บทที่1019 ความรักไม่ใช่สิ่งของที่จำเป็น
นัยน์ตาแดงๆ จิตใจหดหู่ วิ่งเข้าไปกอดเธออย่างรวดเร็ว
“มาก็ดีแล้ว” แม่เสี่ยวเหยียนตบหลังของเธอ สองแม่ลูกไม่เจอกันตั้งหลายปี เจอกันคราวนี้ ขอบตาแม่ของเสี่ยวเหยียนก็แดงก่ำตามด้วย
หลังจากทั้งสองคนจากกัน เสี่ยวเหยียนมองหลัวหุ้ยเหม่ยด้วยตาแดงก่ำ “คุณพ่อ………เป็นยังไงบ้างคะ?”
“หลังจากเมื่อคืนได้ช่วยเหลือชีวิตไว้ คุณหมอบอกว่าต้องรอดูอาการ48ชั่วโมง ถ้าหากพ่อสามารถผ่านพ้น48ชั่วโมงไปได้อย่างปลอดภัย ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แต่ว่า………..”
“48ชั่วโมง………” เสี่ยวเหยียนได้ยินตัวเลขนี้ เกือบเป็นลมไปเลย
ถ้างั้นก็ต้องสองวันสินะ?
ทำไมถึงได้บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้นะ?
“ถ้างั้นตอนนี้พ่ออยู่ไหน?หนูไปเยี่ยมพ่อได้มั้ย?”
หลัวหุ้ยเหม่ยส่ายหน้า:”แม่พาลูกไปเยี่ยมที่นอกห้องไอซียู ตอนนี้คุณหมอไม่อนุญาตเยี่ยมเยือนหลายครั้ง ตอนเช้าญาติพี่น้องของลูกทั้งลุงทั้งอาต่างมาเยี่ยมเยียนหนึ่งครั้งแล้ว เดี๋ยวลูกยืนดูกับแม่ที่นั่นสักพักก็พอแล้ว”
“เอาล่ะ”
ระหว่างทางไปห้องไอซียูหลัวหุ้ยเหม่ยขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน” เหมือนมีกลิ่นแปลกๆอะไรสักอย่าง นี่เป็นกลิ่นอะไรนะ?”
หัวใจทั้งดวงของเสี่ยวเหยียนล้วนอยู่ที่ตัวพ่อ ไม่ได้กลิ่นแปลกๆอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ก็เลยส่ายหน้า
เวลานี้คุณแม่เสี่ยวเหยียนกลับเอาสายตาตกไปที่ตัวของเธอเหมือนกับพบเจออะไรที่ใหญ่โต:” เสี่ยวเหยียน ลูก ทำไมลูกมาในสภาพแบบนี้?”
เมื่อสักครู่ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันหลายตั้งหลายปี เธอตื่นเต้นตลอดเวลาเพราะฉะนั้นจึงไม่ได้สังเกต ตอนนี้แม่ เสี่ยวเหยียนถึงสังเกตเห็น ที่ตัวเสี่ยวเหยียนสวมใส่ชุดนอนก็วิ่งมาแล้ว ที่สำคัญชุดนอนข้างบนยังมีคราบสกปรก ผมก็ยุ่งเหยิงอย่างกับรังนก
“แม่คะ?ทำไมหรอคะ เราไปเยี่ยมคุณพ่อก่อนเถอะค่ะ”
หลัวหุ้ยเหม่ยหยุดนิ่ง คิดอยู่สักพัก “ลูกไปเจอพ่อในสภาพแบบนี้ ถ้าหากว่าลูกจองพ่อตื่นอยู่ อาจจะถูกลูกทำให้โมโหจนเป็นลมไปเลยทีเดียวก็เป็นไปได้นะ”
เสี่ยวเหยียน:”………… หนูเป็นอะไรคะ?”
“ลูกดูผมของลูกสิยุ่งอย่างกับอะไรดี? รังนกยังไม่กล้าเทียบความสวยกับลูกเลย? ยังมีอีกเมื่อสักครู่ที่แม่พูดว่าได้กลิ่นเหม็นอับ………..”แม่ขยับเข้ามาดมที่ตัวเธอ จากนั้นถอยหลังออกมาหลายก้าวด้วยหน้าตาที่รังเกียจ และอยู่ห่างจากเธอไกลๆ “พูดมาเถอะ ลูกไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้ว?ที่ตัวกลิ่นเหม็นเปรี้ยวๆ ตอนที่ลูกมาที่โรงพยาบาลระหว่างทางไม่ได้ทำให้คนเมาสลบไสลหรือ? “
“……”
เสี่ยวเหยียนมองดูคุณแม่แบบจนคำพูดไปเลยสักพัก สุดท้ายก้มหน้าก้มตาอย่างไร้เรี่ยวแรง
เอาเถอะ ไม่เจอกันตั้งนาน ปากก็ยังเสียขนาดนี้ เธอเป็นลูกในไส้รึเปล่าเนี้ยะ?
“โชคดีที่ลูกเข้าไปเยี่ยมไม่ได้ กลิ่นตัวนี้………สามารถทำให้พ่อของลูกตื่นขึ้นมา และได้กลิ่นแล้วก็ตื่นขึ้นมาแล้วก็สลบไปอีก”
“แม่คะ!” เสี่ยวเหยียนกระทืบเท้าอย่างใจร้อน:” อย่าพูดให้หนูเสียๆหายๆได้มั้ยคะ พ่อยังนอนอยู่ในห้องไอซียูอยู่เลยนะคะ!”
ได้ยินหลัวหุ้ยเหม่ยมองบนใส่เธอแบบโมโห:” ลูกยังรู้ว่าพ่อนอนอยู่ในห้องไอซียูอยู่อีกหรือ?ถ้าหากพ่อไม่ได้นอนอยู่ในห้องไอซียูลูกจะไม่กลับมาเลยใช่มั้ย?”
“หนู……..”
“ยังไงซะก็เข้าเยี่ยมไม่ได้ แม่ว่านะลูกกลับไปที่บ้านกับแม่ก่อน ลูกแต่งตัวให้ดีๆสักหน่อย ดูหน้าตาลูกสิอย่างกับผี เจอคนไม่ได้เลยสักนิด”
“แต่ว่าไหนๆหนูก็มาแล้ว ยังไงก็ให้หนูเห็นหน้าพ่อสักทีค่อยว่ากันเถอะ? แม่คะ ถือว่าหนูขอร้องแม่เถอะค่ะ ให้หนูแอบมองพ่อสักที มองสักทีหนูก็กลับไปล้างหน้าล้างตาแล้ว!”
สุดท้ายหลัวหุ้ยเหม่ยก็พาเธอไปเยี่ยมพ่อของ เสี่ยวเหยียนสักครั้ง เสี่ยวเหยียนยืนอยู่ที่นอกหน้าต่างห้องไอซียูและมองดูคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เริ่มแสบจมูกอีกแล้ว
“ไอ้แก่บ้าเอ้ย ทำไมตอนที่ขับรถถึงไม่รู้จักระมัดระวัง?อายุแก่ปูนนี้แล้วยังเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อีก พูดออกไปคนเค้าหัวเราะตายเลย”
พูดไปด้วย น้ำตาเสี่ยวเหยียนก็ร่วงไปด้วย
หลัวหุ้ยเหม่ยเห็นเหตุการณ์ ก็อดที่จะเช็ดน้ำตาตามด้วยไม่ได้ เช็ดแก้มไปด้วยและตบไหล่ของเสี่ยวเหยียนไปด้วย:” ยัยเด็กบ้า พ่อของลูกเข้าไปในห้องไอซียูแล้วลูกยังด่าพ่ออีกว่าไอ้แก่บ้าไอ้แก่เหม็น แกนี่มันไม่มีหัวจิตหัวใจเอาซะเลย”
” ฮือๆๆ……….”แม่ลูกทั้งสองกอดหัวกันและร้องห่มร้องไห้อย่างเจ็บปวดรวดร้าว
ประมาณสิบกว่าวินาทีหลัวหุ้ยเหม่ยเช็ดน้ำตาที่แก้ม ตะคอกและห้ามปรามเสี่ยวเหยียน: ” เอาล่ะ โรงพยาบาลห้ามเสียงดัง เราร้องไห้แบบนี้เสียงดังเกินไปแล้ว รบกวนพ่อของลูกได้นะ จะร้องไห้เรากลับไปร้อง และล้างตัวของลูกให้สะอาดสะอ้าน”
พูดจบยังผลักตัว เสี่ยวเหยียนออกไป และรังเกียจเป็นพิเศษ
เสี่ยวเหยียน:“……”
แม่แท้ๆ!
หลังจากนั้น เสี่ยวเหยียนตามแม่ของเธอกลับบ้าน ยืนอยู่หน้าประตูหลัวหุ้ยเหม่ยเอากุญแจเปิดประตู และพูดไปด้วยว่า:” หลายปีมานี้ลูกไม่กลับมาเลย แต่ว่าห้องนอนของลูกช่วยลูกทำความสะอาดอยู่ตลอด ช่วงนี้พ่อของลูกเข้าโรงพยาบาล ลูกก็ย้ายกลับมาเถอะ เสื้อผ้าก็เป็นของเมื่อก่อน ถึงแม้ผ่านไปห้าปีแล้วก็ตาม แต่ว่าแม่ดูแกเหมือนผอมกว่าเมื่อก่อนอีกนะ น่าจะยังใส่ได้หมด”
ปั้ง——
ประตูเปิดออกมา เสี่ยวเหยียนเข้ามาในบ้านตามหลังคุณแม่ มองเห็นเครื่องประดับที่วางอยู่ยังเหมือนเดิม อาการที่อยากร้องไห้เมื่อสักครู่เพิ่งหมดไปตอนนี้ค่อยๆโผล่ขึ้นมาอีกแล้ว อาการที่อยากร้องไห้เหล่านี้ยังไม่ได้ออกมาหลัวหุ้ยเหม่ยหันกลับมาตบที่ท้ายทอยของเธอ:” รีบไปอาบน้ำอาบท่า ยังมีอีกถอดรองเท้าซะ พื้นของข้าเพิ่งถูสะอาดเมื่อวานนี่เอง”
เสี่ยวเหยียน:“……”
อาการที่อยากร้องไห้ถูกการตบครั้งนี้กลั้นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เสี่ยวเหยียนเข้าไปในห้องน้ำด้วยสีหน้าที่มัวหมอง
“เสื้อผ้าล่ะ?อยากให้เปลือยกายรึไง?”
เสี่ยวเหยียน:”แม่……… สภาพหนูแบบนี้แม่ให้หนูเข้าห้องนอนรึเปล่า?”
“ก็จริง”
เสี่ยวเหยียนจนคำพูดไปเลยสักพัก เงยหน้าขึ้นมามองตัวเองในกระจก กลับทำให้ตกใจ ถอยหลังออกมาตั้งหลายก้าวอย่างกะทันหันและจ้องมองผู้หญิงในกระจกที่ผมยุ่งเหยิงด้วยสีหน้าที่ตกใจ
นี่……….เป็นเธอ???
ทำไมเธอกลายเป็นสภาพหน้าตาเช่นนี้??
เสี่ยวเหยียนจ้องมองตัวเองที่อยู่ในกระจก ริมฝีปากที่ขาวซีดกระตุก มือไม้สั่นๆและจับแก้มตัวเอง
ผมยุ่งเหยิงอย่างกับรังนก ตาบวม ริมฝีปากแห้งเป็นขุยผิวพรรณหมองมัวไม่สว่าง มองแล้วเหมือนกับผู้หญิงที่มาจากบ้านนอกคอกนาเลย
อ้อไม่ ผู้หญิงคนอื่นที่มาจากบ้านนอกคอกนาเป็นคนสวยงาม ยังไงซะเป็นคนที่โดดเด่น น้ำก็เลี้ยงคนจนผิวขาว
ไม่เหมือนเธอ ขี้เหร่ และน่าขำสิ้นดี
หน้าตาเธอแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่หานชิงจะชอบเธอ?
ส่วนเธอยืนมองเงาตัวเองยังรู้สึกสงสารตัวเองเลย ก็แค่คนตลกแค่นั้นเอง
หานชิงมองไม่เห็น ต่อให้มองเห็นก็ไม่เอ็นดูเธอ ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอยิ่งนับวันยิ่งแย่ ออกจากบ้านคนอื่นมองเธออย่างกับสัตว์ประหลาดและอยู่ห่างจากเธอไกลๆ แม้แต่แม่ของเธอ ยังรังเกียจกลิ่นตัวที่แรงๆในตัวเธอเลย
ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ในสภาพเช่นนี้ จิตใจย่ำแย่หล่ะสิ?
ช่วงนี้เสี่ยวเหยียนไม่ส่องกระจกมาโดยตลอด ตอนนี้เห็นตัวเองกลายเป็นหน้าตาอย่างกับผีเช่นนี้ซึ่งเพื่อผู้ชายคนนึงเท่านั้น
จู่ๆก็รู้สึกน่าขำสิ้นดี
เธออยู่ข้างกายหานมู่จื่อมานานแค่ไหนแล้ว ตอนที่หานมู่จื่อจากกันกับเย่โม่เซินตอนนั้น ทรมานอยู่ช่วงนึง แต่ว่าเธอกลับไม่ได้ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ไม่เป็นผู้เป็นคนเช่นนี้
ส่วนเธอล่ะ?
สิ้นสุดการรักข้างเดียวก็เท่านั้นเอง พูดออกไปต้องถูกคนอื่นหัวเราะเยาะแน่ๆเลย
เปิดฝักบัว เสี่ยวเหยียนถอดเสื้อผ้ายืนอยู่ข้างล่าง ให้น้ำร้อนสาดลงมาที่ร่างกายตัวเองอย่างเต็มที่
เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
ชีวิตคนเรายังอีกยาวนาน ในชีวิตความเป็นอยู่ยังมีเรื่องที่สนุกสนานอีกมากมายก่ายกอง ความรักไม่ใช่สิ่งของที่จำเป็นผู้ชายก็ไม่ใช่