บทที่1076 ลูกชายลูกสาวครบ
“…”
ในพื้นที่แคบๆ เสี่ยวเหยียนก็ได้ถูกเซียวซู่กดดันจนถอยหลังออกไปไม่หยุด จนหลังชนเข้ากับผนังเย็นๆ ถอยจนถอยออกไปไม่ได้อีก
เธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปขวางการก้าวเข้ามาของเซียวซู่
“นาย นายอย่าเข้ามาอีกสิ”
มือเล็กที่อ่อนนุ่มดันอยู่บนหน้าอกของเขาอยู่อย่างนั้น เซียวซู่ก้มหน้ามองมือเล็กที่ทั้งขาวทั้งเนียนละเอียดคู่นั้น คิดอยู่เสมอว่าภายในใจเหมือนกับถูกอะไรชนเข้ามาก็ไม่ปาน หัวใจสั่นไหวขึ้นมาไม่หยุด
หญิงสาวตรงหน้าน่ารักไร้เดียงสา ถ้าไม่ควบคุมจิตใจเอาไว้ ในตอนนี้เขายอมจำนนไปแล้วจริงๆ…
คิดมาจนถึงตรงนี้แล้ว เซียวซู่ก็หลับตาลง พยายามควบคุมความคิดไม่ดีของตัวเองเอาไว้
“ผมก็แค่อยากบอกเธอ ผมจะไม่บังคับเธอ แต่เธอก็ควบคุมความคิดของผมไม่ได้เหมือนกัน ผมบอกว่าผมชอบเธอนั้นผมจริงจัง อยากคบกับเธอนั่นก็จริงจัง แต่…นี่ก็ต้องให้โอกาสผมหน่อย”
เสี่ยวเหยียนนึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่เขารุกขนาดนี้ได้ อีกทั้งยังเข้ามาใกล้เสียขนาดนี้ ทำเอาเธอไม่อาจหลบหนีไปไหนได้เลย
เธอมองเซียวซู่ที่อยู่ใกล้ๆไปอย่างนิ่งอึ้ง “เอ่อ…”
“ดังนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะไม่อยากให้โอกาสผม และก็อย่าผลักผมออกไปเลย ได้มั้ย?”
เซียวซู่ก้มหน้าลง แสดงท่าทีของตัวเองที่อ่อนลงอย่างชัดเจน
เสี่ยวเหยียนตื่นตกใจ นี่เขากำลังขอเธองั้นหรอ?
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้?
เธอก็แค่ไม่อยากให้เซียวซู่ต้องมาเสียเวลาอยู่กับเธอเพียงเท่านั้น ถึงยังไงในตอนที่คุณมองคนอยู่เพียงคนเดียว ก็จะพลาดชมทิวทัศน์อื่นที่อยู่รอบๆตัวไป
แต่เธอนึกไม่ถึงว่าเซียวซู่จะ…
ติ๊ง——
ในตอนที่เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้ของเซียวซู่ยังไงอยู่นั้นเอง ประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออก เสี่ยวเหยียนก็เหมือนกับคว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ใช้แรงผลักเซียวซู่ออกไปอย่างแรง จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปข้างนอก
แต่ในตอนที่เพิ่งจะวิ่งออกไปนั้นเองเธอก็ได้นิ่งอึ้งไปทันที เพราะเธอเห็นหานชิงนั่นเอง
เขารอลิฟต์อยู่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์ สีหน้าของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนไป ในใจก็คิดว่าฉากเมื่อครู่นี้จะถูกหานชิงเห็นเข้าหรือเปล่า
ภายในใจของเธอหวั่นกลัวขึ้นมา ริมฝีปากสั่นรัวออกมา อยากจะพูดอะไรออกไป แต่พูดไม่ออกเลยสักคำเดียว
ในตอนที่เธอกำลังสับสนอยู่นั้น หานชิงก็ได้เดินเข้าลิฟต์ไปด้วยใบหน้าเย็นชาเสียแล้ว
เขา…ไม่ได้แคร์อะไรอยู่แล้ว
แล้วเธอจะยังมาคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ตรงนี้ไปทำไมกัน?
เสี่ยวเหยียนไม่ได้ลังเลอีกต่อไป รีบเร่งฝีเท้าออกไปทันที
เห็นก็เห็นไปสิ ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว อย่าว่าแต่เมื่อกี้นี้เธอกับเซียวซู่ไม่ได้ทำอะไรอื่นกัน ถึงแม้ว่าเธอกับเซียวซู่จะกอดกันคาดว่าใบหน้าของเขาก็คงไม่มีทางจะมีสีหน้าอื่นใดออกมาได้หรอก
เธอกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วย หานมู่จื่อกำลังนั่งอยู่ด้านใน เห็นเธอเข้ามา ก็ยิ้มทักทายกับเธอออกมา
“เสี่ยวเหยียน เธอมาแล้ว”
เสี่ยวเหยียนรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมู่จื่อ ดังนั้นแล้วก็ทำได้แค่เพียงบังคับให้ตัวเองฝืนยิ้มออกไป
“อืม เธอเป็นยังไงบ้าง? ฉันได้ยินเซียวซู่บอกว่าน้าส้งพาเธอไปหาหมอ? ใช่เพราะเรื่องช่วงนี้ทำให้ลูกในท้อง…”
“ไม่ใช่”
หานมู่จื่อส่ายหน้าปฏิเสธออกมา “ก็แค่ไปตรวจดูสักหน่อย เพื่อความสบายใจ ลูกไม่เป็นอะไร เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
“งั้นก็ดี” เสี่ยวเหยียนผ่อนลมหายใจออกมา จากนั้นก็เดินเข้าไป
“คืนนี้เสี่ยวหมี่โต้วไม่อยู่ ฉันนอนกับเธอแล้วกัน”
หานมู่จื่อชะงักไปแวบนึง นึกขึ้นมาได้ว่าพวกเธอทั้งสองคนไม่ได้นอนด้วยกันมานานแล้ว ตอนก่อนที่เธอยังไม่คลอดเสี่ยวหมี่โต้ว ก็ได้นอนเตียงเดียวกับเสี่ยวเหยียนอยู่เป็นประจำ บางคืนพวกเธอก็จะเม้าท์มอยกันอยู่นาน มักจะมีเรื่องที่พูดกันไม่จบอยู่ตลอด
“ได้เลย”
เวลาห่างหายมานาน หานมู่จื่อเองก็คิดถึงความรู้สึกนั้นเหมือนกัน
ดังนั้นแล้วทั้งสองคนก็เลยถอดเสื้อกันหนาวเบียดเข้าด้วยกัน เพราะว่าตอนนี้เป็นฤดูหนาว การแนบชิดเข้าด้วยกันก็เลยอบอุ่นอย่างมาก พูดได้เลยว่าเป็นการมอบความอบอุ่นให้แก่กัน
แต่เพราะเรื่องการตั้งครรภ์ของหานมู่จื่อ การเคลื่อนไหวของเสี่ยวเหยียนก็เบาเป็นพิเศษ ไม่กล้ากอดไปแรงนัก กลัวว่ามันจะไปทำร้ายมู่จื่อเอาได้
เพียงไม่นาน ความอบอุ่นในผ้าห่มก็ได้สูงขึ้น
เสี่ยวเหยียนถอนหายใจออกมา
“ฉันจำได้ตอนที่ฉันเพิ่งไปต่างประเทศ พวกเราก็นอนกอดกันเหมือนตอนนี้ ในตอนนั้น…เธอเองก็เพิ่งจะตั้งท้องได้ไม่นานเท่าไหร่เอง”
นึกไปถึงเมื่อตอนนั้น ตรงหน้าของหานมู่จื่อก็ได้ปรากฏภาพเมื่อหลายปีก่อนออกมา ตอนนั้น…หลังจากที่ที่แยกออกไปจากเย่โม่เซิน เธอก็ไปต่างประเทศ นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเหยียนจะไปกับเธอด้วย
หลังจากนั้นแล้ว ก็เรียกได้เลยว่าได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอมาโดยตลอด
ในตอนที่ตื่นจากฝันอันแสนเจ็บปวดอยู่หลากหลายครั้ง ไม่รู้ว่าเสี่ยวเหยียนปลอบเธอไปกี่ครั้งแล้ว ดังนั้นแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็เลยดีถึงขนาดนี้
หลายปีมานี้ไม่มีเปลี่ยนไปเลย
“ใช่ ตอนนั้นเธอเอาแต่กังวลอยู่ตลอดว่าจะเป็นอันตรายไปถึงลูกฉัน ก็เลยนอนนิ่งเป็นพิเศษเลย”
เสี่ยวเหยียนยู่ปากออกมา “ใช่แล้ว ตอนเด็กๆแม่ของฉันบอกว่าฉันนอนดิ้นมากๆเลย นอนดิ้นกลิ้งไป360องศาจำพวกนั้นเลยก็ว่าได้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นจะเป็นเพราะสิ่งที่ภายในใจแบกรับเอาไว้หรือว่าอะไร นอนกับเธอแล้วนึกไม่ถึงเลยว่าฉันจะไม่เปลี่ยนท่านอนเลยสักนิด”
หานมู่จื่อมองไปทางเธอ พร้อมหัวเราะออกไปเบาๆ
“ทรมานมากเลยใช่มั้ยล่ะ?”
“ไม่! ไม่เลย!” เสี่ยวเหยียนเข้าใกล้เข้ามา เอ่ยออกมาเบาๆ “หาเพื่อนดีๆอย่างเธอได้ ฉันไม่ทรมานเลยสักนิด”
มิตรภาพ ความรัก ครอบครัว ต่างก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากในวงโคจรชีวิตของมนุษย์เรา
เพื่อเพื่อนรักแล้วได้รับความไม่เป็นธรรม ทรมานนิดๆหน่อยๆ เสี่ยวเหยียนก็ไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิด ตอนนี้พอมานึกขึ้นมาก็มีเพียงความสวยงามและความรู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา
ถึงยังไงวันวานเมื่อตอนนั้นก็ไม่ได้ผ่านมานานนัก ต่อจากนั้นท้องของมู่จื่อนับวันก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เสี่ยวเหยียนก็ยิ่งไม่กล้าเล่นพิเรนทร์ขึ้นกว่าเดิม ทุกคืนจะปีนขึ้นเตียงก็ต้องคอยระมัดระวัง ตื่นเข้าห้องน้ำกลางดึกก็ต้องย่องเบาฝีเท้า กลัวว่าจะเสียงดังรบกวนมู่จื่อให้ตื่นขึ้นมา
แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ละเลยเรื่องหนึ่งไปเลย นั่นก็คือเรื่องที่มู่จื่อเป็นคนท้องคนนึง ตอนนั้นเธอขี้เซาเป็นอย่างมาก ต่อมาพอเสี่ยวเหยียนได้นึกย้อนกลับไปแล้ว คิดอยู่เสมอว่าถ้าตอนนั้นเธอเปิดเพลงตอนกลางคืน มู่จื่อก็คงนอนหลับสบาย คิดมาจนถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็หัวเราะคิกคักออกมา
“หัวเราะอะไร?”
เสี่ยวเหยียนก็เลยเอ่ยพูดความในใจทั้งหมดออกไป
ได้ยินแล้วหานมู่จื่อก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ ต่อจากนั้นก็พูดออกไปว่า “ความจริงแล้ว ตอนแรกฉันก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมฉันถึงหลับเก่งขนาดนั้น ตอนนี้คนนี้ก็เหมือนกันอีก…เด็กสองคนนี้หลับเก่งกันเสียจริง”
“ท้องนี้จะเป็นผู้ชายเหมือนกันหรือเปล่าเนี่ย?”
เด็กผู้ชาย? หานมู่จื่อกะพริบตาออกมา บอกไม่ได้ว่ากำลังรู้สึกยังไง
ความจริงแล้วเธอเองก็โลภอยู่บ้าง เธออยากให้ท้องนี้เป็นลูกผู้หญิง
ถ้าเป็นแบบนี้ เธอก็จะได้มีทั้งลูกชายลูกสาวเลยทีเดียว
แต่ถ้าเป็นเด็กผู้ชายจริงๆ ก็ไม่เป็นไร เพราะถึงยังไงเด็กผู้ชายก็ดี เด็กผู้หญิงก็ดีเหมือนกัน ต่างก็เป็นลูกของเธอกับเย่โม่เซินกันทั้งนั้น
คิดมาจนถึงตรงนี้แล้ว หานมู่จื่อก็ยกมือขึ้นมาลูบท้องน้อยของตัวเองเบาๆ ลูกน้อยจะสี่เดือนแล้ว ท้องน้อยก็ได้นูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
เธอเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ “ฉันรู้ดี ถึงยังไงฉันก็ไม่สนใจอยู่แล้วว่าเขาจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย ขอเพียงแค่คลอดออกมาอย่างปลอดภัย นั่นมันก็เป็นบุญมากแล้ว ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง ต่อไปก็จะได้ให้เสี่ยวหมี่โต้วดูแลเธอให้มากๆ ถ้าเป็นผู้ชาย ต่อไปเขาก็จะได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเสี่ยวหมี่โต้วได้”
เสี่ยวเหยียนกระซิบออกมาเบาๆ “อันที่จริงฉันยังคิดว่าเด็กผู้หญิงค่อนข้างดีเลยนะ เด็กผู้หญิงขี้อ้อนกว่า และอย่างนี้แล้วเธอก็จะมีลูกชายลูกสาวครบเลยสิ มู่จื่อ ถ้าท้องนี้ของเธอเป็นผู้ชาย งั้น…เธอก็จะท้องอีกงั้นหรอ? คลอดลูกผู้หญิงสักคน แล้วให้พี่ชายทั้งสองคนดูแลน้องสาว”