ตระกูลกู้จิ้งเจ๋อเป็นผู้เลี้ยง ชะตาของเจ้าลูกหมาตัวนี้ก็เปลี่ยนไปทันใด
สาวใช้คิด พูดแบบไม่น่าฟังก็คือ ผู้คนมากมายอยากมาเป็นสุนัขที่นี่ยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอด้วยซ้ำ
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อออกมาก็เห็นว่าหลินเช่อกำลังจัดการกับลูกสุนัขอยู่
ลูกสุนัขดูสะอาดสะอ้านสบายตา มันวิ่งและมองไปมาด้วยความสนใจ แต่ก็ไม่กล้าวิ่งห่างไปไกล มันวิ่งเป็นวงกลมอยู่อย่างนั้น ไม่ออกห่างจากหลินเช่อ
กู้จิ้งเจ๋อเอ่ยขึ้น “ดูฉลาดดีนี่”
หลินเช่อบอก “แน่นอนสิคะ หมาของฉัน ก็ต้องฉลาดอยู่แล้ว”
กู้จิ้งเจ๋อมองเจ้าลูกหมาที่วิ่งมาใกล้ๆ มือเธอ เลียมือเธอ เลียไปเลียมาท่าทางดีอกดีใจ กู้จิ้งเจ๋อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ สาวเท้าเดินเข้าไป จับเจ้าสุนัขขึ้นมาดู
“คุณทำอะไรน่ะ” หลินเช่อตกใจ
“ดูว่าตัวผู้หรือตัวเมีย”
“อะไรน่ะ…”
กู้จิ้งเจ๋อจับพลิกขึ้นมาดู ตัวผู้…
กู้จิ้งเจ๋อใบหน้าทะมึน “เอาไปทิ้ง เดี๋ยวฉันซื้อตัวใหม่ให้”
“ไม่เอา” หลินเช่อรีบแย่งกลับคืนไป กอดเอาไว้ในอ้อมแขน “ไม่เอา ไม่เอา คุณบอกว่าเลี้ยงได้ อย่ามากลับคำนะ”
กู้จิ้งเจ๋อใบหน้าทะมึน เธองอแงจนเขาไม่รู้จะทำอย่างไร
สายตาที่มองเจ้าสุนัขก็ดุเดือดขึ้นมา
เหมือนกับกำลังพูดว่า คอยดูนะ ฉันจะหาโอกาสโยนแกทิ้งแน่
หลินเช่อรีบอุ้มลูกสุนัขไปยังเบาะนอน ยังดีที่บ้านตระกูลกู้นั้นหลังใหญ่ มีห้องเยอะ จึงจัดห้องข้างๆ ให้ลูกสุนัขอยู่
หลินเช่อให้คนจัดให้ดูน่าอยู่มากขึ้น เปลี่ยนห้องว่างให้กลายเป็นห้องสุนัข
จากนั้นถ่ายรูปมัน เตรียมโพสต์ลงในวีแชท แต่นึกได้ว่ายังไม่ได้ตั้งชื่อให้สุนัขเลย
เธอหันไปถามกู้จิ้งเจ๋อที่อยู่ข้างๆ “ถ้าตั้งชื่อให้มัน ควรตั้งชื่อว่าอะไรดีคะ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ก็เรียกว่าหมาไง”
“ไม่ได้ คุณจริงจังหน่อยจะได้ไหมคะ”
“เรียกโช่วโชว[1]”
“คุณสิถึงจะเรียกโช่วโชว มันน่ารักขนาดนี้จะมาเรียกชื่อไม่น่าฟังแบบนั้นได้ยังไงกันคะ”
“ก็เพราะว่ามันเหม็นไง”
“เหม็นตรงไหนคะ ก็เห็นอยู่ว่าคุณพูดไปเองทั้งนั้น”
เธอยังปกป้องสุนัขอีก เพื่อสุนัขเธอยอมเป็นศัตรูกับเขาเลยเหรอ
นับวันเธอยิ่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ
หลินเช่อแสดงออกว่าคร้านที่จะสนใจเขา นั่งคิดชื่อให้เจ้าสุนัขอยู่ตรงนั้น “ฉันจะตั้งให้ดูเป็นเจ้าชายในอุดมคติ…อ่า งั้นเรียกว่าหวังจื่อ[2]ก็แล้วกัน แกคิดว่ายังไง”
“…”
หวังจื่อ นี่เป็นชื่อของหมาเหรอ
หลินเช่อท่าทางพึงพอใจ เอ่ยขึ้นมา “งั้นก็เรียกชื่อนี้แหละ หวังจื่อ หวังจื่อ เสี่ยวหวังจื่อ[3]ของฉัน” เธอโพสต์รูปลงในวีแชทแล้วบอกว่า “เสี่ยวหวังจื่อของเราพึ่งมาอยู่วันนี้ ต่อไปต้องเติบโตอย่างมีความสุขนะ”
ไม่นาน อวี๋หมินหมิ่นก็ตอบกลับมาว่า “เธอเลี้ยงหมาเหรอ สวรรค์ เธอทำห้องให้หมาด้วย”
ไม่นานเฉินโยวหรานเองก็เห็น “ไม่ใช่มั้ง ขอถามหน่อยว่าบ้านเธอยังขาดหมาอีกไหม ทำกับข้าวได้ ล้างถ้วยล้างจานได้ พูดคุยหยอกล้อได้อะไรแบบนั้น”
ไม่นานคอมเม้นท์ต่างๆ ก็ทยอยเข้ามา มีคนบอกว่า หมาพันธุ์อะไร บางคนบอก อิจฉาเจ้าหมาโชคดีตัวนี้จัง บางคนบอกว่า นี่มันสุนัขพันธุ์ผสมนี่ ทำไมเธอไม่เลี้ยงพันธุ์ที่มันดีกว่านี้ล่ะ เป็นดารามีเงินเยอะขนาดนั้น บ้านเธอก็ใหญ่โต เป็นดารานี่ดีจริงๆ ระยะเวลาแค่นี้ก็มีบ้านหลังใหญ่ขนาดนั้น เป็นดารามันรวยขนาดนั้นเลยเหรอ
ทุกคนสามารถหันจากเรื่องสุนัขกลับมาที่เรื่องเงินจนได้ หลินเช่อเองพอมาคิดตอนนี้ ก็รู้สึกว่าทำห้องให้ลูกสุนัขมันฟุ่มเฟือยไปหรือเปล่านะ
แต่ว่าที่บ้านตระกูลกู้มีห้องว่างที่ไม่ได้ใช้ตั้งหลายห้องนี่นา
เธอก็แค่เห็นว่าห้องมันว่างจึงเอามาใช้ประโยชน์ก็แค่นั้น
ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษบ้านตระกูลกู้ที่มีห้องว่างเยอะเกินไป สร้างใหญ่เกินไปแต่กลับไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์ แต่มันก็ถูกสร้างมาแล้ว
เจ้าหมาน้อยของเธอนั้นโชคดีมาก ได้มาอยู่ห้องส่วนตัวแบบนี้
ส่วนเธอที่เข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลกู้ก็นานแล้ว กลับได้อยู่แต่ในห้องของกู้จิ้งเจ๋อ
กู้จิ้งเจ๋อเห็นว่าหลินเช่อยังคงเล่นอยู่กับเจ้าหมานั่น ก็รู้สึกไม่พอใจ
มีความรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอ
นี่เธออยู่กับเขามานานแค่ไหนกันเชียว ถึงรู้สึกว่าเขาไม่สดใหม่แล้ว สุนัขตัวเดียวก็สามารถดึงความสนใจของเธอไปจากเขาจนหมดได้เลยเหรอ
หลินเช่อนั่งอยู่ตรงนั้น รู้สึกว่าคนด้านหลังค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
เธอเงยหน้าขึ้นมา มองเห็นใบหน้าเขาที่สะท้อนกับแสงไฟ
เธอตกใจ “คุณทำอะไรคะ”
ไม่นาน กู้จิ้งเจ๋อก็อุ้มเธอขึ้นมา
“อ๊ายยย…กู้จิ้งเจ๋อคุณทำอะไร” หลินเช่อถูกเขาจับพาดบ่า เธอตะโกน “ไม่ได้นะ คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ คุณจะพาฉันไปไหน”
ได้ยินเสียงเรียกของกู้จิ้งเจ๋อบอก “เล่นกับหมามานานแล้ว พาเธอไปอาบน้ำ”
“…” หลินเช่อไม่อยากจะเชื่อ “จะอาบก็ปล่อยฉันลงก่อนแล้วค่อยไปอาบ”
กู้จิ้งเจ๋อแบกเธอไปแบบนั้น ไม่สนใจว่าด้านนอกมีสาวใช้ยืนมองอยู่ พาเธอเดินตรงเข้าไปในห้อง
สาวใช้มองหน้ากัน ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิง รักกันดีจังเลย
มีเพียงเวลาคุณผู้หญิงอยู่บ้าน คุณผู้ชายถึงได้ดูมีชีวิตชีวาไม่เย็นชาเหมือนหุ่นยนต์
ส่วนหลินเช่อที่อยู่ด้านในนั้น…
เธอนับถือพละกำลังของกู้จิ้งเจ๋อจริงๆ ทุกครั้งที่เธอต่อต้านเขา เขาอุ้มเธอ แต่เขาทำราวกับว่าเธอไม่มีน้ำหนักอย่างไรอย่างงั้น
อีกทั้ง…ความเก็บกดของเขายิ่งน่ากลัว ถ้าไม่ใช่เพราะเขาควบคุมตัวเอง ไม่อยากทำร้ายเธอ คาดว่าเธอก็คงน่าสงสาร…
ยังดีที่…ยามที่เขาอ่อนโยนเธอก็สบาย เพียงแต่ทำไมตอนนั้นทั้งๆ ที่รู้สึกสบายขนาดนั้น แต่เมื่อผ่านไปถึงกลับเหนื่อยขนาดนั้นนะ…
ปกติเรื่องของเจ้าสุนัข สาวใช้จะเป็นคนจัดการให้ ไม่ปล่อยให้บ้านสกปรก แม้กู้จิ้งเจ๋อจะบอกว่าไม่ชอบ แต่วันต่อมาเขาก็เรียกสัตวแพทย์มาฉีดยาให้มัน กำจัดหมัด และเลี้ยงมันอยู่แบบนั้น
หลินเช่อกลับมาถึงบ้าน เห็นว่าที่บ้านสร้างราวและของเล่นไว้ให้หวังจื่อด้วย ก็รู้สึกว่ากู้จิ้งเจ๋อคนนี้ ปากร้ายใจดีจริงๆ
แม้ปากบอกว่าไม่ชอบ แต่ก็ยังทำของเล่นมากมายให้เจ้าหมาน้อย จนห้องของหวังจื่อกลายเป็นสวนสนุกไปแล้ว
เธอพูดอยู่ตรงนั้น สาวใช้หัวเราะพลางบอก “คุณผู้ชายดีกับคุณผู้หญิงมากจริงๆ นะคะ ขอแค่คุณผู้หญิงชอบ คุณผู้ชายก็สามารถหามาให้คุณผู้หญิงได้ทุกอย่าง ของพวกนี้คุณผู้ชายพึ่งให้คนเอามาติดตั้งเมื่อเช้านี้เองค่ะ หวังจื่อก็ชอบมากเหมือนกัน มีคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายรักมันมากขนาดนี้ หมาตัวอื่นจะมีโอกาสแบบนี้ที่ไหนกันคะ”
หลินเช่อรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ นึกถึงกู้จิ้งเจ๋อที่คอยตีหน้าเข้ม มุมปากก็ยกยิ้มมีความสุขขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ใช่แล้วล่ะ เจ้าหมาน้อยโชคดี เธอเองก็โชคดีเหมือนกัน
เป็นครั้งแรกที่กู้จิ้งหมิงจะพาอวี๋หมินหมิ่นกลับบ้านหลังจากพิธีแต่งงาน แน่นอนว่าต้องไปร่วมงานเลี้ยงครอบครัว
งานเลี้ยงครอบครัวจะยึดเอาวันเกิดของมู่หว่านฉิงเป็นหลัก หลินเช่อเตรียมของขวัญมาเนิ่นนาน สุดท้ายก็ตัดสินใจทำเตาผิงให้แก่มู่หว่านฉิง…
กู้จิ้งเจ๋อแล้วแต่เธอว่าเธอจะให้อะไร ส่วนของขวัญที่เขาจะมอบให้นั้น ได้ให้ฉินเฮ่าเตรียมไว้ให้ตั้งนานแล้ว
หลินเช่อกลับบ้านตระกูลกู้พร้อมกัน เมื่อลงจากรถก็เห็นว่าอวี๋หมินหมิ่นเองก็มาด้วยพอดี
——
[1] โช่ว แปลว่าเหม็น,กลิ่นเหม็น
[2] หวังจื่อ แปลว่าเจ้าชาย
[3] เสี่ยว แปลว่าเล็ก,น้อย เสี่ยวหวังจื่อ หมายถึงเจ้าชายน้อย
Related