ฉินหวานหว่านยังคงร้อนใจอยากรู้ผล เร่งถาม ว่าฝั่งกองถ่ายนั้นคุยกันไปถึงไหนแล้ว ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นฉินหวานหว่านแล้วหรือยัง
ใครจะรู้ ทางกองละครกลับบอกกับพี่หลินว่า “ตอนนี้เรายังดูสถานการณ์อยู่ ยังไม่มีแผนจะเปลี่ยนตัวนักแสดง”
ดูเหมือนอ้อมค้อม แต่พวกเขาก็ฟังออกแล้วว่า พวกเขาไม่คิดจะเปลี่ยนตัวนักแสดง
พี่หลินพูดด้วยความตกใจ “ถึงขั้นนี้แล้วพวกคุณยังไม่คิดจะเปลี่ยนคนอีกงั้นเหรอ ตอนนี้หลินเช่อเหม็นจนแมลงวันตอมขนาดนั้นแล้ว”
“นี่พวกเราก็กำลังคิดทบทวนอยู่ไงครับ ใช่ว่าพวกคุณจะไม่มีโอกาสสักหน่อย”
“ช่างเถอะ อย่าคิดมาเล่นแง่กับฉัน ฉันขอเตือนพวกคุณว่าคิดให้ดี เรามีแต่เดินหน้า ถึงตอนนั้นอยากเปลี่ยน ใช่ว่ามันจะเปลี่ยนได้หรอกนะ”
“เอาล่ะ ในเมื่อพูดแบบนี้ เราก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว” อีกฝ่ายตัดสายไป
พี่หลินเอ่ยขึ้นมาด้วยความโกรธ “หลินเช่อคนนี้ วางแผนร้ายอะไรอีกหรือเปล่า”
ฉินหวานหว่านเองก็ไม่พอใจ “พวกเขาไม่ใช้หลินเช่อแน่ พวกเขาจะใช้หลินเช่อได้ยังไง ตอนนี้หลินเช่อมีข่าวฉาวขนาดนั้น”
“งั้นหรือว่าพวกเขามีเป้าหมายอื่นแล้ว จะใช้นักแสดงคนอื่นอย่างงั้นเหรอ”
——
ฝั่งกองละครได้ยินคำขู่จากฉินหวานหว่าน ทำเพียงส่งเสียงเย้ยหยัน
“ฉินหวานหว่านยังข่มขู่พวกเราผ่านทางโทรศัพท์ด้วย”
“พวกเขาคงคิดว่ามันแปลก ที่พวกเรายังกล้าใช้หลินเช่อ”
“จริงๆ เลย ยังบอกว่าหวานหว่านของพวกเขาเดินไปข้างหน้า ใช่ เดินไปข้างหน้า แต่ใครใช้ให้หลินเช่อรู้จักกับตระกูลซือถูล่ะ แถมซือถูฉยงยังจะช่วยเธอไถ่ตัวอีก…ดูแล้วความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว”
“นั่นสิ แค่เฉิงกวง ไหนจะสู้ตระกูลซือถูได้”
พวกเขาได้แต่แสยะยิ้มให้ฉินหวานหว่าน เฝ้ารอวันที่ฉินหวานหว่านจะต้องเสียใจ
——
และในตอนนั้นเอง หลินเช่อเองก็คาดไม่ถึง ว่าซือถูฉยงจะออกหน้ามาช่วยเธอเรื่องนี้
หลินเช่อคิด จากนั้นจึงรีบต่อสายหาซือถูฉยง
ซือถูฉยงเอ่ย “อะไร ลูกศิษย์”
หลินเช่อบอก “คุณโทรไปหากองละคร บอกว่าจะไถ่ตัวฉันงั้นเหรอคะ”
“ผมก็แค่ไม่ยอมให้ลูกศิษย์ตัวเองมีเรื่องก็เท่านั้นเอง”
“โอเค…”
“ยิ่งไปกว่านั้น ความจริงใช่ว่าพวกคุณจะไม่มีเงินมาไถ่ตัว แต่ตอนนี้กังวลว่าหลังจากไถ่ตัวเองแล้ว จะบอกคนอื่นว่าเอาเงินมาจากไหน เดิมทีคนอื่นก็สงสัยแล้วว่าพวกคุณมีคนเลี้ยง คุณไถ่ตัวด้วยเงินจำนวนมากขนาดนี้ นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขาทายถูก ดังนั้นพวกคุณเลยระมัดระวัง ไม่บอกออกมาตรงๆ ว่าพวกคุณมีเงินไถ่ตัว”
สิ่งที่ซือถูฉยงพูด อวี๋หมินหมิ่นเองก็เคยพูดเอาไว้
ในเมื่อตอนนี้ยังไม่อยากเปิดเผยตัวกู้จิ้งเจ๋อ งั้นเงินหลายล้านนี้เอามาจากไหน ก็คงบอกไม่ได้
“ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะอยากช่วยคุณรักษาละครเรื่องนี้เอาไว้ ตอนนี้ยังไม่ถูกฉินหวานหว่านแย่งไปได้แน่นอน”
“ก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณมากๆ เลยนะคะ”
“อีกอย่าง ก็แค่เงินไม่กี่ล้าน ให้ลูกศิษย์ไปใช้ อาจารย์อย่างผมทำได้อยู่แล้ว”
“…”
โอเค ตระกูลซือถูยิ่งใหญ่ เงินไม่กี่ล้านสำหรับเขาแล้ว ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
เพียงแต่ ตอนนี้คนของหลิงต้งคิดว่า หลินเช่อจะหาเงินมาไถ่ตัวไม่ได้
เพราะถึงแม้หลินเช่อจะมีชื่อเสียงแล้ว แต่ว่า เธอพึ่งมีชื่อเสียงได้ไม่นาน ไม่น่าจะมีเงินมากมายขนาดนี้ และใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยมาตลอด จึงคิดว่าเธอคงไม่มีเงินเก็บ พวกเขาไหนเลยจะรู้ว่า ชีวิตหรูหรานั้น เพราะมีคนอยู่เบื้องหลัง ความฟุ่มเฟือยแค่นี้ของเธอ ไม่เป็นปัญหาเลยสักนิด
——
คดีความก็เริ่มขึ้นแล้ว
ในศาล บริษัทภาพยนตร์หลิงต้งคิดว่าหลินเช่อจะไม่มีเงินมาไถ่ตัว จึงบอก “เราก็เป็นคนมีเหตุผล ถ้าเธอยอมจ่ายค่าเสียหายที่ควรจ่าย แล้วเราจะยกเลิกสัญญาให้”
ฝั่งอวี๋หมินหมิ่นให้ทนายออกหน้า ก่อนพิพากษา อวี๋หมินหมิ่นยืนมองเฉินจิ้งเต๋ออยู่ด้านหลัง
เฉินจิ้งเต๋อบอก “หมินหมิ่น พวกคุณกลับใจตอนนี้ก็ยังทันนะ”
อวี๋หมินหมิ่นบอก “เสียใจทีหลังคืออะไรฉันไม่รู้จัก”
เฉินจิ้งเต๋อเย้ยหยัน “หมินหมิ่น ผมรู้หลินเช่อไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้หรอก และคุณเองก็คงไม่กล้าออกเงิน เพราะถ้าเกิดมีคนสืบที่มาของเงิน คุณก็คงให้คำตอบไม่ได้ ถึงแม้คุณจะเป็นภริยาท่านประธานาธิบดี แต่ว่าพวกคุณเล่นการเมือง มันยิ่งอ่อนไหว ดังนั้นถ้าคุณยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ แล้วขอโทษหวานหว่าน เราจะคุยกันง่ายขึ้น”
“ช่างเถอะ ฉันไม่มีความคิดนั้นหรอกค่ะ”
อวี๋หมินหมิ่นพูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป
“คุณ…คุณอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”
ศาลตัดสินออกมาว่า หากสตูดิโอของหลินเช่อต้องการยกเลิกสัญญา ต้องชดใช้เงินให้อีกฝ่ายเป็นเงินเจ็ดล้าน
เจ็ดล้านเลยนะ สำหรับคนทั่วไป มันคือจำนวนมหาศาล
เพราะทนายของหลินเช่อไม่ได้วางมัดจำลงไปเยอะ เงินจำนวนนี้ ในใจของหลิงต้ง พวกเขาคิดว่าเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเขาแล้ว
