ทุ่มเทเวลามากมายขนาดนี้ เพื่อตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง…
หลินเช่อเข้าใจแล้ว ว่าทำไมเธอถึงโดนเกลียดขนาดนี้
แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยากรู้ ว่าทำไมต้องทุ่มเทและลำบากขนาดนี้เพื่อตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง เธอไม่ใช่ลู่ชูเซี่ย เธอไม่เข้าใจว่าตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งทำไมถึงได้สำคัญกับเธอขนาดนั้น
เธอทำได้เพียงจ้องมองลู่ชูเซี่ย หวังว่าเธอจะไม่เสียสติ “คุณสามารถแย่งมันกลับไปได้ คุณมีความพยายามขนาดนี้ ปีหน้า ตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งก็จะเป็นของคุณ แต่ว่า ตอนนี้คุณมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ไปทำไมกัน ชีวิตคุณยังไม่จบสิ้น ครึ่งชีวิตของคุณก็ยังไม่ได้ถูกฉันทำลาย ฉันแค่บังเอิญแย่งมันมาได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง”
“พอแล้ว เธอจะเข้าใจอะไร ฉันไม่มีแพ้หรอก พจนานุกรมของลู่ชูเซี่ยไม่มีคำว่าแพ้” ลู่ชูเซี่ยผลักหลินเช่อลงบนพื้น
หยางหลิงซินตกใจกรีดร้อง “อย่าทำร้ายพวกเราเลย เราก็ผู้หญิงด้วยกัน ทำไมต้องทำแบบนี้ คุยกันดีๆ ไม่ได้เหรอ…”
ลู่ชูเซี่ยใช้น้ำเสียงดูถูก มองไปยังหลินเช่อ “ฉันอยากรู้จริงๆ นอกจากใบหน้านี้แล้ว ยังมีอะไรที่สามารถดึงดูดกู้จิ้งเจ๋อได้อีก ถ้าไม่มีกู้จิ้งเจ๋อ เธอจะนับเป็นตัวอะไรได้”
หลินเช่อมองลู่ชูเซี่ย “ไม่ใช่แค่คนที่มีความสามารถโดดเด่นเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ได้รับความสุข คนทุกคนมีสิทธิ์มีความสุขกันทั้งนั้น ฉันไม่เก่งอะไรเลยก็จริง แต่ว่า ฉันก็สามารถมีคนมาชื่นชอบได้มากมาย”
ลู่ชูเซี่ยส่ายหน้า จับยึดคอเสื้อหลินเช่อ “ไม่ นอกจากใบหน้านี้ของเธอ ก็มีทักษะเรื่องบนเตียงไง สามารถมัวเมาผู้ชายได้ วันนี้ฉันจะทำลายมันทุกอย่าง หลินเช่อ วางใจเถอะ เธอไม่ตายหรอก เธอจะมีชีวิตรอดกลับไป เพียงแต่เธอจะต้องมีชีวิตเหมือนฉัน ต้องสูญเสียทุกอย่าง กลับไปใช้ชีวิตของเธอ ถึงตอนนั้นเธอก็จะรู้เอง ว่าทำไมฉันถึงเจ็บปวดอยู่แบบนี้ ทำไม”
ลู่ชูเซี่ยกำลังจะเข้าไปคว้าหลินเช่อเอาไว้อีกครั้ง ผู้ชายด้านนอกพลันวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อน
“คุณลู่ ที่บ้านคุณโทรมาครับ คุณดู…”
ดวงตาลู่ชูเซี่ยนิ่ง
ที่บ้านโทรมางั้นเหรอ
เธอส่งเสียงหึเบาๆ หันไปพูดกับหลินเช่อ “เดี๋ยวอีกสักพักฉันจะกลับมาเล่นด้วยนะ”
เอ่ยจบเธอก็เดินออกไปทันที
หลินเช่อเห็นว่าลู่ชูเซี่ยออกไปแล้ว เธอจึงพ่นลมหายใจออกมา
ถอนหายใจแล้วหันไปมองหยางหลิงซินที่ยังคงหวาดกลัว “ขอโทษนะ เสี่ยวซิน ฉันทำให้เธอต้องมาลำบากไปด้วย”
“ไม่หรอกค่ะ” หยางหลิงซินมองไปด้านนอกด้วยความหวาดกลัว จับหลินเช่อเอาไว้แล้วบอก “พี่เช่อคะ เธอจะทำอะไรกันแน่ คงจะไม่…ฆ่าพวกเราใช่ไหมคะ”
ลู่ชูเซี่ยมีเงินมากมาย คงไม่ได้จับตัวมาเพื่อเรียกค่าไถ่หรอก งั้นเธอต้องการฆ่าพวกเขาใช่หรือเปล่า
หลินเช่อปลอบ “เสี่ยวซินไม่ต้องกลัว เธอก็แค่โกรธแล้วอยากทรมานฉันก็เท่านั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอหรอก เดี๋ยวอีกหน่อยเธอไม่ต้องพูดอะไร เธอก็จะไม่ทำอะไรเธอ”
หลินเช่อพิงอยู่ตรงนั้น อดคิดในใจไม่ได้ ตอนนี้เธอถูกลักพาตัวมาอยู่ที่นี่ กู้จิ้งเจ๋อจะรู้แล้วหรือยัง
เขาคงจะรู้แล้ว อย่างไรซะ ตอนที่เธอออกมาเธอยังมีบอดี้การ์ดของตระกูลกู้คอยคุ้มกันอยู่ พวกเขาคงจะรู้แล้วว่าหลินเช่อหายไป
และเวลานี้
คนที่กำลังเฝ้าหลินเช่อและหยางหลินซินนั้นมีไม่กี่คน
หลินเช่อถูกมัดมือมัดเท้า เธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เธอเห็นว่าหยางหลิงซินเองก็ถูกมัดเช่นกัน คิดว่าคงจะทรมานไม่น้อย เธอเงยหน้าขึ้นไปพูดกับชายพวกนั้น “รบกวนพวกคุณช่วยเราแก้เชือกหน่อยได้ไหมคะ ยังไงเราก็หนีไม่ได้ แต่ว่า มัดไว้แบบนี้มันเจ็บมากจริงๆ”
ตัวเธอนั้นไม่เป็นไร เพียงแต่กังวลว่าตัวเองจะทำให้เสี่ยวซินต้องลำบากไปด้วย
เธอคิด อย่างไรซะตอนนี้เธอก็ช่วยเสี่ยวซินไม่ได้ แต่ว่าอย่างน้อยก็ไม่อยากให้เธอต้องมาเจ็บตัว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ชายร่างสูงพวกนั้นมองมาที่หญิงสาวทั้งสอง
ชายคนหนึ่งมองมาที่หลินเช่อ ก้มลงมาแล้วบอก “นี่ สวยขนาดนี้ จับมัดไว้ก็แอบปวดใจอยู่นะ”
คนอื่นๆ หัวเราะอยู่ด้านหลัง แต่คิดว่าหลินเช่อนั้นสวยจริงๆ
หลินเช่อก้มหน้า อยากขยับออกห่างเขาสักนิด
ทว่าได้ยินผู้ชายคนนั้นบอก “ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะช่วยแก้เชือกให้”
หลินเช่อรีบเงยหน้าขึ้นมา “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ”
เธอบอก “ไม่ต้องสนใจฉัน ช่วยแก้เชือกให้เสี่ยวซินก็พอค่ะ”
หยางหลิงซินได้ยินแบบนั้น เธอเงยหน้าขึ้นมา มองหลินเช่อด้วยความซาบซึ้ง
ชายคนนั้นหันไปมองหยางหลิงซิน ส่งเสียงหยัน “ถ้าเป็นเธอคนนั้น ไม่สวยด้วยซ้ำ งั้นก็ช่างเถอะ”
“…”
ใบหน้าหยางหลิงซินกระอักกระอ่วนขึ้นมา
หลินเช่อมองพวกเขาด้วยความโกรธ
พวกเขามันเลวจริงๆ พูดแบบนี้ได้อย่างไรกัน
หลินเช่อบอก “ปล่อย ฉันเองก็ไม่ต้องการให้คุณช่วยหรอก”
ส่งเสียงหึเบาๆ แล้วจึงหันหน้าหนี
หยางหลิงซินหันหน้ากลับมา มองหลินเช่อ บอก “พี่เช่อ ช่างเถอะค่ะ ฉันไม่เจ็บหรอก”
หลินเช่อบอก “เพราะฉันแท้ๆ เลย ขอโทษนะ เสี่ยวซิน”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เช่อ ฉันเชื่อว่าประธานกู้กำลังหาทางช่วยเราอยู่แน่นอนค่ะ”
“อืม ใช่”
หลินเช่อหัวเราะ มองหยางหลิงซิน
——
ในห้องประชุม
ฉินเฮ่ารีบวิ่งเข้ามาหยุดอยู่ข้างกู้จิ้งเจ๋อ “คุณผู้ชายครับ คุณผู้หญิงหายไปครับ”
กู้จิ้งเจ๋อชะงัก
จากนั้น ภายใต้สายตาสงสัยของผู้เข้าประชุม กู้จิ้งเจ๋อรีบลุกขึ้น ไม่มีคำสั่งใดๆ เดินออกไปทันที
ฉินเฮ่าหันมายิ้มให้ทุกคน “ทุกคนแยกย้ายกันไปก่อนนะครับ ชั่วโมงครึ่งหลังจากนี้เราคงประชุมต่อไม่ได้แล้ว”
ฉินเฮ่ารีบตามกู้จิ้งเจ๋อไปแล้วบอก “เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอกว่า ถูกพาตัวออกทางด้านหลังห้องน้ำ พาตัวลงมาจากชั้นหก จากนั้นขึ้นรถคันหนึ่งไปครับ”
ใบหน้าของกู้จิ้งเจ๋อทะมึนขึ้นทันที
ฉินเฮ่าไม่กล้าพูดมาก รีบบอก “เราให้คนออกตามหาแล้วครับ”
“เดี๋ยวฉันจะไปเอง” กู้จิ้งเจ๋อหน้าซีดขณะพูดออกมา จากนั้นพุ่งตรงออกไปด้านนอก
“เอ่อ คุณผู้ชาย คุณไปไม่ได้นะครับ อันตรายเกินไป…” ฉินเฮ่ารีบตามไปด้วยความตกใจ
ทว่ากู้จิ้งเจ๋อกลับวิ่งขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่เขาตามออกไป รถได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว
ฉินเฮ่าเป็นใบ้อยู่ด้านหลัง มึนงงไปหมด
ตอนนั้นเอง เมืองบีก็ต้องวุ่นไปทั้งเมือง
สำนักงานการจราจรเมืองบี
ทุกคนต่างต้องตกใจ เมื่อกู้จิ้งเจ๋อถีบประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องตรวจสอบการจราจรที่ทันสมัยที่สุดในเมือง
“เกิดอะไรขึ้น”
“ใครน่ะ กล้ามาก่อกวนที่งานจราจร”
ในตอนที่ทุกคนตะโกนโวยวาย ก็มองเห็นชายหนุ่มท่าทางเยือกเย็นคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ไม่สนใจใคร เขาผลักทุกคนออกไปจากนั้นมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าระบบควบคุม ทุกคนต่างก็ตกใจ
“คุณเป็นใครกัน รู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน”
คนที่ถูกผลักออกตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ แต่กลับถูกเพื่อนร่วมงานที่เข้ามาทีหลังดึงออกไป
“ไปเถอะ รีบไป นี่คือกู้จิ้งเจ๋อ”
“…”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว รีบไปได้แล้ว”
ทุกคนต่างพากับรีบหนีออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมอง
จากนั้นหัวหน้างานจราจรก็รีบวิ่งเหงื่อตกเข้ามา มองดูกู้จิ้งเจ๋อที่ดูเยือกเย็นยืนอยู่ตรงนั้น ยืนเหงื่อตกอยู่ด้านหลังแล้วถาม “คุณกู้ครับ คุณต้องการหาอะไรครับ เดี๋ยวเราจัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาช่วย คุณว่า…”