เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 452 คุณลู่มีความสัมพันธ์อย่างไรกับแม่ของฉันกันแน่

หลินเช่อเองก็ดูออก ลู่เป่ยเฉินคนนี้ เป็นคนค่อนข้างอันธพาล ต่างจากผู้ชายเย็นชาอย่างกู้จิ้งเจ๋อมากทีเดียว  

 

 

แต่ก็น่าสนใจมากเหมือนกัน  

 

 

พวกเขานั่งพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น ลู่ชูเซี่ยเห็นว่าหลินเช่อกำลังพูดคุยกับพ่อและพี่ชายของเธออย่างสนุกสนานขนาดนั้น พลันรู้สึกโมโหขึ้นมา  

 

 

ครอบครัวของเธอยืนอยู่เคียงข้างผู้หญิงคนนั้น ยังเป็นครอบครัวเดียวกันกับตัวเธอเองอยู่ไหมนะ  

 

 

มีพวกเขาดึงหางอยู่แบบนี้เหรอ  

 

 

ลู่ชูเซี่ยเดินตรงเข้าไป มองลู่ฉินอวี่ จากนั้นหันกลับไปมองหลินเช่อ “ใครใช้ให้เธอมานั่งอยู่ตรงนี้ นี่มันที่ของฉัน”  

 

 

ลู่ฉินอวี่ขมวดคิ้ว เคาะโต๊ะเบาๆ “ชูเซี่ย ที่นั่งเยอะขนาดนั้น ตรงนั้นกลายเป็นที่นั่งของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”  

 

 

ลู่ชูเซี่ยบอก “หนูบอกว่าตรงนี้คือที่นั่งของหนู ก็คือของหนู อีกอย่างเกาะนี้ก็เป็นเกาะตระกูลลู่ของหนู ถ้าหนูบอกว่าตรงไหนเป็นของหนู มันก็ต้องเป็นของหนู”  

 

 

ลู่เป่ยเฉินเห็นแบบนั้นก็เอ่ยขึ้น “ชูเซี่ย เกาะนี้เหมือนฉันจะเป็นคนซื้อนะ ฉันเป็นเจ้าของ ฉันบอกว่าอยากให้ใครอยู่ตรงนี้ก็คืออยู่ตรงนี้ เธอมีปัญหาอะไรไหม”  

 

 

ลู่ชูเซี่ยหันไปมองลู่เป่ยเฉินด้วยความตกใจ  

 

 

ตอนนี้แม้กระทั่งลู่เป่ยเฉินก็ยืนอยู่ฝั่งหลินเช่อเหรอ  

 

 

ลู่ชูเซี่ยตบโต๊ะด้วยความโกรธ “ฉันเป็นน้องสาวของพี่ หรือว่าเธอเป็นน้องสาวของพี่กันแน่ ลู่เป่ยเฉิน นี่พี่หมายความว่ายังไงกันแน่”  

 

 

ลู่เป่ยเฉินไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อย ลุกขึ้นยืน ดึงชายเสื้อด้านหน้าของเขา เมื่อเขาลุกขึ้นยืน ร่างของเขาสูงเป็นเท่าตัวของลู่ชูเซี่ยในตอนนี้ จากนั้นโน้มตัวลงมามองเธอ “ยังไง อยากทะเลาะกับฉันที่นี่สักยกเหรอ ยังไงฉันก็ไม่กลัวคนนินทาอยู่แล้ว ถ้าเธอไม่กลัวเหมือนกันก็เข้ามาเลย ให้ทุกคนได้เห็นว่าสตรีอันดับหนึ่งอย่างเธอ มันเป็นยังไง”  

 

 

“พี่…”  

 

 

ลู่ชูเซี่ยทะเลาะกับลู่เป่ยเฉินมาตั้งแต่เด็ก แต่ว่า เธอจะไปสู้พี่ชายร่างสูงของเธอได้อย่างไรกัน  

 

 

ลู่ฉินอวี่จ้องมองด้วยความโกรธอยู่ด้านหลัง   

 

 

“เอาล่ะ เอาล่ะ ดูพวกแกสิ พี่ชายไม่เหมือนพี่ชาย น้องสาวไม่เหมือนน้องสาว ชูเซี่ย มาทางนี้ อย่าไปขวางหูขวางตาอยู่ตรงนั้น”  

 

 

“เหอะ ได้ค่ะ หนูจะไป จะไปตอนนี้เลย ชอบหลินเช่อขนาดนั้นเลย ต่อไปนี้หนูจะไม่กลับบ้านแล้ว พวกคุณก็พาหลินเช่อกลับไปเป็นลูกสาว เป็นน้องสาวไปเลย”  

 

 

ลู่ชูเซี่ยบอก จ้องหน้าหลินเช่อ จากนั้นเดินหนีไป  

 

 

ลู่ฉินอวี่ตามไปบอก “ได้เลย งั้นแกก็อย่ากลับมาอีก”  

 

 

หลินเช่อเห็นลู่ฉินอวี่โกรธแบบนั้น คิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงบอกกับกู้จิ้งเจ๋อว่าเธอขอไปดูสักหน่อย จากนั้นจึงเดินตามออกไป  

 

 

ลู่เป่ยเฉินมอง แล้วคุยกับกู้จิ้งเจ๋อ “จริงๆ เลย โตขนาดนี้แล้ว ตอนเด็กเอาแต่ใจยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่แบบนั้น”  

 

 

กู้จิ้งเจ๋อทำเพียงเงยหน้าขึ้นมาเงียบๆ มองตามแผ่นหลังของหลินเช่อ  

 

 

ลู่ฉินอวี่มองเธอเดินออกไปแล้ว แต่ยังคงโกรธไม่หาย  

 

 

หลินเช่อรีบบอก “คุณลุงคะ คุณลุงอย่าโกรธเลยนะคะ”  

 

 

ลู่ฉินอวี่บอก “เฮ้อ บางทีฉันก็อิจฉาคนตระกูลกู้ ให้กำเนิดลูกชายลูกสาวมาได้ดีขนาดนั้น แล้วดูลูกทั้งสองของฉันสิ คนโตก็ไม่เชื่อฟัง คนเล็กก็ไม่เชื่อฟังอีก”  

 

 

หลินเช่อกัดริมฝีปาก ลังเลอยู่สักพักก่อนเอ่ยถามลู่ฉินอวี่ “ความจริงคุณลุงไม่ต้องโกรธลู่ชูเซี่ยเพราะฉันก็ได้นะคะ ยิ่งคุณลุงเป็นแบบนี้ เธอก็จะยิ่งโกรธ”  

 

 

ลู่ฉินอวี่บอก “ฉันแค่คิดว่านิสัยชอบเอาชนะของเธอ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย ไม่รู้จริงๆ ว่านิสัยแบบนี้เธอเหมือนใคร พี่ชายของเธอแม้จะไม่เชื่อฟัง แต่ก็ไม่เป็นแบบนี้ แต่เธอนี่สิ…”  

 

 

หลินเช่อมองลู่ฉินอวี่ “มีอีกเรื่อง ที่ฉันอยากถามท่าน”  

 

 

“อ่า เรื่องอะไรเหรอ” เขาก้มหน้าลงมา มองด้วยสายตาอ่อนโยน  

 

 

หลินเช่อพูด “ท่านกับซูเซิน…มีความสัมพันธ์กันยังไงคะ”  

 

 

ลู่ฉินอวี่ชะงัก อาการไม่ปกติ  

 

 

เขาบอก “ซูเซินกับเธอ มีความสัมพันธ์อะไรกันเหรอ”  

 

 

หลินเช่อบอก “เธอเป็นแม่ของฉันค่ะ”  

 

 

ลู่ฉินอวี่ตัวแข็งไปทั้งร่าง  

 

 

เกือบจะล้มลงไปบนพื้น  

 

 

หลินเช่อรีบพยุงเขาเอาไว้   

 

 

เขาดูเหมือนจะมีอายุมากกว่าแม่สักสิบปีได้ ท่าทางเหมือนเคยมีความสัมพันธ์กับแม่ของเธอ แต่ว่า…  

 

 

หลินเช่อรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย  

 

 

แต่เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นแบบนั้น ก็ทำให้ยากที่จะคิดว่าพวกเขาเป็นลูกศิษย์และอาจารย์  

 

 

คุณลู่มองหลินเช่อ “เธอคือลูกของซูเซินเหรอ”  

 

 

“ใช่…ใช่ค่ะ”  

 

 

คุณลู่บอก “โอเค ดีมาก จริงด้วย พวกเธอเหมือนกันขนาดนี้ ความจริงฉันน่าจะพอเดาออกตั้งนานแล้ว พวกเธอเหมือนกันขนาดนี้ แต่ไม่กล้าถามเธอตรงๆ จึงไม่ได้เอ่ยถามออกไป”  

 

 