คนของบริษัทภาพยนตร์หลิงต้งดีใจมาก ประกาศออกไป ในประกาศพูดว่า “เรื่องมาถึงตอนนี้ เราเองก็ไม่ต้องการ ตอนนี้เพียงแค่หลินเช่อมาขอโทษหวานหว่าน ขอโทษบริษัท เราก็ยินดีต้อนรับหลินเช่อกลับมา ไม่เช่นนั้น ตามที่ศาลได้ตัดสิน จ่ายเงินเจ็ดล้านให้เรา แล้วเราจะปล่อยไปทันที”
และในตอนนั้นเอง ตอนที่บอกว่าจะปล่อยเธอไป
หลินเช่อจ่ายค่าปรับให้แก่ศาลในทันที กำลังรอให้ศาลประกาศคำตัดสิน เมื่อจ่ายค่าปรับให้แก่บริษัทภาพยนตร์หลิงต้ง หลินเช่อและทีมงานของเธอก็จะหลุดพ้นจากบริษัทภาพยนตร์หลิงต้งแล้ว
บริษัทหลิงต้งต่างพากันตกตะลึงไปตามๆ กัน
หลินเช่อจ่ายค่าปรับเจ็ดล้านหยวนงั้นเหรอ
แต่เวลาต่อมา สตูดิโอของหลินเช่อก็ยื่นคำร้องต่อศาลไปอีกครั้ง เนื่องจาก บริษัทหลิงต้งสร้างข่าวใส่ร้ายเธอ บิดเบือนความจริง ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของเธอ ต้องการให้บริษัทหลิงต้งขอโทษและชดใช้ให้กับเธอ
คนของหลิงต้งโกรธ และถามเธอในเวยป๋อว่า หลินเช่อเอาเงินมาจากไหน
พวกเขาถามในเวยป๋อ ว่าหลินเช่อเอาเงินมาจากไหน ที่มาไม่ชัดเจนใช่หรือไม่ เพราะบริษัทหลิงต้งไม่คิดว่าหลินเช่อจะมีเงินเก็บตั้งเจ็ดล้าน
แต่ว่าอวี๋หมินหมิ่นนั้นได้เตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว ร่วมมือกับซือถูฉยงก่อตั้งสตูดิโอในนามบริษัทของตระกูลซือถู
อวี๋หมินหมิ่นไม่ต้องพูดอะไรมาก เธอใช้ชื่อเต็มของบริษัท พร้อมรับรองเป็นอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์
บอกรายละเอียดชัดเจน ผู้ลงทุน ซือถูฉยง
นั่นหมายความว่า ซือถูฉยงลงทุนเปิดบริษัทให้กับหลินเช่อ
ครั้งนี้ คนของบริษัทภาพยนตร์หลิงต้งพลันนึกขึ้นมาได้ เมื่อก่อนเคยเห็นซือถูฉยงมารอหลินเช่อที่หน้าบริษัท
ที่แท้หลินเช่อก็มีความสัมพันธ์คลุมเครือกับซือถูฉยงมาโดยตลอด และเป็นที่พึ่งที่ดีมากด้วย
ไม่รอให้หลิงต้งได้พูดอะไรอีก สตูดิโอของหลินเช่อก็ประกาศชี้แจงสถานการณ์ทันที
“เมื่อก่อนหลินเช่อลางานกับบริษัทเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อฝึกฝนและเรียนฟันดาบกับซือถูฉยงเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน กลายเป็นลูกศิษย์ของซือถูฉยง ทั้งสองเป็นลูกศิษย์และอาจารย์ที่ดีต่อกัน ดังนั้นครั้งนี้ ซือถูฉยงจึงช่วยดูแลและลงทุนให้กับหลินเช่อ ช่วยเหลือให้ลูกศิษย์ของตนได้ยกระดับในหน้าที่การงานให้สูงขึ้นอีกขั้น”
กองละครบันทึกอูกู่เมื่อเห็นว่า ซือถูฉยงไถ่ตัวหลินเช่อจริงๆ จึงใช้โอกาสนี้ประกาศรายชื่อนักแสดง โดยมีหลินเช่อเป็นนักแสดงนำหญิง