เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1090 เธอรู้อยู่แล้ว

บทที่1090 เธอรู้อยู่แล้ว

“ที่จริงไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดหรอก ฉันก็แค่รู้สึกว่าเขาโสดมานานแล้ว ส่วนฉัน ก็อายุไม่น้อยแล้ว พอดีกับที่มู่จื่อเป็นเทพธิดาของฉัน ดังนั้นฉันก็เลยลองถามดู ลองดูว่าจะมีโอกาสหรือเปล่า”

“…”

เสี่ยวเหยียนตะลึงจนอ้าปากค้าง “แบบนี้ก็ได้เหรอ ?”

ท่าทางอ้ำอึ้งของเธอทำเอาหลินซิงหั่วหลุดขำ จนต้องปิดปากหัวเราะอยู่นานสองนาน

“เสี่ยวเหยียน เธอนี่น่ารักจริงๆ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ยังไงฉันก็แค่คิดอยากจะลองเท่านั้นเอง อย่างมากก็แค่โดนปฏิเสธเอง”

“อีกอย่างโอกาสก็หาไม่ได้ง่ายๆ ผู้ชายมีระดับอย่างหานชิงมีอยู่ไม่มากหรอกนะ เดิมทีฉันคิดว่าพวกเธอเป็นแฟนกันซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะไม่ใช่ เธอต้องพยายามหน่อยนะ”

“…พยายาม ? พยายามอะไร”

“พยายามเพื่อให้ได้เป็นแฟนของเขาไง”

“……”

“ฉันว่าเธอมีโอกาสสูงมากนะ อย่าเพิ่งถอดใจ ต้องพยายามสิ”

โอกาสสูงมากกับผีสิ เสี่ยวเหยียนไม่มีทางบอกรายละเอียดที่พวกเขาคุยกันเมื่อครู่กับหลินซิงหั่วเด็ดขาด ถึงแม้หานชิงแทบจะไม่พูดอะไรเลย เหมือนว่าจะถึงตอนสุดท้ายก็ยังมีแต่เธอที่พูดอยู่คนเดียว

จากนั้นก็มีคนโผล่มา เธอก็เลยวิ่งหนีเพราะตกใจ

ช่างน่าผิดหวัง และไร้ประโยชน์จริงๆ

“หยุดพูดเถอะ ไม่มีทางหรอก”

เห็นเสี่ยวเหยียนสลดหดหู่ เดิมทีหลินซิงหั่วอยากจะพูดว่าเธอไม่เห็นสายตาที่หานชิงมองเธอหรือ แต่พอคำพูดมาถึงปลายลิ้นจู่ๆก็เปลี่ยนความคิด ถ้าพูดชัดเกินไปก็หมดสนุกสิ

ปล่อยให้ได้ทายด้วยตัวเองดีกว่า จะได้สนุกหน่อย

“ยังไงฉันก็เชียร์เธอนะ พยายามเข้าล่ะ”

หลินซิงหั่วพูดจบก็ยิ้มออกมาแล้วเดินจากไป

เสี่ยวเหยียนดื่มน้ำผลไม้ต่อด้วยความหดหู่ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าหลินซิงหั่วจะไปพูดแบบนั้นเพราะอยากจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับมู่จื่อ

แต่ว่าเธอก็พูดถูก ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมเหมือนหานชิงนั้นมีอยู่ไม่มาก ที่เธอจะล็อกเป้าหมายไว้ที่ตัวเขานั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา

จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ใช้เวลาที่เหลือไปกับการกิน ดื่ม รอจนงานเลี้ยงเลิก ท้องเธอก็แน่นจนเริ่มรู้สึกอึดอัดแล้ว เพราะสนิทกับหานมู่จื่อมาก หลังจากที่ทุกคนทยอยกลับกันแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เลยอยู่ช่วยเก็บกวาด

แต่มือเธอยังไม่ทันได้สัมผัสสิ่งของเลย ก็ถูกคนรับใช้แย่งไปก่อนแล้ว จากนั้นก็พูดกับเธอว่า

“คุณจางคะ คุณเป็นแขกในงานเลี้ยงคืนนี้ เชิญไปนั่งพักที่ด้านข้างเถอะค่ะ ที่นี่ปล่อยให้พวกเราจัดการเถอะ”

“เอ่อ” จางเสี่ยวเหยียนหนังท้องตึงมาก เมื่อได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับ “ก็ได้ค่ะ ฉันขอไปนั่งสักเดี๋ยว ลำบากพวกคุณด้วยนะคะ”

เธอนั่งลงบนโซฟา โดยไม่สนภาพลักษณ์เลย

วินาทีต่อมาเธอก็เหลือบไปเห็นหานชิง เลยกระเด้งตัวขึ้นมาเพราะความตกใจอีกครั้ง ราวกับนักเรียนที่แอบหลับในชั้นเรียนแล้วยืดตัวตรงทันทีตอนที่อาจารย์ประจำชั้นเดินเข้ามา

จนตอนที่หานชิงจากไปแล้ว เสี่ยวเหยียนถึงได้ทิ้งตัวลงอีกครั้ง

เธอพิงอยู่ตรงนั้นแล้วรู้สึกไม่สบายท้องเป็นอย่างมาก จู่ๆก็เห็นเงาหนึ่งที่แสนคุ้นเคย ก็คือเซียวซู่ที่มาร่วมงานแต่กลับไม่เห็นเงาของเขาเลยตลอดทั้งคืน

พอเห็นเซียวซู่ เสี่ยวเหยียนก็รีบโบกมือเรียกเขา

พอเซียวซู่เข้ามาในงานก็เริ่มสอดส่องมองไปทั่ว ราวกับกำลังตามหาอะไรอยู่ ตอนที่หาเสี่ยวเหยียนเจอ ก็เห็นว่าเสี่ยวเหยียนกำลังโบกมือให้เขาอยู่พอดี มุมปากเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเธอ

เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเธอ เซียวซู่ก็เลยก้มตัวลงไปถามเธอว่า “ดื่มเหล้าเหรอ”

เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า “เปล่า ฉันจะไปดื่มเหล้าได้ยังไง”

ก่อนหน้านี้เธอเมาได้น่ากลัวมาก ในสถานที่แบบนี้เธอไม่มีทางทำตัวไม่เหมาะสมแบบนั้นแน่ “ฉันอยากจะถามนายว่า นายหายไปไหนมาทั้งคืน”

คิ้วเซียวซู่กระตุก คิดไม่ถึงว่าเธอจะถามตัวเองว่าไปไหนมา

“คุณชายเย่ให้ฉันไปทำธุระนิดหน่อย ตอนนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว งานเลี้ยงก็จบพอดี ให้ฉันไปส่งเธอที่บ้านไหม”

ถึงแม้คำพูดสุดท้ายจะเป็นประโยคคำถาม แต่เซียวซู่คว้าท่อนแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของเธอ แล้วพยุงเธอให้ลุกขึ้นแล้ว เสี่ยวเหยียนลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

เซียวซู่เห็นแบบนั้น ก็ถามอย่างขบขันว่า “ในเมื่อไม่ได้ดื่มเหล้า แล้วทำไมเธอถึงมีสภาพเหมือนคนเมาแบบนี้ล่ะ”

“ก็แค่กินมากไปหน่อย” เสี่ยวเหยียนกุมท้องตัวเอง หน้าเป็นสีเขียว “อิ่มจะแย่อยู่แล้ว”

“……”

คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะกินมากไป เซียวซู่ไร้คำพูดไปในทันที จากนั้นก็พยุงเธอเดินออกไปข้างนอก

“ฉันส่งเธอกลับบ้าน เดี๋ยวระหว่างทางแวะซื้อยาช่วยย่อยอาหารด้วยแล้วกัน”

ช่วงนี้เซียวซู่ไปช่วยงานที่ร้านของเธอทุกวัน ไปๆมาๆทั้งสองคนก็เลยสนิทกันมากขึ้น ดังนั้นเสี่ยวเหยียนก็เลยไม่ได้รู้สึกต่อต้านเวลาที่เซียวซู่เข้าใกล้แล้ว

“มันไม่ใช่ทางผ่านนายนี่นา ถ้าผ่านทางก็แวะส่งฉัน ถ้าไม่ผ่านก็ช่างเถอะ ฉันเรียกรถกลับเองได้ ไปส่งถึงหน้าบ้านเลย สะดวกมาก”

“ผ่าน” เซียวซู่ตอบ “ทำไมจะไม่ผ่าน เธอก็รู้อยู่แล้ว”

เสี่ยวเหยียน “……”

เธอแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเอง ทำไมเธอหยิบขวดไหนไม่หยิบดันหยิบขวดที่เปิดฝาไว้อยู่แล้วนะ

ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว……เสี่ยวเหยียนกระแอมเบาๆ แล้วผลักเขาออก ก่อนจะยืนด้วยตัวเอง

“คือว่า ฉันเรียกรถกลับไปเองดีกว่า นายไม่ต้องไปส่งฉันหรอก”

พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็รีบร้อนออกไปข้างนอกทันที เซียวซู่แววตามืดลง แล้วก็เดินตามไปด้วยทันที ช่วงนี้เขาตั้งกระทู้ขึ้นหนึ่งทางอินเทอร์เน็ต หัวข้อก็คือทำอย่างไรถึงจะจีบผู้หญิงคนหนึ่งติด จากนั้นก็บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองลงไปคร่าวๆด้วย

บนอินเทอร์เน็ตมีคนให้คำแนะนำเขาอยู่หลายวิธี

มีที่บอกว่าใช้เงินฟาดหัวเธอ ซื้อของขวัญให้ ซื้อทุกอย่าง ให้ผู้หญิงรับของขวัญรับจนมือไม้อ่อน โบราณว่าไว้ ผู้ชายที่ทุ่มเงินให้คุณอาจไม่ได้รักคุณ แต่ผู้ชายที่ไม่ยอมเสียเงินให้คุณเลยจะต้องไม่ชอบคุณแน่นอน!

ยังมีที่พูดว่าใช้ใจเข้าสู้ เรียกเมื่อไหร่ไปทันที ปรากฏตัวอยู่ข้างกายเธอตลอดเวลา ไม่ว่ายามที่เธอสุขหรือทุกข์ ตอนที่เธอเจอเรื่องยากลำบากให้คอยช่วยเหลือ นานวันเข้า ผู้หญิงก็จะเริ่มพึ่งพาคุณ ในเวลาแบบนั้นก็ถือว่าสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว จากนั้นก็ปล่อยเหยื่อล่อ จากนั้นแฟนสาวก็จะตกหลุมพรางทันที

ยังมีที่บอกว่าให้ใช้ความรุนแรง บังคับจูบ ขืนใจเธอ ถ้าไม่แข็งข้อหน่อย อีกฝ่ายก็จะไม่เห็นคนขี้ขลาดแบบคุณอยู่ในสายตา

ตอนที่เห็นความคิดเห็นนี้ เซียวซู่ก็กดปฏิเสธทันที

ก่อนที่ทั้งสองคนจะยืนยันความสัมพันธ์กัน การกระทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการโกง สุดท้ายเซียวซู่ก็เลยกดรายงานคนที่แสดงความคิดเห็นคนนั้นไป แล้วบัญชีผู้ใช้งานของคนๆนั้นก็ถูกบล็อกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากแสดงความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสม

แต่อีกฝ่ายก็ฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว สมัครบัญชีอันใหม่แล้วมาแสดงความคิดเห็นใต้กระทู้ของเขาอีก

(พี่น้อง ช่วยออกความเห็นให้นายแค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยนี่ ไม่ยอมรับก็ไม่ต้องนำไปใช้สิ ทำไมต้องกดรายงานฉันด้วย)

เซียวซู่ตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “เนื้อหาไม่เหมาะสม อาจจะชักนำผู้อื่นให้ก่ออาชญากรรมได้”

พร้อมกดเครื่องหมายตะโกนตัวใหญ่ๆ

ที่จริงเซียวซู่รู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำเกินไปเลย ความคิดแบบนี้น่ากลัวมากจริงๆ

เขาดูความคิดเห็นมากมาย คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าอันที่สองเหมาะกับตัวเองที่สุด

นิสัยของเสี่ยวเหยียน ไม่ใช่แนวที่ได้รับของขวัญแล้วจะหวั่นไหว ที่ยากลำบากที่สุดก็คือในใจเธอยังมีคนอีกคนอยู่ ถ้าอยากจะให้เธอยอมรับตัวเอง เกรงว่าคงต้องทำให้เธอชินกับการมีอยู่ของตัวเองก่อนจริงๆ

แบบนั้น เขาถึงจะมีโอกาสที่จะจีบเธอติด

ตอนที่เสี่ยวเหยียนวิ่งมาถึงด้านนอก ก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเรียกรถ แล้วก็หันกลับไปมองด้านหลังไปด้วย เมื่อพบว่าเซียวซู่ไม่ได้ตามมา เธอก็รู้สึกโล่งอก รถเบนท์ลีย์สีเงินคันหนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

พอกระจกรถเลื่อนลงมา สิ่งที่ปรากฏก็คือใบหน้าด้านข้างที่แสนเย็นชาของหานชิง

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset