ยังไม่ทันได้เข้าไป หลินเช่อก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน “ฉินหวานหว่านมาด้วยล่ะ”
“ไม่เพียงมาเท่านั้นนะ ยังแต่งตัวได้แซ่บขนาดนั้น เธอไม่เห็น เซ็กซี่มาก ขาเรียวยาว เอวคอดกิ่ว ดึงความสนใจได้ไม่น้อยเลย”
“ล้อเล่นหรือเปล่า ดีขนาดนั้นเลย ฉันต้องไปดูหน่อยแล้ว”
หลินเช่อมองเห็นฉินหวานหว่านอยู่ไกลๆ สังเกตเห็นชุดที่เธอสวมมาวันนี้ เธอยังต้องตะลึง…สุดยอดไปเลย
เอาเถอะ อย่างไรเธอก็ไม่ทำถึงขนาดนั้นหรอก
หลินเช่อคิดในใจ ก้มลงมองชุดที่ค่อนข้างเปิดเผยของตัวเองแล้ว ไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ หันกลับไปบอกกับผู้ช่วย “ไปเอาชุดสีเงินจากด้านหลังมา”
ผู้ช่วยตกใจ “คะ ชุดสำรองนั่นเหรอคะ แต่ว่าชุดนั้น…”
ชุดนั้นไม่โดดเด่นเท่าชุดนี้นะ
เดิมเห็นฉินหวานหว่านสวมชุดแบบนั้นมา พวกเขาก็เริ่มร้อนใจ กลัวว่าชุดหลินเช่อจะสู้ไม่ได้
คงดูด้อยกว่าฉินหวานหว่านมาก
แต่ว่าตอนนี้ไม่เอาชุดนี้แล้ว จะเอาชุดที่ดูรัดกุมชุดนั้น
“ให้เธอไปหยิบก็ไปหยิบมาเถอะ” หลินเช่อบอก “ยังไงก็สู้ไม่ได้ งั้นก็ต้องถ่อมตัวหน่อย”
ผู้ช่วยไปหยิบให้
ไม่นานก็เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว
และมีคนมาหาผู้ช่วยเธอ บอกว่าถึงคิวแล้ว
หลินเช่อเดินพรมแดงงานสำคัญแบบนี้คนเดียว แถมยังเป็นหลังข่าวใหญ่นั่นอีก น่าเป็นห่วงจริงๆ
แต่ว่าเมื่อเผชิญกับแสงไฟ เท้าเหยียบลงบนพรมแดง เธอก็เปล่งประกายขึ้นมา
“ดูสิ หลินเช่อมาแล้ว”
“ใช่ โอ้ ชุดหลินเช่อดูรัดกุมมากเลย”
“ฉินหวานหว่านเปิดเผยขนาดนั้น แต่เธอกลับสวมแบบรัดกุม แต่ว่าคงไม่คิดมาก่อนว่าฉินหวานหว่านจะมา”
ทุกคนมองหลินเช่อ แต่ทันทีที่เห็นเธอ เธอสวมชุดแบบนั้นมา แม้จะดูธรรมดา แต่เมื่อเดินกลับเป็นประกายระยิบระยับ สีเงินค่อยๆ เปลี่ยนสี ส่องประกายยามต้องเดิน ดูเหมือนดวงดาวที่เปล่งประกายสวยงาม
ส่วนเอวนั้น ไม่ได้แนบชิด เวลาเดินเผยให้เห็นเอวคอดกิ่วที่ไร้ไขมัน แถมยังมีกล้ามหน้าท้องเล็กน้อย ดูสุขภาพดี แค่มองก็รู้แล้วว่าเธอออกกำลังกาย
นักข่าวกระซิบกันอยู่ด้านหลัง “ดูไม่ออกเลยว่าหลินเช่อจะถ่อมตัวขนาดนี้ เธอไม่ได้เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับฉินหวานหว่านด้วยซ้ำ ดูฉินหวานหว่านสิ สวมชุดแบบนั้นมา ตั้งใจมาแย่งซีนชัดๆ”
“นั่นน่ะสิ เธอดูสิ หลินเช่อดูเปลี่ยนไปนะ”
“เธอหมายถึงอะไร ทำหน้ามาใหม่เหรอ”
“ไม่ใช่ ใบหน้าไม่ได้เปลี่ยน แต่ว่า รูปร่างดีขึ้น ดูก็รู้ว่าออกกำลังกาย ดูดีขึ้นมาก”
“จริงด้วย ดูออกแนวนานาชาติ เหมือนนักแสดงต่างชาติพวกนั้น ยิ่งทำให้ดูสุขภาพดีขึ้นไปอีก”
ยิ่งมองทุกคนยิ่งรู้สึกว่า การปรากฏตัวของหลินเช่อในครั้งนี้ เธอดูเปลี่ยนไปมาก
ตอนที่เธออยู่ในงานพิธีเปิดบริษัท ได้เจอแค่ตอนมาปรากฏตัวอยู่หน้าบริษัท มองแล้วยังพอได้ แต่เพราะเวลาเร่งด่วน ทำให้ไม่ทันได้สัมภาษณ์เธอก็เดินผ่านไปแล้ว สวมชุดง่ายๆ วันนี้ชุดของเธอเผยให้เห็นรูปร่างสง่างาม ถ้าคนทั่วไปสวมชุดแบบนี้ หรือสีแบบนี้คงจะดูอ้วน แต่เธอไม่เพียงไม่อ้วน แถมยังเห็นรูปร่างได้ชัดเจน
ดูรูปร่างดีจนไม่มีที่ติ
แม้การเดินพรมแดงของหลินเช่อจะไม่ได้มีจุดล่อตาเหมือนฉินหวานหว่าน แต่เธอคือคนที่ได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แถมยังเป็นครั้งแรกอีกด้วย เธอยังเป็นคนดังที่อายุยังน้อยอีกด้วย ดังนั้นเมื่อมาถึงตรงกลาง เสียงปรบมือรอบข้างก็ดังขึ้น นักข่าวเองก็ปฏิบัติต่อเธออย่างยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าคนอื่น
บนหน้าจอใหญ่ ฉายผลงานการแสดงที่ผ่านมา ประวัติและความสำเร็จของเธอซ้ำๆ ยิ่งทำให้หลินเช่อดูสูงขึ้นไปอีก
เมื่อเดินพรมแดงเสร็จแล้ว ก็มีดารานักแสดงมากมายเข้ามาทักทายเธอ
“คุณออกกำลังกายเหรอคะ หลินเช่อ เอวเล็กๆ ของคุณ ดูไม่ธรรมดาเลย”
“ใช่ค่ะ ออกกำลังกายนิดหน่อย”
“เธอนี่ทำเราแทบบ้า คนดูพวกนี้ก็ด้วย ตอนแรกชอบหุ่นเหมือนกับต้นหลิว อ่อนโยนบอบบาง ตอนนี้กลับมานิยมมีกล้าม ออกกำลังกายยากจะตาย”
มองดูรูปร่างดูดีของหลินเช่อ ทุกคนต่างก็อิจฉา
คิดว่าหลินเช่อกำลังตามกระแส เธอพัฒนากล้ามหน้าท้องเธออย่างรวดเร็ว ทุกคนนับถือเธอจริงๆ ทว่าความเป็นจริงหลินเช่อไม่ได้ตามกระแสอะไรทั้งนั้น มันเป็นแค่ความบังเอิญที่เธอไปเรียนบัลเล่ต์ ฟันดาบและขี่ม้า ต่อมารู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แย่ จึงไม่ได้ทิ้งมัน ยังคงฝึกต่อไปบ้างเป็นบางครั้ง
ไม่คิดว่ามันจะได้ผลดีขนาดนี้
ตอนนั้นเอง ฉินหวานหว่านก็เดินเข้ามา
ทุกคนรู้ดีว่า ทั้งสองคนมีปัญหาขัดแย้งกันอยู่ ต่างพากันรอดูละครฉากสำคัญทั้งนั้น
ฉินหวานหว่านเดินเข้ามา คิดอยู่ในใจ หลินเช่อคนนี้ มีแผนการจริงๆ ด้วย ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไร ตัวเองกลับแอบไปเปลี่ยนภาพลักษณ์ เริ่มออกกำลังกายสร้างกล้ามหน้าท้อง กลายเป็นผู้หญิงรักสุขภาพ แถมยังติดต่อกับซือถูฉยง
ตัวเองอยู่ที่บริษัทกลับไม่รู้เรื่องนี้ แถมยังติดกับเธอด้วย
เดือนนั้นที่หายไป อาจเพราะไปวางแผนอะไรพวกนี้แน่
นี่เธอกำลังเล่นแผนแสร้งทำเป็นล่าถอย แต่กลับได้ทุกอย่างที่ต้องการอยู่สินะ
ฉินหวานหว่านเหลือบมองหลินเช่อ ยิ้มบอก “หลินเช่อ ไม่เจอกันนานเลยนะ ทำไมข้างกายเธอถึงไม่มีผู้ช่วยที่คอยปกป้องเธอคนนั้นแล้วล่ะ”
รู้ว่าเธอหมายถึงหยางหลิงซิน หลินเช่อก็ไม่ได้พูดอะไร
“ให้โอกาสคนอื่นน่ะ”
ฉินหวานหว่านบอก “จริงสิ ฉันหวังว่าเราจะไม่เอาปัญหาของบริษัทมาทำลายความสัมพันธ์ของเราสองคนหรอกใช่ไหม ความจริงมันเป็นปัญหาที่บริษัทก่อขึ้นมา ฉันหวังว่าเรื่องพวกนี้จะไม่มีผลต่อมิตรภาพที่ดีของเรา”
“พูดได้ดี พูดได้ดี” หลินเช่อหัวเราะ ไม่อยากพูดอะไรมาก ทว่าฉินหวานหว่านยังคงเหน็บแนมอยู่ข้างๆ แถมยังขยับชุดของเธอที่ดูเปิดเผยให้โดดเด่นอยู่ตลอด ปากก็พลอยพูดย้ำๆ ถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพวกเธอ ความจริงมันเป็นการยั่วยุชัดๆ ความหมายของเธอก็คืออยากบอกว่าชุดของเธอนั้น พรุ่งนี้ต้องได้ขึ้นหน้าหนึ่งแน่
“จริงสิ วันนี้เธอเข้ารอบนี่นา ความจริงฉันแค่มาร้องเพลง มาทำการแสดง ไม่คิดว่านักข่าวพวกนั้นจะถ่ายรูปฉันขนาดนั้น ก็บอกพวกเขาไปแล้วนะ ว่าไม่ให้ทำชุดที่เปิดเผยขนาดนี้ อยากได้แบบเธอที่ดูไร้เดียงสา แต่เบื้องหลังกลับมีแผนการมากมายก็พอแล้วจริงไหม”
หลินเช่อยิ้มเย็น ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเธอจริงๆ
ตอนนั้นเอง…
มีคนเดินเข้ามา
“คุณหลินเช่อครับ เชิญนั่งครับ เชิญนั่ง นี่เป็นเก้าอี้ที่คุณชายของเราให้เอามาให้ บอกว่าวันนี้คุณสวมรองเท้าส้นสูง ยืนนานไปคงจะรู้สึกไม่สบาย”
หลินเช่อตกใจ หันกลับไป เห็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง