น้ำเสียงทุ้มต่ำราวกับเสียงเบสนั้นแหบพร่า
ไม่นาน ก็มาถึงงานเลี้ยง
เป็นงานเลี้ยงที่ถูกจัดขึ้นโดยคณะรัฐมนตรี ในงานเลี้ยงมีการเชิญแขกต่างชาติมาด้วยจำนวนหนึ่ง
กู้จิ้งหมิงยกมือขึ้นคว้าแขนเธอไว้ด้วยมือข้างเดียวอย่างเป็นธรรมชาติ
อวี๋หมินหมิ่นแอบมองใบหน้าด้านข้างของเขา
ชุดสูทเครื่องแบบประธานาธิบดี ที่ดูสง่างาม ส่งให้ร่างของเขาดูละเมียดละไมยิ่งขึ้นไปอีก
เธออดไม่ได้หันไปมองใบหน้าของเขา คิดว่าใบหน้าของเขานั้นดูดุดัน รู้สึกถึงความเด็ดขาด มีระเบียบ
อวี๋หมินหมิ่นพยายามเม้มริมฝีปากกลั้นรอยยิ้มเอาไว้
ทว่ากลับได้ยินเสียงอีกคนเอ่ยขึ้น “คุณจ้องผมทำไม”
“แค่ก…แค่กแค่ก…” อวี๋หมินหมิ่นสำลักทันที
เกือบจะไอจนตัวงอ ทว่าถูกชายหนุ่มห้ามเอาไว้
“น้ำลายตัวเองยังสำลักได้ คุณยังโง่ได้อีกไหม”
“ไม่ใช่สักหน่อย” แต่ว่า แอบมองแล้วถูกจับได้ มันทำอะไรไม่ถูกนะรู้ไหม
เธอแค่คิดว่าความงดงามของเขามันน่าเชยชม ทำให้คนที่ได้เห็นต้องหลงใหล
ทุกคนกำลังมองไปยังคู่สามีภรรยาหมายเลขหนึ่ง ค่อยๆ ขยับเปิดทางให้
ตรงหน้า หญิงสาวคนหนึ่งกำลังค้อมตัวทักทายอยู่ตรงหน้า “ท่านประธานาธิบดี สวัสดีค่ะ”
อวี๋หมินหมิ่นจ้องมอง
คนตรงหน้าคือหยินซู่หย่านั้นเอง
เธอหันมามองอวี๋หมินหมิ่นเช่นกัน ตอนที่เห็นอวี๋หมินหมิ่น เธอชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นจึงค้อมศีรษะทักทายด้วยท่าทางสง่างามโดยการยกชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อย “คุณผู้หญิง สวัสดีค่ะ”
กู้จิ้งหมิงมองหยินซู่หย่า จากนั้นพยักหน้าตอบรับกลับไป
ผู้คนรอบข้างมองภาพนั้น จึงเริ่มพูดคุยซุบซิบกัน
“นั่นไม่ใช่หยินซู่หย่าหรอกเหรอ”
“ได้ยินว่าเธอสนิทกับท่านประธานาธิบดีมาก”
“แต่ก็แปลกนะ สุดท้ายทั้งสองก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
“ตอนนี้ทั้งสามคนมาอยู่ด้วยกัน เป็นภาพที่แปลกไม่น้อยเลย”
“ตอนนี้หยินซู่หย่าคงจะเสียดายสุดๆ เลยสินะ เห็นว่าอวี๋หมินหมิ่นได้กลายเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งไปแล้ว ได้ยืนอยู่เคียงข้างท่านประธานาธิบดี ไต่เต้าขึ้นไปเป็นหงส์ในชั่วข้ามคืน”
“ก็ใช่น่ะสิ ตำแหน่งภริยาประธานาธิบดีนั่นธรรมดาที่ไหน สตรีหมายเลขหนึ่ง มีเกียรติมีศักดิ์ศรี”
“พอแล้ว ไม่ต้องมองแล้ว รักสามเส้าแบบนี้ เราไม่ต้องเข้าไปยุ่งหรอก”
ทุกคนมองไปยังทั้งสามคนด้วยความอิจฉา อะไรที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดี แม้เป็นหัวข้อเล็กๆ ก็กลายเป็นจุดสนใจได้ทั้งนั้น
อวี๋หมินหมิ่นยิ้ม “สวัสดีค่ะ”
สายตาแหลมคมของหยินซู่หย่า เหลือบไปเห็นร่องรอยบางๆ บนลำคออวี๋หมินหมิ่น
ไม่เด่นชัด แต่เธอก็สังเกตเห็นได้
เมื่อมองดูแล้ว เธอไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า เวลาพวกเขาทั้งสองทำอะไรแบบนั้นกัน มันจะเป็นอย่างไรนะ
กู้จิ้งหมิงเอาแต่ใจ คงไม่อ่อนโยนแน่นอน ดูจากร่องรอยแล้ว เธอรู้ได้เลยว่า ไม่ได้อ่อนโยนเลยสักนิด
อย่างไรก็ตาม มันคงจะมีความสุขไม่น้อย ที่มีผู้ชายอย่างกู้จิ้งหมิงมาแสดงท่าทีเอาแต่ใจด้วย
กู้จิ้งหมิงพูดกับหยินซู่หย่า “มาแล้วเหรอ”
หยินซู่หย่าดึงสติกลับมา “อืม ใช่”
“ไปหาอะไรทานเถอะ”
หยินซู่หย่ายิ้ม พยักหน้าตอบรับเบาๆ “ค่ะ ฉันกำลังจะไป ทุกคนก็อยู่ที่นั่น คุณเองก็ไปด้วยกันสิคะ”
พูดถึงทุกคน แน่นอนว่าต้องเป็นบุคคลที่สนิทสนมกับกู้จิ้งหมิง
หยินซู่หย่าและกู้จิ้งหมิง พูดคุยอย่างเป็นกันเอง ราวกับเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยสนิทสนมกันมาก
อวี๋หมินหมิ่นยืนอยู่ตรงนั้น ยิ้มให้หยินซู่หย่า
ตลอดงานเลี้ยง หยินซู่หย่าและกู้จิ้งหมิง อีกทั้งยังมีฟางจ้งโหมวและคนอื่นๆ อีกไม่กี่คน กำลังพูดคุยกันอยู่
“วันนี้มีคนมาเยอะเลยนะ”
“ซู่หย่า ผลงานที่ได้รับรางวัลของเธอฉันเห็นแล้วนะ สุดยอดไปเลย”
“ได้รับคำชื่นชมจากพวกคุณ ฉันดีใจมากจริงๆ จริงสิ จิ้งหมิง ลองทานนี่สิ อร่อยมาก”
กู้จิ้งหมิงพยักหน้า
อีกฝั่ง อวี๋หมินหมิ่นไม่รู้จะเอ่ยแทรกขึ้นมาตอนไหนได้ ทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
หลังจากนั้น เธอจึงมีโอกาสปลีกตัวออกไปได้
“ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
กู้จิ้งหมิงเงยหน้าขึ้นมามองเธอ
ฟางจ้งโหมวบอก “จิ้งหมิง ไม่เลวนี่ รูปร่างดีมาก อยู่บ้านคงมีความสุขสินะ”
กู้จิ้งหมิงยิ้มบางๆ ยกแก้วขึ้นมา จิบไวน์ในแก้ว
คนอื่นไม่กล้าเข้ามาร่วมบทสนทนากับผู้คนเหล่านี้ ทำได้เพียงยืนมองอยู่ไกลๆ อดคิดไม่ได้ว่า คนพวกนี้นี่จริงๆ เลย…ความสัมพันธ์แบบรักสามเส้า ทว่ายังอยู่ด้วยกันได้ดีขนาดนี้ การเป็นภริยาประธานาธิบดีนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ
แต่ว่า อวี๋หมินหมิ่นเองก็ไม่เลวเลย ประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนี้ได้มานั่งเคียงข้างคนเหล่านั้น นี่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนเฝ้าปรารถนามาทั้งชีวิต แต่ก็ไม่อาจเอื้อมถึง
อวี๋หมินหมิ่นอยู่ในห้องน้ำ เธอเงยหน้าขึ้นมา พบว่าหยินซู่หย่าเองก็อยู่ที่นี่
เธอล้างมีอย่างสง่างาม หยิบผ้าขนหนูเปียกขึ้นมาจากด้านข้าง เช็ดแล้วโยนลงตะกร้า
ผ้าขนหนูเปียกพวกนี้ใช้ครั้งเดียว แล้วนำไปฆ่าเชื้อ
สถานที่หรูหราแบบนี้ ห้องน้ำก็ยังสะอาดกว่าห้องครัวที่บ้านเธอเลย แต่อวี๋หมินหมิ่นนั้นคุ้นชินแล้ว
หยินซู่หย่าเอ่ยขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้หญิง…คงยังไม่ชินใช่ไหมคะ กู้จิ้งหมิงเย็นชาไปหน่อย แต่ว่า เขาไม่ใช่คนไม่ดี”
อวี๋หมินหมิ่นยิ้ม “ใช่ค่ะ ยังไม่ค่อยชินเลย แต่ว่า ฉันปรับตัวอยู่ทุกวัน เขาเองก็ช่วยไม่น้อยเลยค่ะ”
ยิ้มให้หยินซู่หย่าแล้วเดินออกไปทันที
ขี้เกียจออกไปด้านหน้า เธอค่อยๆ เดินหายออกมาทางประตูหลัง อยากออกไปสูดอากาศด้านนอก ทว่าไม่คิดว่า
เมื่อเธอเดินไปถึงประตู ยังไม่ทันได้สูดอากาศบริสุทธิ์ พลันรับรู้ได้ถึงกลุ่มคน ที่ขับรถมอเตอร์ไซค์มาหยุดอยู่ตรงหน้า…
อวี๋หมินหมิ่นตกใจ นึกว่าพวกเขาจะมาทำร้ายตัวเอง ทว่าไม่ใช่ พวกเขาทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ ตะโกนใส่ชายหนุ่มคนหนึ่ง “สวี่อี้ ดูสิว่าครั้งนี้นายจะหนีไปที่ไหนได้”