บทที่ 1011 จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่
“คุณนายน้อย ขึ้นรถครับ” เซียวซู่ได้ช่วยหานมู่จื่อเปิดประตูรถอย่างเป็นห่วง ตอนที่หานมู่จื่อเพิ่งจะเตรียมขึ้นรถ จู่ๆก็มีเงาคนพุ่งมาทางของเธออย่างเร็ว หานมู่จื่อยังไม่ทันรู้ตัว เซียวซู่ก็ได้เข้าไปกันไว้ตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว
แล้วจับคนที่พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งคนนั้นเอาไว้ ต่อจากนั้นก็ผลักเธอออกอีกข้าง
การเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันเช่นนี้ ทำเอาหานมู่จื่อตกใจอย่างมาก
“คุณนายน้อย รีบขึ้นรถเถอะครับ!”
หานมู่จื่อยังตกใจไม่หาย ถึงแม้จะรู้สึกกังวลนิดๆ แต่คิดถึงสถานการณ์ตัวเองในตอนนี้ เธอรีบขึ้นรถไปทันที กลัวว่าเดี๋ยวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วไปกระทบถึงลูกในครรภ์จะยิ่งไม่ดี
ถ้าเธอไม่ได้ท้อง บาดเจ็บเล็กน้อยก็คงไม่เป็นไร แต่พอท้องแล้วก็ไม่เหมือนกัน
หลังจากเข้าไปในรถ หานมู่จื่อหันหน้ากลับมาดูไปข้างนอกผ่านกระจก เซียวซู่ได้กำลังสั่งให้รปภ.หลายคนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเข้าไปคุมตัวคนๆนั้นไว้
คนที่ถูกคุมตัวไว้นั้น เสื้อที่ใส่ในตัวฉีกๆขัดๆ อีกทั้งผมก็ยุ่งเหยิง ดูแล้วสกปรกมาก
ไม่รู้ว่ามาจากไหน และดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงซะด้วย
หานมู่จื่อมองเธออยู่หลายที จู่ๆสังเกตว่าหน้าตาของเธอรู้สึกคุ้นๆ เหมือนเธอเลยเจอเธอที่ไหนมาก่อน?
ทันใดนั้น จู่ๆคนๆนั้นก็หันไปตะโกนใส่ทางที่หานมู่จื่อ
“เฉียวเฉียว เสิ่นเฉียว เธอออกมานะ!”
“ออกมาสิ!!”
เสียงตะคอกดัง ฟังแล้วดูแปลกมาก แต่ก็รู้สึกคุ้นๆอย่างแปลกประหลาด
หานมู่จื่อตกใจขึ้นมากะทันหัน คนๆนี้ที่ทั้งสกปรกมอมแมมตรงหน้า เมื่อทับซ้อนกับคนในหัวเข้าด้วยกันแล้ว ไม่นาน หานมู่จื่อก็นึกขึ้นว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร
เธอเปิดกระจกลงอย่างเร็ว ตะโกนออกไปนอกรถทีนึง:“เซียวซู่”
เซียวซู่หันมาโดยไม่รู้เรื่องอะไร เห็นหานมู่จื่อชะโงกหัวออกมา ก็รีบเข้าไปปกป้องเธอไว้ และพูดอย่างตึงเครียด:“คุณนายน้อยครับ คุณรีบปิดกระจกรถเถอะครับ แบบนี้มันอันตรายมากเลยนะครับ”
“เดี๋ยวก่อน”หานมู่จื่อห้ามเขาไว้ “เหมือนฉันจะรู้จักคนๆนั้น”
“อะไรนะครับ?คุณรู้จักคนๆนั้น?”
เซียวซู่แปลกใจหันไปมองหน้าฝ่ายตรงข้ามที่นึง เธอคนนั้นดูสกปรกและดูเป็นคนอันตรายมาก คุณนายน้อยจะรู้จักคนแบบนั้นได้ยังไง?
เดี๋ยวนะ ไม่ใช่สิ……
คนๆนั้นเรียกชื่อเสิ่นเฉียวได้ยังไง?
นี่มันเป็น……ชื่อเก่าของคุณนายน้อยไม่ใช่เหรอ??
“คุณนายน้อยครับ เธอเรียกชื่อเก่าของคุณ หรือว่าจะเป็นคนที่คุณเคยรู้จักหรือเปล่าครับ?”
หานมู่จื่อพยักหน้า แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเซียวซู่อีกที:“นายก็รู้จัก”
ตอนนั้น เธอจำได้ว่าเซียวซู่เคยออกหน้าแทนเธอ แต่เวลาผ่านไปนานมากแล้ว เธอเองก็จำไม่ค่อยได้ว่าเวลาไหนกันแน่
เซียวซู่ได้ยินว่าเธอบอกเขาเองก็รู้จัก แล้วรู้สึกแปลกใจขึ้นมา หันไปมองซ้ายมองขวาหน้าคนๆนั้นอีกที สุดท้ายก็นึกขึ้นได้ว่าเธอคือใคร
“คือเธอนั่นเอง??”
เขาดูแปลกใจมาก?ตอนที่หานมู่จื่อเพิ่งรู้ว่าเธอคือใคร เธอเองก็รู้สึกแปลกใจไม่แพ้เซียวซู่ตอนนี้เลย นี่แค่ไม่ได้เจอกันไม่นาน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน เธอยังโอ้อวดโอหังต่อหน้าตัวเองอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้?
หานมู่จื่อขมวดคิ้วที่โค้งสวยของเธอแล้วคิดนึกอยู่ หลังจากครู่นึงก็พูดกับเซียวซู่:“เซียวซู่ นายสั่งให้คนพวกนั้นปล่อยเธอก่อน อย่างน้อยให้เธอได้ลุกขึ้นก่อน”
เซียวซู่เข้าใจความหมายของหานมู่จื่อ ให้รปภ.พยุงคนๆนั้นขึ้นมา หลังจากที่เธอลุกขึ้นมาแล้วนั้น ก็ขัดขืนอยากจะวิ่งเข้ามาหาหานมู่จื่ออีกครั้ง
“เฉียวเฉียว เฉียวเฉียว!ใช่เธอหรือเปล่า?”
หานมู่จื่อ:“……”
“ในที่สุด เธอก็กลับมาจริงๆด้วย เฉียวเฉียว……เพื่อนรักของฉัน”
ได้ยินแบบนี้แล้ว คิ้วที่ขมวดไว้ของหานมู่จื่อก็ยิ่งแน่นขึ้น คำนี้ฟังแล้วมันแปลกๆยังไงไม่รู้?
ไม่คิดเลยว่าเธอจะเรียกเธอว่าเฉียวเฉียว?ยังบอกว่าเธอคือเพื่อนรักของเธอ?
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอได้จบลงตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้วไม่ใช่หรอ?อีกทั้ง ตอนนั้นเธอยังส่งกระต่ายน้อยตายไปยังที่พักของตัวเอง แม้กระทั่งยังหาคนเพื่อมาทำร้ายเธออีกด้วย
ใช่แล้ว คนๆนี้ก็คือเมิ่งเส่โยวที่ไม่เจอกันมานาน
เซียวซู่ก็สั่งเกตเห็นท่าทางไม่ปกติของอีกฝ่าย เข้าไปใกล้หานมู่จื่อแล้วพูด:“คุณนายน้อยครับ ผมว่าเธอดูสติไม่ค่อยปกตินะครับ ระวังไว้จะดีกว่านะครับ”
หานมู่จื่อมองไปที่ฝ่ายตรงข้ามทีนึง สายตาของเธอดูลอยๆ ดูผิดปกติจริงๆด้วย“เธอเสียสติงั้นเหรอ?”
“คุณนายน้อยครับ ดีที่สุดอย่าลงจากรถเลยนะครับ สังเกตอาการของเธออีกพักนึง อีกอย่าง คนๆนี้เคยทำเรื่องผิดต่อคุณตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้วนะครับ จู่ๆ วันนี้มาโผล่ที่บ้านเก่า ผมว่าเรื่องมันคงไม่ได้ง่ายขนาดนี้นะครับ คุณนายน้อยกลับก่อนดีมั้ยครับ เรื่องที่นี่ปล่อยให้ผมจัดการเอง?”
คิดไปคิดมา หานมู่จื่อก็คิดว่า ถึงเธอจะอยู่ต่อก็ช่วยอะไรไม่ได้ ได้แต่พยักหน้า:“ก็ดี เรื่องที่นี่ก็ฝากนายจัดการแล้วกันนะ มีเรื่องอะไร นายค่อยโทรหาฉันก็พอ ฉันกลับไปที่บริษัทก่อน”
ต่อจากนั้น คนขับรถได้ส่งเธอไปถึงบริษัท หลังจากที่หานมู่จื่อได้กลับมาถึงที่ห้องทำงานนั่งลงแล้วนั้น ได้เทน้ำอุ่นๆให้ตัวเองแก้วนึง พอนึกถึงคนที่เพิ่งเจอเมื่อกี๊อีก
เมิ่งเส่โยว……
เธอกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?เกิดเรื่องอะไรขึ้นในช่วงเวลานี้?เธอดูแล้วเหมือนจะเสียสติไปแล้ว แต่ทำไมเธอถึงจู่ๆมาโผล่ที่นอกบ้านเก่า
จุดนี้น่าคิด
นึกถึงเรื่องพวกนั้นที่เมิ่งเส่โยวเคยทำกับตัวเองในเมื่อก่อน บาดแผลที่เกิดขึ้นพวกนั้น หานมู่จื่อเริ่มรู้สึกว่าการปรากฏตัวของเธอนั้น คงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
พอนึกถึงตรงนี้แล้ว หานมู่จื่อเดินกลับไปหน้าโต๊ะทำงาน แม้แต่น้ำยังไม่ทันจะดื่มก็หยิบมือถือมาโทรหาเซียวซู่ในทันที
“ครับ คุณนายน้อย?”
“เซียวซู่”หานมู่จื่อพูดความในใจให้เขาฟัง:“ฉันอยากให้นายช่วยสืบว่าเพราะอะไรเมิ่งเส่โยวถึงมาปรากฏตัวที่นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือว่ามีอะไรมากไปกว่านั้น?”
“คุณนายน้อยวางใจเถอะครับ เรื่องนี้ ผมก็ว่ามันทะแม่งๆยังไงอยู่ครับ ถึงคุณนายน้อยจะไม่สั่ง เพื่อความปลอดภัยของคุณนายน้อยแล้ว ผมก็ต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างให้ได้ครับ”
“ได้”
พอวางสายไป มือของหานมู่จื่อกำมือถือไว้จนแน่น
ที่เธอเคยปล่อยเมิ่งเส่โยวไปครั้งนึง ทั้งหมดก็เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ผ่านมา เธอไม่สามารถฆ่าคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองได้ลงคอ
แต่ว่าครั้งนี้ ถ้าหากเมิ่งเส่โยวยังคิดจะปองร้ายเธออีก นั้นเธอ……ก็จะไม่ทนครั้งแล้วครั้งเล่าต่อไปอีก
หลังตัดสินใจเสร็จ แววตาของหานมู่จื่อได้เผลอความแน่วแน่ออกมา
ประสิทธิภาพในการจัดการเรื่องของเซียวซู่นั้นดีมาก ตอนบ่าย ตอนหานมู่จื่อพักผ่อนเสร็จนั้น ก็ได้ยินเลิงเยาเยาบอกว่าเขาได้มาหาตัวเองแล้ว หานมู่จื่อเลยได้ไปพบเขาที่ห้องรับรองด้วยตัวเอง
“เป็นยังไง?”
“คุณนายน้อยครับ ผมไปสืบมาเรียบร้อยแล้วครับ เมิ่งเส่โยวคนนี้ ไม่ใช่เพิ่งจะวันสองวันนี้มาที่บ้านเก่าตระกูลเย่ เธอไปจ้องๆมองๆ ที่บ้านเก่าตระกูลเย่ระยะนึงได้แล้วครับ เธอไปนั่งรอตรงนั้นทุกวัน ทำอยู่แบบนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนได้ครับ”
เวลาหนึ่งเดือนงั้นหรอ?
ตอนนั้น เธอหน้าจะยังอยู่ต่างประเทศอยู่เลย
พอนึกถึงนี่แล้ว หานมู่จื่อขมวดคิ้ว:“เธอไปทำอะไรที่หน้าประตูของบ้านเก่าตระกูลเย่?”
“จุดประสงค์ที่แท้จริง พวกเรายังไม่สามารถรู้ได้ แต่เธอเรียกชื่อคุณนายน้อยตลอดเลยนะครับ ตามที่สอบถามคนที่เดินผ่านไปมา เธอเรียกชื่ออยู่คนเดิมซ้ำๆทุกวัน แถมยังพูดขอโทษอะไรประมาณนี้”
หานมู่จื่อ:“……”
เธอขมวดคิ้ว“ทำไมเธอถึงยังรู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆอยู่น๊า?”
เมิ่งเส่โยวไปหาเธอ แถมยังเรียกชื่อของเธอและยังพูดขอโทษเธอ?