บทที่ 1037 ภรรยาท่านประธาน
ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วจึงเชื่อฟังเป็นเด็กดีมาตลอด เขาไม่อยากให้หม่ามี๊กังวลเพราะเขาอีก
เหมือนกับตอนเมื่อกี้ ถ้าเป็นเด็กปกติ คงร้องไห้งอแงจะให้กอดตั้งนานแล้ว แต่เขาไม่ได้ทำ และรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหลั่งน้ำตา จึงรีบวางสาย ไม่กล้าให้หานมู่จื่อรู้
เสี่ยวหมี่โต้วรู้ดีว่า หม่ามี๊รักเขามาตลอด เขาก็ต้องเห็นใจหม่ามี๊
แต่ว่า หม่ามี๊ต้องการความเห็นใจ ใครบางคนก็ไม่ต้องการแล้ว
ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วจึงคิดอยู่พักหนึ่ง เงยหน้าขึ้นจากหัวเข่า แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรวิดีโอคอลให้เย่โม่เซิน
บริษัทตระกูลเย่ในเวลานี้ เย่โม่เซินเข้าไปในห้องประชุมด้วยสีหน้าบึ้งตึง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าส่งเสียงดังขึ้น
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เพิ่งจะเข้ามา ยังไม่ทันจะปิดเสียง
เย่โม่เซินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กำลังจะตัดสายพร้อมปิดเสียงด้วย แต่กลับเห็นว่าหมายเลขผู้โทรเข้า เป็นลูกชายของเขาเอง
เสี่ยวหมี่โต้ว?
เจ้าตัวเล็กคนนี้ โทรหาเขาตอนนี้ คือต้องการทำอะไร?
สำหรับเย่โม่เซินแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการประชุม
ถ้าหากมี นั่นก็คือผู้หญิงของเขา แน่นอนว่า นอกจากผู้หญิงแล้ว ยังมีลูกชายคนหนึ่ง
เขาเป็นท่านประธาน ทุกคนเห็นว่าเขาถือโทรศัพท์ไว้ ก็ไม่กล้าพูดอะไร
เย่โม่เซินเม้มริมฝีปากบางเล็กน้อย รับสายวิดีโอคอล
“เรื่องอะไร?”
หลังจากรับสายวิดีโอคอลแล้ว เย่โม่เซินก็เห็นใบหน้าของเจ้าตัวขยับเข้ามาในหน้าจอ โกรธจนแก้มป่อง ดูแล้วเหมือนไม่พอใจอย่างมาก เย่โม่เซินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาทำให้เจ้าตัวเล็กนี่ไม่พอใจหรือ?
ทันทีที่โทรหาเขา ก็ทำท่าไม่พอใจ
เสี่ยวหมี่โต้วไม่ไว้หน้าเย่โม่เซินเลยสักนิด ร้องออกมาทันที “แดดดี้ตัวร้าย!”
เสียงเจื้อยแจ้วดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ คณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงถึงกับผงะ ต่างมองหน้ากันไปมา
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนถึงตั้งตัวได้ ที่แท้คือคุณชายเย่น้อยโทรหาคุณชายเย่ของพวกเขาหรือนี่? ?
รู้ว่าคุณชายเย่มีลูกชาย และเพิ่งรู้ตอนที่หานมู่จื่อรับตำแหน่งต่อ ในช่วงก่อนหน้านั้น ในเวลานั้น เจ้าตัวเล็กตามหานมู่จื่อมาที่บริษัทด้วย
เพราะในบริษัทมีคนไม่น้อย ที่ไม่พอใจกับหานมู่จื่อ นอกจากภายใต้การช่วยเหลือกู้ชื่อของเซียวซู่แล้ว ทุกคนก็จะรู้สึกว่า หานมู่จื่อเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าเชื่อถือ และบริษัทตระกูลเย่ที่ดีๆ ไปอยู่ในมือของผู้หญิงที่มีนามสกุลอื่น ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจมาก
มีอยู่วันหนึ่งที่หานมู่จื่อมาทำงาน ข้างกายมีเจ้าตัวเล็กเพิ่มขึ้นอีกคน
เจ้าตัวเล็กมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับเย่โม่เซินทุกระเบียบนิ้ว แต่ก็ไม่เหมือนกัน เย่โม่เซินเย็นชา เข้าถึงได้ยาก และไม่สามารถคาดเดาได้
แต่เจ้าตัวเล็กนั้นแตกต่างกันมาก
เขาเรียกคนอื่นว่า คุณอา คุณลุง อย่างเชื่อฟัง เรียกจนทำให้คนไม่มีกะจิตกะใจไปทำอย่างอื่น ตอนที่ไม่ได้ระวังตัวเลย ถึงพบว่าพวกเขาได้ยอมรับหานมู่จื่อโดยไม่รู้ตัวแล้ว
ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกว่า ไม่มีอะไรน่าจะพูดแล้ว
แม้ว่าทั้งสองคนจะยังไม่ได้จัดงานแต่งงาน แต่เด็กก็อายุมากขนาดนี้แล้ว แล้วหน้าตาของเด็กคนนั้น ก็ดูเหมือนคุณชายเย่มาก จึงไม่ต้องสงสัยเลย
แม้ว่าตอนนี้ คือหานมู่จื่อที่ถือเอกสิทธิ์ควบคุมไว้ แต่ต่อไป กลุ่มบริษัทนี้ ก็ยังคงเป็นของตระกูลเย่อยู่ดี
ดังนั้นตอนนี้ได้ยินเสียงของเสี่ยวหมี่โต้ว คณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง ก็ยังคงรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกคุ้นเคยมาก แล้วก็ดูคุณชายเย่ตรงหน้า ผู้ซึ่งมีใบหน้าเย็นชา ที่ทำให้คนไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิใดๆแม้แต่น้อย
คณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง ก็คิดถึงช่วงเวลาในเมื่อก่อนเหล่านั้นอย่างกะทันหัน
เวลาที่ไม่เปรียบเทียบก็ไม่รู้สึกอะไร เมื่อมาเปรียบเทียบในตอนนี้ ก็กลายเป็นว่าไม่เหมือนกันอย่างมาก ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาคิดว่าคุณชายเย่ไม่ดี แต่แค่คิดว่า คุณชายเย่ไม่ได้เป็นมิตรน่าเข้าหาเหมือนหานมู่จื่อ
ในความเป็นจริง หานมู่จื่อในระหว่างประชุม ก็ไม่ได้เป็นมิตรน่าเข้าหาขนาดนั้น แต่ยังไงเธอก็เป็นภรรยาของเย่โม่เซิน แม้ว่าจะมีหุ้นอยู่ในมือมากมาย แต่ท่าทีของเธอที่มีต่อคณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงก็ยังคงถ่อมตัว ไม่เหมือนกับเย่โม่เซินเย็นชาและไร้ความปรานี ข้อเสนอที่เขาคิดว่าไม่ดี ก็จะปฏิเสธทั้งหมด
เอาล่ะ น่าจะเป็นพวกเขาที่เรียกร้องมากเกินไปแล้ว
เพราะพวกเขาไม่เพียงอยากได้ความเด็ดขาดแน่วแน่ในการจัดการเรื่องของเย่โม่เซิน ในขณะเดียวกันยังหวังให้ประธานเย่
ของพวกเขา มีความเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกัยหานมู่จื่อ
ช่างเถอะ ทำได้เพียงจินตนาการเท่านั้น
ในตอนนี้ เสียงเจื้อยแจ้วยังคงดังมาจากทางวิดีโอคอล
“เวลานานขนาดนี้แล้ว คุณจะรับฉันกับคุณทวดกลับบ้านเมื่อไหร่?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คิ้วของเย่โม่เซินก็ขมวดเล็กน้อย ริมฝีปากบางเม้มเบาๆ จากนั้นจึงพูดสองคำให้ เสี่ยวหมี่โต้ว
“โดยเร็ว”
สีหน้าของเสี่ยวหมี่โต้ว เปลี่ยนเป็นไม่พอใจขึ้นมาในทันที
“โดยเร็วคือเร็วแค่ไหน? มีขีดจำกัดไหม? แดดดี้ตัวร้ายไม่มีประโยชน์!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คิ้วที่ขมวดของเย่โม่เซินก็ขมวดแน่นขึ้นอีก ระหว่างคิ้วก็ขมวดตาม “หนึ่งสัปดาห์”
เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตา “หนึ่งสัปดาห์? แดดดี้บอกว่า ภายในหนึ่งสัปดาห์ จะรับฉันและคุณทวดกลับบ้านเหรอ?”
“อืม” เย่โม่เซินพยักหน้า “อย่างช้าที่สุดหนึ่งสัปดาห์”
เสี่ยวหมี่โต้วยังคงพอใจกับคำตอบนี้พอสมควร แต่ภายนอก ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่เห็นด้วย “ฮึม หนึ่งสัปดาห์ก็หนึ่งสัปดาห์ ถ้าอย่างนั้นฉันกับคุณทวด ก็รออีกหน่อยแล้วกัน ใช่แล้ว เรื่องนี้ห้ามบอกกับหม่ามี๊นะ!”
เขาจะไม่ให้หม่ามี๊ต้องกังวล!
ให้แดดดี้หนักใจคนเดียวก็พอแล้ว เพราะยังไงแล้ว เมื่อก่อนแดดดี้ให้หม่ามี๊ต้องลำบากมากขนาดนั้น ตอนนี้ให้แดดดี้ลำบากมากหน่อย เสี่ยวหมี่โต้วถึงจะรู้สึกว่าหัวใจสมดุลเท่าเทียมกัน
เย่โม่เซินมองดูใบหน้าตรงหน้า ซึ่งดูเหมือนตัวเองทุกประการ แต่ในขณะนี้ ได้แสดงสีหน้าหยิ่งผยอง ยังคงทำให้หัวใจของเขาอ่อนนุ่ม นิ้วหัวแม่มือของเขา ลูบหัวแล้วแก้มของเสี่ยวหมี่โต้วเบาๆ ผ่านบนหน้าจอ
ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็เป็นลูกของตัวเอง แม้ว่าลูกคนนี้ จะเป็นลูกที่ไม่ธรรมดา ทำเป็นแต่ขุดหลุมพรางให้เขา ผู้เป็นพ่อเท่านั้น แต่…… เลือดข้นกว่าหัวใจ
และนี่ก็คือลูกที่หานมู่จื่อให้กำเนิดกับเขา เมื่อนึกถึงอย่างนี้ แววตาและสีหน้าของเย่โม่เซิน ก็ไม่ได้บึ้งตึงเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว กลับอ่อนโยนลงไม่น้อย
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ต้องการให้หม่ามี๊ของหนูกังวลเรื่องนี้ มากกว่าหนูเสียอีก กลับเป็นหนู เวลาที่โทรหาเธอ อย่าให้มีพิรุธ”
เสี่ยวหมี่โต้วส่งเสียงไม่พอใจ “ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะ แดดดี้ตัวร้าย!”
ตู้ดๆ
อีกฝ่ายน่าจะทะนงตัวแล้ว เมื่อโกรธก็วางสายวิดีโอคอลทันที เสี่ยวหมี่โต้วที่มีชีวิตชีวาบนหน้าจอโทรศัพท์หายไปแล้ว แทนที่ด้วยหน้าจอเดิมของโทรศัพท์
เย่โม่เซินเฝ้าดูฉากอย่างนี้ นิ่งไปสักพัก จากนั้นก็ปิดเสียงและล็อคหน้าจอโทรศัพท์ เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ
เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าคณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงในห้องประชุม ทั้งหมดกำลังมองมาที่เขา
สีหน้าของทุกคน ดูเหมือนไม่มีความสนใจอะไรเลย ราวกับว่าไม่ได้ยินการสนทนาของเขากับเสี่ยวหมี่โต้วเลย
ริมฝีปากบางของเย่โม่เซินยกขึ้นเล็กน้อย พลังรอบตัว น่าสยองอย่างอธิบายไม่ถูก
“น่ามองมาก?”
เขาถาม
คณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงถูกเขาถามอย่างนี้ ก็รีบดึงสายตากลับทันที เอามือปิดปากอย่างเก้อเขิน ไอเบาๆเพื่อปกปิด
แม้กระทั่งยังมีคนอาวุโสพูดล้อเล่น “คุณชายเย่กับคุณชายเย่น้อย มีความสัมพันธ์ที่ดีมากเลยนะ ฮ่าๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะนั้นไพเราะและยาวนาน อาจจะรู้สึกว่าเก้อเขินมาก ดังนั้นคนอื่นๆก็เลยทำตามด้วย
“ใช่เลยๆ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ”
เย่โม่เซินสีหน้าบึ้งตึง
“ภรรยาท่านประธานของเรา เก่งมากจริงๆ มีลูกที่น่ารักขนาดนี้ ให้ประธานเย่ของเรา อีกอย่างภรรยาท่านประธานยังสง่างามและใจกว้าง ก่อนหน้านี้ตอนที่ประธานเย่ยังไม่ได้กลับบริษัท ก็คือภรรยาท่านประธานที่บริหารบริษัท”