บทที่106 ผู้หญิงของเย่โม่เซิน
“ด้านนั้นมีปัญหา?” แววตาของเย่โม่เซินค่อยๆเปลี่ยนกลายเป็นแววตาที่ดุดันและลุ่มลึก “ใครเป็นคนบอกคุณ?”
แววตาของเขาดูดุร้ายมากทำให้เสิ่นเฉียวกลืนน้ำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว “คนข้างนอกบอกมา”
“หึ คนข้างนอกพูดอะไรคุณก็เชื่อหมดงั้นหรอ? ด้านนั้นของฉันมีปัญหารึเปล่า คุณไม่รู้รึไง?”
อยู่ๆเย่โม่เซินจับข้อมือของเธอแล้วดึงมือเธอไปวางอยู่บนจุดจุดหนึ่ง เสิ่นเฉียวตกใจจนร้องออกมา เธออยากจะดึงมือกลับมา!
“สัมผัสดูดีดีว่าแท้จริงแล้วฉันมีปัญหาด้านนั้นรึเปล่า!”
ในสมองของเสิ่นเฉียวขาวโพลนไปหมด ใครจะไปมีเวลาหรือมีความคิดที่จะไปสัมผัสเขา เธอตกใจจนก้มหน้าลงแล้วกัดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที จากนั้นอาศัยจังหวะที่เขาเผลอรีบดึงมือของตัวเองกลับไป
“เย่โม่เซินคุณคือไอ้โรคจิต!”
“ฉันโรคจิต? เมื่อคืนตอนที่คุณขอร้องให้ฉันเอาคุณ ทำไมไม่บอกว่าฉันโรคจิตล่ะ?” เย่โม่เซินหัวเราะอย่างชั่วร้าย เขาก้มหัวแล้วกัดไปที่คางเล็กๆของเธอหนึ่งที “คิดว่าตัวเองเป็นแมวป่างั้นหรอ? เอะอะก็มากัดคนอื่น?”
ใบหน้าของเสิ่นเฉียวแดงก่ำราวกับว่ามีเลือดไหลออกมา
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่า….ความรู้สึกที่เย่โม่เซินมีต่อเธอมันไม่ค่อยเหมือนเดิมแล้ว!
“จำเอาไว้!” เย่โม่เซินพูดที่ข้างหูของเธอ น้ำเสียงหนักแน่น “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณคือผู้หญิงของเย่โม่เซิน”
หัวใจของเสิ่นเฉียวเต้นรัว
เขาพูดอะไรนะ?
“ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเป็นสามีเก่าของคุณคนนั้น หรือว่าเย่หลิ่นหาน หรือว่าจะเป็นผู้ชายคนอื่น คุณห้ามติดต่อกับพวกเขาอีก แล้วก็ห้ามคุณมองคนอื่นด้วย”
เสิ่นเฉียว:“……”
“ถ้าฉันเห็นว่าคุณยังติดต่อข้องเกี่ยวกับพวกเขา หรือคุณนอกใจละก็…….”
ก๊อก ก๊อก—
ในจังหวะนั้นเอง มีคนมาเคาะประตูห้อง เย่โม่เซินขมวดคิ้ว “มีเรื่องอะไร?”
เซียวซู่พูดอย่างนอบน้อมจากนอกห้อง “คุณชายเย่ ใกล้ถึงเวลาประชุมแล้วครับ”
“เข้าใจแล้ว”
เย่โม่เซินจ้องมองสีหน้าที่เหม่อลอยของเสิ่นเฉียว เขายื่นมือไปดีดหน้าผากของเธอ “ได้ยินมั้ย?”
ถึงแม้ว่าเสิ่นเฉียวจะยังไม่ได้ดึงสติกลับมา แต่เมื่อได้ยินคำคำนี้ เธอก็เอามือไปจับที่หน้าผากของตัวเองแล้วพยักหน้า
“วันนี้พักผ่อนอยู่ในโรงพยาบาลให้ดีๆ ฉันจะให้คนมาคอยเฝ้าคุณ หลังจากเลิกงานแล้วฉันจะมารับคุณ”
“…..อืม”
หลังจากที่เย่โม่เซินเดินออกไปแล้ว เสิ่นเฉียวก็ยังคงเหม่อลอย ไร้สติอยู่อย่างนั้น ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ดังนั้นเธอจึงนั่งอยู่บนเตียงแล้วตั้งใจเรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมื่อคืน รวมไปถึงคำพูดที่เย่โม่เซินพูดออกมาเมื่อตะกี้นี้
เมื่อคืนเธอโดนวางยา ในห้องจุดยาสลบเอาไว้ ลู่สุนฉางนึกว่าเย่โม่เซินไร้สมรรถภาพทางเพศ ดังนั้นจึงตั้งใจจะวางยาเขา จุดประสงค์คือต้องการรังควานเย่โม่เซิน อีกทั้งยังสามารถทำร้ายเธอในเวลาเดียวกัน แต่สุดท้ายเย่โม่เซินสบายดีไม่เป็นอะไร เธอตื่นมาก็โอเคดี มีเพียงร่องรอยแห่งรักมากมายอยู่ทั่วร่างกายของเธอโดยที่ไม่รู้สาเหตุ
ในตอนนี้เย่โม่เซินก็มาบอกกับเธออีกว่า จากนี้เป็นต้นไปเธอคือผู้หญิงของเย่โม่เซิน
นั่นหมายความว่าเมื่อคืนพวกเขาทั้งสองอยู่ด้วยกัน?
เมื่อคิดถึงรอยช้ำบนร่างกายคือสิ่งที่เย่โม่เซินเป็นคนทำแล้ว อุณหภูมิบนใบหน้าของเสิ่นเฉียวอยู่ๆก็พุ่งสูงขึ้นมาทันที
พระเจ้า
ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าสวรรค์ต้องล้อเล่นครั้งใหญ่อะไรกับเธอ ต้องการจะแกล้งเธอให้ตายไปเลย
นึกไม่ถึง….
นึกไม่ถึงว่าคนที่อยู่ด้วยกันกับเธอเมื่อคืน จะเป็นเขา
ในตอนนั้นเอง เสิ่นเฉียวไม่รู้ว่าตัวเองควรจะดีใจหรือเสียใจดี
*
เธออยู่ในโรงพยาบาลคนเดียวเป็นเวลาครึ่งวัน ต่อมาเธอเริ่มรู้สึกเบื่อ เธออยากจะทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล
แต่ข้อมูลที่เธอได้รับคือ ตอนที่เย่โม่เซินยังไม่ได้กลับมา เธอห้ามออกจากโรงพยาบาล ต้องรอเขาอยู่ที่นี่
เสิ่นเฉียวทำได้เพียงเดินกลับห้องพัก จากนั้นเริ่มต้นวันเวลาที่น่าเบื่อ
หลังจากที่เธอกลับมาจากการเข้าห้องน้ำ ขาทั้งสองข้างของเสิ่นเฉียวสั่นเล็กน้อย เธอลองสังเกตตัวเองต่อจากเมื่อตะกี้ นอกจากบริเวณคอแล้วบนร่างกายของเธอก็เต็มไปด้วยรอยช้ำ ขาทั้งสองข้างที่กำลังสั่นก็คอยเตือนเธอว่าเมื่อคืนพวกเธอสองคนได้ทำเรื่องที่บ้าบิ่นด้วยกันมากมาย
แต่เธอกลับมีเรื่องมากมายที่นึกไม่ออก เธอจำลางๆได้แค่เย่โม่เซินถามเธออยู่ตลอดว่าสบายดีมั้ย ยังอยากจะเอา….
จากนั้นเธอก็…
สรุปแล้ว เสิ่นเฉียวในตอนนี้รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก
เธอรู้สึกว่า ตัวเองไม่มีหน้าไปเจอกับเย่โม่เซินแล้ว
ตอนที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงดังแว่วมาจากนอกห้อง เหมือนว่าจะเป็นเสียงของล้อรถเข็น
เขาเลิกงานแล้ว?
สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไปทันที เธอรีบหลับตาแกล้งทำเป็นนอนหลับทันที
“คุณชายสองเลิกงานแล้วหรอคะ? คุณนายน้อยสองง่วงอยู่ทั้งวัน ตอนนี้น่าจะหลับไปแล้วค่ะ”
ขอบคุณป้าเฉิน! ยะฮู้! ในเวลานี้เสิ่นเฉียวกำลังโห่ร้องด้วยความดีใจ เธอน่าจะสามารถแกล้งหลับต่อเพื่อหลบหนีเย่โม่เซินได้
“อืม”
น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและเยือกเย็นฟังไม่ออกว่าอารมณ์ของเขาคืออะไร
เสียงล้อรถเข็นค่อยๆเบาลง จากนั้นหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าเตียงที่เธอนอนอยู่ เสิ่นเฉียวแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร ยังคงแกล้งหลับต่อไป
“พวกคุณออกไปเถอะ”
เสิ่นเฉียวได้ยินฝีเท้าของคนสองคนเดินออกไป น่าจะเป็นเซียวซู่และป้าเฉิน
จากนั้นบรรยากาศภายในห้องพักเริ่มเงียบสนิท เมื่อผ่านไปสักพักเสิ่นเฉียวได้ยินเสียงพลิกแผ่นกระดาษ เธอแอบลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย เธอมองเห็นตำแหน่งที่เย่โม่เซินอยู่เปลี่ยนไป เขากำลังก้มหน้าอ่านนิตยสารอยู่
เสิ่นเฉียว:“……”
บ้าอะไรเนี๊ยะ เขาจะไม่ออกไปรึไง? จะนั่งอยู่ที่นี่อ่านนิตยสาร?
เสิ่นเฉียวหลับตาลงอีกครั้ง หึ คุณก็อ่านไปเถอะ ฉันจะแกล้งนอนหลับไปเรื่อยๆ
เสิ่นเฉียวยังคงไม่ขยับตัว เย่โม่เซินยังคงนั่งอ่านนิตยสารต่อไป
เย่โม่เซินค่อยๆพลิกกระดาษ แต่หลังจากที่เขาได้ยินเสียงลมหายใจของคนที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆสงบลง เสียงพลิกหน้ากระดาษของเขาเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน สุดท้ายเขาเงยหน้าขึ้น สายตาที่เย็นชาจ้องมองไปที่ใบหน้าเล็กๆที่ขาวผ่องใบนั้น
เธอกำลังแกล้งหลับ เขารู้ดี
เธอคิดว่าคนอื่นจะดูไม่ออก แต่ลมหายใจของคนที่คนนอนหลับกับคนที่ไม่ได้นอนหลับมันไม่เหมือนกัน อีกทั้งเสียงหัวใจเต้นก็สามารถแยกแยะได้
ผู้หญิงโง่คนนี้….ยังคิดว่าตัวเองแกล้งทำได้อย่างแนบเนียน
ตระกูลเสิ่น ทำไมถึงหาคนแบบนี้มาให้?
เย่โม่เซินหรี่ตาเล็กน้อย
เขานึกถึงเอกสารที่เซียวซู่เอามาให้เขา
การใช้ชีวิตของเสิ่นเฉียวนั้นจำเจและเหมือนเดิมทุกวัน ทุกๆวันนั้นเรียบง่าย เธอไปทำงานแล้วก็กลับบ้าน ทำอาหาร ดูแลและอำนวยความสะดวกเรื่องทั่วไปให้สามี
แต่ผู้ชายคนนั้นกลับมีผู้หญิงอื่นอยู่ข้างนอกตลอดเวลา
แม้แต่การแต่งงานในครั้งนั้นก็เต็มไปด้วยการหลอกลวง
ก่อนแต่งงาน ผู้ชายก็มีเรื่องนอกใจอยู่แล้ว แค่เขากับผู้หญิงคนนั้นทะเลาะกันเลยมาประชดแต่งงานกับเสิ่นเฉียวด้วยความโกรธ ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็กลับมา…
จนกระทั่งผู้ชายถูกลอตเตอรี่ในวันนั้น ทั้งสองจึงหย่าร้างกัน
ถึงแม้ว่าเธอจะเจอกับเรื่องที่เลวร้ายมาก แต่ทำไมถึงเป็นเธอที่ได้แต่งเข้ามาในตระกูลเย่? ในเมืองเป่ยมีผู้คนมากมายที่อยากจะมาสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ แต่คนส่วนใหญ่ต้องการเย่หลิ่นหาน แต่ไม่ได้ต้องการเขาเย่โม่เซิน
เพราะในสายตาของทุกคนเย่โม่เซินเป็นแค่คนไร้ค่าที่นั่งอยู่บนรถเข็นตลอดเวลา ในทุกๆวันต้องมีคนคอยดูแล อีกทั้งยังมีด้านนั้นที่ไร้สมรรถภาพ
ดังนั้นการแต่งงานกับเขามันมีความหมายแอบแฝงว่า ไม่เพียงแค่เป็น ‘คนรับใช้’ คนหนึ่งที่ต้องคอยดูแลเขาแล้ว อีกทั้งยังต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยว ไม่มีชีวิตรักเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วๆไป
อย่างน้อย ในสายตาของคนข้างนอกมองว่าเป็นเช่นนี้
ผู้หญิงทั่วไปใครจะอยากมาทำแบบนี้? นอกจากซะว่ายังไงๆก็ต้องการจะมาผูกสัมพันธ์กับตระกูลเย่ให้ได้ เพื่อหวังจะได้ครอบครองผลประโยชน์และทรัพย์สินของตระกูลเย่
แต่ทว่าจากพฤติกรรมของเสิ่นเฉียวในวันนี้แล้ว มันทำให้เย่โม่เซินดูไม่ออกซะแล้ว
ในช่วงระยะเวลานี้ที่เธอมาอยู่ในตระกูลเย่ เธอไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรออกมา ทุกๆวันทำแต่เรื่องแปลกๆ
แม้แต่ในเมื่อคืน….