บทที่1016 เหมือนมีใจให้แล้ว
ยังไงซะเย่โม่เซินเชื่อมั่นเขามาโดยตลอด เรื่องใดๆไม่เคยปิดบังเลย เพราะฉะนั้นเซียวซู่รู้เรื่องเยอะแยะมากมาย
“ได้ ถ้างั้นผมจะจัดเรียงเรื่องราวเหล่านี้ของคุณเป็นเอกสารนึงชุดนะครับ”
อะ?
อะไรนะ?
ให้เขาเอาเรื่องในอดีตจัดเรียงเป็นเอกสารชุดนึง?
ตอนที่เซียวซู่ได้ยินคำพูดคำนี้แทบไม่อยากเชื่อหูของตัวเองเลย และแทบจะละลายอยู่ที่เดิมแล้ว
ให้เขาทำเรื่องเหล่านี้ ถ้างั้นเขาก็ต้องการให้ตัวเองใช้สมองเขียนออกมาอีกด้วยสินะ???
” ไม่ได้นะครับคุณชายเย่!”เซียวซู่ปฏิเสธคำสั่งของเย่โม่เซินทันที:”ความสามารถทางวรรณกรรมของผมไม่ดี ผมจัดเรียงเรื่องนี้ไม่ได้หรอกนะครับ”
เรื่องราวเหล่านี้ไม่เหมือนกับที่เคยตรวจสอบในเมื่อก่อนเหล่านั้นนะ คนอื่นตรวจสอบเรียบร้อยแล้วสรุปโดยตรงและส่งไปถึงมือเขาก็ได้แล้ว
“ใครใช้ให้นายจัดเรียง?”เย่โม่เซินพูดอย่างเย็นชา:”นายหาคนจัดการก็ได้แล้ว? “
เซียวซู่:”หาใคร……?”
“เฮอ” เย่โม่เซินหัวเราะเยาะ:”นายคิดว่าใครล่ะ?”
เซียวซู่เงียบกริบทันที ได้เลยครับ หาใครนั้นไม่ต้องให้เย่โม่เซินพูดแล้ว เพราะว่าไม่ว่ายังไงซะ เขาก็ต้องจัดเรียงเอกสารให้เรียบร้อยก็ถูกแล้ว เธอรู้สึกลำบากใจมาก ไม่ว่าจะยังไงเรื่องราวเหล่านั้นล้วนเป็นความรักความเกลียดชังระหว่างคุณชายเย่กับคุณนายน้อย ให้ผู้ชายทั้งแท่งอย่างเขามาพูด เขารู้สึกว่าตัวเองยากที่จะเอ่ยปากจริงๆ
“คุณชายเย่ครับ คือว่า………….เราปรึกษาหารือกันอีกสักพักได้มั้ยครับ เรื่องนี้…………”
ตอนที่เซียวซู่ยังแสวงหาโอกาสให้กับตัวเอง จู่ๆก็ได้ยินเสียงที่อ่อนโยนของผู้หญิงดังขึ้นมาจากหลังเย่โม่เซินทางโน้น: “คุณไม่หลับไม่นอน คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
เป็นเสียงของคุณนายน้อย!
คุณนายน้อย ช่วยด้วยครับ!!!
นี่เป็นเสียงตะโกนของเซียวซู่ในวินาทีนี้!
เย่โม่เซินพิงอยู่ที่ราวระเบียงบนดาดฟ้า หลังได้ยินเสียงของหานมู่จื่อดังออกมาจากข้างหลัง เขาหันหน้าไปมองหานมู่จื่อจึงขมวดคิ้ว ไม่พูดมากวางสายโดยตรง จากนั้นเดินไปที่หานมู่จื่อ
“คุณออกมาทำไม? ใส่น้อยชิ้นขนาดนี้อีกด้วย!”
พูดจบ เขาแกะกระดุมเสื้อนอกของตัวออกมาโดยตรง จากนั้นเปิดออกมาและกอดหานมู่จื่อไว้โดยตรง เอาตัวเล็กๆคลุมไว้ในเสื้อใหญ่ๆของตัวเอง
ที่ตัวของหานมู่จื่อใส่แค่ชุดนอนตัวเดียว ถึงแม้เป็นหน้าหนาว แต่ว่ายังไงก็เป็นข้างนอก ทนความหนาวเย็นข้างนอกไม่ไหวแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่เป็นทะเล เธอเป็นสตรีตั้งครรภ์อีกด้วย
ยิ่งคิด เย่โม่เซินยิ่งขมวดคิ้ว เสียงเย็นชา:”เข้าไป”
หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้นมาจากเสื้อตัวใหญ่ของเขา เท้าล่างไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียว
“คุณคุยสายกับใครอยู่?”
ใต้คางของเย่โม่เซินตื่นตระหนกเล็กน้อย ก้มหน้าจ้องคนตรงหน้า
ใต้แสงสลัว ตาทั้งคู่ที่สดใสเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดซึ่งทำให้คนหวั่นไหว มองเขาไว้แบบไม่มีความซับซ้อนใดๆ เหมือนกับว่ามองเขาแว๊บเดียวก็มองเห็นอย่างชัดเจนแล้ว และเหมือนกับหน้าตาที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่
สายตาแบบนี้…………
อารมณ์ในตาเคลื่อนไหว และเคลื่อนย้ายสายตาจากจิตใต้สำนึก ตกไปอยู่ที่ติ่งหูข้างบนซึ่งขาวผ่องและน่ารัก กลืนลำคอ เสียงก็ต่ำลงแบบงุนงง
“คนที่บริษัท”
เขาอธิบายด้วยเสียงแหบ “โทรมาถามเรื่องงานนิดหน่อย”
“เรื่องงาน?” หานมู่จื่อกระพริบตา “สี่ทุ่มกว่า?”
คุณชายเย่ พนักงานที่บริษัทคุณจริงจังกับงานขนาดนี้เชียวรึ?เวลาดึกดื่นขนาดนี้เนี่ยนะยังจัดการกับงานอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังโทรศัพท์มาให้กับคุณที่เป็นท่านประธาน คงเป็นระดับกลางขึ้นไปสินะ?”
“ใช่แล้ว” เย่โม่เซินหัวเราะนิ่งๆ “ที่พวกเขาจริงจังกับงานขนาดนี้ ในนั้นมีผลงานของคุณด้วยนะ”
“ฉัน?”
สายตาของเย่โม่เซินยังคงจ้องติ่งหูเล็กๆที่น่ารักไว้ และมีความหวั่นไหว
“คุณลืมไปแล้ว?” เสียงเขาโทนต่ำ เสียงต่ำอย่างมีมารยาทและเข้าไปใกล้ๆข้างหูของเธออีกด้วย:” หุ้นส่วนของบริษัท อยู่ในกำมือคุณทั้งหมดนะครับ คุณนายเย่”
สีหน้าท่าทางหานมู่จื่อเปลี่ยนไป เย่โม่เซินไม่พูดถึง เธอเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
ตอนนั้นเขาถึงขั้นให้สัญญากับเธอหนึ่งฉบับ ดูปุ๊บก็ไม่เป็นมงคลเลยสักนิด สุดท้ายเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ
คิดถึงก็โมโห!
“คุณ!เฮ้อ………….”
หานมู่จื่อกำลังอยากโทษเขาพอดี ติ่งหูกลับถูกเขาคาบเอาไว้อย่างกะทันหัน ทำให้เธอตกใจแบบขำๆ ยื่นมือไปผลักเขาจากจิตใต้สำนึก
เธอลืมไปแล้วว่าวินาทีนี้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเย่โม่เซิน ผลักหนึ่งครั้งไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด เย่โม่เซินกลับกอดเธอไว้แน่นๆอย่างไม่รู้จักพอ และกัดติ่งหูเธอไว้เบาๆ
“คุณทำอะไรเนี่ย? รีบปล่อยเร็ว…………” หานมู่จื่อใจร้อนเป็นบ้า “ฉันมีธุระจริงจังจะถามคุณ”
ใครบางคนทานมังสวิรัตินานไปแล้ว ทีนี้ได้กลิ่นคาวของเนื้อ จะหยุดได้ไงในเวลาแบบนี้ เขาหายใจแรงๆแบบพิกล
“นี่แหละเรื่องจริงจัง”
จริงจังจนไม่รู้จะจริงจังยังไงแล้ว
” เย่โม่เซิน!”
“เด็กดี อีกสักครู่ค่อยเรียกนะ”
หานมู่จื่ออยากด่าเขา คนกลับถูกอุ้มขึ้นมา จากนั้นเดินเข้าไปในห้องนอน
อุณหภูมิในห้องสูงกว่าข้างนอกเยอะเลยทีเดียว หานมู่จื่อถูกเย่โม่เซินวางอยู่บนเตียงนอนใหญ่ที่นุ่มนวล ไม่รู้ว่ากลัวเธอหนีหรือว่าอะไร ร่างกายของเย่โม่เซินถึงขั้นทับลงมาพร้อมกัน มือทั้งคู่ตรึงไว้ที่แขนทั้งสองข้างของเธอ ขังเธอไว้ในแขนข้างในของตัวเอง
“คุณ……คุณอย่าเล่นอีกเลย!ฉันมีธุระสำคัญจะถามคุณจริงๆ!”
ใต้ตาของเย่โม่เซินแดงก่ำเล็กน้อย ลมหายใจไม่นิ่ง
“ธุระอะไร? ถ้าหากเป็นเรื่องของเมื่อก่อน ถ้างั้นผมจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องถาม”
“…………”
ถูกต้อง เธออยากถามหาความผิดจากเขา แต่ว่านี่เป็นเรื่องที่ของเคยทำก่อนความจำเสื่อม ตอนนี้เธอถามหาความคิดจากเขาในตอนนี้ ถ้างั้นคาดว่าเขาก็พูดที่มาที่ไปออกมาไม่ได้หรอก
คิดถึงตรงนี้ อารมณ์ของหานมู่จื่อก็เปลี่ยนไปอย่างมัวหมองทันที
ที่ทำให้เธอหดหู่ที่สุดก็คือ ความอันตรายตรงหน้าไม่ได้ยกเลิกไปไหน
เพราะว่าใครบางคนที่ทานมังสวิรัติในช่วงนี้ ได้กระหายจนถึงขั้นก้มหน้าก้มตากัดกินต้นคอของเธอแล้ว ขณะที่ต้นคอมีความรู้สึกชาๆเธอถึงจะมีปฏิกิริยาอย่างกะทันหัน
“ไม่ได้!”
หากว่าทิ้งรอยจูบไว้ ถ้างั้นพรุ่งนี้เธอไปทำงานก็ถูกคนเห็นสินะ
แต่ว่าเย่โม่เซินไม่เชื่อฟัง หานมู่จื่อได้แต่ยื่นมือปกป้องคอตัวเองไว้ ไม่ถูกเขาซุ่มจู่โจม
สุดท้ายใครบางคนก็ไม่งอน จูบคอไม่ได้ ก็เริ่มจูบแขนของเธอ ริมฝีปากบางๆที่ร้อนระอุค่อยๆย้ายจากแขนขึ้นมา สุดท้ายตกลงมาอยู่ที่ไหล่ของเธอ
เขากระชากชุดนอนของเธอออกไป ริมฝีปากบางๆประทับตราไว้บนไหล่ที่ขาวผ่อง
หานมู่จื่อเชอะเสียงเงียบๆ ปิดคอไว้ ถึงขั้นปิดไหล่ไม่ได้
เธอก็เลยยื่นมืออีกข้างออกมาปิดไหล่ตัวเองไว้
เย่โม่เซินเงยหน้า ใต้ตาเหมือนกับมีผีร้าย เขาหัวเราะเสียงต่ำ มือใหญ่โตย้ายมาที่กระดุมชุดนอนของเธอ
หานมู่จื่อ:”หยุดนะ………!
เธอจะตายแล้วจริงๆ!คนคนนี้ทำไมคืนนี้ถึงกลายเป็นนิสัยสัตว์ดุร้ายได้ขนาดนี้นะอ้าอ้าอ้าอ้าอ้า?
” ได้เลย”
มือเย่โม่เซินหยุดนิ่ง แต่ไม่ได้ล้มเลิก และขยับตัวขึ้นไปใช้ฟันแกะกระดุมชุดนอนของเธอออก ส่วนตัวเขาเอง เผยกล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแกร่งออกมา บวกกับการกระทําที่เขาใช้ฟันแกะกระดุมชุดนอนของเธอในตอนนี้
หานมู่จื่อกลืนน้ำลายไปอึกนึง และหลับตาลง
ถึงแม้ไม่อยากยอมรับเลยสักนิด แต่ว่า……..เซ็กซี่มากเลยจริงๆ
เธอเหมือนกับว่า………มีใจบ้างแล้วจริงๆ