังคำพูดของฉัน แล้วยังจะเจอกับซือถูฉยงอยู่เหมือนเดิมใช่ไหม” หลินเช่อชะงัก ลังเลขึ้นมา ซือถูฉยงเห็นเธอเป็นเพื่อนไปแล้ว ตอนนี้แม้แต่เจอหน้าก็ยังไม่ได้อีกเหรอ เพียงความลังเลนั้น ยิ่งทำให้กู้จิ้งเจ๋อโมโหหนักขึ้นไปอีก ยิ้มเย็นออกมา กระแทกประตูปิดลง “นี่ นี่ คุณเป็นอะไรเนี่ย คุณ…เปิดประตูนะ คุณจะทำอะไร” หลินเช่อเคาะประตู ทว่าได้ยินเสียงกลอนจากด้านใน เขาล็อกประตูจากด้านแล้ว หลินเช่อพลันโมโหขึ้นมา หมายความว่าอย่างไร เธอยังไม่ได้พูดอะไรเลย เขาก็โกรธขนาดนั้น หลินเช่อตะโกนผ่านประตู “ได้ ได้สิ กู้จิ้งเจ๋อ คุณจะไม่เปิดประตูให้ฉันใช่ไหม ไม่ยอมเปิดประตู ทำตัวเป็นเด็ก บ้าอำนาจ … บ้าอำนาจ ไร้หัวใจ เลือดเย็น เรื่องมาก คุณ…” หัวหลินเช่อแทบระเบิด ชั่วครู่ไม่รู้จะหาคำไหนมาต่อว่าเขาดี จึงหันหลังกลับ เดินออกไปด้านนอก ด้านนอก สาวใช้ต่างมองหน้ากัน ทะเลาะกันเหรอ เอาล่ะ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะอยู่ไม่สงบไปอีกหลายวัน… —— วันต่อมา หลินเช่อเตรียมตัวไปร่วมงานพร้อมกับอวี๋หมินหมิ่น อวี๋หมินหมิ่นเห็นว่าเธอดูเซื่องซึม จึงถาม “เธอเป็นอะไร ครั้งนี้กับลู่ชูเซี่ย เธอก็เอาชนะได้แล้ว ทำไมยังไม่ดีใจอีก” หลินเช่อบอก “เปล่า ฉันแค่เหนื่อยน่ะ” อวี๋หมินหมิ่นไม่รู้จะพูดอะไร “อ่อ…” เมื่อคิดแล้ว เธอจึงเอ่ยขึ้นอีก “เธอเหนื่อยอะไร กลางวันแสกๆ ยังไม่มีสติแบบนี้…เมื่อกี้ทานข้าวก็เหมือนไม่อร่อย นี่ ไม่ใช่ว่าเธอ…ท้องแล้วนะ” หลินเช่อตีเธอ “นี่ คิดบ้าอะไรของเธอเนี่ย” “ทำไม เธออยู่กับกู้จิ้งเจ๋อทุกวัน ท้องก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “เธอคิดว่า อย่างกู้จิ้งเจ๋อเหรอจะทำอะไรที่มันไม่แน่นอน เราป้องกันทุกทางเถอะ” อวี๋หมินหมิ่นบอก “มันก็ไม่แน่น ถุงยางคุมกำเนิด ป้องกันได้เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ในหนึ่งร้อยคู่ก็ยังไม่โอกาสท้องได้หนึ่งคู่” “พอเถอะ ฉันจะบอกอะไรให้นะ กู้จิ้งเจ๋อคนนั้น เพราะฉันเข้าใกล้ซือถูฉยง เลยโกรธน่ะสิ” “ว้าว หึงแรงไม่เบา” อวี๋หมินหมิ่นบอก หลินเช่อบอก “อะไร เขาน่ะ… ฉันกับซือถูฉยงเป็นแค่เพื่อนกัน เขาคงไม่มีสิทธิ์มาห้ามให้ฉันคบเพื่อนหรอกใช่ไหม” อวี๋หมินหมิ่นเองก็ไม่เคยเจอซือถูฉยง เธอจึงไม่รู้จะตอบอะไร ทว่าในตอนนั้น มีคนเข้ามาหาหลินเช่อ ถอดแว่นกันแดดออก “คุณหลิน ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” หลินเช่อมึนงง มองคนแปลกหน้าตรงหน้า แต่ว่า พวกเธออยู่ในงานนะ คงไม่มีแฟนคลับเข้ามาหรอก หลินเช่อยังคงแปลกใจ ชายหนุ่มตรงหน้าก็แนะนำตัว “ผมเคยดูบัลเล่ต์ของคุณหลิน รู้สึกชื่นชอบมาก คุณหลิน คุณสุดยอดไปเลย จริงสิ ผมเป็นคนของซูเปอร์คาร์คลับ คุณสนใจเข้าร่วมกับคลับของเราไหมครับ” ที่แท้ก็เป็นหนึ่งในคุณชายไม่รู้ตระกูลไหนที่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู เธอยิ้มและรับนามบัตรมา “ฉันขอคิดดูก่อนนะคะ แต่ฉันไม่ได้ชื่นชอบการแข่งรถเท่าไหร่เลย” เขาได้ยินดังนั้นกำลังจะรีบเอ่ย โชคดีที่ผู้จัดงานเข้ามา หลินเช่อก็ถือโอกาสนั้นปลีกตัวออกไป อวี๋หมินหมิ่นบอก “ไม่ใช่มั้ง คนในซูเปอร์คาร์คลับถึงขั้นเข้ามาเชิญเธอ เธอดังจริงๆ แล้วสินะ” หลินเช่อกำลังรำคาญใจ คร้านจะสนใจอะไรแบบนี้ อวี๋หมินหมิ่นบอก “นี่ร่ำรวยจริงๆ ว้าว เริ่มมีคนรวยผันตัวมาเป็นแฟนคลับเธอมากขึ้นแล้ว หลินเช่อ ต่อไปเธอต้องพาฉันบินไปด้วยกันนะ…” “พอเถอะ” ตอนนั้นเอง หลินเช่อเห็นว่า ซือถูฉยงโทรเข้ามา เธอยื่นโทรศัพท์ให้อวี๋หมินหมิ่น ตั้งใจไม่รับโทรศัพท์ เข้าไปร่วมงานก่อน —— อีกฝั่ง กู้จิ้งเจ๋อมองซือถูฉยง ซือถูฉยงยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋า จ้องมองกู้จิ้งเจ๋อ “ประธานกู้ช่างเป็นแขกที่หาได้ยาก ทำไมถึงได้มีเวลามาหาผมถึงที่นี่ล่ะครับ” กู้จิ้งเจ๋อบอก “ผมเคยเตือนคุณไปแล้ว ให้คุณอยู่ห่างจากหลินเช่อ” ซือถูฉยงบอก “แต่ผมยังไม่ได้รับปากเลยนะครับ” กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาลง “เธอมีสามีแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ผมคงไม่ต้องเตือนสติคุณหรอกใช่ไหม” “คุณไม่ได้บอก ว่าเธอถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณ แม้ว่าพวกคุณจะเป็นสามีภรรยา แต่ก็ไม่ใช่สามีภรรยาทั่วไปนี่ครับ” กู้จิ้งเจ๋อเลิกคิ้ว ซือถูฉยงบอก “อยากรู้เหรอว่าผมรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง แม้ว่าผมจะไม่ค่อยออกไปข้างนอก แต่ว่า ผมยังมีหูที่คอยฟังเรื่องราวจากด้านนอก” กู้จิ้งเจ๋อบอก “แต่เธอยังคงเป็นภรรยาของผม” “ก็แค่ระยะเวลาสั้นๆ” ซือถูฉยงบอก “ผมคิดว่าคุณอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดของเธอก็ได้ และหลินเช่อ เธอสมควรจะได้เจอกับผู้ชายที่รักเธอ” “ซือถูฉยง คุณอย่าให้มันมากเกินไป” น้ำเสียงกู้จิ้งเจ๋อเยือกเย็น ความหนาวเหน็บปรากฏบนใบหน้า ซือถูฉยงไม่กลัวฟ้ากลัวดิน ถ้าเป็นคนอื่น เห็นท่าทางแบบนี้ของกู้จิ้งเจ๋อ คงต้องหวาดกลัว แต่ซือถูฉยงยังคงยิ้มอยู่แบบนั้น มองไปยังกู้จิ้งเจ๋อ “เป็นผู้ชาย เมื่อได้เจอกับผู้หญิงที่ชอบ ก็สามารถแข่งกันได้ รอดูว่าสุดท้ายเธอจะเลือกใคร” เขา…เกินไปหรือเปล่า กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเย็น “คุณกล้ามากจริงๆ ” ซือถูฉยงบอก “คุณควรเตรียมตัวตั้งนานแล้ว หลินเช่อ เธอดึงดูดคนได้เป็นอย่างดี และมีคนอีกมากที่ชอบเธอ เธอไม่ใช่คนที่คุณจะซ่อนเอาไว้ได้” กู้จิ้งเจ๋อใบหน้าเข้มขึ้น ซือถูฉยงบอก “ผมยอมรับ ว่าผมชอบหลินเช่อ มีความรู้สึกให้เธอ ดังนั้น คุณให้ผมออกห่างจากหลินเช่อ ผมคงทำไม่ได้ ผมไม่สนหรอกนะว่าเธอจะแต่งงานแล้วหรือไม่ ถ้าเธอยอมหย่าแล้วมาอยู่กับผม ผมจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด” ซือถูฉยงมองกู้จิ้งเจ๋อ “คุณมาหาผมก็ไม่มีประโยชน์หรอก ผมกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าคุณ ต่อหน้าคนอื่น…ผมก็กล้า” ดอกไม้ไฟปะทุรอบทิศ ชายหนุ่มทั้งสอง ยืนอยู่บนทางเดินของห้องทำงาน จ้องกันเขม็ง ไม่มีใครยอมใคร
“หลินเช่อ ทำไมซือถูฉยงต้องเข้าใกล้เธอ เห็นได้ชัดว่าเขามีจุดประสงค์ สมองแบบเธอ คงหนีไม่พ้นถูกเขาหลอก ดังนั้น ฉันจะเตือนเธอให้นะ อยู่ให้ห่างจากเขาหน่อยก็ดี ไม่งั้น ถึงตอนนั้นที่เธอโดนหลอกแล้ว อย่ามาขอความช่วยเหลือจากฉันแล้วกัน”
“ฉัน…”
หลินเช่อบอก “ฉันไม่รู้สึกว่าซือถูฉยงเลวร้ายอะไรเลยนะ คุณอย่ามองเขาเลวร้ายแบบนั้นสิ”
“ถ้าฉันเป็นเหมือนเธอ มองทุกคนเป็นคนดีไปหมด ธุรกิจของฉันคงล้มละลายไปนานแล้ว”
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาลง มองเธอ “ยังไงซะ เธอก็จะไม่ฟังคำพูดของฉัน แล้วยังจะเจอกับซือถูฉยงอยู่เหมือนเดิมใช่ไหม”
หลินเช่อชะงัก ลังเลขึ้นมา
ซือถูฉยงเห็นเธอเป็นเพื่อนไปแล้ว ตอนนี้แม้แต่เจอหน้าก็ยังไม่ได้อีกเหรอ
เพียงความลังเลนั้น ยิ่งทำให้กู้จิ้งเจ๋อโมโหหนักขึ้นไปอีก
ยิ้มเย็นออกมา กระแทกประตูปิดลง
“นี่ นี่ คุณเป็นอะไรเนี่ย คุณ…เปิดประตูนะ คุณจะทำอะไร”
หลินเช่อเคาะประตู ทว่าได้ยินเสียงกลอนจากด้านใน
เขาล็อกประตูจากด้านแล้ว
หลินเช่อพลันโมโหขึ้นมา หมายความว่าอย่างไร เธอยังไม่ได้พูดอะไรเลย เขาก็โกรธขนาดนั้น
หลินเช่อตะโกนผ่านประตู “ได้ ได้สิ กู้จิ้งเจ๋อ คุณจะไม่เปิดประตูให้ฉันใช่ไหม ไม่ยอมเปิดประตู ทำตัวเป็นเด็ก บ้าอำนาจ … บ้าอำนาจ ไร้หัวใจ เลือดเย็น เรื่องมาก คุณ…”
หัวหลินเช่อแทบระเบิด ชั่วครู่ไม่รู้จะหาคำไหนมาต่อว่าเขาดี จึงหันหลังกลับ เดินออกไปด้านนอก
ด้านนอก สาวใช้ต่างมองหน้ากัน
ทะเลาะกันเหรอ
เอาล่ะ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะอยู่ไม่สงบไปอีกหลายวัน…
——
วันต่อมา
หลินเช่อเตรียมตัวไปร่วมงานพร้อมกับอวี๋หมินหมิ่น
อวี๋หมินหมิ่นเห็นว่าเธอดูเซื่องซึม จึงถาม “เธอเป็นอะไร ครั้งนี้กับลู่ชูเซี่ย เธอก็เอาชนะได้แล้ว ทำไมยังไม่ดีใจอีก”
หลินเช่อบอก “เปล่า ฉันแค่เหนื่อยน่ะ”
อวี๋หมินหมิ่นไม่รู้จะพูดอะไร “อ่อ…”
เมื่อคิดแล้ว เธอจึงเอ่ยขึ้นอีก “เธอเหนื่อยอะไร กลางวันแสกๆ ยังไม่มีสติแบบนี้…เมื่อกี้ทานข้าวก็เหมือนไม่อร่อย นี่ ไม่ใช่ว่าเธอ…ท้องแล้วนะ”
หลินเช่อตีเธอ “นี่ คิดบ้าอะไรของเธอเนี่ย”
“ทำไม เธออยู่กับกู้จิ้งเจ๋อทุกวัน ท้องก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
“เธอคิดว่า อย่างกู้จิ้งเจ๋อเหรอจะทำอะไรที่มันไม่แน่นอน เราป้องกันทุกทางเถอะ”
อวี๋หมินหมิ่นบอก “มันก็ไม่แน่น ถุงยางคุมกำเนิด ป้องกันได้เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ในหนึ่งร้อยคู่ก็ยังไม่โอกาสท้องได้หนึ่งคู่”
“พอเถอะ ฉันจะบอกอะไรให้นะ กู้จิ้งเจ๋อคนนั้น เพราะฉันเข้าใกล้ซือถูฉยง เลยโกรธน่ะสิ”
“ว้าว หึงแรงไม่เบา” อวี๋หมินหมิ่นบอก
หลินเช่อบอก “อะไร เขาน่ะ… ฉันกับซือถูฉยงเป็นแค่เพื่อนกัน เขาคงไม่มีสิทธิ์มาห้ามให้ฉันคบเพื่อนหรอกใช่ไหม”
อวี๋หมินหมิ่นเองก็ไม่เคยเจอซือถูฉยง เธอจึงไม่รู้จะตอบอะไร
ทว่าในตอนนั้น มีคนเข้ามาหาหลินเช่อ ถอดแว่นกันแดดออก
“คุณหลิน ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”
หลินเช่อมึนงง มองคนแปลกหน้าตรงหน้า
แต่ว่า พวกเธออยู่ในงานนะ คงไม่มีแฟนคลับเข้ามาหรอก
หลินเช่อยังคงแปลกใจ ชายหนุ่มตรงหน้าก็แนะนำตัว “ผมเคยดูบัลเล่ต์ของคุณหลิน รู้สึกชื่นชอบมาก คุณหลิน คุณสุดยอดไปเลย จริงสิ ผมเป็นคนของซูเปอร์คาร์คลับ คุณสนใจเข้าร่วมกับคลับของเราไหมครับ”
ที่แท้ก็เป็นหนึ่งในคุณชายไม่รู้ตระกูลไหนที่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู
เธอยิ้มและรับนามบัตรมา “ฉันขอคิดดูก่อนนะคะ แต่ฉันไม่ได้ชื่นชอบการแข่งรถเท่าไหร่เลย”
เขาได้ยินดังนั้นกำลังจะรีบเอ่ย โชคดีที่ผู้จัดงานเข้ามา หลินเช่อก็ถือโอกาสนั้นปลีกตัวออกไป
อวี๋หมินหมิ่นบอก “ไม่ใช่มั้ง คนในซูเปอร์คาร์คลับถึงขั้นเข้ามาเชิญเธอ เธอดังจริงๆ แล้วสินะ”
หลินเช่อกำลังรำคาญใจ คร้านจะสนใจอะไรแบบนี้
อวี๋หมินหมิ่นบอก “นี่ร่ำรวยจริงๆ ว้าว เริ่มมีคนรวยผันตัวมาเป็นแฟนคลับเธอมากขึ้นแล้ว หลินเช่อ ต่อไปเธอต้องพาฉันบินไปด้วยกันนะ…”
“พอเถอะ”
ตอนนั้นเอง หลินเช่อเห็นว่า ซือถูฉยงโทรเข้ามา
เธอยื่นโทรศัพท์ให้อวี๋หมินหมิ่น ตั้งใจไม่รับโทรศัพท์ เข้าไปร่วมงานก่อน
——
อีกฝั่ง
กู้จิ้งเจ๋อมองซือถูฉยง
ซือถูฉยงยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋า จ้องมองกู้จิ้งเจ๋อ “ประธานกู้ช่างเป็นแขกที่หาได้ยาก ทำไมถึงได้มีเวลามาหาผมถึงที่นี่ล่ะครับ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ผมเคยเตือนคุณไปแล้ว ให้คุณอยู่ห่างจากหลินเช่อ”
ซือถูฉยงบอก “แต่ผมยังไม่ได้รับปากเลยนะครับ”
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาลง “เธอมีสามีแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ผมคงไม่ต้องเตือนสติคุณหรอกใช่ไหม”
“คุณไม่ได้บอก ว่าเธอถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณ แม้ว่าพวกคุณจะเป็นสามีภรรยา แต่ก็ไม่ใช่สามีภรรยาทั่วไปนี่ครับ”
กู้จิ้งเจ๋อเลิกคิ้ว
ซือถูฉยงบอก “อยากรู้เหรอว่าผมรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง แม้ว่าผมจะไม่ค่อยออกไปข้างนอก แต่ว่า ผมยังมีหูที่คอยฟังเรื่องราวจากด้านนอก”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “แต่เธอยังคงเป็นภรรยาของผม”
“ก็แค่ระยะเวลาสั้นๆ” ซือถูฉยงบอก “ผมคิดว่าคุณอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดของเธอก็ได้ และหลินเช่อ เธอสมควรจะได้เจอกับผู้ชายที่รักเธอ”
“ซือถูฉยง คุณอย่าให้มันมากเกินไป” น้ำเสียงกู้จิ้งเจ๋อเยือกเย็น ความหนาวเหน็บปรากฏบนใบหน้า
ซือถูฉยงไม่กลัวฟ้ากลัวดิน ถ้าเป็นคนอื่น เห็นท่าทางแบบนี้ของกู้จิ้งเจ๋อ คงต้องหวาดกลัว แต่ซือถูฉยงยังคงยิ้มอยู่แบบนั้น มองไปยังกู้จิ้งเจ๋อ “เป็นผู้ชาย เมื่อได้เจอกับผู้หญิงที่ชอบ ก็สามารถแข่งกันได้ รอดูว่าสุดท้ายเธอจะเลือกใคร”
เขา…เกินไปหรือเปล่า
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเย็น “คุณกล้ามากจริงๆ ”
ซือถูฉยงบอก “คุณควรเตรียมตัวตั้งนานแล้ว หลินเช่อ เธอดึงดูดคนได้เป็นอย่างดี และมีคนอีกมากที่ชอบเธอ เธอไม่ใช่คนที่คุณจะซ่อนเอาไว้ได้”
กู้จิ้งเจ๋อใบหน้าเข้มขึ้น
ซือถูฉยงบอก “ผมยอมรับ ว่าผมชอบหลินเช่อ มีความรู้สึกให้เธอ ดังนั้น คุณให้ผมออกห่างจากหลินเช่อ ผมคงทำไม่ได้ ผมไม่สนหรอกนะว่าเธอจะแต่งงานแล้วหรือไม่ ถ้าเธอยอมหย่าแล้วมาอยู่กับผม ผมจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด”
ซือถูฉยงมองกู้จิ้งเจ๋อ “คุณมาหาผมก็ไม่มีประโยชน์หรอก ผมกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าคุณ ต่อหน้าคนอื่น…ผมก็กล้า”
ดอกไม้ไฟปะทุรอบทิศ
ชายหนุ่มทั้งสอง ยืนอยู่บนทางเดินของห้องทำงาน จ้องกันเขม็ง ไม่มีใครยอมใคร