“โอเค ดูเหมือนผมจะคิดมากเกินไป คุณเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากแล้วจริงๆ”
หลินเช่อหัวเราะ “แน่นอนอยู่แล้ว”
ทุกคนมองหลินเช่อ แม้ไม่ได้รับรางวัล ทว่าติดตามเธอก็มีไม่น้อย หลังจากจบงานแล้ว นักข่าวมาสัมภาษณ์เธอ คิดอย่างไรกับการไม่ได้รับรางวัลครั้งนี้
หลินเช่อเอ่ยอย่างใจกว้าง “ฉันพยายามเต็มที่แล้ว จะได้รับรางวัลหรือไม่ได้รับก็ไม่เป็นไร ทางคณะกรรมการไม่ได้มอบรางวัลนี้ให้กับฉัน นั่นแสดงว่า ต่อไปฉันต้องพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ได้รับบทที่ดี มีกระแสตอบรับที่ดี นั่นบ่งบอกได้ว่า ฉันกับเพื่อนๆ นักแสดงทุกคน เราได้ทำเต็มที่แล้ว”
ทุกคนถาม “รู้สึกแปลกใจกับการปรากฏตัวของฉินหวานหว่านในงานนี้หรือไม่”
“พิธีมอบรางวัล เดิมก็ต้องเชิญเหล่าศิลปินเข้าร่วมงานอยู่แล้ว มาเจอใครที่นี่ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลก”
เธอแสดงออกด้วยความใจกว้าง ไม่มีความรู้สึกฝืนเลยสักนิด แฟนคลับปลอบโยนเธอผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ถึงแม้หลินเช่อจะไม่ได้รับรางวัล แต่ว่าพวกเขาก็ได้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเธอ ทำได้ดีมาก ในรายการเธอเล่นสนุกเต็มที่ งานพิธีรับรางวัลเธอก็ยังเป็นเทพธิดา ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด มีไหวพริบดีมากเลยทีเดียว
หลินเช่อขึ้นรถมา ไล่อ่านคอมเมนต์ เห็นว่ามีแต่คอมเมนต์ที่ดีทั้งนั้น โดยเฉพาะการที่เธอไม่ไปแย่งซีนกับฉินหวานหว่าน เรื่องนี้ก็ถูกคนพูดถึง หลินเช่อต่างหากที่ได้รับคัดเลือก ฉินหวานหว่านนั่นอะไรกัน ไปร้องเพลงหรือไปเรียกกระแสเดินพรมแดง หน้าไม่อายจริงๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลินเช่อพลันหัวเราะ คิดในใจ ถึงครั้งนี้ฉินหวานหว่านจะมีกระแส แต่ก็โดนด่าไปไม่น้อย
ดีมาก บนโลกออนไลน์เริ่มด่าฉินหวานหว่านแล้ว หมายถึงเธอก็มีแอนตี้แฟนคลับเพิ่มมากขึ้น
หลินเช่อกลับไปที่บริษัทของกู้จิ้งเจ๋อก่อน รอกลับบ้านพร้อมกันกับกู้จิ้งเจ๋อที่กำลังทำงานอยู่
หลังจากกู้จิ้งเจ๋อขึ้นรถ มองเห็นหลินเช่อที่มีท่าทางเหน็ดเหนื่อย ถาม “ทำไม ไม่ได้รับรางวัลรู้สึกผิดหวังหรือเปล่า”
หลินเช่อบอก “ไม่ได้ผิดหวังหรอกค่ะ เพียงแต่รู้สึกเหนื่อยเท่านั้นเอง ฉันรู้ว่าทุกคนต้องพยายามไปสักพักถึงจะได้รับรางวัล นี่มันพึ่งปีแรกของฉันเองนะ…”
กู้จิ้งเจ๋อถามหลินเช่อ “ตอนนี้จะกลับบ้านเลยหรือจะไปเดินเล่นก่อน”
หลินเช่อคิดอยู่ชั่วครู่แล้วบอก “งั้น…ฉันไม่อยากกลับบ้าน เราขับรถออกไปกันเถอะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ได้”
เขาให้คนขับลงจากรถ แล้วมาขับรถเอง ท่องราตรีไปพร้อมๆ กับหลินเช่อ
กู้จิ้งเจ๋อถามเธอ มีสถานที่ที่อยากไปหรือเปล่า หลินเช่อส่ายหน้า ไม่มีจริงๆ
มองออกไปด้านนอก ไม่นานก็เห็นชานเมือง เธอบอก “เราไปเที่ยวเมืองเล็กๆ แถวนี้ดีไหมคะ”
“ดึกขนาดนี้เหรอ”
“ใช่ค่ะ เรามาเที่ยวแบบ…อยากไปก็ไป ดีไหมคะ”
เที่ยวแบบอยากไปก็ไปอย่างนั้นเหรอ
ก็ได้…
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ไปเถอะ ขับไปถึงไหนก็ถือว่าไปถึงนั่น”
ชีวิตตามใจตัวเองแบบนี้ จะว่าไปก็น่าสนใจเหมือนกันนะ
ขับรถมาสามชั่วโมง เช้ามืดแล้ว ในที่สุดก็มาถึงเมืองเล็กๆ ข้างๆ
เมื่อเทียบกับเมืองบี เศรษฐกิจที่นี่ก็ถือว่าไม่เลว เพียงแต่มันเป็นเมืองเล็กๆ คนน้อยกว่า เมื่ออยู่ในสถานที่กว้างขวางทว่าคนน้อย ก็ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ไปอีกแบบ
เวลาตอนนี้ล่วงเลยมาอีกวันแล้ว หลินเช่อหาวนอน มองดูที่นี่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ “ที่นี่ไม่เลวเลย เราหาโรงแรมนอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาเที่ยว”
กู้จิ้งเจ๋อพยักหน้า
เพราะที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ หลินเช่อจึงไม่จำเป็นต้องปิดอะไรมาก ก็ไม่มีใครจำเธอได้ พวกเขาทำเพียงหันมามอง เพราะคิดว่าเธอสวยเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่านี่คือดาราดังที่อยู่ดีๆ จะวิ่งมาเที่ยวเมืองเล็กๆ ที่นี่เป็นเมืองที่คนดังน้อยมากที่จะมา เดิมมีดาราปลายแถวมาบ้างก็ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากพอแล้ว
ดังนั้นหลินเช่อสวมเพียงผ้าปิดจมูกก็วางใจได้แล้ว
เมื่อมาถึงโรงแรม หลินเช่อเตรียมหยิบบัตรประจำตัวออกมาเปิดห้อง กู้จิ้งเจ๋อกลับห้ามเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวฉันเอง”
หลินเช่อตกใจ นึกขึ้นได้ ถ้ามีใครเห็นบัตรประจำตัวเธอก็ต้องจำได้ว่าเธอคือหลินเช่อ
แต่ว่า เมืองเล็กแบบนี้ โดยทั่วไปแล้วไม่ค่อยใส่ใจนักธุรกิจใหม่ๆ มากนัก แต่เมื่อเอ่ยถึงกู้จิ้งเจ๋อก็อาจจะรู้จัก แต่ถ้าดูบัตรประชาชนแค่ชั่วครู่ไม่น่าจะจำได้
กู้จิ้งเจ๋อเข้าไปเปิดห้องโรงแรม
โรงแรมไม่ใหญ่มาก พนักงานเห็นคนมาเปิดห้องดึกๆ ดื่นๆ เดิมก็หงุดหงิด
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นคนที่มานั้นหน้าตาดี ดวงตาก็เปล่งประกายระยิบระยับ
“สองคนหรือคนเดียวคะ”
“สองคน”
“งั้นต้องใช้บัตรประชาชนของทั้งคู่นะคะ”
“ไม่ใช้ไม่ได้เหรอ” กู้จิ้งเจ๋อถามเธอ
หญิงสาวถูกเขาจ้องแบบนั้น จู่ๆ ก็ยอมประนีประนอมให้
ใบหน้าแดงขึ้น บอก “ก็ได้ค่ะ เปิดให้คุณหนึ่งห้อง”
เขาพยักหน้า “ขอบคุณครับ”
“คุณต้องการเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่คะ”
“ห้องสวีท”
“เอ่อ ห้องชุด 880 หยวนค่ะ”
“ครับ”
พนักงานแปลกใจขึ้นไปอีก ห้องสวีทมักเป็นห้องที่เหล่านักธุรกิจที่ออกมาทำงาน หรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ เพราะราคาสูง ที่นี่เมืองเล็กๆ ห้องธรรมดานั้นไม่เท่าไหร่ ห้องสวีทราคาแปดร้อย ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่
เธอไม่เข้าใจทำไมต้องจองห้องสวีท ดังนั้นจึงมองเขา ก่อนจะเปิดห้องให้เขา
จากนั้นเขาจึงโอบประคองหลินเช่อเข้าไป หลินเช่อก้มหน้า ท่าทางแบบนั้นดูครุมเครือ พนักงานเห็นแบบนั้นก็คิดไปเรื่อย
ผู้ชายหล่อขนาดนั้น พาผู้หญิงมาเปิดห้อง…
หรือว่าเป็นความสัมพันธ์แบบลับๆ
หลินเช่อเข้ามาในลิฟต์ ถึงได้ปิดปากหัวเราะ
เมื่อสักครู่เธอเห็นทุกอย่าง เห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อมองพวกเขา…
เธอบอก “จริ-งๆ เลย คนหน้าตาดีไปไหนก็ดีไปหมด คุณไปจ้องเธอแบบนั้น พนักงานคงทนไม่ไหว ไม่ว่าคุณจะพูดยังไงเธอก็คงยอมหมด”
“เธอพูดอะไร”
“เมื่อกี้ไง เขาไม่อยากใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวเพื่อเปิดห้อง คุณกลับไปจ้องเธอแบบนั้น คนที่โดนคุณจ้องเขาหน้าแดงไปหมดแล้ว ไม่ว่าคุณจะพูดยังไงเธอก็ยอมทุกอย่างอยู่แล้ว”
“ฉันไปจ้องเขาต้องแต่เมื่อไหร่”
“เมื่อกี้ไงคะ”
“ฉันกำลังคิดต่างหากว่าถ้าเธอไม่ยอมฉันจะทำยังไง”
“…”
โอเค เธอคงเข้าใจผิดไปเอง
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ทั้งสองก็มาอยู่ที่ห้องสวีทแล้ว
ที่นี่เป็นโรงแรมสามดาว แน่นอนว่าสู้โรงแรมเจ็ดดาวของตระกูลกู้ไม่ได้ การตกแต่งก็ดูเก่าไปหน่อย
ไม่ถือว่าสะอาดมาก ในห้องมีกลิ่นเล็กน้อย
หลินเช่อเข้ามาแล้ว หันไปมองกู้จิ้งเจ๋ออย่างเป็นห่วง คิดว่าเขาคงอยู่ไม่ได้
“ทำไงดีคะ ที่นี่…มีกลิ่นนิดหน่อย”
กู้จิ้งเจ๋อมอง บอก “เปิดหน้าต่างระบายอากาศหน่อย”
“ถ้าอยู่ไม่ได้เราไปหาโรงแรมอื่นก็ได้นะคะ บางทีอาจจะมีที่ที่ดีกว่านี้”
“ช่างเถอะ ดึกมากแล้ว เธอควรพักผ่อนได้แล้ว แค่อยู่ชั่วคราว ไม่เป็นไรหรอก”
เขาเลิกผ้าห่มออก