บทที่1063 ความทรงจำอันแสนซับซ้อน(1)
ประธานบริษัทตระกูลเย่อันยิ่งใหญ่ มาเสิร์ฟอาหารแทนหล่อนในร้านเล็กๆแบบนี้ เป็นเรื่องที่หล่อนไม่เคยคิดถึงมาทั้งชีวิต ถ้าไม่ได้เป็นเพราะมู่จื่อ…
รู้สึกว่าตั้งแต่ตัวเองได้รู้จักกับมู่จื่อ ดูเหมือนว่าทุกอย่างก็ดูเปลี่ยนไป
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เสี่ยวเหยียนก็ก้มหน้าหลบสายตา ไม่พูดอะไร
และในตอนนั้นเอง เซียวซู่กลับพูดบางอย่างขึ้น: “อันที่จริงเธอไม่ต้องรู้สึกไม่สบายใจหรอก คุณชายเย่ทำแบบนี้ต้องมีเหตุผลแน่นอน ตอนนี้คุณชายเย่เชื่อฟังคำพูดของคุณนายน้อยมาก เธอไม่ต้องกังวลอะไรเลย”
เสี่ยวเหยียนรู้ดีว่าที่เย่โม่เซินทำแบบนี้ก็เป็นเพราะมู่จื่อ แต่เพราะว่าเป็นเพราะมู่จื่อ ภาระที่หล่อนต้องแบกรับจึงมีมากขึ้น
“อื้ม”
หล่อนพยักหน้าลง ไม่พูดอะไรต่อ
เซียวซู่มองดูใบหน้าด้านข้างของหล่อน ขยับปากเล็กน้อย ดูเหมือนจะพูดบางอย่าง แต่ก็เงียบไป
หลัวหุ้ยเหม่ยที่อยู่ด้านข้างเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ จึงเข้าใจขึ้นมาทันที
ไม่นานนัก หานมู่จื่อก็เห็นใครบางคนออกมาจากห้องครัว ในมือยังถือถาดอาหาร บนถาดอาหารมีบะหมี่วางอยู่สองชาม
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หานมู่จื่อตกตะลึงไปทันที หล่อนรู้ดีว่าเย่โม่เซินเข้าไปช่วยแทนตัวเอง แต่หล่อนคิดว่าเย่โม่เซินคงเข้าไปช่วยแค่งานเล็กๆน้อยๆในครัว เช่น ล้างผัก คิดไม่ถึงว่าเขากลับ…
ออกไปช่วยเสิร์ฟอาหาร?
หานมู่จื่อกระพริบตาปริบๆ รู้สึกว่าอีกไม่นานในร้านต้องคึกคักมากขึ้นแน่นอน
สองสามีภรรยาหันมาสบตากัน หานมู่จื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนของเย่โม่เซิน แต่ภายใต้ความรู้สึกนั้นกลับมีความและเอ็นดูเพิ่มมากขึ้น
ไม่นานนัก ความรู้สึกฝืนทนกลับถูกแทนที่ด้วยความรักอย่างรวดเร็ว เขาขยับปากอันเรียวบาง พูดกับหานมู่จื่อสองคำ
ไม่มีเสียงดังออกมา แต่หานมู่จื่อกลับเข้าใจความหมายของเขา
“ประธานเย่พูดอะไรอยู่ใช่ไหม? เขาพูดอะไร? เขาคงไม่โกรธใช่ไหม?” แม้ว่าหานมู่จื่อจะพูดทำความเข้าใจเรื่องแนวคิดการทำงานกับพ่อจางแล้ว แต่พ่อจางยังคงรู้สึกไม่สบายใจ
ดังนั้นตั้งแต่วินาทีที่เย่โม่เซินเดินออกมา สายตาของเขาก็คอยจดจ้องมองไปที่เย่โม่เซินตลอด
ตอนนี้เขาดูเหมือนขุนนางในสมัยโบราณ แต่เย่โม่เซินนั้นเป็นเหมือนราชา
ราชาลดฐานะของตัวเองมาเสิร์ฟอาหารให้กับลูกสาวขุนนางอย่างเขา เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงก็เหลือเชื่อมากจริงๆ พ่อจางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัวเช่นกัน
รู้สึกว่าวินาทีต่อไปเย่โม่เซินจะโมโหระเบิดได้ตลอดเวลา
แต่เมื่อหันมองดูหานมู่จื่อที่นั่งยิ้มอยู่ พ่อจางกลับรู้สึกว่าความหวาดกลัวของตัวเองหายไปเยอะพอสมควร
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อจาง เขาไม่โกรธหรอกค่ะ”
แน่นอนว่าหานมู่จื่อไม่ได้บอกพ่อจางว่าเมื่อครู่เย่โม่เซินพูดอะไรอยู่ เพียงแต่ก้มหน้าลงและยิ้มเล็กน้อย
เขาไม่พูดอะไร เพียงแค่ขยับปากเฉยๆ แต่หานมู่จื่อกลับเข้าใจความหมายนั้น
เขาพูดว่า——รอผมนะ
จากนั้นหานมู่จื่อก็ได้ยินเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจดังขึ้นมาในร้าน หล่อนฟังและจับใจความดู จากนั้นหันไปดูที่ต้นเสียง
เป็นผู้หญิงสองสามคน เมื่อพวกหล่อนเห็นเย่โม่เซินที่มีหน้าตาทั้งหล่อและดูดี จึงอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา จนหลายคนในโต๊ะนั้นต่างพากันหน้าแดง
แต่พอเย่โม่เซินเสิร์ฟอาหารเสร็จ ก็หันหลังเดินออกมาด้วยสีหน้าเย็นชาทันที
“คุณพระ เดี๋ยวนี้พนักงานเสิร์ฟหล่อมากขนาดนี้เชียวเหรอ? หน้าตาดีแบบนี้มาเป็นพนักงานเสิร์ฟ ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
“คิดมากไปแล้ว ท่าทางของเขา ดูก็รู้ว่าไม่ใช่พนักงานเสิร์ฟ”
“ไม่ใช่พนักงานเสิร์ฟ แล้วเขามาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”
“เห็นยี่ห้อของเสื้อสูทตัวนั้นที่เขาใส่ไหมล่ะ? นั่นเป็นยี่ห้ออันโด่งดังที่มีการออกแบบพิเศษของประเทศIเลยนะ แค่ราคาของเสื้อสูทตัวนี้ก็ไม่รู้มากเท่าไหร่แล้ว จะมาเป็นพนักงานเสิร์ฟได้ยังไงล่ะ? อีกอย่างดูจากท่าทางของเขาแล้ว คงเป็นคนเก่งมากความสามารถอีกด้วย”
“แล้วทำไมถึงมาเป็นพนักงานเสิร์ฟที่นี่ล่ะ?” เมื่อได้ยินว่าเย่โม่เซินเก่งขนาดนี้ สาวๆที่พูดคุยกันอยู่รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที: “ฟังเธอพูดแล้ว เขาดูเก่งมากเลย ฉันยังคิดว่าเป็นเพียงแค่พนักงานเสิร์ฟที่หน้าตาดีเท่านั้น ยังคิดจะจีบเขาอยู่เลย”
“โอ๊ย พวกเธอฝันกลางวันอะไรกัน? ผู้ชายหน้าตาดีส่วนใหญ่ก็มีแฟนกันหมดแล้ว ต่อให้ไม่มีแฟน เอ่อ…ก็มีแฟนเป็นผู้ชายแหละ”
หญิงสาวพวกนั้นต่างพากันหัวเราะเยาะอย่างสนุกสนาน
เย่โม่เซินกลับเข้าไปในครัว และเสิร์ฟอาหารต่อ หลัวหุ้ยเหม่ยเห็นว่าเขาทำได้ดี จึงให้เขาทำหน้าที่นี้ และคอยยิ้มให้ตลอด
เพราะหล่อนรู้สึกว่าแม้เย่โม่เซินจะมีสีหน้านิ่งเรียบตลอด แต่คนพวกนั้นที่มีข้อความเขียนว่าอย่าเข้าใกล้บนหน้าผาก ให้เขาไปเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร ช่างเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลจริงๆ
แต่…เขาหล่อมากไงล่ะ!
อีกทั้งเขากับเสี่ยวหมี่โต้วยังมีหน้าตาคล้ายกันอีกด้วย ผู้ใหญ่หนึ่งคน เด็กหนึ่งคน ออกไปเสิร์ฟอาหาร ช่างเป็นร้านราเม็งที่มีบรรยากาศพิเศษเหลือเกิน
จากนั้นจึงทำให้ธุรกิจร้านราเม็งโด่งดังระเบิดขึ้นมาทันที
ขณะที่เย่โม่เซินหันหลังกลับไป ทันใดนั้นในหัวของเขาก็มีภาพต่างๆแวบขึ้นมามากมาย
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงดังขึ้นข้างหูของเขา
“เสิ่นเฉียว ฉันขอเตือนเธอไว้ เมื่อก่อนเธอก็เป็นแค่ผู้ช่วยของฉันเท่านั้น”
“ช่วยนาย ก็แค่ไม่อยากให้ตระกูลเย่ต้องขายหน้า เข้าใจ?”
คำพูดเหล่านี้…เย่โม่เซินเลิกคิ้วขึ้น เป็นสิ่งที่เขาพูดเองนี่
แม้ว่าช่วงนี้เขาใช้เวลาอ่านเรื่องในอดีตของคนทั้งสองที่เซียวซู่ให้เขาหลายครั้ง แต่เขาก็ทำได้เพียงทำความเข้าใจกับบางเรื่อง รายละเอียดบางส่วนในบทสนทนายังคงแกะไม่ออก ดังนั้นเย่โม่เซินจึงทำได้เพียงพึ่งเอกสารเหล่านั้น และบางครั้งก็สามารถเชื่อมโยงไปถึงบางเหตุการณ์ได้
อีกอย่าง…การที่จะคิดถึงภาพเหตุการณ์เหล่านั้นได้ ต้องเสียแรงมากจริงๆ
บางครั้ง เมื่อมีภาพบางอย่างแวบขึ้นมาในหัว ก็จะมีเศษภาพความทรงจำล่องลอยไปมา
แต่…ยังคงนึกขึ้นได้ไม่ครบทั้งหมด
แต่การโต้ตอบของบทสนทนาของคนสองคนข้างหูเมื่อครู่ กลับทำให้เย่โม่เซินรู้สึกตกใจ
น้ำเสียงนั้นฟังดู…
เมื่อก่อนเขา…ทำเรื่องเลวร้ายอะไรกับมู่จื่อลงไปบ้าง?
คงเป็นเพราะมีเรื่องรัดตัวเขามากมาย เย่โม่เซินจึงดูเย็นชาและหล่อมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อลูกค้า กลับดึงดูดลูกค้าผู้หญิงมากขึ้น กระทั่งยังมีคนทักทายเขาแต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ แต่ยังทำสีหน้าเคอะเขิน
“โห…หล่อมากเลย หล่อที่สุด…ฉันชอบใบหน้าอันเย็นชาแบบนี้มาก ผู้ชายคนเดียวของฉัน! อยากจะเป็นลมสลบไปเลย!”
เย่โม่เซินรู้สึกปวดหัวมาก เขายกมือขึ้นนวดระหว่างคิ้ว พลางก้าวลงบันได
ด้านหลังมีคนตามมา
“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ”
เย่โม่เซินหยุดเดิน หันไปมองคนนั้นอย่างไม่สบอารมณ์
คนที่ตามมาเป็นสาวน้อยใบหน้าแดงก่ำ หล่อนกัดริมฝีปากของตัวเองแน่น มองเย่โม่เซินด้วยความตื่นเต้น
“เอ่อ…เพื่อนของฉันอยากสั่งราเม็งเนื้อเพิ่มหนึ่งชามค่ะ รบกวนช่วยเพิ่มเข้าไปในบิลให้ด้วยได้ไหมคะ?”
เย่โม่เซินหลบสายตา พูดด้วยเสียงเย็นชา: “ได้”
เมื่อหญิงสาวคนนั้นได้รับการตอบกลับจากเขา สายตาเต็มไปด้วยความสุข “คุณผู้ชายใจดีจังเลยค่ะ งั้นขอ….”
เย่โม่เซินขมวดคิ้วขึ้น ตรงหน้ามีเศษภาพความทรงจำปรากฏขึ้นมากมาย อีกทั้งยังพุ่งเข้าใส่หัวเขาอย่างจัง เขาปวดหัวทวีคูณมากขึ้น ภาพตรงหน้าเป็นภาพหมอกสีดำปกคลุมเข้ามา
ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างยังคงบ่นพึมพำ
“ฉัน…อันที่จริงเพื่อนของฉัน…บอกว่าคุณหล่อมาก อยากเป็นเพื่อนกับคุณ ไม่ทราบว่าขอแอดเป็นเพื่อนในวีแชท…”
“อันที่จริง ฉันแค่…ว๊าย! คุณ!คุณเป็นอะไรรึเปล่า!”
หานมู่จื่อที่กำลังพูดคุยกับพ่อจางอยู่ จู่ๆได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องด้วยความตกใจมาจากชั้นสอง
หล่อนตกใจจนปัดแก้วชาล้ม น้ำชาร้อนจัดลวกใส่มือขาวนวลของหล่อนจนแดง