เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 487 ภาพยนตร์เข้าฉายสู้กับฉินหวานหว่าน

หลินเช่อรู้ว่า ภาพยนตร์ที่เข้าฉายของฉินหวานหว่านในครั้งนี้ ทำรายได้ไม่เลวเลยทีเดียว  

 

 

ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับวัยรุ่น ทำให้เธอมีแฟนคลับเป็นจำนวนมาก  

 

 

จนถึงทุกวันนี้ทุกคนก็ยังคงกล่าวถึงอยู่ พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนั้นที่ถ่ายออกมาได้ดีทำให้ดูบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่า จะมีแอนตี้แฟนอยู่จำนวนไม่น้อย ถ้าพูดถึงภาพยนตร์เกี่ยวกับวัยรุ่นที่เห็นอยู่เป็นประจำ ถ้าไม่เกี่ยวกับการทำแท้ง ก็คนตาย สุดจะน่าเบื่อ แต่ทว่ารายได้มันก็มาจากนั่นล่ะ ในตอนสุดท้ายมักจะมีคนหล่อคนสวย หรือคนที่ชอบออกมาให้ดู ดังนั้นคนที่ไปดูก็ยังคงมีจำนวนไม่น้อย  

 

 

ภาพยนตร์ครั้งนี้ของหลินเช่อกับกู้จิ้งอวี่นับว่าเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ถ้าหากภาพยนตร์ได้รับผลตอบรับที่ดี ก็อาจจะมีการปล่อยเวอร์ชั่นซีรีส์เร็วๆ นี้  

 

 

ในรอบปฐมทัศน์ที่จะฉายนี้มีการเชิญสื่อมวลชนมาจำนวนไม่น้อย สื่อมวลชนได้มีการสัมภาษณ์กู้จิ้งอวี่ ถามกู้จิ้งอวี่ “สำหรับการทำภาพยนตร์ในครั้งนี้คุณมีความมั่นใจไหมคะ”  

 

 

กู้จิ้งอวี่ตอบ “คุณคิดว่ายังไงล่ะครับ”  

 

 

นี่ไม่ได้พูดไร้สาระอยู่ใช่ไหม เขามั่นใจแน่นอนอยู่แล้ว คุณภาพของภาพยนตร์ที่เขาเองก็ช่วยดูแลอยู่ตรงนั้นไม่ห่าง แน่นอนว่าเขามีความมั่นใจ  

 

 

นักข่าวยิ้มเหยเก รู้อยู่แล้วว่ากู้จิ้งอวี่เป็นคนแบบนี้ น้อยนักที่จะรักษาหน้าคนอื่น  

 

 

นักข่าวมองเห็นว่าหลินเช่อมาแล้ว ยิ้มราวกับดอกไม้บานอีกครั้งทันที บอกได้ว่า มาสัมภาษณ์หลินเช่อยังจะดีกว่า  

 

 

นักข่าวมองหลินเช่อพร้อมถาม “ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันภาพยนตร์ที่ฉินหวานหว่านแสดงเพิ่งฉายไป เห็นว่าตอนนี้พวกคุณอยู่บริษัทเดียวกัน ได้มีการสนับสนุนอะไรกันบ้างไหมคะ”  

 

 

หลินเช่อบอก “ช่วงนี้ฉันยุ่งตลอดค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาได้ไปดูหนังเลย แต่ว่ารายได้ของเขา คงไม่จำเป็นต้องรอการสนับสนุนจากฉันหรอกค่ะ ตั๋วหนังใบสองใบของฉันคงไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”  

 

 

นักข่าวคิดในใจ ความจริงการสัมภาษณ์หลินเช่อก็ดีมาก เธอดูเป็นคนพูดจาดี  

 

 

“งั้นก็แสดงว่าคุณไม่ได้ไปดูหนังมาเลยใช่ไหมคะ”  

 

 

“ใช่ค่ะ”  

 

 

“หนังของเขาทำรายได้ดีมาก คุณมีความกังวลไหมคะ ว่าจะทำรายได้สู้เขาไม่ได้”  

 

 

“ที่กังวลควรจะเป็นคุณกู้จิ้งอวี่ค่ะ เขาเป็นผู้อำนวยการสร้าง ส่วนฉันเป็นแค่นักแสดง สิ่งเดียวที่ฉันกังวลก็คงจะเป็นฝีมือการแสดงของฉัน จะสามารถทำให้ทุกคนเข้าถึงได้หรือเปล่า”  

 

 

ที่ควรกังวลคือกู้จิ้งอวี่…  

 

 

แต่กู้จิ้งอวี่ไม่กังวลเลย  

 

 

ครั้งนี้หลินเช่อเองก็เจ้าเล่ห์ไม่เบา หลบหลีกซ้ายขวา หลีกเลี่ยงประเด็น และผลักไปให้กับคนอื่น  

 

 

ภาพยนตร์ใกล้จะฉาย  

 

 

นี่เป็นครั้งแรกของหลินเช่อที่จะได้ชมภาพยนตร์ที่ได้ตัดต่อออกมาเรียบร้อย ช่วงเวลาที่ดูตื่นเต้นเร้าใจเป็นสิบเท่า  

 

 

ผลลัพธ์ที่ออกมามันเยี่ยมมาก ใช้เทคนิคพิเศษเหมือนฮอลลีวูด เป็นภาพยนตร์ที่มีจังหวะอารมณ์ที่หลากหลาย มีหัวเราะ มีร้องไห้ครบรส  

 

 

หลินเช่อรู้สึกเหมือนได้ไปอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ  

 

 

พอนึกถึงตอนที่ตัวเองถ่ายทำที่แสนลำบาก แต่ว่าในความลำบากนั้นด้านหนึ่งมันก็คุ้มค่าแล้ว  

 

 

หลังจากจบไป วันถัดมาก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์ออกมา  

 

 

ทางด้านสื่อมวลชนนั้นรู้สึกตื่นเต้นตกใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ก็คือเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่องแรกในประเทศที่มีเอฟเฟกต์เต็มรูปแบบขนาดนี้  

 

 

เอฟเฟกต์สามดีไม่แพ้ภาพยนตร์ดีๆ อย่างทรานฟอร์เมอร์เลย ฉากต่อสู้และเอฟเฟกต์พิเศษก็สวยงามมาก การทำงานเบื้องหลังก็ล้ำจริงๆ กู้จิ้งอวี่ไม่ต้องพูดอะไรเลย เขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย นักข่าวเองก็ไม่กล้าที่จะพูดไม่ดีกับเขาแม้แต่ประโยคเดียว กลัวว่าจะถูกแฟนคลับกลืนกินเข้าไป  

 

 

และหลินเช่อเอง แม้ในภาพยนตร์แนวนี้ นักแสดงหญิงหลายคนก็ถูกเรียกว่าแจกันดอกไม้ แต่ว่าบทบาทที่เธอได้รับในครั้งนี้ไม่ได้เลือนหาย เพราะว่าท่วงท่าการต่อสู้ที่สวยงาม และการแต่งกาย แถมยังทิ้งฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยม  

 

 

ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับฉินหวานหว่านตามตรงก็คงเป็นการแสดงที่สวยใส ไร้เดียงสา ทำให้คนดูรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือใช้ฝีมืออะไรมาก  

 

 

บริษัท ทุกคนกำลังดูการวิพากษ์วิจารณ์หนัง และรายงานจากสื่อ  

 

 

เมื่อดูการรายงานเกี่ยวกับฝีมือการแสดงของหลินเช่อที่ถูกยกย่องชื่นชม ฉินหวานหว่านนึกโกรธจนทำหน้าบึ้งตลอด  

 

 

พี่หลินผู้จัดการที่มองอยู่ พูดกับฉินหวานหว่าน “หวานหว่านเธออย่าโกรธนักเลย เขาก็แค่ได้รับคำชมยกย่อง พวกเราก็บอกไปว่าเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกู้จิ้งอวี่ เกาะกู้จิ้งอวี่ขึ้นมา หนังของเราก็ยังเป็นที่หนึ่งอยู่ดี”  

 

 

ฉินหวานหว่านตอบ “ดี งั้นเธอก็รีบๆ ไป ไปเร็ว”   

 

 

พี่หลินมองฉินหวานหว่าน แล้วรีบไปหานักข่าวที่สนิทอย่างรวดเร็ว เพื่อรายงานข่าวบิดเบือนของหลินเช่อ  

 

 

ไม่นานนัก เทพธิดากรงทอง ก็ถูกฉาย  

 

 

เนื่องจากการได้รับการประเมินที่สูง จนถูกจัดให้เป็นอันดับหนึ่งของภาพยนตร์ในประเทศ เรียกว่าเป็นตำแหน่งสูงสุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทำให้รายได้เพียงแค่ครู่เดียวก็ระเบิดถึงจุดสูงสุด ทุบสถิติรายได้ในวันเปิดตัวไป  

 

 

ลูกทีมก็มีความสุขด้วยเหมือนกัน รู้สึกเหมือนกับว่าความพยายามนั้นได้รับรางวัลแล้ว และอีกอย่าง ไม่พูดถึงอย่างอื่น แท้จริงที่สุด รายได้ที่แบ่งกันของทุกคนก็เยอะอยู่พอสมควร นั่นก็คือเงินทั้งหมด  

 

 

อย่างไรก็ตามหลินเช่อก็ยังไม่ทันได้ดีใจเท่าไหร่นัก ก็อ่านเจอข้อความบนหนังสือพิมพ์ว่า “หลินเช่อ เป็นเพราะฝีมือการแสดง หรือว่าเกาะใครเดินบนเส้นทางนี้ …”   

 

 

เนื้อหากล่าวถึงหลินเช่อ มีความคิดเห็นในเชิงลบที่แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเพราะฝีมือการแสดงที่ดี หรือว่าเพราะเธอกับกู้จิ้งอวี่กันล่ะ ทุกคน เพื่อที่จะรักษาหน้าของกู้จิ้งอวี่ และไม่กล้าที่จะพูดอะไรไม่ดีกับหลินเช่อ  

 

 

ต่อจากนั้นในรายงานยังได้มีการเปรียบเทียบ เธอและฉินหวานหว่าน บอกว่าภาพยนตร์ของฉินหวานหว่านรายได้ก็ไม่เลวเท่าไหร่ แต่ว่ากลับโดนด่าไปอย่างนั้น  

 

 

แต่ฉินหวานหว่านนั้นตัวคนเดียว ไม่ได้มีนักแสดงดังอย่างกู้จิ้งอวี่คอยเปิดเส้นทางให้ มีเพียงนักแสดงหน้าใหม่ที่พาภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่องนี้ขึ้นมาติดอันดับได้ สร้างรายได้มหาศาล  

 

 

อย่างไรซะ สำหรับการเปรียบเทียบในแต่ละด้าน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ฉินหวานหว่านถึงเรียกว่าอาศัยความพยายาม เก่งกว่าหลินเช่อที่อาศัยเกาะคนอื่นดัง  

 

 

หยางหลิงซินเห็นจึงบอกอย่างโมโห “รายงานบ้าอะไรแบบนี้ ฝั่งฉินหวานหว่านมีหน้าใหม่มากมาย แต่แฟนคลับก็เยอะใช่เล่น การแสดงของพี่เช่อมันดีอยู่แล้ว พวกเขายังกล้าพูดแบบนี้อีก”  

 

 

หลินเช่อบอก “พวกนี้ก็ฝีมือฉินหวานหว่านทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ จะรายงานข่าวได้มั่วขนาดนี้เหรอ”  

 

 

หยางหลิงซินบอก “งั้นทำยังไงดีคะ”   

 

 

“ช่างเถอะ รายงานก็พูดมั่วไปเรื่อย เราตอบโต้กลับก็ไร้ประโยชน์ ให้ความสามารถพูดแทนเถอะ”   

 

 

“จริงสิ เดี๋ยวพวกพี่ก็จะต้องเข้าร่วมแคสติ้งนักแสดงเรื่องบันทึกอูกู่แล้ว ใครได้รับเลือก ก็แสดงว่าการแสดงของคนนั้นดี”   

 

 

หลินเช่อบอก “ใช่ ไปลองแคสติ้งบทก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”  

 

 

การแคสติ้งนักแสดงของบันทึกอูกู่ที่จะจัดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้คนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ  

 

 

ไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าวมาก่อน บอกว่าบันทึกอูกู่กำลังแคสติ้งนักแสดง นักแสดงนำหญิงได้ล็อกตัวไว้แล้วสองคน คนหนึ่งคือฉินหวานหว่าน อีกคนคือหลินเช่อ  

 

 

บังเอิญก็คือ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ตอนนี้ถูกพูดถึงกันถ้วนหน้า ยิ่งเข้าร่วมการแคสด้วยกัน น่าสนุกไม่เบาเลย  

 

 

วันนี้ หลินเช่อและหยางหลิงซินมาด้วยกัน  

 

 

การแคสติ้งในวันนี้เป็นการแคสติ้งแบบส่วนตัว เดิมเป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัท ไม่ได้เปิดเผยออกไป เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู ก็มองเห็นนักข่าวกลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมอยู่ตรงประตู  

 

 

เมื่อมองเห็นหลินเช่อก็กรูกันเข้ามา  

 

 

“หลินเช่อ การแคสติ้งวันนี้มีความมั่นใจไหมคะ”  

 

 

“หลินเช่อ เมื่อสักครู่เห็นฉินหวานหว่านมาถึงก่อนแล้ว พวกคุณไปเข้าร่วมการแคสติ้งด้วยกันใช่ไหม ต่างคนต่างมาใช่ไหม”  

 

 

“ตอนนี้พวกคุณเป็นคู่แข่ง ถ้าเธอได้รับบทนั้นไป คุณจะยินดีไหมครับ”  

 

 

หลินเช่อมองนักข่าวไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมพวกเขาถึงถามแต่คำถามแย่ๆ  

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก
Status: Ongoing
หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset