เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 113 ต้องปกป้องผู้หญิงของตัวเองให้ดี

บทที่113 ต้องปกป้องผู้หญิงของตัวเองให้ดี

เสิ่นเฉียวเหลียวตาลงเธอจึงไม่รู้ว่าเย่โม่เซินมีสีหน้าเช่นไร เธอรู้เพียงว่า เธอได้ยินน้ำเสียงตำหนิในคำพูดของเย่โม่เซิน

เขาคงจะโทษเธอ

ท้ายที่สุดใครกันอยากให้ผู้ช่วยของตัวเองไปทะเลาะกับพนักงาน และทำให้โรงอาหารยุ่งเหยิง

เสียงหมุนล้อที่ดังอยู่ข้างหู ขาเรียวตรงคู่หนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาของเสิ่นเฉียวก่อนที่เธอจะตอบสนอง ทันใดนั้นเอวของเธอก็กระชับขึ้นและเธอก็ถูกกอดไว้ในอ้อมแขนของเขา

เสิ่นเฉียวอดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง

เย่โม่เซินหมุนวงล้อตรงหน้าเธอและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา

ในขณะที่กำลังอึ้งอยู่นั้น คางของเสิ่นเฉียวถูกตรึงไว้แน่น เย่โม่เซินบังคังให้เธอเงยหน้า เพื่อสบสายตาที่เย็นยะเยือกของเขา

“รู้ไหมว่าฉันโมโหอะไร?”

ออร่าของผู้ชายที่เย็นชาอยู่รอบตัวเธอและเสิ่นเฉียวรู้สึกว่าเธอไม่สามารถคิดได้ เธอส่ายหน้า

“ฉันรู้เรื่องทั้งหมดดี”

“อะไรนะ? คุณรู้แล้วเหรอ? งั้นทำไมคุณยัง…” ถามฉัน…

“เพียงแต่ว่าฉันอยากจะฟังเวอร์ชันของเธอจากปากเธอ หึ คิดไม่ถึงว่าเธอยังจะพยายามเบี่ยงประเด็นฉันอีก? คิดว่าตัวเองยังโดนรังแกไม่พอรึไง? เจ็บแล้วไม่รู้จักร้องรึไง?”

เมื่อคำพูดจบลงนิ้วของเย่โม่เซินก็สะบัดไปที่หน้าผากของเธออย่างแรง

เสิ่นเฉียวอุทานร้องด้วยความเจ็บ เธอใช้มือปิดหน้าผากเอาไว้

“ดูแล้วก็ยังเจ็บเป็นนี่” เย่โม่เซินพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น แล้วยิ้มออกมา

เสิ่นเฉียวปิดหน้าผาก: “คุณหมายความว่ายังไงกันแน่คะ?”

“ต่อไปห้ามไปทะเลาะกับคนอื่น” เย่โม่เซินพูด ดวงตาลึกสบลงที่ใบหน้าของเธอ

ใบหน้าขาวมีรอยแผลอยู่หลายที่ เย่โม่เซินดูรอยแผลเหล่านั้น ราวกับมันกำลังเป็นรอยแผลที่เกิดขึ้นในใจของเขา

“อือ”

เธอไม่คิดจะทะเลาะกับใคร เพียงแต่ว่าตอนนั้นมันควบคุมไม่ได้จริง ๆ

เสียงถอนหายใจดังออกมา มือที่ตรึงคางเธอไว้เปลี่ยนทิศทาง ปิดหลังศีรษะและกดลงที่หน้าอกเธอ เสิ่นเฉียวนอนอยู่บนอกของเขา มันอยู่ในสถานการณ์ที่สับสน

ทำไมเธอจึงรู้สึกบางอย่าง…เหมือนกับมีเข้าใจผิดคิดว่าเย่โม่เซินกำลังรักเธอมาก?

นี่เธอรู้สึกไปเองรึเปล่า?

ขณะที่เขากำลังคิดอยู่มีการสั่นสะเทือนที่หน้าอก เย่โม่เซินเปิดปาก: “ฉันจะ…”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก——

ในเวลาเช่นนี้ เสียงเคาะประตูห้องทำงานกลับดังขึ้น

“คุณชายเย่ คุณหมอมาแล้วครับ!”

เสียงของเซียวซู่ดังขึ้นที่นอกห้องทำงาน

เมื่อเสิ่นเฉียวได้ยิน เธอรีบเงยหน้าขึ้นและมองเย่โม่เซิน เขามองดูเธอด้วยแววตาที่ซับซ้อน “ลุกขึ้นเถอะ ให้หมอดูหน่อยว่าเธอได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า”

เมื่อพูดเสร็จเขาก็พยุงเธอลุกขึ้นอย่างอ่อนโยน

เสิ่นเฉียวยืนขึ้นตามท่าทางของเขา

“เข้ามา”

เซียวซู่จึงได้เปิดประตูเข้ามา พร้อมกับพาหมอเข้ามาด้วย

เป็นแพทย์หญิงที่พามา เย่โม่เซินปล่อยให้ทั้งสองคนเข้าไปในห้องพัก

เสิ่นเฉียวเดินตามหมอเข้าไปในห้องพักด้านข้าง แพทย์หญิงเป็นผู้หญิงอายุเกือบสี่สิบปี คิ้วทั้งหมดของเธอดูอบอุ่นมากและดูเหมือนจะมีรอยยิ้มจาง ๆ “คุณเสิ่น ถอดเสื้อออกเถอะค่ะ ให้ฉันดูแผลคุณหน่อย”

เสิ่นเฉียวพยักหน้าอย่างว่าง่าย เมื่อคิดว่าจะถอดเสื้อออก แต่ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ ทำให้เธอหยุดนิ่งไป

ไม่ได้นะ…

บนตัวเธอยังมีรอยที่เย่โม่เซินเป็นคนทำเอาไว้อีกหลายจุด ถ้าหากคุณหมอเห็นเข้า แบบนั้นมันจะไม่…ขายหน้าหมดเหรอ?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เสิ่นเฉียวจึงได้หยุดท่าทางที่กำลังจะถอดเสื้อออก “คุณหมอคะ ร่างกายฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณแค่ช่วยดูแผลที่หน้าฉันก็พอ”

ส่วนแผลน้ำร้วนลวกที่บ่า เดี๋ยวเลิกงานแล้วเธอแวะร้านขายยาซื้อยากลับไปทาที่บ้านก็โอเคแล้ว

หมอยิ้มเล็กน้อย: “สาวน้อยไม่จริงใจ ดิฉันเป็นหมอ คุณมีอะไรให้ต้องอายล่ะคะ? รีบถอดเสื้อเถอะค่ะ”

สุดท้ายเสิ่นเฉียวก็ไม่สามารถเถียงเธอได้ เธอหันหลังไปถอดเสื้อเงียบ ๆ จากนั้นจึงเปิดเผยเฉพาะตรงหัวไหล่

เมื่อแพทย์หญิงสังเกตเห็นอาการบาดเจ็บที่ไหล่ของเธอเธอถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้: “เป็นแผลขนาดนี้แล้ว คุณก็ยังฝืนอีกนะคะ?”

เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร เธอหน้าแดงเล็กน้อย

แพทย์หญิงคนนั้นทำแผลให้เธอและพูดไปพลาง: “ฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังท้อง ดังนั้นครั้งต่อไปคุณต้องระวังหน่อย ครั้งนี้ไม่มีบาดแผลร้ายแรงถือว่าเป็นโชคดี แต่ครั้งต่อไปอาจจะไม่เป็นแบบนี้แล้ว ทางที่ดีควรจะหลีกเลี่ยงการปะทะกับคนอื่น ก็ถือว่าเพื่อเด็ก และต้องปกป้องตัวเองด้วย อย่ามีความขัดแย้งกับคนอื่น”

เสิ่นเฉียวได้ยินเช่นนั้น ก็นิ่งไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้เป็นแม่คน บวกกับหลังจากที่เธอหย่าขาดกับหลินเจียงแล้วมาแต่งงานกับเย่โม่เซิน หลังจากเกิดเรื่องคืนฝนตกนั้นแล้ว ทุกวันของเธอก็ผ่านไปอย่างทุลักทุเล มีหลายครั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในสถานะอะไร หรือกำลังทำอะไร

ดังนั้นเรื่องทั้งหมดนี่ ล้วนแล้วแต่ไปตามหัวใจ

“ฉัน ฉันทราบแล้วค่ะ” เสิ่นเฉียวพยักหน้ารับคำ

แพทย์หญิงยิ้มอ่อน ๆ แล้วถอนมือ “เสร็จแล้ว ทำแผลเสร็จแล้ว นี่คือยาแก้แผลน้ำร้อนลวก จำไว้ว่าต้องทาทุกวัน วันละสองรอบ แผลดีขึ้นแล้วให้ใช้อันนี้”

เสิ่นเฉียวรับยามาสองหลอด

“ลบรอยแผล เป็นผู้หญิงอย่าให้มีรอยแผลเป็นบนร่างกาย มันไม่สวยนะ”

“ขอบคุณค่ะ”

หลังจากที่เสิ่นเฉียวรับยาสองหลอดนั้นมาก็ตกอยู่ในภวังค์

ถ้าหากว่าเซียวซู่ไม่มาเคาะประตูพอดี ทำให้ขัดจังหวะของเย่โม่เซินที่กำลังพูดอะไรอยู่ในตอนนั้น

เสิ่นเฉียวรู้สึกเหมือนเขาจะพูดว่า “ฉันคงจะปวดใจ…”

แต่ว่ามันถูกขัดจังหวะเสียก่อน ดังนั้นคำพูดต่อมาของเขาฉันจึงไม่อาจจะรู้ได้ว่ามันคืออะไร

เสิ่นเฉียวรู้สึกเสียดายไม่น้อย เธอได้สติและเดินออกมาพร้อมกับคุณหมอ

หลังจากเดินออกมา แพทย์หญิงได้เลื่อนหน้ากากลง: “ทำแผลเสร็จแล้ว”

เย่โม่เซินมองหน้าเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “ขอบคุณมากครับน้า”

เสิ่นเฉียวที่ตามแพทย์หญิงคนนั้นหยุดชะงัก นี่คือน้า ของเย่โม่เซินเหรอ?

ทันใดนั้นใบหน้าของเสิ่นเฉียวก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ถ้าว่าเธอคือน้าของเย่โม่เซิน ถ้าอย่างรอยทั้งหมดบนตัวเธอก็เห็นหมดแล้ว งั้นก็เท่ากับว่าเธอ…

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็รู้สึกร้อนไปถึงหู

“ขอบคุณน้าก็มาหาน้าบ่อย ๆ หน่อยสิ โม่เซินเธอน่ะ อย่าเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในออฟฟิศ” คนที่ถอดหน้ากากออกมาคือน้าของเย่โม่เซิน เธอเป็นน้องสาวของแม่ของเย่โม่เซิน ส้งอาน

ส้งอาน อายุน้อยกว่าแม่ของเย่โม่เซินประมาณแปดปี ปีนี้อายุเกือบจะสี่สิบแล้ว แต่เพราะเธอดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้เธอดูอ่อนกว่าวัยเหมือนอายุสามสิบกว่าเท่านั้น

นอกจากนี้รอยยิ้มและดวงตาของเธอยังใจดีมากซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเธอน่าเข้าหาเป็นพิเศษ

ตั้งแต่เมื่อครู่ที่เธอทำแผลให้ตัวเอง เสิ่นเฉียวก็รู้สึกอย่างนั้นมาตลอด คิดไม่ถึงว่า…เธอจะกลายเป็นน้าของเย่โม่เซิน

ส้งอานหันมามองเสิ่นเฉียว สายตานั้นบอกได้ว่าแฝงไว้ด้วยความนัย

“ฉันเคยได้ยินเรื่องของเธอจากโม่เซิน ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ แต่ที่สุดแล้วพวกเธอก็ได้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ แล้ว ต่อไปจะต้องช่วยกันดูแลลูกให้ดีล่ะ”

เมื่อได้ยิน ริมฝีปากของเสิ่นเฉียวก็ขยับเล็กน้อย เหมือนกับต้องการจะอธิบายอะไรบางอย่าง ในเวลานี้เองเย่โม่เซินก็พูดขึ้น: “คุณน้า พวกเราทราบแล้วครับ”

“เธอก็เหมือนกัน เธอเป็นผู้ชาย ก็ควรจะต้องปกป้องผู้หญิงของตัวเองสิ ทำไมถึงปล่อยให้เธอได้รับบาดเจ็บขนาดนี้? ข้างหลังเธอเป็นแผลถูกลวกตั้งใหญ่ ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะเธอพาฉันมาทำแผลได้ทันเวลาล่ะก็ มันคงจะต้องเป็นแผลเป็นแน่ เธอรู้รึเปล่า?”

เย่โม่เซินขมวดคิ้วเล็กน้อย: “คุณน้า ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุครับ”

เป็นเพราะเขาไม่เคยคาดคิดว่าเสิ่นเฉียวจะทะเลาะกับผู้หญิงในบริษัทได้

ภาพฉากนี้ เย่โม่เซินไม่เคยคิดถึงมาก่อน

“อุบัติเหตุแล้วยังไง? เธอไม่ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ มันเลยไม่ใช่ความผิดของเธองั้นเหรอ?” ส้งอาน พูดแล้วขมวดคิ้ว

เย่โม่เซิน: “…ผมผิดเองครับ”

ส้งอาน จึงได้พยักหน้าด้วยความพอใจ: “ต่อไปก็แก้ไขเสียนะ น้ายังมีธุระ วันนี้ไปก่อนล่ะ”

เมื่อ ส้งอาน จากไป เสิ่นเฉียวก็มองเย่โม่เซินด้วยแววตาที่สับสน

“คุณไม่ได้บอกคุณน้าคุณเหรอคะ เด็กเป็น…”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset