ตกกลางคืน
กู้จิ้งเจ๋อรอจนกระทั่งสามทุ่ม แต่หลินเช่อก็ยังไม่กลับบ้าน
ที่คฤหาสน์ตระกูลกู้ สาวใช้กำลังเดินว่อนกันไปทั่วบ้าน เมื่อพวกเธอเห็นหน้าฉินเฮ่าที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากกัมพูชาเข้า ทุกคนก็ยิ้มกว้างพลางบอกสั้นๆ ว่า “ท่านอยู่ข้างในแน่ะ”
ฉินเฮ่าพยักหน้ารับรู้และรีบตรงเข้าไปเพื่อรายงานตัวกับกู้จิ้งเจ๋อ เขาเคาะประตูห้องและก้าวเข้าไป กู้จิ้งเจ๋อลุกพรวดพราดขึ้นและจ้องตรงมาที่เขาในทันที
“ท่านครับ” ฉินเฮ่าว่า “ท่านไม่ต้องลุกขึ้นก็ได้ครับ…ผมกลับมาแล้ว ใช่ครับ ผมทำงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จเรียบร้อยและเดินทางกลับมาแล้ว ผมคิดถึงท่านมากตอนที่อยู่ในกัมพูชาก็เลยรีบทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็รีบตรงกลับมาที่นี่ทันที ท่าน…”
ก่อนที่เขาจะทันพูดจบ กู้จิ้งเจ๋อก็ทิ้งตัวลงนั่งตามเดิมด้วยท่าทางไม่แยแส “อ้อ เรียบร้อยแล้วงั้นรึ”
ฉินเฮ่าลดเสียงให้เบาลงเมื่อค่อยๆ เดินเข้ามาหาด้วยท่าทีระมัดระวัง “ครับ ใช่ครับ เรียบร้อยแล้ว”
“งั้นนายก็ไปได้แล้ว”
“ครับ…”
ฉินเฮ่ามองดูใบหน้าเฉยชาผิดปกติของผู้เป็นนาย แล้วก็ทำได้เพียงเดินออกไปจากห้อง
กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจลึกยาว ยังรู้สึกหงุดหงิดใจไม่หาย
ความรู้สึกกระสับกระส่ายเวลาต้องเฝ้ารอใครสักคนกลับมาแบบนี้เป็นสิ่งที่เขาเพิ่งเคยรู้สึกเป็นครั้งแรก หัวใจของเขาเริ่มพะว้าพะวังมากขึ้นทุกที
และแล้วประตูก็เปิดออก
ชายหนุ่มลุกพรวดพราดขึ้นอีกครั้ง
แต่เมื่อเขารีบเงยหน้ามองด้วยความหวังอันเฝ้ารอนั้นเอง เขากลับได้เห็นฉินเฮ่ากลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“ท่านครับ ผมลืมไป…”
ฉินเฮ่ารีบแจ้งข้อมูล เขายังอยากพูดบางอย่างเพิ่มเติมแต่ก็ถูกขัดขวางเสียก่อนด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับของผู้เป็นนาย
คราวนี้ฉินเฮ่าตัวเย็นเฉียบไปทั้งร่าง รีบพูดต่อไปว่า “ท่านครับ…”
กู้จิ้งเจ๋อวางฝ่ามือลงบนโต๊ะและมองหน้าฉินเฮ่าอย่างปราศจากความรู้สึกใดๆ สีหน้านั้นเยียบเย็นและเหินห่าง
“ฉินเฮ่า ในเมื่อนายสามารถจัดการปัญหาที่โรงงานนั่นได้เร็วทันใจแบบนี้ งั้นฉันก็จะปล่อยเรื่องโรงงานที่กัมพูชานั่นให้นายรับผิดชอบก็แล้วกัน พักร้อนของนายยังไม่หมดนี่ ใช่มั้ย”
“อ่า…”
“นายไม่ต้องยกเลิกวันลาพักร้อนหรอก เดี๋ยวฉันจะให้คนจากแผนกบุคคลซื้อตั๋วเครื่องบินให้นายเอง ในเมื่อวีซ่าก็ยังไม่หมดอายุ งั้นก็อยู่ที่กัมพูชาต่อไปนั่นแหละ”
“…”
นี่เขาทำอะไรผิดกันนะ…
ฉินเฮ่าเริ่มตื่นตระหนกอยู่ลึกๆ ข้างใน
เมื่อดูท่าทีของอีกฝ่ายแล้ว กู้จิ้งเจ๋อก็ใช้มือกวาดเอกสารทั้งหลายที่ลูกน้องคนสนิทเพิ่งจะมอบให้ลงบนพื้นห้อง เขาเอนหลังพิงเก้าอี้และใช้นิ้วนวดหว่างคิ้ว ยัยหลินเช่อบ้า… ทำไมยังไม่กลับบ้านอีกนะ
ที่บาร์
หลินเช่อส่งเสียงจามสนั่น
เฉินโยวหรานมองเพื่อนสาวด้วยสายตาสงสัย “ทำไมเธอถึงจามล่ะ อย่าบอกนะว่าเป็นหวัดน่ะ”
“เปล่าหรอก อาจจะเพราะควันบุหรี่ที่นี่ก็ได้ ทำไมคนเราถึงชอบสูบบุหรี่กันนักนะ”
“ใครจะรู้ อ่า แล้วสามีเธอไม่สูบบุหรี่หรอกเหรอ”
“ก็ไม่เชิง เขาควบคุมตัวเองได้ดีน่ะ”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ ไม่อย่างงั้นเขาคงทนอยู่ห้องเดียวกับเธอไม่ได้นานขนาดนี้โดยที่ไม่เคยแตะต้องเธอเลยหรอก” เฉินโยวหรานว่า ยังคงมองดูอีกฝ่ายด้วยความสงสัยไม่หาย “เธอเองก็เหมือนกันนะยะ ฉันละไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอเองก็ยังไม่เคยกระโจนใส่เขาน่ะ ถ้าฉันมีโอกาสแบบนี้บ้างละก็ ฉันคงจัดการเรียบร้อยไปตั้งนานโขแล้ว”
หลินเช่อย้อนว่า “งั้นก็เชิญตามสบาย ยกให้เลย”
“เฮอะ ฉันไม่ใช่คนอยู่บ้านเดียวกับเขาสักหน่อยนี่”
“เป็นเพราะอาการป่วยของเขาน่ะ เขาก็เลยแตะต้องผู้หญิงไม่ได้ บางทีเขาอาจจะมองฉันแล้วไม่เกิดอารมณ์ก็ได้”
“ไม่มีทาง…”
หลินเช่อไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนเหมือนกัน แต่พอลองมาคิดดูตอนนี้แล้ว เขาก็ดูจะไม่เกิดปัญหาอะไรเมื่อสัมผัสเนื้อตัวของเธอเลยนี่นา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่แตะต้องเธออยู่ดี หลินเช่อคิดว่ามันอาจเป็นเรื่องของอาการทางจิตก็ได้ บางทีอาจเป็นเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาสัมผัสโดนตัวผู้หญิง อาการของเขาก็จะกำเริบ เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้เห็นผู้หญิง เขาเลยมองพวกเธอว่าเป็นปัญหา จนสุดท้ายก็เลยกลายเป็นอาการหมดอารมณ์ได้
หลินเช่อเตือนตัวเองว่าไม่ควรที่จะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของกู้จิ้งเจ๋อให้มากจนเกินไปนัก ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้แต่เพียงยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก ฉันล้อเล่นน่ะ”
“อ้อ ก็เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงคิดว่าคนอย่างกู้จิ้งเจ๋อน่ะน่าจะมีผู้หญิงมาคอยเสนอตัวให้อยู่เต็มไปหมด จงใช้ประโยชน์จากโชคดีครั้งนี้ของตัวเองซะนะ อย่ามัวแต่หงุดหงิดอยู่เลย”
หลินเช่อกลอกตา “เธอไม่เข้าใจ ไอ้โชคดีที่ว่าเนี่ยมันเป็นแค่เรื่องจอมปลอมทั้งนั้น ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะหมดไปแล้ว”
หญิงสาวถอนหายใจยาวแล้วเอนตัวพิงเคาน์เตอร์ เมื่อคิดถึงเขาแล้ว เธอก็คิดว่าเธอควรที่จะรักษาระยะห่างจากเขาให้มากกว่านี้ แบบนั้นน่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดแล้วล่ะ!
เมื่อกลับถึงบ้าน เวลาก็ล่วงเข้าไปถึงสี่ทุ่มแล้ว
เมื่อก้าวเข้าห้องไป หลินเช่อก็พบว่าทั้งห้องนั้นมืดสนิท แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากโซฟาที่อยู่ในห้อง
“ยังกลับบ้านถูกอยู่อีกเหรอ”
เมื่อได้เห็นร่างใหญ่ที่กำลังลุกขึ้นอย่างช้าๆ หลินเช่อก็นึกกลัวขึ้นมา เธอยกมือขึ้นทาบอก “นี่คุณทำให้ฉันหัวใจจะวายนะคะ”
ชายหนุ่มหันมองนาฬิกา “นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ทำไมถึงกลับมาป่านนี้”
“ฉันอยู่คุยกับเพื่อนต่อนิดหน่อยน่ะค่ะ เอ่อ แล้วทำไมคุณถึงอยู่บ้านได้ละคะ”
ก็ในเมื่อโม่ฮุ่ยหลิงอยู่ใกล้ขนาดนี้ เขาก็ควรจะไปอยู่กับเธอไม่ใช่เหรอ
หลินเช่อคิดทบทวนมาเป็นอย่างดีแล้ว ปัญหานี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ชวนให้อึดอัดใจแค่ไหนก็ตาม
เขาตอบว่า “นี่เป็นบ้านฉัน แน่นอนว่าฉันสามารถอยู่ในบ้านของฉันเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันต้องการได้”
“อ้อ งั้นก็เชิญคุณดูทีวีต่อเถอะค่ะ ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็เดินดุ่มๆ ไปโดยไม่หันกลับมามองเขาอีก
ความโกรธยังคงคุกรุ่นอยู่ในอก แต่เขาก็ทำได้เพียงมองตามหลังเธอไปด้วยความรู้สึกสับสน
หลินเช่อกำลังทำตัวเย็นชาใส่เขา…
ครู่ต่อมา กู้จิ้งเจ๋อจึงเดินเข้าไปในห้องนอน หลินเช่อเปลี่ยนชุดนอนเป็นที่เรียบร้อยและกำลังนอนอ่านบทอยู่บนเตียง
ชายหนุ่มแกล้งกระแอมเสียงดัง
เธอเงยหน้าขึ้นและยอมสบตาเขาในที่สุด แต่แล้วเพียงแวบเดียว เธอก็ก้มหน้าลงไปอ่านบทต่ออย่างไม่ใส่ใจ
กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วน้อยๆ และก้มลงดูตัวเอง เขาทำเสียงฟึดฟัดเมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำ
เขาคิดว่ารูปร่างของตัวเองก็ไม่ได้แย่อะไร แถมหน้าตาก็ใช้ได้ทีเดียว แม้ว่าช่วงนี้จะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนักแต่กล้ามเนื้อต่างๆ ก็ยังคงได้รูปเป็นสัดส่วน เขารู้ว่าหลินเช่ออยู่ในวงการบันเทิง เธอคงได้เห็นทั้งชายและหญิงหน้าตาดีๆ มามากมายนับไม่ถ้วน บางทีเธออาจรู้สึกเบื่อที่จะมองหน้าเขาแล้วกระมัง
หลินเช่อได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำและเหลือบไปมอง เมื่อเสียงน้ำหยุดลง ประตูห้องน้ำก็เปิดออก กู้จิ้งเจ๋อก้าวออกมา
ตัวของเขาเปียกฉ่ำ มีน้ำหยดลงมาจากเส้นผม มัดกล้ามแน่นภายใต้ผิวสีน้ำผึ้ง เวลาที่เขารู้ว่าเธออยู่ในห้อง ตามปกติแล้วเขาจะสวมเสื้อคลุมอาบน้ำหรือไม่ก็ชุดนอนให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมา แต่คราวนี้ เขามีเพียงผ้าเช็ดตัวที่พันไว้ต่ำแสนต่อที่ช่วงเอวเพียงผืนเดียวเท่านั้น
แม้แต่หลินเช่อเองยังใจจะคว่ำด้วยเกรงว่าแค่สัมผัสเบาๆ เพียงครั้งเดียวก็อาจจะทำให้ผ้าหลุดลงมากองจนเหลือแต่ร่างเปลือยได้ง่ายๆ
ขะ ขะ เขา… นี่เขาบ้าไปแล้วหรือไงนะ
“กู้จิ้งเจ๋อ คุณ…ทำไมถึงไม่สวมเสื้อผ้าละคะ” หญิงสาวกระโดดดึ๋งลงจากเตียง
เขาเดินเข้ามาหาเธอ หน้าตาเฉยเมยไร้อารมณ์ราวกับนายแบบ มองหน้าหญิงสาวอย่างไม่รู้ชี้ “มีอะไรเหรอ ในนี้มันร้อนออก แล้วเสื้อคลุมอาบน้ำในห้องก็ยังชื้นอยู่เลย ฉันไม่อยากใส่นี่นา ทำไมล่ะ”
“แต่คุณ…” หลินเช่อชี้นิ้วไปที่ร่างกายท่อนล่างของเขา
มีบางอย่างตรงกลางลำตัวที่ดูเหมือนจะทำให้ความคิดฟุ้งซ่านไปไกลได้ง่ายๆ หลินเช่อเห็นแล้วก็จำได้ดีว่ามันคืออวัยวะส่วนไหน ตอนนี้เธอร้อนผ่าวไปทั้งเนื้อทั้งตัวแล้ว
หญิงสาวรีบดึงนิ้วที่ชี้ค้างอยู่กลับมาโดยไว แล้วยกนิ้วขึ้นใส่ปากพลางเริ่มกัดเบาๆ
ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะ…
ว่าพื้นที่บริเวณนั้นมันก็ใหญ่จริงๆ…