“ใช่ค่ะ พึ่งจะเรียน” หลินเช่อบอก
ซือถูฉยงส่ายศีรษะ “ให้ตายเถอะ ปกติขยันขึ้นหน่อยก็ได้ ทำไมต้องมาเรียนเอากะทันหันแบบนี้”
“ฉันก็ไม่ได้ทำให้คุณขายหน้าไม่ใช่เหรอคะ” เธอส่งเสียงหึเบาๆ
กู้จิ้งเจ๋อเริ่มไม่พอใจซือถูฉยงคนนี้
เดิมทีไม่เคยได้ยินว่าเขาจะพูดมากขนาดนี้
กู้จิ้งเจ๋อตีหน้าขรึม จ้องซือถูฉยงเขม็ง หมุนตัวแล้วเดินออกไปจากตรงนี้
แน่นอนว่าซือถูฉยงสังเกตได้ นั่นเป็นคำเตือนของผู้ชายด้วยกัน ส่งเสียงเย้ยหยัน ยืนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจอยู่ตรงนั้น
ทุกคนที่ได้ชมการแข่งขัน ต่างก็ไม่สามารถดึงสติกลับมาจากการแข่งขันเมื่อสักครู่ได้
ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่การแข่งขัน แต่เป็นการปรากฏตัวของซือถูฉยง
และท่าทางที่มีเสน่ห์ของหลินเช่อ
เธอทำให้เหล่าคุณชายทั้งหลายตกหลุมรักได้ในระยะเวลาอันสั้น พูดคุยกันว่า เมื่อก่อนทำไมพวกเขาถึงไม่รู้จักหลินเช่อ เธอน่าหลงใหลซะขนาดนี้
เสียดายที่รู้จักช้าไปหน่อย เธอถูกกู้จิ้งเจ๋อชิงไปก่อนแล้ว
เมื่อเข้ามาในห้อง กู้จิ้งเจ๋อก็สั่งให้คนเอายามาให้หลินเช่อ
หลินเช่อนอนอยู่ตรงนั้น มองเห็นกู้จิ้งเจ๋อโบกมือส่งสัญญาณให้คนออกไป จากนั้นถือยาเข้ามาด้วยตนเอง
หลินเช่อรีบถาม “คุณ…คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นหวัด”
กู้จิ้งเจ๋อจ้องเธอเขม็ง “เธอควรจะบอก ทำไมไม่รีบบอกฉัน”
หลินเช่อนอนอยู่ตรงนั้น ยู่ปาก “ฉันคิดว่าจะไม่เป็นอะไร…ฉันคิดว่าฉันจะทนได้”
“เอาล่ะ” เขาบอก ส่งยาให้หลินเช่อกิน
หลินเช่อทำได้เพียงอ้าปากอย่างว่าง่าย
หลังดื่มยาแล้ว มองกู้จิ้งเจ๋อวางแผงยาลง เธอจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นเต้น “ความจริงฉันนึกว่าจะแพ้แล้วซะอีก ไม่คิดว่าอยู่ดีๆ ซือถูฉยงจะโผล่มา ฉันคิดว่าให้ตายยังไงก็ไม่ยอมแพ้ต่อหน้าเขาแน่ ไม่งั้นคงขายหน้าแย่”
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองเธอ “งั้นเหรอ”
หลินเช่อเอ่ยต่อ “อีกอย่าง ฉันชนะแล้วก็ไม่มีใครโห่ฉันสักหน่อย ฉันคิดว่าทุกคนอยากให้ลู่ชูเซี่ยชนะ”
กู้จิ้งเจ๋อมองเธอ
ผู้หญิงโง่คนนี้ ไม่รู้เหรอว่าผู้ชายพวกนั้นหลงเธอขนาดไหน
เขาบอก “การแข่งขันยุติธรรม ทำไมพวกเขาต้องโห่ เอาล่ะ เธอนอนลงพักผ่อนก็พอ พรุ่งนี้ยังมีการแข่งบัลเล่ต์อีก”
“อืม ยังมีการแข่งขันโหดร้ายอยู่อีกสนาม ฉันจะวางใจไม่ได้ ยาแก้หวัดนี้ทานแล้วคงไม่หลับใช่ไหม พรุ่งนี้ฉันไม่อยากไปหลับอยู่ในสนามนะ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “นี่เป็นยาชนิดใหม่ ทานแล้วไม่มีผลกระทบอะไร แต่จะบรรเทาอาการหวัดของเธอได้ เพื่อการแข่งขัน นักกีฬาหลายคนจะทานก่อนลงแข่ง อีกทั้งยังไม่มีส่วนผสมของยาเสพติดทุกชนิด”
“ว้าว ยังมียาที่ดีขนาดนี้อยู่ด้วยเหรอคะ” หลินเช่อเอ่ยขึ้นมาด้วยความแปลกใจ “ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ปกติไม่จำเป็นต้องทาน เธอก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”
หลินเช่อบอก “ยาดีขนาดนี้ แพงมากใช่ไหมคะ”
“แค่เม็ดละสองพันหยวนเอง”
แค่…
นี่เรียกว่าแค่เหรอ…
หลินเช่อรู้ว่า ตัวเองไม่ควรถาม
และกู้จิ้งเจ๋อ
เมื่อเดินออกไป เขาก็มองเห็นซือถูฉยงยืนอยู่
กู้จิ้งเจ๋อหยุด มองไปที่เขา เดินเข้าไปช้าๆ “คุณมีธุระอะไร”
ซือถูฉยงมองเข้าไปด้านใน “แค่มาดูว่าหลินเช่อเป็นยังไง”
“เธอไม่เป็นไร ทานยานอนหลับไปแล้ว”
“อ้อ งั้นเหรอ พรุ่งนี้ผมค่อยมาเยี่ยมเธอก็ได้” ซือถูฉยงบอก
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตา “ไม่คิดว่าคุณชายฉยงจะเป็นห่วงหลินเช่อขนาดนี้ ผมต้องขอบคุณแทนเธอมากจริงๆ ”
ซือถูฉยงบอก “ใช่ครับ ยังไงเธอก็เป็นลูกศิษย์ของผม อาจารย์เป็นห่วงศิษย์ ก็เป็นเรื่องธรรมดานะครับ”
ซือถูฉยงพูดจบก็เดินหนีไป
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตามองตามเขาไป
ซือถูฉยงคนนี้…
——
วันต่อมา
หลินเช่อไม่คิดว่า ผ่านไปเพียงหนึ่งวัน ตัวเองจะถูกยกย่องขนาดนี้
ออกมาตอนเช้า ก็มีคนส่งของมาให้เธอ
“คุณชายจั่นของเราบอกว่า ให้มอบให้คุณหลิน ช่วยรับไว้ด้วยนะครับ นี่เป็นของดีมากเลย เอาไว้ให้คุณบำรุงร่างกายครับ”
ผู้ติดตามคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกอย่างประจบสอพลอ
อีกด้าน…
กู้จิ้งเจ๋อรับของไป จากนั้นส่งให้บอดี้การ์ด “เอาไปบำรุงร่างกาย”
หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋ออย่างทำอะไรไม่ได้ “ให้ไปแบบนี้เลยเหรอ”
กู้จิ้งเจ๋อมองเธอ “ยัยโง่ ร่างกายเธออ่อนแอ จะกินของบำรุงมั่วแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอนอนมาหนึ่งวันแล้ว บอดี้การ์ดรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ก็ติดตามมาหนึ่งวันแล้ว ทว่ากลับต้องยืนอยู่ทั้งวัน เธอว่าใครจะลำบากกว่ากัน ใครจำเป็นต้องบำรุงมากกว่า”
“…” ก็ได้ เขาพูดก็มีเหตุผล
เขาคงไม่ได้พูดไปมั่วๆ หรอกใช่ไหม
เมื่อเดินไปอีกไม่กี่ก้าว ก็มีคนเอาของมาให้อีกครั้ง
“คุณหลินเช่อครับ ประธานหวังให้นำผ้าคลุมไหล่มาให้ครับ ข้างนอกลมพัดแรง ให้คุณคลุมเอาไว้ครับ”
หลินเช่อยังไม่ทันได้ยื่นมือออกไปรับ กู้จิ้งเจ๋อก็รีบยื่นออกไปรับมาก่อน
โยนให้คนด้านหลังบอก “ลมพัดแรง ฉันให้นาย รับไว้ซะ”
หลินเช่อเอ่ยขึ้น “กู้จิ้งเจ๋อ ทำแบบนี้คงไม่ดีมั้ง เขาเป็นห่วงร่างกายของฉันถึงได้…”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ของราคาถูกแบบนี้ ปกติเราไม่ใช้หรอก มันไม่ดีต่อผิว”
“…”
หลังจากนั้น กู้จิ้งเจ๋อก็ทนไม่ไหว จ้องหน้าเขาอย่างเยือกเย็น ยังมีใครกล้าเอาอะไรมาให้หลินเช่ออีก เมื่อถูกจ้องมองก็ไม่กล้ามีใครเข้าใกล้
หลังจากที่ตลอดทางมียมทูตหน้าดำคนนี้อยู่ ก็เดินได้สะดวกขึ้นเยอะเลย
หลินเช่ออดถามด้วยความแปลกใจไม่ได้ “คุณว่า มีผู้หญิงมากมองคุณ แต่ว่า ไม่มีใครกล้าเอาอะไรมาให้คุณเลย มันเป็นเพราะพวกเขากลัวใบหน้าบึ้งตึงของคุณหรือเปล่าคะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบเสียงเรียบ “แน่นอนว่าไม่ใช่”
“งั้นเป็นเพราะอะไรคะ”
“เธออยากรู้เหรอ”
“ค่ะ อยากรู้” หลินเช่อรีบพยักหน้าส่งไป
กู้จิ้งเจ๋อหันไปบอกกับบอดี้การ์ด “ถ้ามีผู้หญิงคนไหนเข้ามาใกล้ ไม่ต้องกันออกไป”
ไม่นาน ก็มีหญิงสาวไม่รู้มาจากไหน วิ่งเข้ามาด้วยความหลงใหล ในมือถือช็อกโกแลตทำเอง จากนั้นบอก “คุณชายรอง ฉันพึ่งเห็นคุณ ฉัน ฉันอยากเอาของมาให้คุณตั้งนานแล้ว อยากให้คุณได้ลองชิมฝีมือของฉัน แต่ว่าคนของคุณดุมากไม่ยอมให้เข้าใกล้เลย จะว่าไป ฉันก็เคยไปบ้านตระกูลกู้ด้วยนะคะ แต่ว่าไม่เคยเจอคุณชายรองเลย คุณอยากลองชิมช็อกโกแลตที่ฉันทำไหมคะ”
หญิงสาวมองกู้จิ้งเจ๋อ ครั้งแรกที่เข้าใกล้เขา ใบหน้าแดงก่ำไปหมด
ทว่า…
กู้จิ้งเจ๋อรับช็อกโกแลตมา หญิงสาวยังไม่ทันได้ดีใจ กู้จิ้งเจ๋อก็ส่งช็อกโกแลตนั้นไปให้บอดี้การ์ดด้านหลัง จากนั้นหันกลับไปมองหญิงสาว “ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ทานอาหารทำเอง เชื้อราเยอะเกินไป”
ความหมายก็คือรังเกียจว่าเธอสกปรกเหรอ…
หญิงสาวใบหน้าแดงขึ้น เป็นคุณหนูอยู่ดีๆ ต้องมาถูกเขาลดคุณค่าแบบนี้
เธอกระทืบเท้า วิ่งหนีไปด้วยความโกรธ ตอนที่วิ่งหนีไปนั้นดวงตาเธอแดงก่ำไปหมด
หลินเช่อเดินตามอยู่ด้านหลัง ได้แต่อ้าปากคิด กู้จิ้งเจ๋อคนนี้ ปากร้ายจริงๆ
มิน่าล่ะถึงไม่มีใครเอามาให้อีก