“กู้จิ้งเจ๋อบอกฉันน่ะค่ะ ดังนั้น ฉันจึงอยากจะถามท่าน เพราะฉันรู้เรื่องของแม่น้อยมาก อยากรู้เรื่องของเธอบ้างค่ะ”  

 

 

“ตอนนี้เธอ เป็นยังไงบ้าง”  

 

 

“แม่ฉันเสียไปนานแล้วค่ะ”  

 

 

ใบหน้าของลู่ฉินอวี่แสดงความเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง ท่วมท้นอยู่ในดวงตามีอายุคู่นั้น  

 

 

หลินเช่อทำได้เพียงประคองเขาขึ้นมา  

 

 

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน คุณลู่ถึงได้มีสติกลับมาจากความเจ็บปวดนั้น  

 

 

เขาถอนหายใจ มองหลินเช่อ ไม่คิดเลย ไม่คิดเลยว่า แค่คิดมาเสมอว่าเธอยังเด็ก คล่องแคล่ว หุนหันพลันแล่น จะมาจากโลกนี้ไปเร็วขนาดนี้   

 

 

เขาบอก “ใช่ ฉันรู้จักกับซูเซิน”  

 

 

“ความจริง ไม่เพียงแค่รู้จักหรอก ตอนที่ฉันไปอยู่ที่ชนบท เธออายุแค่สิบกว่า เธอมีพรสวรรค์ ฉลาดหลักแหลม เรียนรู้ไว มีไหวพริบ ฉันคิดว่าเธอเก็บมันเอาไว้นานเกินไป จึงแนะนำให้เธอเข้าไปเรียนที่เมืองบี ตอนนั้น ฉันช่วยเธอทบทวนทุกวัน ช่วยให้เธอสอบผ่าน เล่าถึงโลกภายนอกให้เธอฟัง”  

 

 

“และเธอก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง ไม่นานเธอก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ฉันสอนได้ ฉันสอนในสาขาของเธอ ตอนนั้นฉันยังเป็นอาจารย์หนุ่ม จิตใจเร่าร้อนฮึกเหิม มักคิดว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”  

 

 

“ฉันแนะนำให้เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ อยากให้เธอได้คะแนนที่ดี ดังนั้นฉันจึงช่วยทบทวนให้เธอต่อ ช่วยในด้านการเรียน เราทั้งสองใช้เวลามากมายอยู่ด้วยกัน เพียงแต่มีเรื่องที่ฉันคาดไม่ถึง เพราะเราต่างก็เป็นคนหนุ่มสาวเหมือนกัน สุดท้าย ไม่รู้ว่ามันก่อเกิดความรู้สึกได้ยังไง แม้เราจะรู้ว่าเราแตกต่างก็มาก ฉันเป็นอาจารย์ เธอเป็นนักเรียน เธอเป็นลูกศิษย์ที่ฉันภาคภูมิใจ ถ้าเกิดระหว่างฉันกับเธอมีข่าวอะไรออกไป ก็คงจะมีคนนินทา อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการเรียนของเธอ ดังนั้น ตอนนั้นฉันจึงแต่งงาน”  

 

 

“ไม่คิดว่า หลังจากแต่งงานแล้ว เธอเสียใจมาก เมื่อเห็นเธอเสียใจ ฉันเองก็เสียใจ เราต่างก็เฝ้ามองกันอยู่แบบนั้น แต่ไม่สามารถเข้าใกล้กันได้ ผ่านไปเป็นหลายปี”  

 

 

“หลังจากนั้น เธอสิ้นหวังและไม่เรียนต่อ ไม่ฟังคำแนะนำของฉันที่ให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ เธอหายไปแบบนั้น หลายปีหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย”  

 

 

เขามองหลินเช่อ “ฉันแอบคิดอยู่บ่อยครั้ง ว่าอาจจะเป็นเพราะฉันทำได้ไม่ดีพอ ตอนนั้นแม้จะรู้ว่าไม่ควรมีความรู้สึก แต่ก็ยังเข้าใกล้เธอขนาดนั้น จึงทำให้เธอต้องผิดหวัง หลายปีมานี้ ฉันเสียใจมาตลอด น่าเสียดาย ไม่รู้จะตามหาเธอได้ยังไงแล้ว”  

 

 

หลินเช่อมองไปข้างหน้า พึมพำเบาๆ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”  

 

 

ความจริง เธอก็คิด แม่เองก็เคยเป็นหญิงสาว เธอก็ต้องเคยมีความรัก เคยมีความรู้สึกของเธอเอง

Related

Comment

Options

not work with dark mode
Reset