เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 109 เธอไม่ได้ตั้งใจขับรถชนเขาใช่มั้ย

“ฉันเองค่ะพี่อวี๋” หลินเช่อร้องบอก
 
 
เมื่อได้ยินเสียงหลินเช่อ ผู้จัดการสาวก็ใส่ไม่ยั้งเลยทีเดียว [นี่ เกิดอะไรขึ้นกับเธอน่ะหลินเช่อ นี่ถ้าฉันหาตัวเธอเจอละก็ฉันจะฆ่าเธอซะ ทำไมถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันล่ะ ที่บริษัทจะฆ่าฉันตายอยู่แล้วนะ ฉันเที่ยวตามหาเธอไปทั่วทุกที่เลย แทบจะพลิกเมือง B หาอยู่แล้วเนี่ย]
 
 
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพ่นคำถามรัวๆ ไม่หยุด หลินเช่อก็ได้แต่หลับตารอจนอวี๋หมินหมิ่นพูดจบแล้วจึงตอบไปว่า “ฉันเกือบตายก็เพราะพี่นี่แหละค่ะ”
 
 
[หา] อวี๋หมินหมิ่นชะงัก
 
 
หลินเช่อเล่าต่อ “ก็เพราะสายเรียกเข้าของพี่นี่แหละ ตอนนั้นฉันกำลังขับอยู่พอดีแล้วฉันก็…”
 
 
หลินเช่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังสั้นๆ
 
 
ผู้จัดการสาวถึงกับช็อก [นี่เธอพูดจริงหรือเปล่าเนี่ย]
 
 
เธอถามต่อไปด้วยความเห็นใจ [นี่เธอไปหัดขับรถมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฉันไม่ยักรู้ว่าเธอขับรถเป็นด้วย ฉันขอโทษด้วยนะ แล้วนี่เธอเป็นยังไงบ้างละเนี่ย ยังอยู่ที่โรงพยาบาลเหรอ ฉันจะไปเยี่ยมนะ ถ้าที่บริษัทจะตำหนิอะไร ฉันจะรับไว้เอง ลืมเรื่องงานฉลองไปซะ แล้วเดี๋ยวฉันจะจัดการเรื่องเงินค่าทำขวัญ…]
 
 
หลินเช่อขัดขึ้น “โอเคค่ะ โอเค ฉันไม่ได้จะตำหนิอะไรพี่หรอกค่ะ พี่ไม่ได้มีพลังจิตนี่นาจะได้รู้ว่าฉันกำลังขับรถอยู่น่ะ ฉันต่างหากที่ทั้งๆ ที่กำลังขับรถอยู่แท้ๆ แต่พอได้ยินเสียงโทรศัพท์เท่านั้น ฉันก็ยังอยากจะรับสายทั้งๆ ที่ไม่ควรทำน่ะค่ะ”
 
 
[ก็ได้ แหม ก็เธอพูดไม่ชัดเจนนี่นา เอ้า ว่าแต่โทรศัพท์เธอไปไหนล่ะ นี่เบอร์ใครกัน]
 
 
“ฉันใช้โทรศัพท์ของกู้จิ้งเจ๋อน่ะค่ะ” หลินเช่อตอบ
 
 
ที่ปลายสาย อวี๋หมินหมิ่นจับโทรศัพท์ของตัวเองแน่นด้วยสีหน้าช็อกสนิท หล่อนร้องขึ้นด้วยความแปลกใจ
 
 
[ไม่มีทาง นี่…นี่คือเบอร์ของกู้จิ้งเจ๋อเหรอ]
 
 
“เฮ้ พี่จะตะโกนทำไมคะ หูฉันแทบดับแน่ะ” หลินเช่อถูใบหูตัวเองไปมา
 
 
อวี๋หมินหมิ่นตอบ [นี่ฉันมีเบอร์โทรของกู้จิ้งเจ๋อแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย ไม่มีทาง ฉันมีเบอร์กู้จิ้งเจ๋อแล้วจริงๆ ด้วย…เธอคิดบ้างมั้ยว่าเบอร์นี่เอาไปขายได้ตั้งสองแสนหยวนเชียวนะ จะมีใครซื้อมั้ยเนี่ย อันที่จริงก็ต้องมีแน่นอนอยู่แล้วละนะ คงมีคนมาต่อคิวรอซื้อเลยด้วยซ้ำ] อวี๋หมินหมิ่นกรี๊ดกร๊าดใหญ่โต
 
 
หลินเช่อถามเบาๆ ว่า “พี่อยากจะขาย…อะไรนะคะ”
 
 
[แหม ล้อเล่นหรอกน่า เธอไม่รู้ละสิว่าเบอร์โทรศัพท์ของกู้จิ้งเจ๋อน่ะมีค่าขนาดไหน เดี๋ยวฉันจะเซฟเก็บไว้ด้วยละ]
 
 
“อ่า…” หลินเช่อชักไม่แน่ใจ “พี่ไม่ได้จะขายมันจริงๆ ใช่มั้ยคะ”
 
 
[ไม่ขายสิ] อวี๋หมินหมิ่นว่า [ต่อให้อยากขาย ฉันก็ต้องทำให้คนเชื่อก่อนว่านี่เป็นเบอร์ของเขาจริงๆ ถ้าพวกเขาเห็นแค่ชื่อกู้จิ้งเจ๋อ พวกเขาก็อาจจะคิดว่าฉันมั่วเอาเบอร์ที่ไหนมาย้อมแมวขายก็ได้]
 
 
“ดีแล้วละค่ะ” หลินเช่ออธิบายต่อไปถึงอาการบาดเจ็บของเธอว่ามีเพียงเล็กน้อย และเธอก็สามารถกลับบ้านได้ทันที ส่วนอวี๋หมินหมิ่นก็แจกแจงถึงแผนการและนัดหมายของวันรุ่งขึ้น ก่อนที่จะบอกหลินเช่อให้พักผ่อนให้สบายและไม่ต้องรีบร้อนอะไร
 
 
หลินเช่อยังคงตกใจ เธออยากกลับบ้านเพื่อพักผ่อนเต็มทีแล้ว
 
 
เมื่อเธอวางสาย เธอก็ได้เห็นว่าเจ้าของโทรศัพท์กำลังจ้องเขม็งตรงมา
 
 
เมื่อเห็นว่าเธอดูเป็นปกติดี เขาก็พูดว่า “คืนนี้นอนค้างที่โรงพยาบาลนะ”
 
 
“ไม่เอาค่ะ ฉันตรวจเสร็จแล้ว หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรนี่ ฉันอยากกลับบ้าน ที่นี่หนวกหูออกจะตาย ฉันนอนไม่หลับหรอกค่ะ”
 
 
“เราจองห้องพิเศษก็ได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอกลางดึกขึ้นมาล่ะ…”
 
 
“ฉันก็แค่กลับมาที่นี่ไงคะ กู้จิ้งเจ๋อ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ นะคะ ฉันอยากกลับบ้าน! นะ ฉันอยากกลับบ้าน…”
 
 
ชายหนุ่มพยายามไตร่ตรองอีกครั้ง เพราะอุบัติเหตุของหลินเช่อนั้นไม่ใช่เล็กๆ เลย
 
 
แต่คนป่วยนั้นพยายามยื้ดยุดและยืนกรานเต็มที่ว่า “ฉันอยากกลับบ้านของเรา นะคะ กู้จิ้งเจ๋อ ได้อยู่บ้านน่ะดีออกจะตาย เราทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ ที่นี่มันน่าเบื่อออกค่ะ”
 
 
บ้านของเรา…
 
 
คำพูดนี้เองที่ทำให้หัวใจเขาสะดุดน้อยๆ
 
 
บ้านเป็นของแปลกสำหรับเขา
 
 
สำหรับเขาแล้ว บ้านหมายถึงความอบอุ่นเคยคุ้นกันของคนในครอบครัว
 
 
แต่บ้านหลังเล็กๆ สำหรับสองคนนั้น…เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน
 
 
เขาหันไปมองหลินเช่อที่กำลังวิงวอนด้วยความอ่อนใจ ก่อนจะตัดสินใจว่า “ก็ได้ กลับบ้าน เราจะกลับบ้านไปพักกัน เพราะฉะนั้นเลิกทำตัวงอแงได้แล้ว”
 
 
“เย้ๆ สุดยอดเลยค่ะ” หลินเช่อทำท่าตะเบ๊ะให้ แล้วสีหน้าเคร่งเครียดของคนตัวใหญ่ก็คลายลง จนกระทั่งหลุดหัวเราะออกมา
 
 
เขากำลังเดินออกจากโรงพยาบาลพร้อมหลินเช่อพอดี แต่แล้วสายโทรเข้าจากโม่ฮุ่ยหลิงก็ดังขึ้น
 
 
หลินเช่อมองเห็นเบอร์โทรแวบหนึ่งบนหน้าจอโทรศัพท์ กู้จิ้งเจ๋อจ้องมองมัน ท่าทางไม่อยากจะรับสาย แต่แล้วหลินเช่อก็เลิกคิ้วและถามว่า “คุณจะไม่รับเหรอคะ คุณหนูโม่ต้องโกรธแย่แน่เลย”
 
 
แถมตอนนี้เธอย้ายมาอยู่ใกล้ๆ อีกต่างหาก ถ้าเกิดเธอปึงปังเข้ามาในบ้านเพราะความโกรธจะว่ายังไงล่ะ
 
 
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าหญิงสาว การไม่รับสายนั้นดูเหมือนพยายามปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ เพราะฉะนั้นเขาควรที่จะรับโทรศัพท์เสีย ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรที่เขาพูดต่อหน้าเธอไม่ได้อยู่แล้วนี่นา
 
 
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงกดรับ
 
 
เสียงโม่ฮุ่ยหลิงถามขึ้นทันทีว่า [เกิดอะไรขึ้นคะจิ้งเจ๋อ ฉันเห็นพวกเขาดึงรถขึ้นมาได้ในข่าว แล้วก็ไม่เห็นอะไรอีก คุณหลินโอเคหรือเปล่าคะ]
 
 
กู้จิ้งเจ๋อตอบไปว่า “ไม่เป็นไรแล้ว หลินเช่อกำลังกลับมาพร้อมกับฉัน เธอปลอดภัยดี”
 
 
[อา… จริงเหรอคะ ดีจังเลย พอไม่ได้ยินข่าวคุณหลินฉันก็กังวลใจไปหมดเลย]
 
 
แม้น้ำเสียงของหญิงสาวจะฟังดูโล่งอก แต่กู้จิ้งเจ๋อก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ามีความผิดหวังแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอเองก็พูดจาแย่ๆ ออกมามากมาย
 
 
เขารู้ดีว่าเธอไม่ชอบหลินเช่อ แต่เธอก็ไม่ควรจะล้ำเส้นถึงขนาดนั้น ต่อให้ไม่ชอบหลินเช่อ เธอก็ไม่ควรสาปแช่งหรือหวังที่จะให้ใครต้องตาย
 
 
ชายหนุ่มจึงตัดบทว่า “โอเค งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันจะวางสายละนะ”
 
 
[นี่ จิ้งเจ๋อคะ แล้วคุณจะไม่มาที่โรงพยาบาลเหรอคะ…] โม่ฮุ่ยหลิงรีบถาม
 
 
เขาถามด้วยความงุนงง “นี่เธอยังอยู่ที่โรงพยาบาลอีกเหรอ”
 
 
หญิงสาวทำเสียงชวนสงสาร [ฉันประสบอุบัติเหตุนะคะ ฉันก็ควรที่จะต้องอยู่ให้พวกเขาคอยดูอาการสิ ไม่อย่างนั้นจะทำยังไงถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคืนนี้ละคะ]
 
 
กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึก “โอเค ถ้างั้นก็พักผ่อนซะที่โรงพยาบาลนั่นแหละ หลินเช่ออาการหนักกว่า เพราะฉะนั้นฉันคงไม่ไปที่โรงพยาบาลหรอกนะ”
 
 
[อะไรนะคะ] ปลายสายร้องเสียงดังอย่างประหลาดใจ
 
 
ชายหนุ่มจึงอธิบายต่อว่า “หลินเช่อประสบอุบัติเหตุใหญ่จนเกือบตาย โอเคมั้ย ฉันจะวางละนะ”
 
 
แล้วเขาก็ตัดสายไปทันที
 
 
หลินเช่อไม่คิดเลยว่าเขาจะพูดแบบนี้ จึงหันไปหาชายหนุ่ม “แล้วนี่คุณหนูโม่จะไม่โกรธแย่เหรอคะถ้าคุณไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนเธอน่ะ”
 
 
เขาตอบว่า “ไม่มีอะไรที่จะต้องโกรธนี่ เขาแค่มีแผลถลอกที่ข้อเท้านิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง”
 
 
“รอยถลอกที่ข้อเท้าเหรอคะ เป็นเพราะฉันหรือเปล่าคะ”
 
 
“ใช่”
 
 
หลินเช่อมองหน้าเขา “ตอนนี้คุณหนูโม่จะต้องเกลียดฉันจนเข้าไส้แล้วแน่เลย”
 
 
เธอคิด หล่อนคงจะโกรธมาก และต้องใส่ความเธอเสียๆ หายๆ มากมาย
 
 
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าหญิงสาว “ใช่ เขาบอกว่าเธอตั้งใจขับรถชนเขาน่ะ”
 
 
หลินเช่อตอบเบาๆ ว่า “ฉัน…เธอวิ่งเข้ามาใส่ฉันน่ะค่ะ ฉันตกใจ”
 
 
เขากวาดตามองรอยแผลบนเนื้อตัวเธอแล้วก็ถอนใจ “ตอนแรกฉันอยากจะถามเธอว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่พอได้เห็นทักษะการขับรถแล้วก็สภาพที่เธอทำให้ตัวเองเจ็บตัวแบบนี้แล้ว ฉันก็คงไม่ต้องถามอะไรแล้วล่ะ”
 
 
หญิงสาวชะงัก “คุณหมายความว่ายังไงคะ”
 
 
คนตัวใหญ่ยกมือลูบหัวอีกฝ่าย “ก็ถ้าทักษะการขับรถของเธอเป็นแบบนี้ละก็ เธอก็จะต้องชนเขาเพราะอุบัติเหตุอย่างแน่นอนน่ะสิ!”

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset