เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 447 คุณซือถูปฏิบัติต่อเธอเป็นพิเศษ

เขาบอก “ร่างกายบอบบางอย่างคุณ แรงโจมตีเบาเกินไป ไม่มีทางชนะหรอก”  

 

 

“โอเคค่ะ…”  

 

 

หลินเช่อไม่คิดว่า เธอต้องเผชิญกับการฝึกฝนที่หนักหน่วงแบบนี้  

 

 

ห้องฝึกฝนของเขา มีของมากมาย ระดับการฝึกนั้นเข้มข้นมาก อีกทั้ง เขายังดูบ้าคลั่งในยามฝึกฝน ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น มองเธอที่เหงื่อท่วมตัว  

 

 

มองท่าทางแบบนั้นของเขา สามารถกระตุ้นการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี  

 

 

หลินเช่อมองรอยยิ้มเย็นของเขา มีความรู้สึกบางอย่าง คือตีเธอให้ตายก็ไม่มีวันยอมให้เขาดูถูกได้ เธอฝึกฝนต่อไป   

 

 

ซือถูฉยงมองท่าทางต่อสู้ดิ้นรนของเธอแล้วจึงบอกยิ้มๆ “ถ้าไม่ไหวก็บอกผม ยังไงซะมันก็แค่งานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูแค่นั้น คุณมีกู้จิ้งเจ๋อคอยปกป้อง ความจริงไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนี้”  

 

 

หลินเช่อทำเพียงเงยหน้าขึ้นมา จ้องมองเขา “ทำไมคุณไม่ไปตาย”  

 

 

ซือถูฉยงเอ่ยขึ้น “ฮ่าๆ แค่นี้ก็อยากให้ผมตายแล้วเหรอ”  

 

 

“ใช่น่ะสิ คนเขาจะเป็นจะตายอยู่นี่แล้ว คุณไม่ให้กำลังใจยังมาขัดอีก”  

 

 

ซือถูฉยงบอก “ถ้าคำพูดพวกนี้มันสั่นคลอนความมุ่งมั่น คุณก็เก็บความมุ่งมั่นของคุณกลับไปคอยปรนนิบัติคุณชายรองกู้ของคุณสิ”  

 

 

“หึ ฉันไม่ตกหลุมพรางคุณหรอก ฉันจะฝึกต่อไป อีกทั้งฉันจะถือว่าเครื่องออกกำลังแขนนี้เป็นคุณ ทุกครั้งที่ฉีกออก ก็เหมือนกำลังฉีกซือถูฉยง ซือถูฉยง ซือถูฉยง ซือถูฉยง…”   

 

 

“ฮ่าๆๆๆ เอาสิ คุณลองดู”  

 

 

ซือถูฉยงหัวเราะขึ้นมา  

 

 

คนด้านนอกได้ยินเสียงของทั้งคู่ มองหน้ากันท่าทางราวกับเห็นผี  

 

 

หลินเช่อคนนี้…นอกจากจะเรียกชื่อเขาต่อหน้าแล้ว ยังบอกให้เขาไปตายอีก  

 

 

ไม่ใช่ว่าเธออยากตายแล้วจริงๆ หรอกนะ  

 

 

____  

 

 

ฝึกมาทั้งวัน หลินเช่อนอนราบไปกับพื้น  

 

 

มองซือถูฉยงยืนอยู่ตรงนั้น ร่างสูงกำลังยืนมองตัวเธอ ท่าทางมีความสุข  

 

 

หลินเช่อลุกนั่งแล้วบอก “ฉันแปลกใจมาก ทำไมจู่ๆ คุณถึงตอบตกลงจะช่วยฉันเหรอคะ”  

 

 

“ผมเหรอ ผมไม่ได้ช่วยคุณซะหน่อย คนที่ช่วยคุณได้ มีแต่ตัวคุณเอง” เขามองหลินเช่อ นั่งลง “ถ้าคุณยืนหยัดต่อไปไม่ไหว ผมก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ ผมคิดแค่ว่า บางครั้งอาจจะมีสักวันที่คุณกลับไปแล้ว แล้วไม่กลับมาอีก ถึงได้รับปาก”  

 

 

“พูดบ้าๆ ฉันไม่เชื่อหรอก” หลินเช่อนั่งขัดสมาธิ เสื้อผ้าเปียกปอนไปทั้งตัว ผมก็เปียกชื้น  

 

 

เขาบอก “เอาล่ะ ผมคิดว่า คุณเอาชนะลูชูเซี่ยไม่ได้ ถึงคุณจะเรียนฟันดาบได้และเก่งกว่าเธอ คุณก็จะยังคงแพ้ เพราะว่าขี่ม้าและบัลเล่ต์คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ ผมชอบช่วยคนอ่อนแอ”  

 

 

หลินเช่อขมวดคิ้วมองเขา บอกด้วยความโมโห “รังแกคนอื่นจริงๆ”  

 

 

พูดแล้ว เธอจึงหยิบเสื่อบนพื้นขึ้นมาตีเขา  

 

 

“เฮ้ โอ๊ย คุณตีผมเหรอ จริงๆ เลย” ซือถูฉยงบอก “ถึงคุณจะตีผมไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก คุณเอาชนะไม่ได้”  

 

 

“ฉัน…ฉันจะชนะไม่ชนะก็ต้องตีคุณให้ตายก่อน ชนะแล้วฉันจะตบหน้าคุณ ถ้าไม่ชนะฉันจะตีให้ตายเพื่อระบายความโกรธ”  

 

 

“เฮ้ย คุณหยุดนะ เอาล่ะเอาล่ะ ผมจะบอกอะไรให้ ความจริงคุณก็มีโอกาสเอาชนะเธอได้”  

 

 

หลินเช่อได้ยินดังนั้น จึงหยุดมือ มองเขา “จริงเหรอคะ”  

 

 

“แน่นอนว่าจริงอยู่แล้ว”  

 

 

“เอาชนะยังไงคะ”  

 

 

“เกิดปาฏิหาริย์ไง คนมักจะบอกว่ามีปาฏิหาริย์ไม่ใช่เหรอ”  

 

 

“คุณ…ไปไกลๆ เลยนะ คนบ้า ดูสิว่าฉันจะไม่ตีคุณให้ตายมั้ย” หลินเช่อตีเขาไปอีกครั้งด้วยความโกรธ  

 

 

เมื่อโวยวายเสร็จ ก็จะหมดเวลาแล้ว ซือถูฉยงมาส่งเธอถึงหน้าประตู มองเธอจากไป พ่อบ้านเฉินที่อยู่ข้างๆ เอ่ยถาม “พรุ่งนี้เธอจะมาไหมครับ”  

 

 

“อืม ยังมา” ซือถูฉยงมองออกไปไกล ตอบ  

 

 

พ่อบ้านฟังแล้วก็ประหลาดใจ ดูไม่ออก หลินเช่อคนนี้ดูเหมือนจะถูกชะตากับคุณชายฉยง  

 

 

แต่คนที่กล้าโวยวายกับซือถูฉยง เขาเองก็ไม่เคยเจอมาก่อน  

 

 

ระหว่างการฝึก อวี๋หมินหมิ่นโทรหาเธอ บอกให้ไปบริษัทเพื่อจัดการอะไรให้เรียบร้อย  

 

 

ไม่นานหลินเช่อก็มาถึงบริษัท  

 

 

อวี๋หมินหมิ่นก็อยู่ที่บริษัท มองเห็นหลินเช่อแล้วจึงบอก “มีละคร จะถ่ายในอีกครึ่งปีหน้า ตอนนี้เธอก็ดูบทไปก่อน”  

 

 

หลินเช่อหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาดู ชื่อเรียกว่าบันทึกอูกู่[1]  

 

 

นี่เป็นนิยายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อัตราการเข้าชมพุ่งสูง ถูกเรียกร้องให้เอามาทำเป็นละครตลอด แต่ก็ไม่มีใครซื้อไหว ถ่ายไหว  

 

 

“ตอนนี้มีบริษัทซื้อและเตรียมถ่ายแล้ว นักเขียนมาเป็นผู้เขียนบทประพันธ์ด้วยตัวเอง แถมยังควบคุมการผลิตเองด้วย”  

 

 

เพราะคนอ่านมีจำนวนมาก ดังนั้นทุกคนจึงกลัวว่าจะถ่ายออกมาไม่ดี นักเขียนเองก็รับประกันแล้ว เขาจะถ่ายมันให้ดี จะไม่เลือกใครก็ได้มาถ่าย เพื่อมาทำลายละครของตัวเอง  

 

 

หลินเช่อบอก “ละครเรื่องนี้ถ่ายตามต้นฉบับเลยสินะ”  

 

 

“ใช่ ตอนนี้ผู้กำกับบอกว่า ภาพลักษณ์ของเธอเหมาะสมกับบทนางเอก”  

 

 

“ห๊ะ…จริงเหรอ…”  

 

 

“แต่สิ่งสำคัญในตอนนี้คือ” อวี๋หมินหมิ่นบอก “ผู้กำกับยังเห็นแววฉินหวานหว่านอีกด้วย”  

 

 

หลินเช่อรู้ว่ามันไม่ใช่ง่ายๆ  

 

 

อวี๋หมินหมิ่นบอก “ตอนนี้เธอกับหล่อนต้องชิงบทนี้กัน”  

 

 

หลินเช่อบอก “เอาล่ะ ถึงตอนนั้นดูความสามารถก็พอแล้วไหม”  

 

 

“อืม ยังไงซะ ถึงตอนนั้นก็ต้องดูว่าใครถูกเลือก ช่วงนี้บริษัทดูแลเธอเป็นพิเศษ เธอต้องระวังหน่อย”  

 

 

หลินเช่อได้ยินดังนั้น จึงถามอย่างแปลกใจ “เธอหมายถึง คิดว่าบริษัทจะไม่ยุติธรรมเหรอ”  

 

 

“ฉันคิดน่ะ เอนเอียงไปฝั่งเธอเยอะหน่อย แต่ว่า เราคงไม่ต้องมานินทาบริษัทหรอก เธออย่าพึ่งไปคิดอะไรพวกนี้เลย จัดการงานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูของเธอให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยว่ากัน เรื่องนี้แค่บอกเธอไว้ก่อน ยินดีด้วยที่เธอได้เป็นลูกศิษย์ของซือถูฉยง ไม่คิดเลยว่าเธอจะทำได้จริงๆ”  

 

 

“เขาบอกแล้วว่าเขาแค่อยากดูความสนุก เฮ้อ เขาได้ยินเรื่องฉันมาตั้งนานแล้ว คิดว่ามันน่าสนุก แค่อยากเห็นฉันดิ้นรนแค่นั้น เฮ้อ คนคนนี้ร้ายที่สุด”  

 

 

“ช่างเถอะ สอนเธอได้ก็ไม่เลวแล้ว เธอก็ทนๆ หน่อย”  

 

 

ทั้งสองออกไปพร้อมกัน เดินออกไปพลางมองฉินหวานหว่านที่เดินเข้ามา  

 

 

หลายวันแล้วที่ฉินหวานหว่านไม่ได้เจอหลินเช่อ ครั้งนี้ตั้งใจออกมาดูหลินเช่อ ไม่รู้ว่าช่วงนี้เธอกำลังทำอะไร ไม่เห็นแม้แต่เงา ยกเลิกงานทั้งหมด เพราะเหตุนี้บริษัทจึงโกรธมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้  

 

 

ฉินหวานหว่านมองหลินเช่อ ไม่คิดว่าทรวดทรงของเธอจะดูสมบูรณ์แบบขึ้น  

 

 

มองสำรวจหลินเช่อ เธอหัวเราะถาม “ฉันนึกว่าเธอไปทำอะไร ทำไม ไปเปลี่ยนแปลงรูปร่างมาเหรอ”  

 

 

หลินเช่อถามอย่างแปลกใจ “อะไรนะ”  

 

 

“ฉันเห็นว่าเธอไม่เหมือนเดิมน่ะ”  

 

 

หลินเช่อบอก “แค่ช่วงนี้ที่บ้านมีเรื่อง เตรียมพักผ่อนสักหน่อย แค่นั้นเอง”  

 

 

ฉินหวานหว่านเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก มองเธอเดินผ่านไป จึงคุยกับผู้จัดการส่วนตัว “เธอดูแปลกตาไป ใช่ไหม”  

 

 

“อาจจะแอบฝึกฝนอะไรอยู่ คงไม่อยากให้พวกเรารู้ ทรวดทรงดูแข็งขึ้น ดูเหมือนจะออกกำลังกาย ไม่รู้ว่าเธอมีแผนอะไรอีก ยังไงซะ เราเองก็ต้องคิดแผนรับมือไว้”  

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] อูกู่  เป็นลัทธิความเชื่อของคนโบราณ ใช้คาถาในการทำร้ายศัตรู

Related

Comment

Options

not work with dark mode
Reset