เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 512 หลินเช่อแย่แล้ว

หลินเช่อรู้สึกว่าเธอช่างซวยจริงๆ

โดนใครก็ไม่รู้ลากขึ้นรถมา พาเธอมายังผับเล็ก

หลินเช่อลงจากรถ ผลักผู้ชายที่กำลังเมาคนนั้นออก ใช้โอกาสนั้นวิ่งหนี

“นี่ คนสวย วิ่งหนีทำไมกัน อย่าหนีนะ…”

คนคนนั้นวิ่งตามมา แต่เพราะเมาเกินไป วิ่งได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงไปกองกับพื้น

คนที่ผับเห็นว่าชายคนนั้นเมาแล้วยังขับรถ จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ

เมื่อหลินเช่อหันกลับไปก็เห็นว่าชายคนนั้นถูกจับเอาไว้

เธอพ่นลมหายใจออกมา ผ่อนแรงที่วิ่งลง ทว่ายังไม่กล้าหยุด

เธอวิ่งต่อไปอีกสักพัก จากนั้นจึงหยุดลง หอบหายใจ ยกมือขึ้นตบหน้าอกตัวเอง

ทำไมเธอถึงได้เจอแต่คนแบบนี้นะ

แม้ผู้คนที่นี่จะมีอารยธรรมมาก คนทั่วไปดื่มไลน์เป็นประจำ มีความสุขกับชีวิต แต่ว่าหลินเช่ออยู่กับกู้จิ้งเจ๋อตลอด ดังนั้นจึงไม่เคยเจอกับคนภายนอก

ตอนนี้ต้องมาอยู่ข้างนอกคนเดียว ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย เงินหรือโทรศัพท์ก็ไม่มี อยากหาใครสักคนเพื่อยืมโทรศัพท์โทรหากู้จิ้งเจ๋อก็ไม่มีใคร คว้าหนึ่งคนได้ กำลังจะถาม ลิ้นกลับพันกัน คิดทบทวนภาษาอังกฤษที่เคยเรียน พบว่าเธอพูดได้แค่ขอบคุณ ฉันชื่ออะไรและใช่ไม่ใช่

เสียใจจริงๆ ตอนนั้นน่าจะตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษหน่อยก็คงจะดี

อาจเพราะพึ่งพากู้จิ้งเจ๋อจนเกินไป

หลินเช่อมองไปมองมาอยู่ข้างถนน ที่นี่ไม่ใช่เขตท่องเที่ยว ปกติเดินตามถนนอาจจะได้เจอประเทศซีบ้าง ทว่าวันนี้อยากเจอใบหน้าที่คุ้นตาบ้าง กลับไม่มีเลยสักคน

ยืนมองอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน ทว่ากลับไม่เจอแม้แต่คนเดียว

ตอนที่อยากเจอ กลับไม่มีมาให้เจอ

ตอนไม่อยากเจอ กลับเจออยู่ทุกที่

หลินเช่อยืนอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน อยากสอบถามว่าแถวนี้มีสถานีตำรวจไหม หรือสถานีตำรวจไปทางไหน

ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยผับ ตอนเช้าเงียบสงบ บนถนนมีเพียงคนเมาที่ดื่มมาทั้งคืนเดินสวนไปมา

มีบางคนเจอหลินเช่อแล้วอยากเข้ามาคุยด้วย

แต่เพราะหลินเช่อฟังภาษาของพวกเขาไม่ออก ไม่รอให้พวกเขาได้เข้ามาใกล้ เธอรีบเดินออกห่าง หลีกเลี่ยงที่จะเจอคนไม่ดี

ไม่นาน หลายคนก็สังเกตเห็นหลินเช่อ

“เฮ้ย ผู้หญิงสวยคนนั้นยืนอยู่ตรงนั้นตลอดเลย”

“ใช่ ยืนอยู่นานแล้ว เข้าไปดูหน่อยไหม”

“บางทีจะฟังภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสไม่ออก”

“รูปร่างหน้าตาดูไม่เลวเลย เข้าไปจีบหน่อยไหม”

หลินเช่อมองเห็นเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา สายตามองสำรวจหลินเช่อ บอกได้ทันทีว่าต้องการอะไร

หลินเช่อหลับตา หัวใจเต้นแรง คิดว่าตัวเองควรเดินไปเรื่อยๆ บางทีแถวนี้อาจมีสถานีตำรวจ

ตอนนั้นเอง…

“นี่นักท่องเที่ยวเหรอ มาเที่ยวคนเดียวเหรอ พักโรงแรมไหม”

หลินเช่อได้ยินเสียงดังขึ้นใกล้ๆ จึงหันกลับไปดู มองเห็นหญิงสาวผิวเหลืองตาสีดำยืนอยู่ตรงหน้า

เธอชะงัก “คุณ…”

“อ้อ ฟังภาษาอังกฤษไม่ออก งั้นฉันเปลี่ยนเป็นภาษาจีนก็ได้ นี่ สวัสดีค่ะ คุณเป็นนักท่องเที่ยวหรือเปล่า พักที่โรงแรมไหม สไตล์วิลล่า”

“สวรรค์ คุณพูดภาษาจีนได้ ดีจังเลย เป็นคนประเทศซีเหรอคะ”

“เอ่อ…ไม่ใช่ค่ะ แต่ว่าฉันมีเชื้อสายประเทศซี”

“จริงเหรอคะ ดีจังเลย” หลินเช่อรู้สึกราวกับเจอญาติ จ้องมองหญิงสาวตรงหน้า

“ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หลงกับที่บ้าน อยากถามว่า แถวนี้มีสถานีตำรวจไหมคะ หรือว่าให้ฉันยืมโทรศัพท์ติดต่อที่บ้านก็ได้ค่ะ”

“หลงเหรอ” หญิงสาวมองสำรวจหลินเช่อ เมื่อมองเห็นเสื้อผ้าที่เธอใส่ ล้วนเป็นแบรนด์เนมทั้งนั้น

ราคาแต่ละชิ้นสูงลิ่ว อย่างน้อยก็คงหนึ่งร้อยยูโร

หญิงสาวบอก “ก็ได้ค่ะ ที่นี่เป็นย่านขายบริการ สถานีตำรวจอยู่ไกล แถวนี้ไม่มีหรอก แต่ว่า ถ้าคุณต้องการใช้โทรศัพท์ เดี๋ยวฉันจะพาคุณไป”

ย่าน…ย่านขายบริการ…

ไม่หรอก เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

เมื่อลองดูอีกครั้ง กลางวันของที่นี่ดูรกร้างอย่างแปลกประหลาด

หลินเช่อขมวดคิ้วถาม “งั้น…คุณทำอะไรอยู่ที่นี่คะ”

คงไม่ได้พาไปขายหรอกใช่ไหม

เด็กสาวดูอายุน่าจะราวๆ สิบกว่า ทว่าท่าทางดูเหมือนเด็กสาวเกเร แต่งตัวอินดี้ แน่นอน สำหรับเด็กสาวมันอาจจะดูเท่ก็ได้

“วางใจเถอะ ฉันเป็นคนไม่ดี แต่ที่นี่เรื่องเหล่านั้นถูกกฎหมาย ฉันไม่เคยทำหรอก ฉันมีหน้าที่เรียกแขกน่ะ ถ้าเธอไม่ยอมไม่บังคับให้เธอทำหรอก ที่นี่มีผู้หญิงที่เต็มใจตั้งมากตั้งมาย ไม่พาเธอไปทำอะไรหรอกน่า เธอบอกฉันมาว่าจะโทรหาใคร เดี๋ยวฉันโทรให้ บอกตำแหน่งที่นี่ ให้ที่บ้านเธอมารับ โอเคไหม”

เห็นเธอพูดตรงๆ แบบนั้น หลินเช่อก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร

เธอพยักหน้า แอบคิดในใจ ตายเป็นตาย ยังไงก็ไม่มีทางอื่นแล้ว หาสถานีตำรวจก็ไม่เจอ มองไปรอบข้างก็ดูเป็นคนไม่ดีทั้งนั้น มีเพียงเธอคนนี้ที่ฟังรู้เรื่อง ลองพนันกันสักตั้งแล้วกัน

หลินเช่อยืนรออยู่ด้านนอก มองเธอถือโทรศัพท์เดินเข้าไปในห้อง

ความจริงเธออยากบอกว่าเธอโทรเองก็ได้ แค่ขอยืมใช้โทรศัพท์

แต่ว่า บางคนก็ไม่ยอมให้ใครยืมโทรศัพท์ หลินเช่อคิดว่า ช่วยเธอโทรได้ ถ้าเอาโทรศัพท์ให้คนอื่นยืม แล้วเขาเอามันไปเลยจะทำอย่างไรล่ะ

แม้เธอจะคิดว่าตัวเองไม่เหมือนคนไม่ดี แต่ถ้าเด็กคนนั้นยังระแวงอยู่ เธอก็เข้าใจ สำหรับเธอแล้ว ยังไงก็เป็นคนแปลกหน้า

แต่ไม่รู้ว่า…

——

เด็กสาวมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านนอก บอกกับคนในโทรศัพท์เจ้าของน้ำเสียงเย็นชานั้นว่า “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอเป็นอะไรกับคุณ แต่ว่า ตอนนี้เธออยู่ในมือของฉันแล้ว ถ้าอยากได้ตัวเธอก็เอาเงินห้าร้อยยูโรมาแลก ไม่งั้นฉันจะขายเธอให้นายใหญ่ที่โหดร้ายที่สุดในย่านขายบริการนี่”

อีกฝ่ายเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นบอก “ฉันให้เธอหนึ่งพันยูโร ดูแลเธอให้ดี”

“จริงเหรอ ได้ ฉันจะดูแลเธออย่างดีเลย”

เด็กสาวคิด ที่แท้อีกฝ่ายก็เป็นคนรวยนี่เอง

พลันรู้สึกเสียดายขึ้นมา ราคาที่เธอเสนอมันต่ำไปหน่อย

เธอเดินออกไป มองสำรวจหลินเช่อที่นั่งอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง

เธอคงจะเป็นคนมีเงินจริงๆ ดูหน้าตาสวยด้วย

——

อีกด้าน

ลู่เป่ยเฉินลุกขึ้นมา “เจอแล้วเหรอ”

กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองลู่เป่ยเฉินด้วยสายตาเรียบนิ่ง

ถึงเรื่องที่หลินเช่อหายไปจะไม่โทษเขา แต่ว่า ยังไงการหายตัวไปของหลินเช่อก็เป็นผลกระทบมาจากการทะเลาะกันของเขาและกู้จิ้งเหยียนจึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ขึ้น เขาจึงไม่ได้สนใจหลินเช่อ

เขารู้ว่าหลินเช่อพึ่งเดินทางออกนอกประเทศเพียงไม่กี่ครั้ง ภาษาอังกฤษเธอไม่ดี ไปคนเดียวคงจะไม่คุ้นเคย แม้จะไม่กลัวแต่ก็กังวล

กู้จิ้งเจ๋อบอก “คนคนนั้นบอกว่า เอาเงินให้เธอ เธอจะคืนหลินเช่อให้”

“ล้อเล่นหรือเปล่า…ลักพาตัวเหรอ”

“ไม่น่าใช่”

“ทำไมถึงไม่ใช่ล่ะ” ลู่เป่ยเฉินถาม

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก
Status: Ongoing
หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset