อวี๋หมินหมิ่นบอก “เดี๋ยวฉันต้องไปตัดริบบิ้นที่บริษัทใหม่ หลายวันมานี้เธอออกไปเที่ยว กลับมาก็พักผ่อนให้เต็มที่เถอะ เดี๋ยวไปตัดริบบิ้นกับฉันแล้วยังต้องให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอีก”
“สัมภาษณ์กับนักข่าวเหรอ”
“ใช่ ข่าวเธอกลับประเทศโด่งดังไปทั่วแล้ว วันนี้ที่งานตัดริบบิ้นของบริษัท เธอต้องไปสักหน่อย”
——
หลินเช่อเดินทางไปถึงบริษัทพร้อมกับอวี๋หมินหมิ่น
บริษัทก็คือสตูดิโอของหลินเช่อนั่นเอง พื้นที่ไม่ได้กว้างมาก เพราะใช้พื้นที่ไม่มากอวี๋หมินหมิ่นจึงหาสำนักงานได้ง่าย เมื่อถูกใจก็ตัดสินใจเช่าเลยทันที ให้คนอื่นๆ ย้ายเข้ามา ต่อไปก็จะขยายบริษัทอยู่ที่นี่
หลินเช่อมาถึงสำนักงาน ลงจากรถมา เห็นกระเช้าดอกไม้และของขวัญมากมายที่มีคนมอบให้เต็มไปหมด
วางเรียงกันอยู่หน้าประตู จนล้นเข้าไปด้านใน
อวี๋หมินหมิ่นบอก “กระเช้าดอกไม้พวกนี้มาจากคนในวงการทั้งนั้น”
“ห๊ะ เยอะขนาดนี้เลยเหรอ”
“แน่นอนสิ นี่ถ้าเธอโดนไล่ออกมาจากบริษัท คงไม่มีใครส่งอะไรมาให้หรอก แต่ว่าเธอออกมาพร้อมกับชัยชนะ แถมยังได้บทละครบันทึกอูกู่มาครอบครอง ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้กันไปทั่วว่าซือถูฉยงสารภาพรักกับเธอ และตอนนี้กำลังจีบเธออยู่ด้วย”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หลินเช่อก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
“ซือถู…ฉันไม่เห็นเขา ถ้าฉันเจอฉันจะตีเขาให้ตายเลย”
“ตีเขาให้ตายทำไม ยังไงซะ ตอนนี้ใครเขาก็รู้กันหมดว่าซือถูฉยงหลงเธอขนาดไหน คนรวยขนาดนี้มายุ่งเกี่ยวกับเธอ ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจ คนในวงการเองก็เช่นกัน เธอเองก็ไม่ใช่พึ่งรู้”
ใช่ หลินเช่อเข้าใจ
อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี จิตใจคนนั้นเลือดเย็นแค่ไหน ทำไมเธอจะไม่รู้
มองเข้าไปด้านใน เห็นกระเช้าดอกไม้ที่ถูกส่งมาจากเหล่าผู้กำกับชั้นนำ ผู้ผลิตรายการ บริษัทใหญ่ๆ ทำให้เธอรู้สึก…คนพวกนี้ บางคนเธอก็ไม่รู้จัก บางคนแทบไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำไป ยังส่งดอกไม้มาแสดงความยินดีกับเธออีก แถมยังมีผู้กำกับที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ…
“ว้าว ผู้กำกับกู่ก็ส่งกระเช้าดอกไม้มาให้ฉันเหรอเนี่ย ฉันเคยร่วมงานกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เมื่อก่อนยังไม่เคย ต่อไปมีเหรอที่จะไม่เคย ยังไงซะ ตอนนี้เธอกำลังโด่งดัง ขึ้นเทรนด์การค้นหาอันดับหนึ่งมาหลายวันแล้ว เธออยู่ต่างประเทศอาจยังไม่รับรู้ เดี๋ยวกลับมาอยู่อีกสักสองสามวันเธอก็จะรู้เองแหละ”
หลินเช่อยังมองเห็นกระเช้าดอกไม้ที่ถูกส่งมาจากบริษัทที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย
“พวกนี้คืออะไร…”
“พวกเขาบอกว่าเป็นแฟนคลับของเธอ…” อวี๋หมินหมิ่นบอกเสียงเบา “เหมือนจะเป็นแฟนคลับจากงานเลี้ยงดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู”
“…”
หลินเช่อแทบเป็นบ้าอยู่แล้ว คนพวกนี้ยังส่งกระเช้าดอกไม้มาให้ด้วย
ทุกคนเห็นหลินเช่อกลับมา รีบเข้ามาแสดงความยินดี “พี่เช่อ ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว”
“พี่เช่อ ต่อไปพวกเราเป็นคนของพี่เช่อแล้วนะ”
หลินเช่อมองใบหน้าที่คุ้นเคยเหล่านั้นด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ
“ขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นใจตัวฉัน มาช่วยฉันสร้างบริษัทด้วยกัน”
พนักงานต่างดีใจ พูดกับหลินเช่อด้วยความตื่นเต้น “พี่เช่อพูดอะไรแบบนั้นคะ ตอนที่พวกเราติดตามพี่ใหม่ๆ เราแทบไม่มีอะไรเลย ตอนนี้เพราะพี่เช่อฉันก็มีชื่อเสียงขึ้นมาด้วย พี่เช่อเป็นคนนำความรุ่งโรจน์มาให้พวกเรา”
“ใช่แล้ว พวกเราติดตามพี่เช่อ ถือว่ามีหน้ามีตาไปด้วย”
หลินเช่อมองทุกคน “ได้ยังไงกัน เราเติบโตมาด้วยกัน ถ้าไม่มีทุกคนฉันคงยังเป็นแค่นักแสดงตัวประกอบอยู่”
ทุกคนห้อมล้อมหลินเช่อด้วยความตื่นเต้นดีใจ จนกระทั่งอวี๋หมินหมิ่นเรียกเธอไปตัดริบบิ้น
ด้านนอก สำนักงานอื่นต่างก็โผล่หน้าออกมาดู อยากรู้ว่าบริษัทที่มาเปิดใหม่นี้เป็นบริษัทอะไรถึงได้เสียงดังขนาดนี้
เมื่อรู้ว่าเป็นสตูดิโอก็รู้สึกแปลกใจ เพราะกระเช้าดอกไม้พวกนั้นมีชื่อที่คุ้นเคยมากมาย
ชื่อพวกนั้นล้วนโด่งดังคุ้นหู มีแต่บริษัทใหญ่ๆ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งนั้น
เป็นเพียงศิลปินเล็กๆ ทำไมถึงได้รู้จักกับผู้บริหารใหญ่ๆ แถมพวกเขายังส่งกระเช้าดอกไม้มาแสดงความยินดี มีหน้ามีตาไม่น้อยเลย
——
ไม่นาน ก็มาถึงช่วงเวลาของการให้สัมภาษณ์ที่นักข่าวรอคอย
เมื่อเห็นหลินเช่อลงมา นักข่าวต่างรุมล้อมเข้าไป
“กลับมาแล้วได้เจอซือถูฉยงแล้วหรือยังคะ”
“ซือถูฉยงส่งกระเช้าดอกไม้มาหรือเปล่าครับ”
“งานตัดริบบิ้นซือถูฉยงไม่ได้มาด้วยเหรอ”
“ทุกคนอยากเห็นคุณกับซือถูฉยงร่วมเฟรมเดียวกัน พวกคุณไม่ลองหน่อยเหรอคะ”
หลินเช่อไม่รู้จะตอบอย่างไร “วันนี้เป็นการเปิดสตูดิโอของฉัน พวกคุณไม่ถามถึงสตูดิโอหน่อยเหรอคะ”
นักข่าวบอก “ก็ได้ค่ะ…ในสตูดิโอ…มีซือถูฉยงไหมคะ”
“…”
ซือถูฉยง วางระเบิดฉันได้ไม่เลวเลย
วันนั้น ข่าวการเปิดสตูดิโอของหลินเช่อโด่งดังไปทั่ว
ด้านฉินหวานหว่าน
เธอมองภาพนั้น ทุกคนกำลังต่อแถวถามเรื่องซือถูฉยงกับเธอ
ก็แค่งานเปิดสตูดิโอเล็กๆ ทำอย่างกับเป็นเรื่องสำคัญของวงการบันเทิง
ฉินหวานหว่านโกรธจนแทบฆ่าคนได้
และหลินเช่อ
เธอเหนื่อยมาทั้งวัน พึ่งลงเครื่องมายังไม่ทันได้กลับบ้าน แถมยังถูกลากมาที่นี่ ไม่มีเวลาเว้นว่างเลย
อวี๋หมินหมิ่นดูเวลา พูดกับหลินเช่อที่กำลังสะลึมสะลือ “ห้ามลืมว่าอีกไม่กี่วันจะเป็นงานรับรางวัลทองคำแล้ว เธอต้องไปรับรางวัล พักผ่อนให้มากๆ พรุ่งนี้เราจะไปบ้านเธอ ช่วยเธอเลือกชุด”
“อะไรนะ…อย่าล้อเล่นสิ”
งานเยอะจนอยากจะบ้าตาย
หลินเช่อคร่ำครวญ คิดถึงช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนอยู่ที่ฝรั่งเศส
อวี๋หมินหมิ่นหัวเราะ “ใครใช้ให้เธอเป็นคุณนายกู้ดีๆ ไม่ชอบ อยากมาเป็นดารา แถมยังเป็นดาราดังอีก ดาราที่มีงานเยอะๆ นั่นบ่งบอกถึงความโด่งดังของเธอ เธอควรจะดีใจ รีบกลับไปพักเถอะ”
หลินเช่อลองคิดดูแล้วก็ถูก
เมื่อออกมาจากบริษัท ก็เห็นว่าด้านนอก รถของกู้จิ้งเจ๋อมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว
อวี๋หมินหมิ่นหยอกล้อยิ้มๆ “ดูไม่ออกเลยจริงๆ กู้จิ้งเจ๋อช่างเป็นสามีที่ดีจริงๆ ”
“ไปเลยนะ” หลินเช่อผลักอวี๋หมินหมิ่น จากนั้นรีบวิ่งออกไป
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อ จากนั้นมองเลยไปยังป้ายสตูดิโอด้านหลัง
“ยินดีด้วยนะ” เขาบอกเสียงเรียบ
หลินเช่อถอนหายใจ “เฮ้อ ทำงานพวกนี้เหนื่อยจริงๆ ”
“เปิดบริษัทแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย”
“งั้นคุณมีบริษัทเยอะขนาดนี้ ดูแลไหวได้ยังไงกันคะ ฉันทำแค่บริษัทเดียวยังคิดว่ามันเกินกว่าคนคนหนึ่งจะทำได้…”
“เธอกำลังบอกว่าฉันไม่ใช่คนงั้นเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ…” หลินเช่อมองเขาท่าทางยอมแพ้ “คุณเป็นเทพ คุณเป็นเทพที่เก่งมากๆ พอใจหรือยัง”
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว “ไม่เคยเห็นใครเสแสร้งเท่าเธออีกแล้ว”
หลินเช่อส่งเสียงหึเบาๆ แต่ในใจนั้นรู้สึกนับถือเขา เปิดบริษัทเยอะขนาดนั้น ยังจัดการได้ดีขนาดนี้
ที่แท้ ประธานใหญ่ไม่ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่ายๆ เลย
“แต่ว่า ทุกคนเขาส่งกระเช้าดอกไม้มาให้กันหมด คุณไม่ให้บ้างเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อ “ถ้าฉันส่งแล้ว…เธอมั่นใจเหรอว่าบริษัทเธอจะยังเปิดต่อไปได้”
“ทำไมคะ”
“งั้นคำถามของนักข่าววันนี้ก็คงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉันกับเธอน่ะสิ”
“…” นั่นสิ พูดอีกก็ถูกอีก
คนที่กู้จิ้งเจ๋อจะส่งดอกไม้มาให้…คงจะไม่เคยมีในประเทศซีสินะ
ดังนั้นถ้าชื่อของกู้จิ้งเจ๋อมาโผล่ที่นี่ นักข่าวคงจะเหมือนระเบิดลงแน่ๆ