เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1106 ทำไมไม่บอกฉันก่อน

บทที่1106 ทำไมไม่บอกฉันก่อน

หลังจากขึ้นลิฟต์ไปแล้ว หัวใจที่สงบนิ่งของเสี่ยวเหยียนก็เป็นกังวลขึ้นมา

ก่อนมาที่นี่เธอได้เตรียมความคิดของตัวเองมาดีแล้ว บอกตัวเองว่าไม่ต้องตื่นเต้น ยังไงเธอก็แค่มาส่งอาหาร แสดงความขอโทษและขอบคุณเท่านั้นเอง นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไร

เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องตื่นเต้นไป แค่ทำทุกอย่างให้เหมือนปกติก็พอแล้ว

ก่อนที่จะออกมาจากลิฟต์ เสี่ยวเหยียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆอยู่หลายครั้ง

ตอนที่ออกมาจากลิฟต์นั้น คนที่มารับอาหารที่มาส่งจากเธอนั้น กลับเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย “สวัสดีค่ะ คุณคือคุณจางเสี่ยวเหยียน คุณจางใช่ไหมคะ?”

มองไปที่ใบหน้าของหญิงสาวแปลกหน้าที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง เสี่ยวเหยียนก็อึ้งไป หลังจากนั้นก็พยักหน้า

“เลขาซูให้ฉันมารับคุณน่ะค่ะ ตามฉันมาเถอะค่ะ”

เสี่ยวเหยียนที่ไม่รู้สถานการณ์อะไรพอได้ยินชื่อของซูจิ่วนั้น ก็ได้แต่เดินตามผู้หญิงคนนั้นไปอย่างมึนงง แต่ถึงยังไงที่นี่ก็คือบริษัทตระกูลหาน ยังไงก็ไม่มีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรอก

ภายใต้การนำทางของผู้หญิงคนนั้น เสี่ยวเหยียนก็ถือถุงแล้วเดินไปข้างหน้าเรื่องๆ ผู้หญิงคนนั้นก็พาเธอมาที่ห้องๆหนึ่ง

“รบกวนคุณจางรอที่นี่สักครู่นะคะ เลขาซูบอกว่าอาจจะมาหาคุณช้าหน่อย”

“ขอบคุณค่ะ”

หลังจากผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว เสี่ยวเหยียนก็หันไปสำรวจรอบๆ ห้องนี้ใหญ่มาก มีทั้งโซฟา น้ำ แล้วก็ชา แม้แต่ตู้ไวน์ กาแฟอะไรก็มีทั้งหมด

น่าจะเป็นห้องรับแขกของบริษัทตระกูลหานนะ

ห้องรับแขกของบริษัทใหญ่ไม่เหมือนกับของพวกเธอ ก่อนหน้านี้ที่บริษัทของมู่จื่อ ห้องรับแขกของเธอนั้นเสี่ยวเหยียนเป็นคนทำ อะไรที่ที่นั่นไม่มี ที่นี่มีครบทุกอย่าง

พึ่งจะนั่งได้ประมาณห้านาที ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

“เสี่ยวเหยียน”

ผู้ที่มาเยือนสวมใส่ชุดทำงานของผู้หญิง รองเท้าส้นสูง ดูมีความสามารถมาก เสี่ยวเหยียนยืนขึ้นแล้วก็ยิ้มให้อีกฝ่าย “เลขาซู”

“ที่แท้ก็คือคุณจริงๆด้วย เมื่อกี้ในโทรศัพท์ฉันไม่แน่ใจเท่าไหร่”ใบหน้าของซูจิ่วดูดีใจ

เธอเป็นเลขาของหานชิง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนิทอะไรเป็นการส่วนตัวกับเสี่ยวเหยียน แต่ว่าเมื่อก่อนเธอก็ทำงานอยู่ข้างหานชิงมาโดยตลอด เสี่ยวเหยียนเองก็อยู่ข้างมู่จื่อ ไปๆมาๆทั้งสองคนก็มีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี”

“อืม” พออีกฝ่ายพูดแบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็นึกถึงท่าทางที่เป็นกังวลของตัวเองเมื่อกี้ แล้วก็พยักหน้าอย่างเก้อเขินเล็กน้อย

ซูจิ่วมองเธอ วันนี้เสี่ยวเหยียนสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีส้ม ด้านล่างเป็นกางเกงยีนส์ทรงรัดรูป ผมยาวถูกมัดเป็นหางม้าไว้ด้านหลังศีรษะ ดูสดใสและสบายๆ

เดิมทีใบหน้าของเธอก็ดูละมุนอยู่แล้ว ตอนนี้พอแต่งตัวแบบนี้แล้ว ซูจิ่วก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายเหมือนกับนักศึกษาที่พึ่งจะเข้าสังคม บริสุทธิ์ สวยงาม ไม่ได้มีแผนอะไรในใจ

“คุณมาหาประธานหานใช่ไหม?”

ซูจิ่วถามตรงขนาดนี้ ใบหน้าขาวๆของเสี่ยวเหยียนก็แดงขึ้นมาทันที แล้วก็พยักหน้าอย่างเก้อเขิน

“ฉัน……”

“จังหวะไม่ดีเลย ตอนนี้เขากำลังประชุมอยู่”

พอได้ยินดังนั้น เสี่ยวเหยียนก็รีบโบกมือทันที น้ำเสียงของเธอดูตื่นตระหนกเล็กน้อย “ไม่เป็นไรค่ะๆ ฉันรอเขาอยู่ที่นี่ได้ ถ้าเกิดว่าเขาประชุมอยู่คุณก็น่าจะยุ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”

ซูจิ่วพยักหน้าอย่างจำใจ “ใช่ ฉันเป็นเลขาของเขา ต้องอยู่ข้างเขาตลอด ฉันหาข้ออ้างเพื่อออกมา เดี๋ยวต้อนรับคุณเสร็จแล้วฉันก็ต้องไปประชุมต่อ”

พอเธอพูดแบบนี้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกเกรงใจอย่างมาก “ขอโทษด้วยนะคะ ไม่คิดว่าฉันจะสร้างเรื่องวุ่นวายให้คุณขนาดนี้ งั้นเลขาซูรีบกลับไปประชุมต่อเถอะค่ะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่นี่เลย”

ซูจิ่วมองเธออย่างลึกซึ้ง “วุ่นวายอะไรกัน ก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ ที่นี่คือห้องรับแขกวีไอพี ไม่คอมพิวเตอร์มีทีวี ถ้าเกิดว่าคุณเบื่อล่ะก็ใช้ได้ตามสบายเลยนะ”

“อืม ได้ค่ะขอบคุณค่ะ!”

หลังจากซูจิ่วไปแล้ว เสี่ยวเหยียนก็อยู่ในห้องรับแขกเพียงคนเดียว

ตามที่เธอรู้มา การประชุมบริษัทแบบนี้ถ้าไม่ถึงชั่วโมงถึงสองชั่วโมงก็อย่าคิดว่ามันจะจบเลย แล้วนี่ก็ถือว่าเร็วแล้วนะ ถ้าเกิดว่านานกว่านี้ก็ประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมง แม้แต่ทั้งวันก็ยังเป็นไปได้

ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอต้องรอนานแค่ไหน แต่พอคิดว่าเขาต้องเสียเงินไปมากมายขนาดนั้น เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าให้เธอรออยู่ที่นี่อีกหลายวันก็ไม่เกินไปหรอก

แต่ว่าสิ่งที่น่าเศร้าก็คือ สิ่งที่เธอนำมาด้วยคือราเม็งนะ

ต้มมานานแล้ว มันจะนิ่มได้……

จนถึงตอนนั้นก็น่าจะกินไม่ได้แล้ว รสชาติก็คงจะไม่ดี

พอคิดได้แบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็นอนลงบนโซฟาด้วยความหงุดหงิด ตอนเริ่มแรกเธอก็สามารถนั่งตัวตรงได้ หลังจากนั้นก็เริ่มเบื่อเลยนอนลง จากนั้นก็พัฒนาเป็นหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเกมส์ แล้วเธอก็ใช้แบตหมดอย่างรวดเร็ว ต่อไปเสี่ยวเหยียนก็ทำได้แค่ท่องเว็บไซด์ เล่นจนปวดตาก็ยังไม่มีใครมาเลย

ไม่รู้เหมือนกันว่าการประชุมนี้มันจะเสร็จเมื่อไหร่?

เสี่ยวเหยียนมองดูเวลา ก็พบว่านี่มันพึ่งผ่านไปชั่วโมงเดียวเอง

เดาว่าถ้ายังไม่เกินอีกหนึ่งชั่วโมงก็ยังคงไม่ออกมาหรอก เสี่ยวเหยียนมองไปรอบๆ ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินไปล็อกประตูห้องรับแขก หลังจากนั้นก็ถอดรองเท้าแล้วก็นอนลงบนโซฟา

หลับสักแป๊บหนึ่งก็ดีเหมือนกัน เสี่ยวเหยียนถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก หลังจากนั้นก็เอามาห่มตัวเอง พร้อมกับหลับตา

*

ในห้องประชุม

พึ่งจะประชุมเสร็จ ผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงใน บริษัท ค่อยๆแยกย้ายกันไป หานชิงก็ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องทำงานของตัวเอง พอซูจิ่วเก็บของเสร็จแล้ว ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ตอนที่เงยหน้าขึ้นมานั้นก็ไม่เห็นหานชิงแล้ว เธอก็ได้แต่รีบอุ้มเอกสารพวกนั้นขึ้นมาแล้วรีบตามไป

“ประธานหาน”

เพราะว่าเสียงเรียกของซูจิ่ว ฝีเท้าของหานชิงก็เลยช้าลงนิดหน่อย “มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”

“ประธานหาน ก่อนหน้านี้คุณจางมาหาคุณค่ะ”

คุณจาง?เสี่ยวเหยียนงั้นเหรอ?

หานชิงขมวดคิ้วแน่น “เธอมางั้นเหรอ? แล้วทำไมเธอไม่บอกฉันล่วงหน้า?”

ปฏิกิริยาของเขาทำให้ซูจิ่วหรี่ตาลงด้วยความสงสัย ทำไมถึงได้รู้สึก……เหมือนกับว่าต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ? ดังนั้นซูจิ่วก็เลยอดไม่ได้ที่จะหยอก “ประธานหานจะประชุมไม่ใช่เหรอคะ? ในฐานะที่เป็นเลขาของคุณ จะให้มาปล่อยให้คนอื่นมาทำลายการประชุมที่สำคัญแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

หานชิง:“……”

เขาไม่พูดอะไรต่อแล้วก็รีบก้าวขายาวๆออกไปทันที ซูจิ่วก็รีบตามเขาไปอีกครั้ง “ประธานหานจะไปไหนเหรอคะ?”

หานชิงไม่ได้ตอบเธอ แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าทางที่เขาเดินไปไม่ใช่ทางไปห้องทำงานของเขา

“ประธานหานจะไปหาคุณจางเหรอคะ?”

“เลขาซู” หานชิงหยุดเดิน แล้วก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่พอใจ “ไม่มีงานทำแล้วเหรอ?”

“มีสิคะ แต่ว่าก่อนที่ฉันจะทำงาน ฉันก็มีหน้าที่บอกประธานหานว่า เพราะว่าคุณประชุมอยู่ ฉันก็เลยให้คนพาคุณจางไปรอที่ห้องรับแขกวีไอพีค่ะ”

พอได้ยินดังนั้น หานชิงก็รู้สึกใจเต้นทันที พร้อมกับมองไปที่ซูจิ่วด้วยสายตาที่เย็นชา

น่าจะเพราะว่าทำงานกับเขามาเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้นก็เลยมีความมั่นใจมากเป็นพิเศษ เมื่อต้องเผชิญกับสายตาที่เย็นชาของเขา ซูจิ่วกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แถมยังยิ้มอีกต่างหาก

“ได้ยินมาว่าคุณจางเอาของมาให้คุณทานด้วย แต่ว่ากว่าจะประชุมเสร็จเนี่ย ประธานหานไปแล้วก็น่าจะกินไม่ค่อยทันแล้วนะคะ”

หานชิง:“……”

“ฉันพูดจบแล้ว งั้นขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”

ซูจิ่วหมุนตัวพร้อมกับเหยียบรองเท้าส้นสูงแล้วเดินออกไป เธอหายไปจากสายตาของหานชิงอย่างรวดเร็ว

หานชิงยืนอยู่ที่เดินสักพัก จู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองควรจะเปลี่ยนเลขาแล้วรึเปล่า?

เลขาคนนี้อยู่กับเขามานานเกินไปแล้ว เริ่มไม่กลัวเขาแล้ว เขาไม่สามารถยับยั้งเธอได้เลย

หานชิงคิดไปด้วย พร้อมกับตรงไปที่ห้องรับแขกวีไอพีด้วย

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset